การติดตั้งไฟฟ้างานกล้องวงจรปิด (cctv) สำหรับช่างไฟฟ้า ในคู่มือแบ่งออกเป็น 3 ระดับ และทั้ง 3 ระดับก็จะกล่าวถึงเรื่องความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน และให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ปัจจุบันได้มีหลายหน่วยงานที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน แม้ในสถานศึกษาด้านอาชีวศึกษา หน่วยงานด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน ก็ได้บรรจุหัวข้อเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานเข้าไว้ในหลักสูตรทุกสาขาช่าง เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีจิตสำนึกที่ดีและสามารถปฏิบัติงานได้ โดยแบ่งออกเป็นข้อย่อยดังนี้คือ Show
1.ความปลอดภัยในการใช้เครื่องมือ เครื่องจักรและอุปกรณ์ป้องกัน อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดหมาย และมีผลกระทบต่อการทำงานและทำให้ทรัพย์สินเสียหาย คนได้รับบาดเจ็บและอาจถึงเสียชีวิต นับเป็นการสูญเสียอย่างมาก สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุอาจเกิดได้จากปัจจัยหลัก ได้แก่ คน เครื่องมือ-เครื่องจักร สภาพแวดล้อม การป้องกันเพื่อให้เกิดความปลอดภัยมีข้อควรปฏิบัติดังนี้ ควรสวมใส่รองเท้าให้ถูกประเภทในการเข้าปฏิบัติงาน การหาเครื่องป้องกันเมื่อเข้าปฏิบัติงานที่มีเศษโลหะ การแต่งกายในการปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับเครื่องจักร การใช้เครื่องมือ-เครื่องจักรให้ถูกประเภทกับการใช้งาน และการใช้เครื่องมือ-เครื่องจักรต้องมีการตรวจสอบว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้หรือไม่ เป็นต้น 2.การป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า ไฟฟ้ามีประโยชน์มากมาย แต่มีโทษมหันต์ถ้าใช้ไม่ถูกต้อง หรือไม่มีความระมัดระวัง อาจก่อให้เกิดความสูญเสียทรัพย์สินและถึงแก่ชีวิตได้ โดยผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรู้ถึงความปลอดภัยในการใช้งานเกี่ยวกับไฟฟ้า เพื่อจะได้นำประโยชน์ไปใช้งาน และหลีกเลี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้น เช่น อันตรายของไฟฟ้าต่อร่างกาย เนื่องจากถ้าส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายไปสัมผัสถูกตัวนำไฟฟ้าหรือวงจรไฟฟ้าที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านอยู่และร่างกายส่วนอื่น ๆ ติดอยู่หรือสัมผัสอยู่กับพื้นดิน หรือพื้นน้ำ เป็นเหตุให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของวงจรไฟฟ้าทำเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ 3.การป้องกันอันตรายจากการใช้ไฟฟ้า (cctv) ตามธรรมชาติของกระแสไฟฟ้าแล้วจะไหลไปตามทางที่เป็นตัวที่ดีถ้ามีทางให้ไหลผ่านหลายทาง ก็มักไหลผ่านไปตามทางที่มีความต้านทานน้อยที่สุดคือ จากคุณสมบัติที่มีตัวนำที่ดีที่สุดนี้เอง หากการป้องที่จะไม่ให้ร่างกายเป็นทางที่มีความต้านทานน้อย มีวิธีป้องกันได้ 2 วิธีดังนี้ จัดให้มีทางที่มีความต้านทานน้อยกว่าความต้านทานของร่างกายให้เป็นทางไหลของกระแสไฟฟ้าโดยการต่อสายดินเข้ากับอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำมาจากโลหะ และอีกวิธีหนึ่งก็คือการใช้ฉนวนกั้นกระแสไฟฟ้าไว้ไม่ให้ผ่านร่างกายขณะที่ต้องเกี่ยวข้องกับไฟฟ้า 4. การใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย เครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องวงจรปิด (cctv) และอุปกรณ์ไฟฟ้า รวมถึงเครื่องมือต่าง ๆ ได้มีการนำมาใช้งานกันอย่างแพร่หลายและใช้กันจนเป็นความเคยชิน ซึ่งถ้าผู้ใช้ขาดความระมัดระวังและไม่มีการบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพดีและให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งานอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ฉนั้นต้องมีการทำความเข้าใจในการใช้งานและสิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปด้วยกันเสมอคือการบำรุงรักษาดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้า และควรที่จะเลือกที่มีเครื่องหมายมาตรฐานของผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรือ ตรา มอก. เป็นต้น 5.การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากไฟฟ้า สิ่งแรกที่ต้องทำการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากไฟฟ้าคือการทำให้หลุดพ้นจากกระแสหรือวงจรไฟฟ้าด้วยความรวดเร็ว และต้องมีความรอบคอบระมัดระวัง เพื่อให้ผู้เคราะห์ร้ายมีโอกาสรอดพ้นจากอันตรายและรวมทั้งผู้ช่วยเหลือก็ไม่เกิดอันตรายด้วย ควรปฏิบัติดังนี้ ไม่ควรแตะต้องตัวผู้เคราะห์ร้ายที่ติดอยู่กับไฟฟ้าด้วยมือเปล่า ตัดทางเดินของกระแสไฟฟ้าด้วยการถอดเต้าเสียบหรือตัดเมนสวิตซ์ และห้ามลงไปในน้ำเด็ดขาดในกรณีที่กระแสไฟฟ้าอยู่ในบริเวณที่มีน้ำขังให้หาทางเขี่ยสายไฟฟ้าออกให้หรือตัดกระแสไฟฟ้าก่อนจะลงไปช่วยผู้ที่ประสบภัยนั้น เป็นต้น 6. การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่หลุดพ้นจากกระแสไฟฟ้านั้น และต้องการการปฐมพยาบาล เนื่องจากกระแสไฟฟ้าทำให้ระบบหายใจของผู้ประสบภัยหยุดการทำงาน ต้องรีบช่วยชีวิตโดยเร็ว ด้วยวิธีการให้ลมหายใจทางปาก และ การนวดหัวใจ การปฐมพยาบาลผู้ประสบภัยจากฟ้าควรทำร่วมกันทั้ง 2 วิธี ถึงแม้กำลังนำส่งโรงพยาบาล เมื่อฟื้นขึ้นจากการได้รับการปฐมพยาบาลก็ต้องนอนห้ามลุกนั่ง ยืน หรือเดิน ห้ามดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์เป็นอันขาด จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากแพทย์ที่ทำการรักษาเท่านั้น ไฟฟ้ามีทั้งประโยชน์และโทษ ผู้ใช้จำเป็นต้องรู้หลักการใช้ให้ปลอดภัย จึงต้องระมัดระวังไม่ให้ร่างกายไปสัมผัสตัวนำไฟฟ้า เพราะอาจทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายจนทำให้เสียชีวิตได้ จึงต้องมีอุปกรณ์ฉนวนช่วยป้องกันไฟฟ้าในขณะปฏิบัติงาน และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต้องทำด้วยความรวดเร็วและต้อมีความรอบคอบ การปฐมพยาบาลต้องทำอย่างรีบด่วนและถูกวิธี กระแสไฟฟ้า ไม่สามารถมองเห็นได้ทางกายภาพ แต่อันตรายที่เกิดขึ้น อาจจะถึงกับเสียชีวิตและสูญเสียทรัพย์สินทั้งอาคาร ขอให้ทุกท่านที่ต้องปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า ต้องมีความรู้ ความเข้าใจอย่างดีในระบบไฟฟ้า มีสติ มีความรอบคอบ พึงระวังอย่างเต็มที่ เมื่อต้องปฏิบัติงานเกี่ยวกับไฟฟ้า ก่อนอื่นขอกล่าวถึง กฎกระทรวงฯ กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า พ.ศ.2558 หมวด 1 บททั่วไป กล่าวโดยสรุป
