แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

 

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

ติดต่อเจ้าของผลงานได้ที่
[email protected] 

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1


แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

เปิดอ่าน 7,231 ครั้ง

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

เปิดอ่าน 14,947 ครั้ง

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

เปิดอ่าน 9,948 ครั้ง

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

เปิดอ่าน 9,891 ครั้ง

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

เปิดอ่าน 14,127 ครั้ง

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

เปิดอ่าน 1,141 ครั้ง

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

เปิดอ่าน 7,537 ครั้ง

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

เปิดอ่าน 9,110 ครั้ง

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

เปิดอ่าน 20,478 ครั้ง

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

เปิดอ่าน 29,825 ครั้ง

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

เปิดอ่าน 24,313 ครั้ง

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

เปิดอ่าน 9,862 ครั้ง

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

เปิดอ่าน 18,358 ครั้ง

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

เปิดอ่าน 12,265 ครั้ง

แผนการ สอน เรื่อง number ม. 1

เปิดอ่าน 8,816 ครั้ง

2. นกั เรียนดชู อ่ื ของหน่วยการเรียนรู้ (School days) แลว้ ชว่ ยกันแสดงความคิดเห็นว่าหน่วยการเรียนรู้

นีน้ ่าจะเก่ียวกบั เรอ่ื งใด โดยครใู หน้ กั เรยี นอ่านผ่านๆ ในแต่ละหน่วยการเรยี นรู้ย่อย

Suggested Answer Key

“The title refers to our school days. I think we will learn about schools in England.”

ขัน้ ที่ 3 ( ขั้นฝกึ ) Practice
1. นกั เรยี นดภู าพ 1-3 ในหนังสือเรยี น หนา้ 7 หวั ขอ้ Vocabulary จากน้นั ครกู ระตนุ้ ใหน้ ักเรยี น
อภิปราย และดงึ ความสนใจของนกั เรยี นเข้าสู่หนว่ ยการเรยี นรู้ ครูถามคำถามว่า ภาพท่ีนกั เรียนเหน็ แต่ละภาพมา
จากหนังสอื เรียนหนา้ ใด ภาพน้นั ๆ แสดงใหเ้ ห็นอะไร และนักเรยี นเหน็ อะไรบา้ งในหนงั สอื เรยี นหนา้ ดังกล่าว
Suggested Answer Key
T : What page is pic. 1 from?
S1 : It’s from p. 8.
T : What can you see in pic. 1?
S2 : A map of a school.
T : What else can you see on p. 8?
S3 : A girl walking to school, a timetable, etc
T : What page is pic. 2 from? (p. 13) What can you see in the picture?

How are the other pictures on the page related? etc
T : What page is pic. 3 from? (p. 11) What can you see in pic.3?

What else can you see on p. 11?
2. นักเรยี นช่วยกนั หาวา่ ภาพ a school timetable, a noticeboard, และ an email to a pen
pal ปรากฏอยู่ในหนังสือเรยี นหน้าใด จากน้ันเฉลยคำตอบพรอ้ มกนั โดยครถู ามคำถามเกี่ยวกบั ภาพแตล่ ะภาพ
เพิ่มเตมิ เพือ่ ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน

Key > A school timetable (p. 8)

- What is a school timetable? - What information does it contain?

- What is your school timetable like? - Do lessons start and finish at the same

time each day?

> A noticeboard (p. 9)

- Where do we see noticeboards? - What information do we see on

noticeboards?

- Does your school have a noticeboard?

> An email to a pen pal (p. 12)

- What is an email? - Do you have an email address?

- What is a pen pal? - Do you have a pen pal?

3. นักเรียนดภู าพ 1 ในหนังสือเรียน หน้า 7 หัวข้อ Vocabulary ซงึ่ เป็นภาพแผนผงั โรงเรยี น แลว้ ฟงั

CD 1 / Track 5 เพ่ือฝึกออกเสียงคำศพั ท์ชอื่ วิชา (School subjects) จากนัน้ ช่วยกันบอกความหมายของชอ่ื

วชิ าดังกลา่ วเปน็ ภาษาไทย

ขน้ั ที่ 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
1. นกั เรยี นอ่านช่ือ Unit 1a และดภู าพ ในหนงั สือเรียน หน้า 8-9 แล้วครูบอกนักเรยี นว่า ในบทนี้
นักเรยี นจะได้เรียนเก่ียวกบั School
2. นกั เรียนดูภาพ a school map(Green School) ในหนังสอื เรยี น หนา้ 8 หวั ขอ้ Vocabulary
Ex.1 (To learn school subjects and get students to talk about their favourite subject) แลว้ ครูถาม
วา่ วชิ าทน่ี ักเรียนชอบเรียนมากท่ีสดุ คอื วชิ าอะไร Key My favourite school subject is Maths.
3. นักเรยี นใชป้ ระโยคโครงสรา้ งดงั กลา่ วผลัดกนั สอบถามขอ้ มูลจากเพื่อนแตล่ ะคนใหไ้ ด้จำนวนมาก
ที่สดุ เท่าที่จะทำได้ภายในเวลา 5 นาที จากน้นั ให้นักเรยี นท่ีสามารถสอบถามข้อมูลจากเพ่ือนไดม้ ากทีส่ ดุ และน้อย
ท่สี ดุ มารายงานหน้าชัน้ วา่ ขอ้ มลู ของเพอ่ื นๆ ที่สำรวจมาไดน้ ั้น แตล่ ะคนชอบเรียนวิชาอะไร พร้อมท้ังให้เหตุผล
ประกอบวา่ ทำไมจึงสามารถสำรวจข้อมลู ไดม้ าก และทำไมจงึ สำรวจข้อมูลไดน้ ้อย ครใู ช้ขอ้ มูลส่วนนี้ประกอบการ
พฒั นากจิ กรรมการเรยี นรู้เพ่อื ช่วยเหลือนักเรยี นท่ีมีความสามารถด้อยกวา่ คนอืน่
4. นกั เรยี นดูภาพ a school map(Green School) และ Timetable ในหนงั สือเรยี น หนา้ 8
หวั ข้อ Vocabulary Ex. 1 อกี ครงั้ ให้นกั เรยี นดทู ่ีสแี ต่ละสีทเ่ี ปน็ สัญลกั ษณข์ องชือ่ วชิ า แล้วครูสุ่มนักเรยี นสองคน
อ่านตัวอยา่ งประโยคสนทนาใน Ex. 2
A : Where’s the Math lesson?
B : In Room D.
นักเรยี นจบั คู่กนั ฝกึ ใชป้ ระโยคสนทนาใน Ex. 2(To understand timetables and be able to ask and
answer Where? Questions) โดยเปลย่ี นช่อื วิชาให้ครบทั้ง 8 วิชา ครูคอยสงั เกตและบนั ทึกพฤตกิ รรมการ

เรยี นรขู้ องนักเรียน และเฉลยคำตอบบนกระดาน

Key 1. A : Where’s the English lesson? B : In Room C.

2. A : Where’s the Science lesson? B : In Room A.

3. A : Where’s the History lesson? B : In Room E.

4. A : Where’s the Art lesson? B : In Room F.

5. A : Where’s the Geography lesson? B: In Room G.

6. A : Where’s the Music lesson? B : In Room H.

7. A : Where’s the IT lesson? B : In Room I.

8. A : Where’s the PE lesson? B : In Room B.

5. นักเรยี นฟงั การออกเสยี งช่อื วันต่างๆ (Days of the week) ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 8Ex. 3 (To

learn the days of the week and practice pronunciation) จาก CD 1 / Track 6 และฝกึ ออกเสยี งตาม

โดยฝึกพรอ้ มกนั ท้งั ห้องและฝึกเป็นรายบคุ คล จากนั้นให้นกั เรียนบอกช่อื วนั ตา่ งๆ เป็นภาษาไทย ครูอาจถาม

คำถามนักเรียนเพ่ิมเติม เชน่

- Which is the first day of the week?

- Which day is in the middle of the week?

- Could you say days of the week from the last to the first?

- Could you say days of the week in the correct order?

