นิยาย ยัยแว่นเฉิ่ม ธัญวลัย

@Route Qx

21.35 น.

โซน VIP9

หลังจากที่เข้ามาเฌอรินก็ได้จัดการเตรียมเซอร์ไพรส์กับทางผับจนเรียบร้อย จากนั้นเธอจึงพาฉันขึ้นมาที่โซนวีไอพี ฉันว่ามันดีตรงที่ไม่ต้องเดินชนหัวไหล่ใครนี่แหละ ระหว่างรอพวกพี่ชินมาถึง มีหนุ่มมากหน้าหลายตาแวะเวียนมาขอไลน์ขอเบอร์ยัยเฌอรินอย่างไม่ขาดสาย ถึงลุคมหาลัยเฌอรินจะดูใสใสแอบส่องผู้ชายเบาๆ ก็ตาม แต่คืนนี้ยัยเฌอรินคือสาวฮอตคนนึงเลย ส่วนฉันน่ะเหรอ แทบไม่มีคนสนใจเลย ซึ่งมันก็ดีแล้วแหละ เพราะฉันเองไม่ต้องการตกเป็นเป้าสายตาของใคร

“มีเมียแล้วแท้ๆ ยังกล้ามาขอไลน์ฉัน...ไอ้พวกหน้าม่อ!” พอผู้ชายพวกนั้นกลับไปนั่งที่โต๊ะเดิม เฌอรินก็กรอกตามองบนใส่ทันที

ว่าแล้วก็ฉันหันกลับไปดูโต๊ะผู้ชายที่เฌอรินกำลังพูดถึงอยู่ จึงรู้ว่ามีผู้หญิงนั่งประกบคู่พวกเขาอยู่ทุกคน และตอนนี้พวกเธอกำลังส่งสายตาจิกกัดมาให้เฌอรินอยู่

“คงเป็นแค่เด็กในสต๊อกแหละมั้ง อย่าไปสนใจพวกเขาเลย”

“ไม่สนใจได้ไงแก พวกนั้นมันหยามศักดิ์ศรีผู้หญิงอย่างเราเชียวนะ เห็นฉันเป็นแบบนี้ฉันก็สวยเลือกได้นะยะ” ใบหน้าจิ้มลิ้มพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิด นานๆ ทีฉันจะเห็นเธอเหวี่ยงเรื่องผู้ชาย

“คงมีผู้ชายดีๆ เหลืออยู่บนโลกนี้บ้างแหละหน่า”

“นั่นสินะ ถ้ามีจริงๆ ก็ขอให้ฉันคนนึงละกัน” เฌอรินยกแก้วน้ำพั้นซ์ขึ้นมาดื่มแก้เซ็ง ก่อนเราจะเปลี่ยนหัวข้อเรื่องคุยกันให้อารมณ์ดีขึ้นมา

หลายนาทีต่อมา...

“อุ้ยแก!! จำกลุ่มผู้ชายที่ฉันเรียกให้ดูตอนเช้าได้ปะ...พวกเขามาโน่นแล้ว” ยัยเฌอรินสะกิดแขนฉัน พร้อมส่งสายตาเป็นนัยๆ มาให้ จากนั้นฉันก็หันกลับไปมองพวกเขาที่กำลังเดินขึ้นบันไดมาทีละคน พอมาเจอพวกเขาตอนนี้ความแบดพุ่งออกมากว่าเดิมอีก อาจเพราะรอยสักบนแขนนั่นหรือไม่ก็คงเป็นใบหน้าเรียบนิ่งเหล่านั้น จนมาถึงคนสุดท้าย...ฉันบังเอิญสบสายตากับเขาโดยบังเอิญ ว่าแล้วฉันก็รีบหลบดวงตาคมคู่นั้นทันที

เห้อ ไม่ได้ตั้งใจจะมองแท้ๆ โดยจับได้ซะงั้น

“ว่าไงจำได้ไหม”

“อื้อ จำได้”

“กลางวันว่าหล่อแล้ว กลางคืนหล่อคูณไปอีกร้อยเท่าพันเท่าเลยเนอะ” เฌอรินเหมือนตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ เธอคงไม่เป็นลมไปก่อนพี่ชินจะมาถึงหรอกใช่ไหม

“ไหวนะ?” ฉันเริ่มเป็นห่วงเพื่อนตัวเองขึ้นมาทันที ไอ้อาการอ้าปากค้าง แววตาทอประกายแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“พึ่งเข้าใจความหมายของคำว่าหล่อจนใจเจ็บ” เธอยังคงเคลิบเคลิ้มต่อไป

“ฮานา เห็นมั้ยอะ! เค้ามองมาทางเราด้วย” ยัยเฌอพูดสะกิดแขนฉันยิกๆ

“อื้อ เห็นแล้ว”

ผ่านไปสักพัก...