หมวด 3 ระบบป้องกันฟ้าผ่า ให้มีระบบป้องกันฟ้าผ่า ตาม วสท. NFPA IEC หมวด 4 PPE และอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า ทั้งนี้ จป. ทุกท่านยังต้องมีการคำนึงถึงวงจรช่วยชีวิตต่างๆ ด้วย เช่น ระบบแสงสว่างฉุกเฉิน ป้ายทางออกฉุกเฉิน แจ้งเหตุเพลิงไหม้ แจ้งเหตุเตือนภัย ลิฟท์หนีไฟ เป็นต้น ประกอบการพิจารณาอย่างยิ่ง สำหรับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (จป.) เท่าที่เราเรียนเกี่ยวกับไฟฟ้ามา น่าจะมีเพียงบางส่วนที่น้อยนิดเดียว สำหรับบทความนี้จะมีรายละเอียดหัวข้อที่เกี่ยวข้องคร่าวๆ ดังนี้ ความปลอดภัยเบื้องต้นในการปฏิบัติงานทางไฟฟ้า1. การใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลเบื้องต้น เรื่องนี้ จป. ทุกท่านน่าจะทราบเป็นอย่างดี แต่จะทำให้ผู้ร่วมงานท่านพึงระวังและตอกย้ำความปลอดภัยในการส่วมใส่ PPE ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และส่วมใส่ตลอดเวลาในการทำงานได้อย่างไร น่าจะเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับงานในความรับผิดชอบของท่าน2. หลักการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าด้วย PPEPPE สำหรับงานไฟฟ้า จึงต้องมีหลักการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า ด้วย PPE ดังนี้
การป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าด้วย PPE ด้วยวิธีการดังนี้
3. อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ต้องเลือกให้เหมาะสม และเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง เพราะงานไฟฟ้าเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง หากเลือก PPE ไม่ถูกต้องเหมาะสมกับลักษณะงาน แรงดันไฟฟ้า หรือ PPE ไม่อยู่ในสภาพใช้งานแล้ว อันตรายจะถึงขั้นสูญเสียชีวิตได้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล 4 การถูกไฟฟ้าช็อกจากการสัมผัส สามารถแยกแยะตามลักษณะของการสัมผัสได้เป็น 2 แบบคือ1. การสัมผัสโดยตรง (Direct Contact) คือการที่ส่วนใดๆ ของร่างกายสัมผัสถูกส่วนที่มีไฟฟ้าโดยตรง เช่น การสัมผัสสายไฟฟ้าที่ฉนวนชำรุด ทำให้เกิดการสัมผัสกับส่วนที่มีไฟของสายไฟฟ้าหรือ การที่เด็กมีเอาโลหะใดๆ แหย่เข้าไปที่เต้ารับไฟฟ้าทำให้เกิดการสัมผัสโดยตรง
การป้องกันอันตรายจากการสัมผัสโดยตรง1. การตรวจสอบความเป็นฉนวนของส่วนที่นำกระแสไฟฟ้า ในส่วนของสายไฟฟ้า ว่าฉนวนของสายไฟฟ้าไม่เกิดการชำรุดหรือเสียหายจากการติดตั้ง หรือ การใช้งาน หรือ สภาพที่การใช้งานของสายไฟฟ้าหรือฉนวนที่หมดอายุ 2. การกั้น หรือ ส่วนการกั้น หรือ การใส่ตู้ หรือ ฝาครอบที่ปลอดภัย การกั้นถือเป็นการป้องกันอันตรายการสัมผัสโดยตรง เช่น เต้ารับไฟฟ้า ต้องมีม่านนิรภัยที่ป้องกันอันตรายจากเด็ก หากเด็กมีการแหย่โลหะเข้ารูใดรูหนึ่งของเต้ารับ ม่านนิรภัยจะปิดไม่สามารถที่จะแหย่เข้าไปได้ ซึ่งม่านนิรภัยของเต้ารับจะทำงานก็ต่อเมื่อมีการเสียบพร้อมกันทั้ง 3 รู ม่านนิรภัยจึงจะเปิดได้ 3. สิ่งกีดขวางหรือการทำรั้วกั้น เครื่องกั้นและเครื่องหมายเป็นสิ่งที่กั้นไม่ให้เข้าถึงส่วนหรือพื้นที่ที่อันตราย หรือเป็นการบ่งชี้ด้วยเครื่องหมายให้ทราบถึงส่วนหรือพื้นที่ที่อันตรายไม่ให้เข้าถึงนั้นเอง 4. อยู่ในระยะที่ไม่สามารถเอื้อมถึงได้ 5.การใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล 6.การใช้อุปกรณ์ป้องกัน เพื่อตัดกระแสไฟฟ้ารั่ว การสัมผัสโดยอ้อม (Indirect Contact)คือ การที่ส่วนใดๆของร่ายกายสัมผัสถูกอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า นั้นเกิดการชำรุด ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้ารั่วผ่านอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้านั้น จึงเป็นการสัมผัสโดยอ้อมทางไฟฟ้า เช่น ตู้เย็นที่มีการใช้งานมานาน เกิดกระแสไฟฟ้ารั่ว หากมีการไปจับส่วนที่เป็นโลหะหรือส่วนที่มีความชื้นและมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน ณ จุดนั้น ก็จะทำให้เกิดการสัมผัสกระแสไฟฟ้าโดยอ้อมนั้นเอง การป้องกันอันตรายจากการสัมผัสโดยอ้อม