6. นักเรยี นดภู าพด้านบนสดุ ในหนังสอื เรียน หนา้ 9 และชว่ ยกันแสดงความคดิ เห็นว่าคือภาพอะไร

จนได้ขอ้ สรปุ ว่าเป็น noticeboard(กระดานสำหรับติดป้ายประกาศ) ซ่งึ นักเรียนจะพบเห็นได้ท่ีโรงเรยี น (at a

school) และทีช่ มรม (at a club) จากนนั้ ใหน้ ักเรียนอา่ นป้ายประกาศตา่ งๆ ทีต่ ดิ อยู่บนกระดาน และค้นหาช่อื

วิชา 5 วิชา (school subjects) และวัน 5 วนั (days of the week) ทีอ่ ยู่ในปา้ ยประกาศต่างๆ ท่ีนกั เรียนอา่ น

(To read for gist)

Key School subjects: History, English, Geography, Math, PE

Days of the week: Monday, Wednesday, Tuesday, Thursday, Friday

7. นกั เรยี นตอบคำถามเกี่ยวกบั ป้ายประกาศต่างๆ ทอี่ ่าน ในหนังสือเรยี น หน้า 9 Ex. 4b(To read

for specific information) และขดี เส้นใตห้ รือวงรอบคำตอบท่ีอย่ใู นป้ายประกาศ แล้วนกั เรียนตรวจคำตอบ

Key 1. No. The History class is in Room D.

2. Mr. Brown is the English teacher.

3. You can find information about the school, the teachers and what the students do

each day.

4. It is on Thursday, 5th.

ขน้ั ท่ี 5 (ขั้นสรปุ ) Wrap up
1. นกั เรียนวางแผนทำตารางเรียน (Timetable) ของนักเรียน (To write your school timetable)
โดยดตู ัวอย่างในหนงั สือเรยี น หนา้ 8 Ex. 2 เป็นแนวทาง แลว้ ครูถามคำถามเกย่ี วกับสิง่ ท่ีนักเรยี นจะเขียนลงใน
ตารางเรียน เช่น When do you first lesson start? What time do you have your first break? How
long does it late? etc ครอู าจมอบหมายให้นกั เรียนทำเปน็ การบ้าน และอนุญาตใหน้ กั เรียนใช้กระดาษสี และ
สติ๊กเกอร์ตกแต่งตารางเรียนใหน้ ่าสนใจ

9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สอื เรียน Access ม. 1
2. บัตรคำ School Subject
3. ใบงาน Timetable

10. การวัดและประเมนิ ผล

วิธีการวัด เคร่อื งมอื เกณฑ์

ตรวจแบบฝึกหัด เกณฑก์ ารประเมินชน้ิ งาน รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์

ประเมินการฟงั แบบประเมินการฟัง ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

ประเมินการพูด แบบประเมินการพูดโตต้ อบ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ประเมนิ การเขยี น แบบประเมนิ การเขียน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ประเมนิ การออกเสยี ง แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ด้านทักษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

1. ประเมนิ การทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน

2. ประเมนิ การทำแบบฝกึ หดั

3. สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ในช่วงการทำกิจกรรม

4. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

5. ประเมนิ ผลตารางเรียน (Timetable) ของนักเรียน

6. ประเมนิ ผลการพูดสนทนา แลกเปล่ยี นขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเอง กจิ กรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ใน

ชวี ิตประจำวัน

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3

วิชา ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน รหัสวชิ า อ21101 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 1

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 School days เวลา 15 ชว่ั โมง

เรื่อง Article A/An เวลา 2 ชั่วโมง

ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า สอนวนั ที่ …….. เดือน………… พ.ศ. ……….

โรงเรยี น บา้ นแมย่ างหา้ สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ดั

ต 1.1 ม.1/1 ปฏบิ ัติตามคำส่งั คำขอรอ้ ง คำแนะนำ และคำชี้แจงงา่ ยๆ ทฟ่ี งั และอา่ น

ต 1.1 ม.1/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทรอ้ ยกรอง (poem) สัน้ ๆ ถูกต้องตามหลกั การอา่ น

ต 2.1 ม.1/1 ใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกิริยาทา่ ทางสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของ

เจ้าของภาษา

ต 2.1 ม.1/3 เขา้ ร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ

ต 2.2 ม.1/2 เปรียบเทียบความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง วันสำคัญ

และชวี ิตความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษากับของไทย

ต 4.1 ม.1/1 ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณจ์ ำลองท่ีเกดิ ขนึ้ ในห้องเรยี นและ

สถานศกึ ษา

2. สาระสำคัญ
การใช้ Article A/An

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
- ออกเสยี งคำศพั ท์ที่ใช้ Article A/An ได้ถูกตอ้ ง
- ใช้ Article A/An ไดถ้ ูกต้อง

4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนร้แู กนกลาง

- การออกเสียงเนน้ หนกั - เบา ในคำ
- การแบง่ วรรคตอนในการอ่าน
- คำถามเกย่ี วกับใจความสำคัญ เชน่ Yes/No Questions, Wh-Questions
- การใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองทเี่ กิดขนึ้ ในห้องเรียน

Language Structure
- Article – a, an: a + consonant / an + vowel

5. ทักษะ/กระบวนการ
-ใช้คำ Article A/An ได้ถกู ต้อง

6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
- ความสามารถในการส่ือสาร
- ความสามารถในการคิด

7. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
- มวี นิ ยั
- มุ่งม่ันในการทำงาน

8. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั ที่ 1 (ขนั้ นำ) Warm up
1. นำเข้าสู่บทเรียนดว้ ยการชแี้ จงให้นักเรยี นทราบว่าคาบเรยี นนี้ นักเรียนจะไดเ้ รยี นรู้เก่ยี วกบั

- Articles a, an
ขนั้ ที่ 2 (ขน้ั นำเสนอ) Presentation
1.นักเรยี นอา่ นกฎการใช้ Articles - a/an ในหนังสอื เรียน หนา้ 9 หัวขอ้ Grammar(To learn

rules for using a/an) โดยครูใหน้ กั เรยี นเดาความหมายของคำวา่ consonant และ vowel
2. นกั เรียนยกตวั อยา่ งคำศัพท์ที่ใช้กับ Articles - a/an มาอยา่ งละ 10 คำ

ขน้ั ท่ี 3 ( ขน้ั ฝึก ) Practice

1. นกั เรียนฝึกการใช้ Articles - a/an ในหนงั สือเรียน หน้า 9 Ex. 6 (To practice a/an) โดยเขียนลง

ในสมดุ แลว้ ตรวจคำตอบ

Key 1. a pencil 3. an atlas 5. an eraser

2. a ruler 4. a notebook 6. a pen

ข้นั ท่ี 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
1. นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งคำศัพท์เก่ยี วกบั สิ่งของในโรงเรยี น ในหนงั สอื เรยี น หน้า 9 Ex. 7(To learn
objects we use at school) พรอ้ มกนั และทีละคน จากนนั้ ครใู หอ้ าสาสมัคร 2 คน อ่านตัวอย่างประโยค
สนทนาของ A และ B แล้วนกั เรยี นจบั คู่ผลัดกันถามและตอบเก่ยี วกับส่ิงของในภาพ Ex. 7
Key 2. A : What’s this in English? B : It’s a notepad.
3. A : What’s this in English? B : It’s an eraser.
4. A : What’s this in English? B : It’s a ruler.

5. A : What’s this in English? B : It’s a pencil.
6. A : What’s this in English? B : It’s an atlas.
7. A : What’s this in English? B : It’s a bag.