“คุณครับ ผู้ชายโต๊ะนั้นอยากขอชนแก้วด้วยน่ะครับ” พนักงานที่ร้านกระซิบบอกยัยเฌอริน พร้อมเอาแก้วไวน์ยื่นมาให้เธอ

“ขอบคุณนะคะ” ยัยเฌอรินยิ้มเขินพร้อมรับแก้วไวน์มาถือในมือ เธอปรายตามอง ยิ้มหวานให้พวกเขา ดูเหมือนกลุ่มผู้ชายพวกนั้นจะสนใจเฌอรินเช่นกันนะ

ฉันกำลังสังเกตปฏิกิริยาพวกเขาอย่างเงียบๆ รู้สึกไม่ชอบสายตาเจ้าเล่ห์ที่มองมายังไงไม่รู้อะ หรือฉันคิดมากไป?

“มาแจมด้วยกันได้นะคะ ฝากบอกเขาที”

บริกรหนุ่มพยักหน้า ก่อนเดินกลับไปยังโต๊ะผู้ชายกลุ่มนั้น

“เขากำลังเดินมาแล้ว” เฌอรินหันมาบอกฉันอย่างเก็บอาการ

“ที่ว่างตรงนี้ ขอผมนั่งได้ไหมครับ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้มที่เมื่อผู้หญิงได้เห็นคงเคลิบเคลิ้ม ทว่าสายตาคมนั่นดูไม่น่าไว้ใจสักเท่าไหร่

“ดะ..ได้สิคะ แฮะๆ ^^” เฌอรินยิ้มตอบ

“ยิ่งมองชัดๆ น่ารักขึ้นกว่าเดิมอีกนะครับ” เสียงใครบางคนดังตามหลังมา เขาคือผู้ชายที่ฉันเผลอสบสายตาด้วย และตอนนี้เขาก็กำลังจ้องหน้าฉันอยู่

“ผมชื่อเบต้านะ ส่วนไอ้นี่ชื่อปอร์เช่” ชายคนแรกแนะนำตัวเอง พร้อมกับแนะนำเพื่อนตัวเองไปด้วย

“เฌอรินค่ะ ส่วนนี่ชื่อฮานา ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” ยัยเฌอรินพูดพร้อมทั้งยื่นมือไปเช็คแฮนด์กับชายหนุ่มหน้าตาดีสองคน

ผู้ชายหน้าตาฟ้าประทานสองคนนี้ ดูจากคำพูดและการใช้สายตาแล้ว เชี่ยวชาญเสียจนคิดว่าคงผ่านผู้หญิงมาอย่างโชกโชน เพราะดูเป็นธรรมชาติมาก ถ้าหากจะทำให้เฌอรินหรือผู้หญิงคนใดก็ตามหลงหัวปักหัวปำคงไม่ใช่เรื่องยาก

ส่วนฉันไม่ได้ถูกสนใจเป็นพิเศษ มันดีที่ฉันไม่ต้องพูดอะไรมาก เพียงแต่นั่งฟังเขาพูดกันเท่านั้น ไม่นานผู้ชายสองคนนั้นก็เดินกลับโต๊ะเดิม เพราะเฌอรินบอกไปว่าอีกไม่นานจะมีพวกพี่ชายเข้ามากันต่อ เลยทำให้บทสนทนาจบเพียงเท่านั้น

“เสียดายอะ น่าจะคุยกันนานกว่านี้”

“ฉันว่าพวกเขาแปลกๆ นะ เหมือนต้องการไรสักอย่างจากเธอเลย” ดูไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด ระหว่างที่คุยกัน สายตาทุกคู่ในกลุ่มนั้นกำลังจ้องมองมาที่พวกฉันตลอดเวลา ทุกการเคลื่อนไหวเหมือนอยู่ในเกมส์ที่ถูกวางไว้แต่ต้น

“คนเที่ยวผับส่วนใหญ่เค้ามาหาเพื่อนคุยแก้เหงากันทั้งนั้นแหละฮานา ชิลๆ” เฌอรินพูดด้วยท่าทางสบายๆ คงจะจริงอย่างที่เฌอรินว่านั่นแหละ บางทีฉันอาจระแวงมากเกินไป

“อืม”

