ชื่อเว็บไซต์ โดเมน เน ม 2 ระดับ

หากโดเมนว่างเราสามารถจดโดเมนได้เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 1-10 ปี หลังจากจดโดเมน 5 วัน เจ้าของโดเมนสามารถย้ายโดเมนได้

เมื่อโดเมนหมดอายุลง หน้า web page จะถูกแสดงเป็นหน้า default ของ Registrar แต่ละราย ในระหว่างนี้ โดเมนจะไม่สามารถใช้งานได้อีเมลต่างๆ ที่ถูกส่งมายังโดเมนดังกล่าวจะถูกตีกลับ

ภายใน 45 วัน (ขึ้นกับ registrar) หลังจาก domain หมดอายุ เจ้าของโดเมนสามารถต่ออายุได้โดยไม่เสียค่าปรับใดๆ แต่ต้องต่ออายุกับผู้ให้บริการจดโดเมนรายเดิมเท่านั้น ไม่สามารถย้ายเพื่อไปต่ออายุกับผู้ให้บริการรายอื่นได้ ระยะเวลา 0-45 วันหลังจาก domain หมดอายุเรียกว่า Grace Period

หลังจาก Grace period โดเมนจะเข้าสู่ช่วง Redemption Period เป็นระยะเวลา 30 วัน ในช่วงเวลานี้ เจ้าของโดเมนสามารถต่ออายุได้แต่ต้องเสียค่าปรับหลายพันบาท

หลังจาก Redemption Period โดเมนจะเข้าสู่ช่วง Pending Delete เป็นระยะเวลา 5 วัน ก่อนที่โดเมนจะถูกลบออกจากระบบและว่างเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วไปสามารถจดโดเมนชื่อนั้นๆ ใหม่ได้

ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนและหลังโดเมนหมดอายุจะมีอีเมลแจ้งเตือนไปยังเจ้าของโดเมนทั้งจากทาง registrar และจากระบบ Customer Support ของ Hostneverdie แต่อย่างไรก็ตามผู้ที่เป็นเจ้าของโดเมน ควรให้ความใส่ใจกับโดเมนของท่านเองด้วยค่ะ

โดเมนเนม หรือ ชื่อโดเมน ถือว่ามีส่วนสำคัญในการทำเว็บไซต์และอีคอมเมิร์ซเป็นอย่างมาก เพราะคุณต้องตั้งชื่อโดเมนให้สอดคล้องกับแบรนด์ ลูกค้าจะได้จำง่ายและรู้ว่าร้านที่พวกเขาอุดหนุนเป็นร้านของคุณ แต่ถ้าหากยังไม่แน่ใจว่าจริง ๆ แล้วโดเมนเนม (Domain Name) คืออะไรกันแน่ หรือว่าต้องตั้งชื่อโดเมนยังไง วันนี้เราจะพามาไขข้อข้องใจกัน

ขายของออนไลน์สบายขึ้น ด้วย Zaapi ใช้เลย

โดเมนเนม (Domain Name) คืออะไร?

โดเมนเนม คือ ชื่อโดเมน (Domain Name) เป็นชื่อเว็บไซต์ที่ตั้งขึ้นเพื่อให้จำง่ายและนำไปใช้งานได้จริง หากจะอธิบายในเชิงที่ลึกขึ้น โดเมนเนม หมายถึง ชื่อที่ใช้อ้างอิงถึงเว็บไซต์บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ใช้เพื่อสื่อสารกับ DNS Server เมื่อเราจะเข้าชมเว็บไซต์ ตัว DNS จะแปลงชื่อโดเมนเป็น IP Address เพื่อเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเพื่อไปยังหน้าเว็บไซต์นั้น ๆ 

ถ้าจะพูดง่าย ๆ ก็คือ โดเมนเนมเป็นที่อยู่บนโลกออนไลน์ของเรา ซึ่งแทนที่จะใช้ IP Address ที่เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างจำยาก เราก็ใช้ชื่อโดเมนระบุตำแหน่งในการเข้าเว็บไซต์แทน แทนที่จะพิมพ์เป็นตัวเลขที่จำยาก เราก็ตั้งชื่อโดเมนเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำและการใช้งานจริง

‍

โดเมนเนม (Domain Name) มีกี่ประเภท?

หลัก ๆ แล้ว โดเมนเนมจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ โดเมน 2 ระดับ และ โดเมน 3 ระดับ

‍

1. โดเมน 2 ระดับ 

โดเมน 2 ระดับ คือ URL ที่มีชื่อโดเมนกับตัวย่อหลังเครื่องหมายจุด ซึ่งจะเป็นคำย่อของประเภทองค์กร ได้แก่ com สำหรับกลุ่มองค์กรการค้า, edu กลุ่มการศึกษา, gov กลุ่มองค์กรรัฐบาล, mit กลุ่มองค์กรการทหาร, net กลุ่มการบริการเครือข่าย และ org กลุ่มองค์กรอื่น ๆ ส่วนตัวอย่างที่เราเห็นกันบ่อย ๆ ก็เช่น google.com, th-wifi.net และ thaingo.org เป็นต้น

‍

2. โดเมน 3 ระดับ

โดเมน 3 ระดับ คือ URL ที่มีชื่อโดเมนกับตัวย่อหลังเครื่องหมายจุดเพื่อบอกประเภทองค์กรและประเทศขององค์กรนั้น ๆ เช่น moj.go.th, google.co.th และ isa.go.kr เป็นต้น 

‍

หลักการตั้งชื่อโดเมนมีอะไรบ้าง?