ขั้นที่ 5 (ขั้นสรุป) Wrap up
1. ครุส่มุ ถามนักเรียนเกี่ยวกับการ ใช้ A/An โดยสุ่มถามนักเรยี น 4-5 คน
2. นักเรียนทำแบบฝกึ ใบงาน a/an เปน็ การบา้ น แลว้ มาเฉลยพรอ้ มกันในคาบตอ่ ไป

9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสอื เรียน Access ม. 1
2. ใบงาน A/An

10. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
วธิ ีการวดั เกณฑ์การประเมินชิน้ งาน รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินการเขยี น ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขยี น แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ประเมนิ การทำแบบฝึกหดั
2. สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ในช่วงการทำกิจกรรม
3. ประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4

วชิ า ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน รหัสวิชา อ21101 ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 1
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 School days
เรอ่ื ง First day at school 1 เวลา 15 ชัว่ โมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
โรงเรียน บา้ นแม่ยางห้า เวลา 2 ชั่วโมง

สอนวนั ที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

สำนักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษา เชยี งใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชวี้ ัด

ต 1.1 ม.1/1 ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ และคำชแ้ี จงงา่ ยๆ ที่ฟงั และอ่าน

ต 1.2 ม.1/4 พูดและเขียนเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มูล และแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับเรอ่ื งทฟี่ งั หรอื อ่าน

อยา่ งเหมาะสม

ต 2.1 ม.1/1 ใช้ภาษา น้ำเสียง และกริ ิยาทา่ ทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและ

วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

ต 4.1 ม.1/1 ใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองท่เี กิดขนึ้ ในห้องเรยี นและ

สถานศึกษา

2. สาระสำคัญ
การใช้ subject/object pronoun

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
- อา่ นออกเสียงบทสนทนา
- ตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา
- สนทนา แลกเปลย่ี นข้อมูลเกีย่ วกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณต์ ่างๆ ในชวี ิตประจำวัน
- เขียนบรรยายเก่ยี วกบั ตนเอง
- ใชภ้ าษา นำ้ เสยี ง และกิริยาท่าทางเหมาะสม ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
- ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกดิ ข้ึนในห้องเรยี น

4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- การออกเสียงตามระดับเสยี งสูง-ต่ำ ในประโยค
- ภาษาทใ่ี ช้ในการสอื่ สารระหวา่ งบุคคล เช่น การทกั ทาย การแลกเปลี่ยนขอ้ มลู เกี่ยวกับตนเอง และกจิ กรรม
ตา่ งๆ
- ประโยคและข้อความทีใ่ ช้ในการบรรยายเกีย่ วกับตนเอง และกิจวตั รประจำวัน

- การใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองทเี่ กิดขึน้ ในห้องเรียน
Language Structure

- Subject pronouns: I, you, he/she/it, we, you, they
- Object pronouns: me, you, him/her/it, us, you, them

5. ทักษะ/กระบวนการ
- ฟงั พดู อา่ นและเขียนเกี่ยวกบั ตนเอง กจิ วัตรประจำวนั กิจกรรม และสถานการณต์ ่างๆ ในชวี ิตประจำวนั

6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
- ความสามารถในการสอื่ สาร

7. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
- มวี นิ ัย
- มงุ่ มั่นในการทำงาน

8. กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นท่ี 1 (ข้นั นำ) Warm up
1. ครูบอกจุดประสงคก์ ารเรยี นร้ขู อง Unit 1b ให้นกั เรียนทราบวา่ เป็นการฝกึ ใช้ภาษาในการ

แนะนำตนเอง (Introducing yourself)
2. นักเรยี นดภู าพในหนงั สือเรียน หน้า 10Ex. 1 (To learn how to introduce yourself) และ

ครูสุ่มนักเรยี น 2 คน อ่านบทสนทนา จากนน้ั ครูถามวา่ คูส่ นทนา คอื Bob และ Susan มีความเกยี่ วข้องกัน
อย่างไร และนักเรยี นรไู้ ด้อย่างไร

Key Bob and Susan are strangers.
Suggested approach
T : Do they know each other?
Ss: No, they are strangers.
T : How do you know?
Ss: They are introducing themselves. (Bob says “My name’s Bob.”)

ข้นั ท่ี 2 (ขน้ั นำเสนอ) Presentation
1. นกั เรยี นจบั คู่ฝกึ ใช้บทสนทนาดังกล่าว ซ่งึ เป็นการใช้ภาษาเพือ่ ทำความรู้จกั กนั ในการพบปะกนั เปน็
คร้งั แรก โดยใช้ช่ือของนกั เรยี นเอง ครูเดนิ รอบชน้ั เรียนเพื่อสงั เกตการพดู บทสนทนาของนกั เรยี น จากน้ันเลือก
นักเรียน 3-4 คู่ ออกมาพดู บทสนทนาหนา้ ชน้ั เรยี น

Suggested Answer Key

A : Hello. My name is John, John Smith.

B : Hi! I am Jenny Burton.

A : Nice to meet you, Jenny.

B : Nice to meet you, too.

2. นกั เรยี นอา่ นออกเสียงบทสนทนาในหนงั สอื เรียน หน้า 10 Ex. 2a (To read and listen for gist)

พร้อมกนั จากนน้ั ฟงั บทสนทนาดังกลา่ วจากครู และตอบคำถามจากบทสนทนา แล้วตรวจคำตอบ

Key - Where are the two boys? (They are at school.)

- Are they friends? (No, they are not friends.)

3. นักเรียนอ่านบทสนทนาอีกคร้งั แล้วอ่านประโยค 1-4 ในหนงั สอื เรียน หนา้ 10 Ex.2b(To read for

specific information) และบอกว่าประโยค 1-4 น้ัน T (True) หรือ F (False) จากนนั้ ตรวจคำตอบและแกไ้ ข

ประโยคทีผ่ ิดใหถ้ ูกตอ้ งดว้ ย

Key 1. F (The Science lesson is in Room D.) 3. T

2. T 4. F (They are in the same class.)

ขนั้ ที่ 3 ( ข้นั ฝึก ) Practice
1. นกั เรยี นปดิ หนงั สอื เรยี น แล้วครูสอน Subject pronouns โดยปฏิบัติดังนี้

- ช้ีที่ตวั เองแลว้ พดู ‘I’ พร้อมเขียน I บนกระดาน
- ชี้ทน่ี กั เรียน 1 คน แลว้ พูด ‘you’ พรอ้ มเขียน you บนกระดาน
- ช้ีที่นักเรยี นชาย 1 คน แล้วพดู ‘he’ พรอ้ มเขยี น he บนกระดาน แล้วอธบิ ายวา่ เรา
ใช้ he กับเด็กผู้ชาย 1 คน หรือ ผูช้ าย 1 คน
- ชี้ที่นกั เรยี น 1 คน แลว้ พดู ‘she’ พร้อมเขียน she บนกระดาน แล้วอธบิ ายว่า เราใช้
she กับเดก็ ผ้หู ญิง 1 คน หรอื ผู้หญงิ 1 คน
- ชี้ท่สี มุดของนักเรียน 1 เล่ม แล้วพดู ‘it’ พรอ้ มเขียน it บนกระดาน แล้วอธิบายว่า
เราใช้ it กบั ส่ิงของ 1 สิง่
- เดินไปใกล้ๆ กับกลุ่มนกั เรียน แลว้ ช้ีที่นกั เรยี นและตนเอง แล้วพูด ‘we’ พร้อมเขียน
we บนกระดาน
- ช้ีที่กลุ่มนักเรียนทีอ่ ยู่ตรงขา้ มกับตัวเอง แลว้ พดู ‘you’ พร้อมเขียน you บนกระดาน
- ชี้ไปท่กี ลุม่ นักเรียนทอี่ ยูไ่ กลๆ แล้วพูด ‘they’ พร้อมเขียน they บนกระดาน
จากนั้นครพู ูดพรอ้ มเขยี นประโยค I am a teacher. Look at me. บนกระดาน แลว้ ขีดเสน้ ใต้คำว่า I และ me
แลว้ อธิบายว่า me เปน็ Object pronoun และสอน Object pronoun ตวั อนื่ เช่น Look at him. He’s a
student. Look at her. She’s a student. Look at it. It’s a desk.