#Part ปอร์เช่

“สาวโต๊ะนั้นแม่งน่ารักว่ะเฮีย” ไอ้แอลฟ่ารุ่นน้องในกลุ่มพูดขึ้น

“เออ เค้ามองมาทางเราด้วยว่ะ” ไอ้ซีเจตอบ ผมจึงหันไปมองตามพวกมัน ผมเห็นผู้หญิงที่ใส่แว่นนั่นมองมา ผมสบตากับผู้หญิงคนนั้นแป๊บนึง ก่อนที่เธอจะทำเป็นมองไปทางอื่น

“หึ! ลูกไม้ตื้นๆ จะอ่อยก็กล้าๆ หน่อยดิวะ”

“ไอ้เช่มึงชอบใคร สองคนนั้นอะ” ไอ้เบต้าหันมาถามผม

“กูชอบคนผมสั้นว่ะน่ารักดี” ผมตอบมันไป คนผมสั้นดูแจ่มดีนะ ส่วนยัยแว่นดูเฉิ่มๆ ถ้าให้เลือกผมคงเลือกคนแรกดีกว่า ผมชอบอะไรที่มันสดใสเร้าใจ

“แต่ผมชอบคนใส่แว่นอะ คือสวยสัส! เสียดายแต่งตัวมิดชิดไปหน่อย” ไอ้แอลฟ่าพูด แม่ง! มันดูไม่ออกหรอว่ายัยนั่นแม่งแอ๊บใส

“ชอบก็เข้าไปบวกเลยดิ มัวแต่พูดอยู่นั่น” ไอ้จากัวร์พูดขึ้นหลังจากเงียบมานาน จากนั้นไอ้จากัวร์ก็เรียกเด็กเสิร์ฟในร้านจัดไวน์ไปให้สาวผมสั้นคนนั้น

“คนจริง 2018 แต่ผมไม่เอาด้วยหรอก ถ้าเกิดมีผัวมาจะยุ่ง” ไอ้แอลฟ่าพูดต่อแล้วยกเหล้ามากระดก

“เฉิ่มขนาดนั้น จะมีใครเอา” สงสัยผมคิดดังไปหน่อย แม่ง! หันมองกูทั้งกลุ่ม

“มึงเกลียดอะไรเค้าวะไอ้เหี้ยเช่ เค้าไม่ได้ไปทำไรให้มึงนี่หว่าหรือว่าทำ?” ไอ้เบต้าถามผม ก่อนยกแก้วเหล้ากระดกเข้าปาก

“เปล่า ไม่ชอบจำเป็นต้องมีเหตุผลด้วยเหรอวะ ผิด?” ผมถามมันกลับ

“เออเรื่องของมึงไอ้สัส แต่คนผมสั้นสเปคกูเลยวะ ตัวเล็ก เซ็กส์จัด” ไอ้เบต้ามองด้วยสายตาหื่นๆ ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับมัน

พรึ่บบบ

อยู่ๆ ไอ้เบต้าก็ลุกเดินไปที่โต๊ะผู้หญิงสองคนนั้น

“ไอ้สัสเช่มึงยอมเหรอวะ อย่าให้เสียชื่อเสือเช่นะเว้ย” ไอ้จากัวร์พูดขึ้น จากนั้นผมก็ลุกตามไอ้เบต้าไปทันที

ผมไม่ได้ลุกเพราะคำยุยงของไอ้จากัวร์เลยสักนิด แต่ที่ลุกนี่ก็แค่อยากจะทดสอบอะไรบางอย่างก็เท่านั้น

หลังจากที่ผมเดินมาถึง ไอ้เบต้ากำลังทักทายสาวผมสั้นอยู่ ผมจึงหันไปยิ้มให้ผู้หญิงอีกคน พอมาใกล้ๆ ผมกลับรู้สึกว่าเธอสวยอย่างที่ไอ้แอลฟ่าบอก แต่ยังไงเธอก็ดูแอ๊บในสายตาของผมอยู่ดี

“ยิ่งมองชัดๆ น่ารักขึ้นกว่าเดิมอีกนะครับ” ผมพูดกับยัยแว่น แล้วหันไปยิ้มให้สาวผมสั้น

“ผมชื่อเบต้านะ ส่วนไอ้นี่ชื่อปอร์เช่” ไอ้เบต้าแนะนำตัวเอง แล้วหันมาแนะนำผมด้วย

“เฌอรินค่ะ ส่วนนี่ชื่อฮานา ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” สาวผมสั้นแนะนำตัวต่อ พร้อมกับยัยแว่นที่นั่งเงีียบอยู่ เธอไม่ได้พูดหรือแนะนำตัวอะไร แค่ยิ้มให้พอเป็นพิธี หยิ่งจังวะ สวยนักหรือไง...ก็ไม่นี่หว่า

