แฟ้มสะสมงาน คือ การรวบรวมผลงานของตัวเอง ที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาใดเวลาหนึ่งที่กำหนด ออกมาเป็นรูปเล่ม มีรายละเอียด เกี่ยวกับผลงาน เพื่อสะท้อนความคิดเห็น ภาพแห่งความสำเร็จ และรูปแบบงานของตนเอง Show ในระหว่างที่ผมหาดูเรื่องการวิเคราะห์และวิจารณ์งานศิลป์เล่นๆอยู่นั้น ไปเจอบทความหนึ่งครับในเว็บ cheeranan.exteen.com ซึ่งเข้าเว็บไปไม่ได้แล้วแต่ทาง google ได้เก็บ cache ไว้อยู่ ผมเสียดายมากหากมันต้องหายไป เลยคัดลอกและกู้ข้อมูลหลายส่วนเพื่อมาไว้บนเว็บไซต์นี้ให้คนได้ศึกษาต่อไปครับ คงเป็นประโยชน์ต่อนักวิจารณ์ภาพถ่ายหรือแม้แต่ช่างภาพเอง
ความหมาย การวิเคราะห์งานศิลปะ หมายถึง การพิจารณาแยกแยะศึกษาองค์รวมของงานศิลปะออกเป็นส่วนๆ ทีละประเด็น ทั้งในด้านทัศนธาตุ องค์ประกอบศิลป์ และความสัมพันธ์ต่างๆ ในด้านเทคนิคกรรมวิธีการแสดงออก เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาประเมินผลงานศิลปะว่ามีคุณค่าทางด้านความงาม ทางด้านสาระ และทางด้านอารมณ์ความรู้สึกอย่างไร การวิจารณ์งานศิลปะ หมายถึง การแสดงออกทางด้านความคิดเห็นต่อผลงานทางศิลปะที่ศิลปินสร้างสรรค์ขึ้นไว้ โดยผู้วิจารณ์ให้ความคิดเห็นตามหลักเกณฑ์และหลักการของศิลปะ ทั้งในด้านสุนทรียศาสตร์และสาระอื่นๆ ด้วยการติชมเพื่อให้ได้ข้อคิดนำไปปรับปรุงพัฒนาผลงานศิลปะ หรือใช้เป็นข้อมูลในการประเมินตัดสินผลงาน และเป็นการฝึกวิธีดู วิธีวิเคราะห์ คิดเปรียบเทียบให้เห็นคุณค่าในผลงานศิลปะชิ้นนั้น ๆ คุณสมบัติของนักวิจารณ์ ทฤษฎีการสร้างงานศิลปะ จัดเป็น 4 ลักษณะ ดังนี้ แนวทางการวิเคราะห์และประเมินคุณค่าของงานศิลปะ การวิเคราะห์และการประเมินคุณค่าของงานศิลปะโดยทั่วไปจะพิจารณาจาก 3 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านความงาม เป็นการวิเคราะห์และประเมินคุณค่าในด้านทักษะฝีมือ การใช้ทัศนธาตุทางศิลปะ และการจัดองค์ประกอบศิลป์ว่าผลงานชิ้นนี้แสดงออกทางความงามของศิลปะได้อย่างเหมาะสมสวยงามและส่งผลต่อผู้ดูให้เกิดความชื่นชมในสุนทรียภาพเพียงใด ลักษณะการแสดงออกทางความงามของศิลปะจะมีหลากหลายแตกต่างกันออกไปตามรูปแบบของยุคสมัย ผู้วิเคราะห์และประเมินคุณค่าจึงต้องศึกษาให้เกิดความรู้ ความเข้าใจด้วย เช่น ภาพแม่พระมาดอนนา พระเยซู และเซนต์จอห์น ภาพองค์ประกอบศิลป์ (Composition) สรุปการวิเคราะห์และการประเมินคุณค่าของงานศิลปะในด้านความงามจะตัดสินกันที่รูปแบบการจัดองค์ประกอบศิลป์ให้เกิดคุณค่าทางสุนทรียศาสตร์ หรือการเห็นคุณค่าทางความงามนั่นเอง 2. ด้านสาระ เป็นการวิเคราะห์และประเมินคุณค่าของผลงานศิลปะแต่ละชิ้นว่ามีลักษณะส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ตลอดจนจุดประสงค์ต่างๆ ทางจิตวิทยาว่าให้สาระอะไรกับผู้ชมบ้าง ซึ่งอาจเป็นสาระเกี่ยวกับธรรมชาติ สังคม ศาสนา การเมือง ปัญญา ความคิด จินตนาการ และความฝัน เช่น ภาพวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2351 (The Third of May 1808) 3. ด้านอารมณ์ความรู้สึก เป็นการคิดวิเคราะห์และประเมินคุณค่าในด้านคุณสมบัติที่สามารถกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกและสื่อความหมายได้อย่างลึกซึ้งของวัสดุ ซึ่งเป็นผลของการใช้เทคนิคแสดงออกถึงความคิด พลัง ความรู้สึกที่ปรากฏอยู่ในผลงาน เช่น คุณสมบัติของนักวิจารณ์5ข้อมีอะไรบ้างคุณสมบัติของนักวิจารณ์. ควรมีความรู้เกี่ยวกับศิลปะทั้งศิลปะประจำชาติและศิลปะสากล. ควรมีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ศิลปะ. ควรมีความรู้เกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์ ช่วยให้รู้แง่มุมของความงาม. ต้องมีวิสัยทัศน์กว้างขวาง และไม่คล้อยตามคนอื่น. กล้าที่จะแสดงออกทั้งที่เป็นไปตามหลักวิชาการและตามความรู้สึกและประสบการณ์. คุณสมบัติของนักวิจารณ์ที่ดีคือข้อใด1) เป็นผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ทางศิลปะประเภทใดประเภทหนึ่ง ที่จะวิจารณ์โดยเฉพาะและรู้ละเอียดลึกซึ้ง 2) เป็นผู้มีจิตใจรักชื่นชมในศิลปะและสุนทรียภาพอย่างแท้จริง 3) เป็นผู้มีน้ำใจกว้างขวาง รักษาความเป็นกลาง ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น รู้จักประนีประนอมแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน
นักวิจารณ์ศิลปะควรมีคุณสมบัติอย่างไร1. ควรมีความรู้เกี่ยวกับศิลปะทั้งศิลปะประจำชาติและศิลปะสากล 2. ควรมีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ศิลปะ 3. ควรมีความรู้เกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์ ช่วยให้รู้แง่มุมของความงาม 4. ต้องมีวิสัยทัศน์กว้างขวาง และไม่คล้อยตามคนอื่น
ขั้นตอนการวิจารณ์มี 5 ขั้นตอนอะไรบ้าง ขั้นระบุข้อมูลของผลงาน ประเภทงาน : จิตรกรรม ... . ขั้นพรรณนาในผลงาน ... . ขั้นวิเคราะห์ ... . ขั้นตีความ ... . ขั้นประเมินผล. |