ขน้ั ท่ี 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
2. นกั เรียนเปิดหนังสอื เรียน หน้า 10 Ex. 3a (To introduce subject / object pronouns) และ
อา่ นขอ้ ความในกรอบสีนำ้ เงนิ และหา subject / object pronouns ทป่ี รากฏอยู่ในข้อความนั้น เสร็จแลว้
ตรวจคำตอบ ครใู ห้นักเรียนสงั เกตว่า Subject pronouns จะอยกู่ อ่ นคำกริยา และ Object pronounsจะ
ตามหลังคำกรยิ า
Key Subject pronouns: I, He, We
Object pronouns: him, me

ขนั้ ที่ 5 (ขน้ั สรุป) Wrap up

1. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั ในหนงั สือเรยี น หน้า 10 Ex. 3b(To practise subject / object

pronouns) แลว้ เฉลยคำตอบร่วมกนั

Key 1. She 2. them, They 3. they

4. We 5. him, He

9. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสือเรยี น Access ม. 1
2. แบบฝกึ หัด Subject/Object Pronoun

10. การวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์
วธิ ีการวดั เกณฑ์การประเมนิ ช้ินงาน รอ้ ยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การเขยี น แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. ประเมนิ การทำแบบฝกึ หัด
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรูใ้ นชว่ งการทำกจิ กรรม
3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
4. ประเมินผลการพดู สนทนา แลกเปล่ยี นข้อมูลเก่ียวกับตนเอง กจิ กรรม และสถานการณต์ า่ งๆ ใน
ชวี ติ ประจำวัน

แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 5

วิชา ภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน รหสั วชิ า อ21101 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 School days เวลา 15 ช่ัวโมง

เรื่อง First day at school 2 เวลา 2 ชวั่ โมง

ครผู สู้ อน นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า สอนวนั ท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

โรงเรียน บา้ นแม่ยางหา้ สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด

ต 1.1 ม.1/1 ปฏิบตั ติ ามคำสงั่ คำขอรอ้ ง คำแนะนำ และคำชี้แจงงา่ ยๆ ทฟี่ ังและอ่าน

ต 1.2 ม.1/4 พดู และเขยี นเพ่ือขอและให้ข้อมูล และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรอ่ื งทฟ่ี งั หรอื อา่ น

อย่างเหมาะสม

ต 2.1 ม.1/1 ใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกริ ิยาท่าทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คมและ

วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา

ต 4.1 ม.1/1 ใช้ภาษาสือ่ สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองท่ีเกดิ ข้นึ ในหอ้ งเรยี นและ

สถานศึกษา

2. สาระสำคัญ
ข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน กิจกรรม สถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และ

สิง่ แวดล้อมใกล้ตัว

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- อา่ นออกเสยี งบทสนทนา
- สนทนา แลกเปลยี่ นขอ้ มูลเกีย่ วกับตนเอง กจิ กรรม และสถานการณต์ ่างๆ ในชีวิตประจำวัน
- ใช้ภาษา นำ้ เสียง และกิรยิ าทา่ ทางเหมาะสม ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
- ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณ์จำลองที่เกิดข้นึ ในห้องเรียน

4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- การออกเสยี งตามระดับเสยี งสงู -ต่ำ ในประโยค
- คำถามเกี่ยวกับใจความสำคัญ เชน่ Yes/No Questions, Wh-Questions
- การใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณ์จำลองทเี่ กิดข้นึ ในห้องเรียน
Language Structure
- The verb ‘to be’: affirmative, negative, interrogative and short answers

5. ทกั ษะ/กระบวนการ
-เขียนประโยคท่ใี ช้ verb to be ได้ถกู ตอ้ ง

6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
- ความสามารถในการสอ่ื สาร

7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- มีวนิ ัย
- มุ่งมั่นในการทำงาน

8. กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั ท่ี 1 (ข้นั นำ) Warm up
1. ครบู อกจดุ ประสงค์การเรียนรขู้ อง Unit 1b ให้นักเรียนทราบวา่ นกั เรยี นจะไดเ้ รยี นรู้เก่ยี วกับ ---

- verb to be
- ประโยคบอกเล่า ปฏเิ สธ และคำถาม ที่ใช้ verb to be

2. ครทู บทวนเรอ่ื ง Subject/object pronoun อีกคร้งั
ขน้ั ที่ 2 (ข้นั นำเสนอ) Presentation
1. นักเรียนปิดหนังสอื ครูสอนรูปย่อของ Verb ‘to be’ ในประโยคบอกเล่าท่เี ปน็ Present
simple โดยพดู และเขียนประโยค I’m Helen. บนกระดาน แล้วช้ไี ปที่นกั เรยี นชาย 1 คน ทอี่ ยแู่ ถวสุดทา้ ย
และพดู He’s John. จากน้นั เขยี นบนกระดาน แล้วชี้ทน่ี กั เรยี นหญิง 1 คน และพูด She’s Mary. พร้อมเขยี น
บนกระดาน ครูดำเนินกิจกรรมไปเร่อื ยๆ จนครบ Subject pronouns ทุกตัว จากนนั้
2. นักเรยี นเรียนรู้รูปยอ่ ของ Verb ‘to be’ ในประโยคปฏิเสธที่เป็น Present simple โดยเขียน
ประโยค I’m a teacher. I’m not a doctor. บนกระดาน แล้วขีดเสน้ ใต้คำว่า I’m not ครทู ำกิจกรรม
เหมือนกันทงั้ ในรปู เอกพจน์และพหูพจน์
3. สุดท้ายนกั เรยี นเรยี นรู้รูปประโยคคำถามของ Verb ‘to be’ โดยครพู ูดพร้อมเขียนประโยค Am I a
teacher? บนกระดาน และขีดเสน้ ใตค้ ำวา่ Am I แล้วอธบิ ายว่า เราสร้างรปู ประโยคคำถามของ Verb ‘to be’
โดยการวางVerb ‘to be’ไว้หนา้ Subject pronouns
4. ครเู ขียนประโยคคำตอบบนกระดานวา่ Yes, I am.และอธบิ ายวา่ เป็นคำตอบยืนยันแบบสัน้ ซึ่งเรา
สามารถสร้างประโยคด้วย Yes, + สรรพนามแทนตัวบุคคล + Verb ‘to be’ ในรปู บอกเล่า. แลว้ เขียนประโยค
Am I a doctor? No, I’m not. และอธบิ ายว่า เปน็ คำตอบปฏิเสธแบบส้นั สามารถสรา้ งประโยคด้วย No, +
สรรพนามแทนตัวบุคคล + Verb ‘to be’ ในรปู ปฏิเสธ.

ข้นั ที่ 3 ( ขน้ั ฝกึ ) Practice

1. นกั เรยี นเปดิ หนงั สอื เรยี น หนา้ 11 Ex. 4a(To learn the verb ‘to be’) อ่านประโยคในกรอบ

แล้วหา verb ‘to be’ ในบทสนทนา หน้า 10

Key Where is, It’s, Are you, I am, My name’s, That’s, It’s, are you,

I’m, Are you, I am

2. นกั เรยี นทำแบบฝึกหดั ในหนังสอื เรียน หนา้ 11 Ex. 4b (To practise the affirmative form

of the verb ‘to be’) โดยเตมิ คำลงในประโยคให้ถกู ต้อง เสรจ็ แล้วตรวจคำตอบ

Key 1. ’s 2. ’m 3. ’re 4. ’s 5. ’re

3. นกั เรียนอา่ นประโยคตัวอย่างในหนงั สือเรียน หนา้ 11 Ex. 5 (To practise the negative

form of the verb ‘to be’) แล้วเปลย่ี นประโยคใน Ex.4b ให้เปน็ ประโยคปฏเิ สธ นกั เรียนทำลงในสมุดเสร็จ

แล้วครูตรวจคำตอบบนกระดาน

Key 2. I’m not 13 years old. 4. He isn’t my best friend.