จากนั้นไอ้เบต้าก็ชวนดื่ม ชวนคุยบ้าง แต่พวกเธอบอกว่าจะมีพวกพี่ชายเข้ามาตามหลัง พวกผมเลยกลับไปที่โต๊ะเดิมเพราะพวกเธอไม่ได้มากันแค่สองคน

“เป็นไง น่ารักไหมเฮีย” ไอ้แอลฟ่าถามหลังจากผมกลับมานั่งที่เดิม ซึ่งตอนนี้มีน้องส้มโอกำลังลูบไล้ไอ้จากัวร์อยู่

“น่ารักดี แต่ดูเกร็งไป” ไอ้เบต้าตอบ

“แล้วสาวแว่นคนนั้นล่ะ” ไอ้แอลฟ่าหันมาถามผมต่อ

“เหมือนลืมปากไว้ที่บ้าน” ผมตอบกลับ ยัยนั่นดูหยิ่งทั้งสีหน้าและคำพูด

“คนนี้เงียบๆ แต่กูว่าดูน่าค้นหา บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ะ” ไอ้เบต้าพูด ก่อนยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม

“หรือที่น้องเขาเงียบๆ เพราะผัวหวง”

“เชี้ย มีแฟนแล้วหรอวะ” ไอ้แอลฟ่าถาม แล้วทำหน้าเสียดาย

หึ! ผมอยากรู้นักว่าภายใต้ใบหน้าหยิ่งมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง หลังจากนั้นพวกผมก็หันมายกแก้วเหล้ากันต่อ มีพีอาร์เข้ามาเสนอตัวแบบฟรีๆ อย่างทุกครั้ง ซึ่งผมก็ไม่ปฏิเสธ แล้วตอนนี้เรากำลังขึ้นไปต่อที่ห้อง เพราะผมเริ่มอยากปลดปล่อยเต็มที่แล้ว

“กูว่าแล้วไง ไอ้สัสเช่แม่งเอาก่อนเพื่อนเลยว่ะ” ไอ้ซีเจตบเข่าแล้วพูดไล่หลังผมมา ระดับนี้จะนั่งนัวเนียให้เสียเวลาเหมือนพวกมันทำไมวะ

“เสือก” ผมตอบกลับมันไป

จบ Part ปอร์เช่

23.02 น.

พี่ชินเดินเข้ามาพร้อมเพื่อนๆของเขา ทั้งผู้ชายและผู้หญิงมากกว่าสิบคน เกือบทุกคนมีของขวัญติดไม้ติดมือมาด้วย

“ชิบหายแล้วฮานา” ฉันพึมพำกับตัวเอง เพราะลืมไปเลยว่าเรามางานวันเกิดแต่ดันไม่ได้เตรียมของขวัญมาเนี่ยสิ โอ้ย...จะดูเสียมารยาทไปรึเปล่าวะเนี่ย

“เฌอริน...” ฉันหันไปกระซิบบอกยัยเฌอรินเรื่องไม่ได้เตรียมของขวัญมา เธอตอบกลับมาว่าไม่เป็นไรเลยจริงๆ เพราะแค่มาฉันมาก็ถือว่าเป็นของขวัญสำหรับพี่ชินแล้ว เท่าที่ยัยเฌอรินบอกมันฟังดูแปลกๆยังไงไม่รู้อ่ะ

สักพักเฌอรินพาฉันไปที่ที่ดีลกันไว้ตั้งแต่แรก เธอบอกให้ฉันถือเค้กไปให้พี่ชิน และจู่ๆเสียงดนตรีที่ตื้ดๆ ก็เปลี่ยนเป็นเสียงไวโอลินคลอกับเสียงร้องเพลง Happy birthday

“สุขสันต์วันเกิดนะคะพี่ชิน” รู้ตัวอีกทีตัวเองก็มายืนอยู่ตรงพี่ชินพร้อมกับเค้กวันเกิด พี่ชินมองหน้าฉัน รอยยิ้มสุดแสนใจดีปรากฏก่อนเจ้าตัวจะเป่าเทียน เขากล่าวขอบคุณแขกทุกคนที่มางานนี้ และแน่นอนว่าปาร์ตี้หลังจากนี้ พี่ชินเป็นคนเลี้ยงเองทั้งหมด