สำหรับการตั้งชื่อโดเมนหรือชื่อเว็บไซต์เก๋ ๆ ต้องบอกว่าสำคัญและมีส่วนในการสร้างแบรนด์ธุรกิจออนไลน์ไม่น้อย เพราะชื่อโดเมนเป็นสิ่งแรกที่ผู้ใช้งานและลูกค้าจะพบเห็น หากชื่อโดเมนดีก็จะเป็นที่สนใจและเรียกคนเข้าเว็บได้ดีตามไปด้วย แต่ถ้าตั้งชื่อไม่ดีหรือเลือกไม่เป็น ก็อาจจะส่งผลให้คนใช้งานเว็บไซต์ของคุณน้อยได้ ดังนั้นควรเลือกชื่อตามหลักการตั้งชื่อโดเมนที่ดีดังนี้ :-

‍

1. ใช้ชื่อแบรนด์

ใส่ชื่อแบรนด์ไว้ในชื่อโดเมนหรือเว็บไซต์ออนไลน์ของคุณเพื่อสื่อถึงร้านและตัวตน เมื่อมีชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ร้านค้าออนไลน์ของคุณก็จะโดดเด่นขึ้นมา

‍

2. ใส่คีย์เวิร์ดที่เป็นสินค้าหรือบริการ

คีย์เวิร์ดคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยดึงผู้คนและลูกค้าเข้ามาร้านเมื่อมีการค้นหาข้อมูลหรือสินค้าออนไลน์ เมื่อใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกต้องก็จะเรียกคนเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้แบบฟรี ๆ ดังนั้นควรใช้สินค้าหรือบริการของคุณเป็นคีย์เวิร์ดในการตั้งชื่อโดเมนเว็บไซต์

‍

3. ไม่ยาวเกินไป

ชื่อโดเมนที่ดีจะต้องยาวไม่เกิน 63 ตัวอักษร ไม่ยาวเกินไปเพราะจะทำให้จำยาก ยิ่งชื่อสั้น ผู้ใช้งานก็จะจำง่ายและมีแนวโน้มที่จะค้นหาและค้นพบเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น ถ้าจะให้ดี แนะนำว่าชื่อโดเมนไม่ควรยาวเกิน 2-3 คำ

‍

4. ใช้เครื่องหมายขีด (-) ได้ แต่ต้องระวัง

ที่จริงแล้วเราสามารถใช้เครื่องหมายขีด (-) ระหว่างคำในชื่อโดเมนได้ แต่ว่าไม่ควรใช้นำหน้าชื่อโดเมน เพราะวิธีนี้ไม่เป็นที่นิยม ควรใช้คำเรียงติดกันไปเลย

‍

ทำความรู้จักกับโดเมนเนม (Domain Name) กันไปแล้ว คราวนี้ถึงเวลาตั้งชื่อเว็บไซต์ของคุณเองแล้ว! ลองนำไอเดียเหล่านี้ไปใช้ในการตั้งชื่อเว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์ของคุณ รับรองเป็นการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ที่ใช่แน่นอน หรือถ้ามีไอเดียครบแล้วและอยากขายของออนไลน์ ก็เปิดเว็บไซต์ฟรีที่ปุ่มด้านล่างเลยตอนนี้!

โดนเมนเนม มีด็อทอยู่หลายประเภทด้วยกัน แต่ที่นิยมมากที่สุดคือ .com ประเภทของ Domain Name แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ

1. โดเมน 2 ระดับ   ชื่อโดเมน . ประเภทของโดเมน
2. โดเมน 3 ระดับ   ชื่อโดเมน . ประเภทของโดเมน . ประเทศ

โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

โดเมน 2 ระดับ จะขึ้นต้นด้วย www.ชื่อโดเมน.ประเภทของโดเมน เช่น www.google.com , www.kapook.com  , www.yohoo.com , www.mcot.net เป็นต้น

ประเภทของโดเมน คือคำย่อขององค์กรต่างๆ โดยส่วนใหญ่ที่เราจะพบกันบ่อยๆ เช่น

• .com คือ บริษัทหรือองค์กรพาณิชย์
• .org คือ องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงผลกำไร
• .net คือ องค์กรที่เป็นเกตเวย์ หรือ จุดเชื่อมต่อเครือข่าย
• .edu คือ สถาบันการศึกษา
• .gov คือ องค์กรของรัฐบาล

โดเมน 3 ระดับ จะขึ้นต้นด้วย www.ชื่อโดเมน.ประเภทของโดเมน.ประเทศ เช่น www.itgenius.co.th , www.mcot.or.th, https://www.ru.ac.th, www.dopa.go.th, เป็นต้น

ประเภทขององค์กรที่พบบ่อยคือ 

• .co คือ บริษัท หรือ องค์กรพาณิชย์
• .ac คือ สถาบันการศึกษา
• .go คือ องค์กรของรัฐบาล
• .net คือ องค์กรที่ให้บริการเครือข่าย
• .or คือ องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงผลกำไร

ตัวย่อของประเทศที่ตั้งขององค์กร

• .th   คือ ประเทศไทย
• .cn  คือ ประเทศจีน
• .uk  คือ ประเทศอังกฤษ
• .jp   คือ ประเทศญี่ปุ่น
• .au  คือ ประเทศออสเตรเลีย

ไอทีจีเนียส เอ็นจิเนียริ่ง (IT Genius Engineering) ให้บริการด้านไอทีครบวงจร ทั้งงานด้านการอบรม (Training) สัมมนา รับงานเขียนโปรแกรม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น งานออกแบบกราฟิก และงานด้าน E-Marketing ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้ง SEO , PPC , และ Social media marketting

เว็บไซต์ที่ใช้ โดเมนเนม 2 ระดับ มีอะไรบ้าง

.name มีเว็บอะไรบ้าง

โดเมนเนม 2 ระดับ เกี่ยวกับองค์กรของรัฐบาล คืออะไร

ระบบชื่อโดเมนของเว็บไซต์คืออะไร