3. They aren’t in Room E. 5. You aren’t in Year 7.

ขนั้ ที่ 4 (ข้ันนำไปใช)้ Production

1. นักเรียนทำแบบฝกึ หดั ในหนังสือเรยี น หน้า 11 Ex. 6 (To practise the interrogative form

of the verb ‘to be’)

Key 1. Are, they are 2. Are, I’m not 3. Is, it is

4. Are, we aren’t 5. Is, he isn’t

2. นกั เรียนดูภาพ 2 ภาพ ในหนังสือเรยี น หน้า 11 Ex. 7 (To practise asking questions and

giving short answers) ให้นกั เรียนดูทชี่ ื่อบุคคลและอายุ จากนั้นครเู รยี กนักเรียน 2 คน อ่านตวั อยา่ ง แล้ว

นักเรียนจับคถู่ ามและตอบโดยใช้คำทก่ี ำหนดให้

Key A: Is Mark 14? B: No, he isn’t. He’s 19.

A: Is Sue 16? B: No, she isn’t. She’s 17.

A: Is Mary 20? B: No, she isn’t. She’s 17.

A: Is Rita 11? B: No, she isn’t. She’s 17.

A: Is John 26? B: No, he isn’t. He’s 16.

A: Is Jill 11? B: No, she isn’t. She’s 12.

7. นักเรียนทำแบบฝึกหัด ในหนงั สอื เรียน หน้า 11 Ex. 8 (To practise asking questions) เสร็จ

แล้วตรวจคำตอบพร้อมกนั

Key 2. Is it an eraser 4. Are they pencils

3. Are you twelve 5. Are you in Year 7

8. ครใู ห้นกั เรยี น 1 คู่ อ่านประโยคสนทนาตัวอยา่ ง ในหนังสอื เรียน หนา้ 11 Ex. 9a (To
practice speaking about yourself) แลว้ นักเรยี นจับคู่กันถามและตอบคำถามท่ีกำหนดให้ โดยครเู ดนิ รอบ
ชัน้ เรยี นเพอ่ื คอยควบคมุ และสังเกตการพดู ของนักเรยี น

9. นักเรยี นแปลคำถามใน Ex. 9a เปน็ ภาษาไทย (To consolidate new vocabulary through
translation) ครเู น้นว่าควรแปลเปน็ คำถามในภาษาไทยมากกวา่ การแปลตรงตัว

Suggested Answer Key
Students’ own answers

ขน้ั ท่ี 5 (ขัน้ สรุป) Wrap up
1. นักเรยี นเขียนประโยคเกี่ยวกบั ตนเองใหส้ มบูรณ์ ในหนงั สือเรียน หนา้ 11 Ex.10 (Practise
language and grammar presented in this unit) ครอู าจมอบหมายใหน้ ักเรียนทำเปน็ การบ้าน
Suggested Answer Key
I’m Fiona. I’m 15 years old. My favorite subject is History.

9. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี น Access ม. 1
2. แบบฝกึ หัด Verb to be worksheet

10. การวัดและประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์
วิธกี ารวดั เกณฑก์ ารประเมนิ ชิน้ งาน รอ้ ยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟัง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบประเมินการพดู โตต้ อบ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการฟงั แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพูด แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขยี น แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ประเมนิ การทำแบบฝกึ หดั
2. สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ในชว่ งการทำกิจกรรม
3. ประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
4. ประเมนิ ผลการพูดสนทนา แลกเปล่ียนข้อมูลเกีย่ วกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณต์ า่ งๆ ในชีวิ

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 6

วชิ า ภาษาองั กฤษพื้นฐาน รหสั วชิ า อ21101 ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 School days
เรื่อง What is an email? เวลา 15 ช่วั โมง
ครูผ้สู อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรียน บา้ นแม่ยางห้า เวลา 2 ช่ัวโมง

สอนวันท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

สำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษา เชยี งใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด

ต 1.1 ม.1/1 ปฏิบตั ติ ามคำส่ัง คำขอรอ้ ง คำแนะนำ และคำชีแ้ จงงา่ ยๆ ท่ฟี ังและอ่าน

ต 1.1 ม.1/4 ระบุหวั ขอ้ เร่อื ง (topic) ใจความสำคญั (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและ

อ่านบทสนทนา นิทาน และเรื่องส้นั

ต 1.2 ม.1/5 พดู และเขยี นแสดงความรู้สึกและความคดิ เห็นของตนเองเกี่ยวกับเรือ่ งตา่ งๆ ใกล้ตวั

กจิ กรรมต่างๆ พรอ้ มท้งั ใหเ้ หตุผลสน้ั ๆ ประกอบอย่างเหมาะสม

ต 1.3 ม.1/1 พดู และเขยี นบรรยายเกย่ี วกับตนเอง กจิ วัตรประจำวนั ประสบการณ์ และส่งิ แวดล้อม

ใกล้ตวั

2. สาระสำคัญ
การสนทนา การเขียนจดหมาย เพ่อื บอกขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจำวัน ส่ิงแวดล้อมใกล้ตวั

และสถานการณต์ ่างๆ ในชีวิตประจำวัน

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- จับใจความสำคญั (main idea) จากการอ่าน email
- สนทนา แลกเปล่ยี นข้อมลู เก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่างๆ ในชวี ติ ประจำวนั
- เขยี น email เพอ่ื บอกข้อมลู เก่ียวกับตนเอง ตอบเพอ่ื นทางจดหมาย (pen pal)
- เปรียบเทยี บโครงสรา้ งประโยคของภาษาองั กฤษและภาษาไทย
- ใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกิรยิ าทา่ ทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
- ใชภ้ าษาสือ่ สารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณ์จำลองทเี่ กิดขนึ้ ในหอ้ งเรียน

4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- ข้อความจากส่ือประเภทตา่ งๆ เว็บไซต์ การจับใจความสำคัญ เชน่ ใจความสำคญั รายละเอียดสนับสนนุ
- ภาษาทใี่ ช้ในการสอื่ สารระหว่างบคุ คล เช่น การทกั ทาย การแลกเปลี่ยนขอ้ มูลเกี่ยวกับตนเอง กจิ กรรม และ
สถานการณ์ต่างๆ ในชวี ิตประจำวัน

- ประโยคและขอ้ ความที่ใช้ในการบรรยายเกยี่ วกับตนเอง และสงิ่ แวดล้อมใกลต้ ัว เช่น การเรียน การ
ฟงั เพลง
- ความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งการลำดบั คำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
- การใชภ้ าษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางในการสนทนา ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น
การแสดงทา่ ทางประกอบการพูดแนะนำตนเอง
- กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ เชน่ การเลน่ เกม
- การใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองทเ่ี กิดขึน้ ในห้องเรยี น
5. ทกั ษะ/กระบวนการ

- เขียนจดหมาย เพ่ือบอกขอ้ มูลเกย่ี วกับตนเอง กิจวัตรประจำวนั ส่งิ แวดล้อมใกล้ตัว และสถานการณต์ ่างๆ
ในชีวติ ประจำวัน

6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน
- ความสามารถในการสือ่ สาร
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
- มีวินยั
- มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

8. กิจกรรมการเรยี นรู้

ข้นั ที่ 1 (ขน้ั นำ) Warm up

1. ครบู อกจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใน Unit 1c วา่ นักเรียนจะได้เรยี นรู้เกย่ี วกบั การอ่านเพ่ือหาขอ้ มลู

เฉพาะ (Reading for specific information)

2. ครูนำเขา้ สู่บทเรยี นดว้ ยการให้นักเรยี นดชู ่ือหน่วยการเรยี นรู้ย่อย แลว้ ถามนกั เรยี นว่า นักเรยี นจะ

พบประโยคนี้ไดท้ ไี่ หน (In a letter, email, a postcard etc.)