“ขอบใจนะครับฮานา” เขาเอามือมายีหัวด้วยความหมั่นเขี้ยวเหมือนทุกครั้งที่เจอ ฉันและพี่ชินสนิทกันในระดับหนึ่งในฐานะพี่ชายและน้องสาวหนะ

“พี่ชินนน~ เดี๋ยวผมก็ยุ่งหรอก” ฉันพูดแล้วจับมือพี่ชินออกจากหัว พี่ชินเป็นพี่ชายแท้ๆของเฌอริน เวลาฉันไปทำงานที่คอนโดเธอ ก็มักเจอพี่ชินอยู่ประจำ เขาใจดีกับฉันมาก สุภาพบุรุษ ดูแลฉันเหมือนน้องสาวคนนึงเลย

“ฮ่าๆๆ” เขาหัวเราะชอบใจที่ทำฉันหน้าบึ้งได้สำเร็จ

“พี่ชิน เรื่องของขวั...”

“แค่เธอมาก็เป็นของขวัญวันเกิดพี่แล้ว” พี่ชินพูดเหมือนกับยัยเฌอรินเลยอ่ะ...ฉันไม่อยากเข้าข้างตัวเองหรอกนะ แต่พวกเขาทำเหมือนฉันสำคัญสำหรับเขาอ่ะ

“ไม่ได้หรอกค่ะ...เอาเป็นว่าฮานาจะฝากของขวัญไปให้พี่ชินคราวหลังนะคะ”

“งั้นก็แล้วแต่เธอเลย แต่ไม่ต้องฝากยัยเฌอรินมานะ”

“ทำไมล่ะคะ ถ้าไม่ฝากเฌอรินไปให้พี่ แล้วฮานาจะฝากใครงะ...” ฉันไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมห้ามฝากเฌอรินไปให้ทั้งที่เค้าอยู่คอนโดเดียวกันแท้ๆ

“เธอก็เอามาให้พี่เองสิ คงไม่ต้องให้บอกหรอกนะว่าทำไม” พี่ชินยิ้มและมองด้วยสายตาบางอย่าง

“....” ฉันก้มหน้าลงเพราะเริ่มรู้สึกแปลกๆกับคำพูดของพี่ชิน

“ฮ่าๆ ล้อเล่นครับ ^^” พี่ชินหัวเราะก่อนจะพาฉันมานั่งที่ว่างอยู่

“แหน่ะ สองคนนี้นี่มันยังไงกัน” หลังจากที่เราเงียบเงียบกัน ยัยเฌอรินก็พูดแทรกขึ้นมา

“ไม่มีอะไรนี่” ฉันตอบยัยเฌอรินไปแล้วหยิบมือถือขึ้นมาเล่น

“อยากได้อะไร บอกพี่ได้ตลอดเลยนะครับ” พี่ชินบอกฉัน ก่อนเข้าไปร่วมสนุกกับเพื่อนๆเขา ที่ผ่านมาฉันเคยรู้สึกหวั่นไหวกับพี่ชินบ้าง เวลาที่พี่เขาพูดหรือแสดงท่าทางต่อฉัน มันอดคิดไม่ได้ว่าเขาชอบฉัน แต่พอมาคิดดูดีๆเขาคงมองฉันเป็นน้องสาวคนนึงแหละมั้ง

พวกเค้าทุกคนกำลังดื่มกัน ส่วนฉันไม่อยากดื่มเพราะฉันเมาง่ายมากและกลัวไม่มีสติกลับถึงคอนโด เลยได้แต่นั่งฟังเขาพูดคุยกัน จนตอนนี้ฉันรู้สึกง่วงมากๆ ถ้ากลับคอนโดคงต้องรอยัยเฌอรินอีกด้วย

“ฮานากลับไหม? เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่ชินถามฉันขึ้น หลังจากเห็นนอนหัวผงกอยู่นาน

“ไม่เป็นไรค่ะ ฮานารอกลับพร้อมยัยเฌอรินดีกว่า” ฉันตอบกลับ แล้วหันไปทางเพื่อนสนิทตัวเอง พบว่าตอนนี้นอนเมาแอ๋อยู่ข้างๆ ฉันจึงส่งยิ้มแห้งๆไปให้พี่ชิน

“ผู้หญิงขับรถกลับดึกๆแบบนี้อันตราย แล้วตอนนี้สภาพยัยเฌอรินแทบดูไม่ได้ ให้พี่ขับไปส่งดีกว่านะ”

“งั้นก็ได้ค่ะ” ฉันแอบคิดเข้าข้างอีกแล้วว่าพี่ชินเป็นห่วงฉัน...

———————————

ไลก์ & คอมเมนต์ = กำลังใจ 💖