4. กำหนดมาตรการป้องกัน และควบคุมทางกฎหมาย ข้อบังคับ หรือ ระเบียบการทำงาน ดังนี้(อย่าลืม! การตั้งระดับ บทลงโทษ ประกอบด้วย)
5. ส่วนผสมในการเกิด เปลวเพลิง เรื่องนี้ขอตอกย้ำเพียงรูป สำหรับท่าน จป.6. การปฐมพยาบาลเบื้องต้น สำหรับผู้ที่ถูกไฟฟ้าช็อก หรือ ไฟดูด
ดังนั้น จป. อย่างเราๆ จำเป็นต้องจดจำตำแหน่งห้องไฟฟ้า ตำแหน่งของ Circuit Breaker: CB และการแนะนำให้ผู้ปฏิบัติงาน จดจำตำแหน่งห้องไฟฟ้าและตำแหน่างของตู้ไฟที่ควบคุมในแต่ละพื้นที่ให้ดีด้วย 7. ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่อาจเป็นอันตรายกระแสไฟฟ้าที่จะไหลผ่านร่างกายมนุษย์ อันดับแรกจะขึ้นอยู่กับจุดหรืออวัยวะที่สัมผัสกับกระแสไฟฟ้า และไหลผ่านร่างกายไปสู่อวัยวะอีกส่วน ดังนั้นจึงเป็นส่วนสำคัญสำหรับการใช้อวัยวะหรือการใช้มือขวาเป็นมือหลัก เป็นมือถนัด เพราะจะเป็นการลดความเสี่ยงในการไม่ให้มีกระแสไหลผ่านหัวใจ ที่เป็นฝั่งซ้ายมือนั้นเอง จากการวิจัยหาทิศทางการไหลของกระแสไฟฟ้าที่จะผ่านร่ายกาย ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่จะไหลผ่านเข้าสู่ร่ายการมนุษย์ของแต่ละคนจะไม่เท่ากันจะขึ้นอยู่กับสภาพที่แวดล้อมต่าง และที่สำคัญคือ อิมพีแดนซ์ภายในร่ายกายของแต่ละคน ดังภาพที่ประกอบ ทิศทางการไหลของกระแสไฟฟ้าที่จะผ่านร่ายกาย 8. สัญลักษณ์ความปลอดภัยบทความโดย อาจารย์ เตชทัต บูรณะอัศวกุล : คณะวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี : Email address : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หลักความปลอดภัยในการปฏิบัติงานไฟฟ้า มีอะไรบ้าง1. ก่อนปฏิบัติงานต้องตรวจดูเสียก่อนว่า เครื่องมือ และอุปกรณ์ ต่าง ๆ ที่ใช้ในงานไฟฟ้า ชำรุด แตก หัก หรือเปล่า 2. ก่อนปฏิบัติงาน เช่น การต่อสายไฟ ควรยกสะพานไฟ (Cut Out) ออกเสียก่อน 3. ขณะทำงานไม่ควรหยอกล้อกันเป็นอันขาด 4. ไม่ควรเสี่ยงอันตรายเมื่อไม่มีความแน่ใจ หรือใช่ตัวช่วยในการเข้าถึงพื้นที่เสี่ยง
ความปลอดภัยเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้ามีกฎระเบียบอะไรบ้างการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ไฟฟ้า
ห้ามจับสายไฟขณะที่มีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่ ห้ามใช้อุปกรณ์ขณะมือเปียก ไม่ควรเดินเหยียบสายไฟ อย่าแขวนสายไฟบนของมีคม เพราะของมีคมอาจบาดสายไฟชำรุดและก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานได้
ข้อใดเป็นข้อควรปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยขณะติดตั้งไฟฟ้าanswer choices. ปิดสวิตช์ไฟขณะที่จะปฏิบัติงานเกี่ยวไฟ สวมถุงมือหนัง เมื่อรู้ว่าเสี่ยงต่อการถูกไฟฟ้าดูด ใส่รองเท้าทุกครั้ง
ความปลอดภัยในการทํางาน มีอะไรบ้างความปลอดภัยในการทำงาน คือ การมีสภาพการณ์ที่ปลอดภัยพนักงานที่ทำงานปราศจากการอุบัติเหตุต่างๆ ที่ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บต่อร่างกาย ชีวิต หรือทรัพย์สินในขณะที่ปฏิบัติงาน อุบัติเหตุ คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดมาก่อน และ เมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้ส่งผลกระทบต่อการทำงาน ทำให้ทรัพย์สินเสียหายหรือ บุคคลได้รับบาดเจ็บ
|