ขัน้ ท่ี 2 (ข้นั นำเสนอ) Presentation

1. นักเรียนสำรวจบทอ่าน ในหนังสอื เรียน หนา้ 12 Ex.1 (To readfor specific information) แลว้ ครู

อธิบายว่า email คืออะไร และถามนักเรียนวา่ มีคอมพิวเตอร์ท่ีบ้านหรือไม่ นกั เรียนใช้อนิ เทอร์เน็ตหรอื ไม่ จากนัน้

อธิบายความหมายของคำว่า From (person who sends the email), To (person who is going to read the

email and an email address), Subject (what the email will be about) แลว้ ใหเ้ วลานักเรียน 2-3 นาที

อา่ นบทอ่านและเติมขอ้ มูลในกรอบให้สมบูรณ์ เสร็จแล้วครูตรวจคำตอบบนกระดาน

Key 1. 12 years old 2. Merton Secondary School

3. English and History 4. Enrique Iglesias

2. ครูอธิบายการเรยี งลำดับคำ ในหนงั สอื เรียน หน้า 12 หวั ขอ้ Learning to learn โดย

เขยี นประโยค Ann is a student. บนกระดาน และขีดเสน้ ใต้คำว่า Ann และ is แล้วถามนักเรียนบอกวา่ Which

of the two words is a verb? (is) แล้วอธบิ ายว่า Ann เปน็ ประธานของประโยค (subject) เพราะเป็นผ้กู ระทำ

กริยา จากน้ันครถู ามนักเรียนวา่ Where do we use the subject, before or after a verb? (before) จากนน้ั

ให้นักเรียนเปรยี บเทียบกบั โครงสรา้ งประโยคในภาษาไทยวา่ เหมือนหรือแตกตา่ งกันอย่างไร

3. นกั เรยี นจับค่กู ับเพือ่ นเรยี งลำดับคำ ในหนงั สือเรียน หนา้ 12 Ex. 2 (To learn word

order (subject + verb)) ใหถ้ ูกต้อง แล้วตรวจคำตอบ

Key 1. Ann is 12 years old. 2. He is a student.

3. Shakira is a singer. 4. They are 13 years old.

ขน้ั ท่ี 3 ( ขน้ั ฝึก ) Practice
1. นกั เรยี นศกึ ษาการใช้ Capital letters ในหนงั สอื เรยี น หน้า 12 หวั ขอ้ Learning to learn จากนนั้
ชว่ ยกันสรปุ วิธกี ารใช้ ซ่งึ มีหลกั การใชด้ งั ตอ่ ไปน้ี
- ใช้ข้ึนต้นประโยคใหม่ หรอื ใช้หลังเคร่อื งหมาย Full stop
- ใชก้ ับชื่อ นามสกลุ ของคน เชน่ John
- ใช้กับช่ือวชิ า เชน่ Maths
- ใชก้ ับสรรพนาม “I”
- ใช้กับชอ่ื วนั และเดอื น เชน่ Monday, April
- ใช้กับชื่อประเทศตา่ งๆ เช่นSpain
จากนน้ั นักเรยี นหาและขดี เสน้ ใต้คำที่ใช้ Capital letters ในอา่ นบทอ่าน ในหนังสอื เรยี น หน้า 12 Ex.1
2. นักเรยี นทำแบบฝกึ หัด ในหนงั สอื เรียน หน้า 12 Ex.3 (To practise capital letters in English)
เสร็จแล้วตรวจคำตอบ
Key 1. Ann is 12. She’s in my class.
2. They are Claire and SteveSmith.
3. Nora and Phil are from England.
4. The Art class is in Room D on Tuesdays and Thursdays.

ขน้ั ท่ี 4 (ขัน้ นำไปใช)้ Production
1. นกั เรยี นเขียน email ตอบ Patricia ในหนังสือเรยี น หน้า 12 Ex. 5 (To write an email to a
pen pal) โดยครูอธบิ ายใหน้ กั เรยี นฟงั วา่ a pen pal คืออะไร (a friend you write to and receive letters
/ emails from though you may not have met in person) แล้วใหน้ กั เรยี นใช้คำตอบจาก Ex. 4 และ
รูปแบบ email (From: To: Subject:) จากบทอ่านใน Ex. 1 เปน็ ข้อมลู ในการเขียน เสร็จแล้วสง่ email
ดังกล่าว ถงึ ครูเพือ่ ตรวจให้คะแนน

Suggested Answer Key
From: Sandra
To: Patricia
Subject: Hi!

Hi! My name’s Sandra. I’m 14 years old and I’m a student at Fenway Secondary
School. My favourite school subjects are IT and PE. My favourite singer is
Robbie Williams. He’s great! Please write soon.
Sandra Wells
สำหรบั นกั เรยี นทีเ่ รียนอ่อน ครอู าจคัดลอกข้อความนี้ลงบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนเติมคำทีห่ ายไปให้สมบูรณ์

ข้ันที่ 5 (ข้นั สรปุ ) Wrap up
1. นักเรียนทำแบบฝึกหดั Unit 1c ใน Workbook หน้า 6 Exs.1-3 จากน้นั ใช้ข้อมลู ใน Ex.1 และ
Ex.3 เขยี นขอ้ มลู เกยี่ วกับตนเองและโรงเรียนลงใน Ex.4 เพอ่ื เตรียมนนำเสนอหน้าช้นั ต่อไป

9. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียน Access ม. 1

10. การวัดและประเมินผล

วธิ ีการวดั เคร่ืองมอื เกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด เกณฑก์ ารประเมนิ ชนิ้ งาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การฟัง แบบประเมนิ การฟงั ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการพดู แบบประเมนิ การพูดโต้ตอบ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมนิ การเขยี น ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการออกเสยี ง แบบประเมินการอา่ นออกเสียง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทักษะ/สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

1. ประเมินการทำแบบฝกึ หัด
2. สงั เกตพฤติกรรมการเรียนร้ใู นชว่ งการทำกิจกรรม
3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
4. ประเมนิ ผลการพูดสนทนา แลกเปล่ยี นขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณต์ ่างๆ ในชีวติ ประจำวนั
5. ประเมินผลการเขยี น email เพือ่ บอกขอ้ มูลเกี่ยวกับตนเอง ตอบเพอื่ นทางจดหมาย (pen pal)

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 7

วชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน รหัสวชิ า อ21101 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 1
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 School days
เร่อื ง English education เวลา 15 ชวั่ โมง
ครูผูส้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรยี น บ้านแม่ยางห้า เวลา 1 ชั่วโมง

สอนวันท่ี …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษา เชยี งใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั

ต 1.1 1 ปฏบิ ตั ติ ามคำส่ัง คำขอรอ้ ง คำแนะนำ และคำชแี้ จงงา่ ยๆ ท่ฟี ังและอ่าน

ต 1.1 ข้อ 4 ระบุหัวขอ้ เรือ่ ง (topic) ใจความสำคญั (main idea) และตอบคำถามจากการฟงั และ

อ่านบทสนทนา นิทาน และเรอ่ื งส้ัน

ต 1.2 ข้อ 1 สนทนา แลกเปลยี่ นข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กจิ กรรม และสถานการณ์ต่างๆ ในชวี ิตประจำวัน

ต 4.1 ขอ้ 1 ใชภ้ าษาสอื่ สารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลองท่ีเกิดขึ้นในห้องเรยี นและ

สถานศกึ ษา

2. สาระสำคัญ
แผนภาพแสดงระบบการศึกษาของประเทศอังกฤษ การให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั บุคคล และการเขยี น

บรรยายเปรียบเทียบระบบการศึกษา

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- สนทนา แลกเปล่ยี นข้อมูลเก่ยี วกับบุคคล และส่ิงแวดลอ้ มใกล้ตัว
- พดู แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับแผนภาพแสดงระบบการศกึ ษาของไทย พร้อมใหเ้ หตุผลสนั้ ๆ ประกอบ
- เขยี นบรรยายเก่ียวกบั บุคคล และระบบการศกึ ษา
- สรปุ ระบบการศึกษาของไทย โดยการเขียนเป็นแผนภาพ (diagram)
- เปรยี บเทยี บระบบการศกึ ษาของประเทศอังกฤษกับของไทย
- ใช้ภาษา น้ำเสียง และกริ ยิ าท่าทางเหมาะสม ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
- ใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองทีเ่ กิดขน้ึ ในห้องเรียน

4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- ภาษาท่ีใชใ้ นการสอ่ื สารระหว่างบุคคล เชน่ การแลกเปลีย่ นขอ้ มูลเกยี่ วกบั บคุ คลและสง่ิ แวดล้อมใกลต้ วั
- ประโยคและข้อความทใี่ ชใ้ นการบรรยายเก่ยี วกับตนเอง สง่ิ แวดล้อมใกล้ตัว เช่น การเรียน
- การวเิ คราะห์ระบบการศึกษาของไทย

- ความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างชวี ติ ความเปน็ อยู่ของเจ้าของภาษากับของไทย
- การใช้ภาษา น้ำเสียง และกิรยิ าท่าทางในการสนทนา ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
เช่น การแสดงสีหน้าทา่ ทาง การแสดงความรู้สึกชอบ/ไมช่ อบ

5. ทักษะ/กระบวนการ
พดู และเขยี นเกยี่ วกบั แผนภาพแสดงระบบการศกึ ษาของประเทศอังกฤษ การให้ขอ้ มลู เกีย่ วกับบคุ คล

และการเขียนบรรยายเปรียบเทยี บระบบการศึกษา

6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
ความสามารถในการส่อื สาร
ความสามารถในการคิด

7. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- มีวนิ ยั

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั ที่ 1 (ขน้ั นำ) Warm up
1. นำเขา้ สู่บทเรยี นด้วยการชแ้ี จงใหน้ ักเรยี นทราบวา่ ใน Unit 1d นี้ นกั เรียนจะไดเ้ รยี นรเู้ กยี่ วกบั

การอ่านและทำความเขา้ ใจแผนภาพ (diagram)
2. นักเรียนดแู ผนภาพ ในหนังสอื เรยี น หน้า 13 Ex. 1 (To read and understand a diagram)

แลว้ อ่านระดับการศึกษาแต่ละระดับพร้อมกัน ครอู ธบิ ายคำศพั ท์ทนี่ ักเรียนไม่รู้ แลว้ นักเรยี นแสดงความคิดเห็น
ว่าเปน็ แผนภาพเกีย่ วกบั อะไร

Key The diagram is about the education system in England and how old students
are at each level.

ขน้ั ที่ 2 (ข้นั นำเสนอ) Presentation
1. นกั เรียนดูภาพ Laura ในหนงั สอื เรียน หนา้ 13 แลว้ ครถู ามคำถาม ดงั นี้

T : What’s her name?
S1 : Laura.
T : How old is she?
S2 : She is 17.
T : What school level is she at?
S3 : She is at sixth form.

ขนั้ ท่ี 3 ( ขัน้ ฝึก ) Practice
1. นักเรียนจับคบู่ คุ คลในภาพ ในหนังสือเรียน หนา้ 13 กับประเภทของโรงเรยี นใน Ex. 1 ทเี่ หมาะสม
กับอายขุ องพวกเขา แลว้ แตง่ ประโยคตามตวั อยา่ งใน Ex. 2 (To talk about people and types of schools)
แล้วตรวจคำตอบ
Key Jim is 19 years old. He’s at university.

Fiona is 13 years old. She’s at secondary school.
Tim is 9 years old. He’s at primary school.
2. ครูถามคำถามเพอ่ื กระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นคิดเก่ียวกบั ระบบการศึกษาของประเทศไทย เช่น
- What age do students in your country start school?
- What is the first level called?
- When do students leave? etc

ขน้ั ท่ี 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
1. นักเรยี นจับกลุ่ม และนำคำตอบมาเขยี นแผนภาพเกยี่ วกับระบบการศกึ ษาของประเทศไทย แล้ว
ครสู ่มุ นักเรียน 1 คน ออกมาเขียนแผนภาพบนกระดาน ครถู ามนักเรยี นในชั้นว่า เหน็ ด้วยกับแผนภาพทีเ่ พื่อน
เขียนหรอื ไม่ จากนัน้ ให้นกั เรียนอภปิ รายเกีย่ วกับความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างระบบการศกึ ษาของ
ประเทศองั กฤษกับประเทศไทย
2. นักเรียนนำข้อมลู ทไี่ ด้ไปเขียนเปน็ ความเรียง แบง่ เน้อื หาเปน็ สามยอ่ หน้า ย่อหน้าแรกเป็นระบบ
การศกึ ษาของประเทศองั กฤษ ยอ่ หนา้ ท่ีสองเปน็ ระบบการศึกษาของประเทศไทย และยอ่ หน้าทส่ี ามเขียน
ประโยคระบกุ ารเปรียบเทยี บระบบการศกึ ษาของประเทศอังกฤษกับประเทศไทย
Suggested Answer Key
Primary school: 6-12 years old
Junior High School: 12-14 years old
Senior High School: 15-18 years old
University / Higher Education: 18+ years old
The education system in my country is different from the English system.
It does not have a sixth form but three years of junior high school and three years
of senior high school.

ขั้นท่ี 5 (ขนั้ สรุป) Wrap up
1. นักเรียนทำแบบฝึกหัด Unit 1d ในWorkbook หน้า 7 Exs. 1-4 เปน็ การบ้าน

9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี น Access ม. 1

10. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมอื เกณฑ์
วธิ กี ารวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ชนิ้ งาน ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมินการฟัง ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝกึ หัด แบบประเมนิ การพดู โตต้ อบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟัง แบบประเมินการเขียน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู แบบประเมินการอา่ นออกเสยี ง ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการเขยี น แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การออกเสียง แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. ประเมินการทำแบบฝึกหัด
2. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรใู้ นชว่ งการทำกิจกรรม
3. ประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
4. ประเมนิ ผลงานเขยี นบรรยายเปรยี บเทียบเก่ียวกบั ระบบการศกึ ษาของประเทศอังกฤษกับของไทย พรอ้ มให้
เหตุผลสนั้ ๆ ประกอบ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 8

วชิ า ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน รหัสวิชา อ21101 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 School days
เร่อื ง Hello! เวลา 15 ชัว่ โมง
ครูผสู้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรยี น บ้านแม่ยางหา้ เวลา 2 ช่ัวโมง

สอนวันที่ …….. เดือน………… พ.ศ. ……….

สำนกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้วี ดั

ต 1.2 ม.1/4 พูดและเขียนเพ่ือขอและใหข้ อ้ มูล และแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั เรอ่ื งที่ฟงั หรอื อา่ น

อยา่ งเหมาะสม

ต 1.3 ม.1/1 พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กจิ วัตรประจำวัน ประสบการณ์ และสงิ่ แวดล้อม

ใกลต้ วั

ต 2.1 ม.1/1 ใช้ภาษา นำ้ เสียง และกิริยาทา่ ทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คมและ

วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

2. สาระสำคัญ
บทสนทนา การทักทาย และการแสดงบทบาทสมมติในสถานการณ์ต่างๆ ในชวี ิตประจำวัน

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
- อา่ นออกเสียงคำกลา่ วทกั ทาย และบอกความหมาย
- จับใจความสำคญั (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา
- เลือกบทสนทนาให้สัมพนั ธ์กับภาพ
- สนทนา แลกเปลีย่ นข้อมลู เกยี่ วกับตนเอง
- ใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางเหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
- ใชภ้ าษาสือ่ สารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณ์จำลองทเ่ี กิดขึน้ ในห้องเรยี น

4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- การออกเสยี งเน้นหนกั -เบา ในคำและกลมุ่ คำ
- การจับใจความสำคัญ เชน่ ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนับสนุน คำถามเกี่ยวกับใจความสำคญั เช่น Yes/No
Questions, Wh-Questions
- การตคี วาม/ถ่ายโอนข้อมูลให้สมั พนั ธ์กบั ส่อื ทีไ่ มใ่ ช่ความเรียง เชน่ ภาพสงิ่ ของ บุคคล สถานที่
- ภาษาทใ่ี ชใ้ นการสื่อสารระหวา่ งบคุ คล เชน่ การทกั ทาย การแลกเปลี่ยนขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเอง

- การใช้ภาษา น้ำเสียง และกริ ยิ าท่าทางในการสนทนา ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษา เชน่ การแสดงทา่ ทางประกอบการพูดขณะแนะนำตนเอง การโบกมือ
- การใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ ำลองทเ่ี กิดข้นึ ในหอ้ งเรียน

- Vocabulary
Parts of the body:e.g. eye, nose, mouth, hand, foot, leg, arm, moustache, ear, hair,
head

5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- พดู อา่ นและเขยี นเกย่ี วกับบทสนทนา การทักทาย และการแสดงบทบาทสมมติในสถานการณต์ ่างๆ ใน

ชีวติ ประจำวนั

6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน
- ความสามารถในการส่ือสาร

7. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- มวี ินยั
- มุ่งมน่ั ในการทำงาน

8. กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นท่ี 1 (ข้นั นำ) Warm up
1. ครูนำเขา้ ส่บู ทเรียนดว้ ยการช้แี จงให้นักเรยี นทราบวา่ ใน Unit 1e นี้ นกั เรียนจะได้เรยี นรู้เกีย่ วกับ

การทักทาย (Greetings)
2. นักเรยี นดูภาพและคำทใี่ ชก้ ล่าวทกั ทาย ในหนังสอื เรียน หนา้ 14 Ex. 1 ไดแ้ กค่ ำวา่ Hello!, Good

morning!, Good afternoon!, Good evening!, Good night!, Goodbye!

ข้ันที่ 2 (ขัน้ นำเสนอ) Presentation
1. นักเรียนฟังการออกเสียงคำกลา่ วทกั ทาย ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 14 Ex. 1(To learn how to greet
people in English)จาก CD 1/Track 8 แลว้ ฝึกออกเสยี งตาม จากนนั้ ครใู หน้ กั เรียนดเู วลาในแตล่ ะภาพและเนน้
ให้นกั เรียนใชค้ ำกล่าวทกั ทายใหเ้ หมาะสมกบั เวลา จากนน้ั ให้นักเรียนบอกความหมายของคำกล่าวทักทายแตล่ ะคำ
เปน็ ภาษาไทย
สำหรับนักเรยี นทีเ่ รยี นออ่ น ครเู ขยี นเวลาตา่ งๆ บนกระดาน และให้นักเรยี นพดู คำกล่าวทักทายท่ใี ช้กบั เวลา
นนั้ ๆ
T : At 10:30 am what do we say?

S1 : Good morning.
T : At 4:00 pm what do we say?
S2 : Good afternoon.
T : At 7:00 pm what do we say?
S3 : Good evening.
T : When you go to bed what do you say?
S4 : Good night.

ข้นั ที่ 3 ( ขน้ั ฝกึ ) Practice
1. นกั เรยี นดภู าพ A และ B ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 14 แลว้ บอกเกย่ี วกับเหตกุ ารณใ์ นภาพ (A: two
friends talking, B: a mum kissing her children goodbye and going to work.) ครูอธิบายความหมายของ
คำวา่ relatives (members of your family) และจับคอู่ ่านบทสนทนา
Key Dialogue 1 = PictureA : Jane and Paul are friends.
Dialogue 2 = Picture B : Liz and Mrs Brown are relatives.
2. ใหน้ ักเรียนจนิ ตนาการวา่ พบเพอ่ื นทสี่ วนสาธารณะ แลว้ จบั คแู่ สดงบทบาทสมมติ (To practise
greetings through role-play)
Suggested Answer Key
A : Good morning, Ann.
B : Hello, Pete.
A : How are you?
B : I’m fine, thanks. And you?
A : Not bad. See you later.
B : OK! Goodbye.
A : Goodbye, Tony!
B : Goodbye, Liz. See you later.
A : See you!

ข้ันท่ี 4 (ขั้นนำไปใช)้ Production
1. นกั เรยี นฟังการออกเสียง /eІ/ และ /æ/ ในหนงั สือเรียน หน้า 14 Ex. 4 (To present and
practise /eІ/, /æ/) และฝกึ ออกเสยี งตามพรอ้ มกันและทีละคน จากนนั้ ให้นกั เรยี นช่วยกนั คดิ คำศพั ทท์ ีอ่ อก
เสยี ง /eІ/ และ /æ/ เสียงละ 10 คำ แล้วบนั ทึกลงสมุด
Suggested Answer Key

/eІ/ : eraser, strange, day, face, lake, take, age, make, cake, Spain
/æ/ : notepad, can, diagram, Ann, apple, flat, lamp, black, actor, factor

ข้นั ที่ 5 (ขนั้ สรุป) Wrap up
1. นักเรยี นจับคู่ ฝึกแตง่ บทสนทนาท่ีคล้ายกับ Ex. 2 ใน Workbook หน้า 14 แลว้ ออกมานำเสนอ
หน้าช้ันเรยี น

9. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรียน Access ม. 1

10. การวัดและประเมินผล

วิธีการวดั เคร่อื งมอื เกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมนิ ชน้ิ งาน รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการฟัง แบบประเมินการฟงั ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมินการพดู โต้ตอบ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมินการเขียน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการออกเสียง แบบประเมนิ การอ่านออกเสยี ง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

1. ประเมินการทำแบบฝกึ หัด
2. สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทำกิจกรรม
3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
4. ประเมินผลการแสดงบทบาทสมมตพิ ูดสนทนาให้ขอ้ มลู เกีย่ วกบั ตนเอง และสถานการณต์ ่างๆ ใน
ชีวติ ประจำวันในโรงเรียน

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 9

วชิ า ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน รหสั วิชา อ21101 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 School days
เร่ือง Work together เวลา 15 ช่วั โมง
ครผู ู้สอน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรียน บา้ นแมย่ างห้า เวลา 2 ช่ัวโมง

สอนวันที่ …….. เดือน………… พ.ศ. ……….

สำนักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั

ต 1.1ม.1/1 ปฏิบัติตามคำส่ัง คำขอรอ้ ง คำแนะนำ และคำช้แี จงงา่ ยๆ ทฟ่ี งั และอา่ น

ต 1.1 ม.1/2 อ่านออกเสียงข้อความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) ส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอา่ น

ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปลี่ยนขอ้ มลู เก่ยี วกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวิตประจำวนั

ต 1.2 ม.1/4 พดู และเขียนเพอื่ ขอและใหข้ ้อมูล และแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั เรื่องทีฟ่ ังหรอื อ่าน

อยา่ งเหมาะสม

ต 1.3 ม.1/1 พดู และเขยี นบรรยายเกีย่ วกับตนเอง กจิ วตั รประจำวนั ประสบการณ์ และส่งิ แวดล้อม

ใกล้ตัว

2. สาระสำคญั
การทำงานรูปแบบต่างๆ คำแนะนำในการทำงานร่วมกนั และการแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับการ

ทำงานรูปแบบตา่ งๆ

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- ปฏิบตั ิตามคำแนะนำท่ีฟังและอ่าน
- จับใจความสำคัญ (main idea) จากการฟงั และอา่ นขอ้ ความในโปสเตอร์
- พดู แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับคำแนะนำในโปสเตอร์
- พูดแสดงความรู้สกึ และความคดิ เห็นเกีย่ วกบั การทำงานรูปแบบตา่ งๆ พร้อมให้เหตุผลสนั้ ๆ ประกอบ
- ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาทา่ ทางเหมาะสม ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
- ใช้ภาษาสอื่ สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรยี น

4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- คำแนะนำในการทำงานร่วมกัน
- การจับใจความสำคญั เช่น หัวข้อเรอ่ื ง ใจความสำคญั รายละเอยี ดสนบั สนนุ
- คำศพั ท์ ประโยค และข้อความทใี่ ชใ้ นการแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั เรอ่ื งทฟ่ี ังหรอื อา่ น

- การใช้ภาษา น้ำเสียง และกริ ยิ าทา่ ทางในการสนทนา ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของ
ภาษา เช่น การแสดงความรู้สกึ ชอบ/ไม่ชอบ
- การใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองทเ่ี กิดขึ้นในห้องเรียน

5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟัง พูด อ่านและเขยี นเก่ยี วกบั การทำงานรปู แบบต่างๆ คำแนะนำในการทำงานร่วมกัน และการแสดง

ความคดิ เหน็ เก่ยี วกับการทำงานรูปแบบต่างๆ

6. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
- ความสามารถในการสอ่ื สาร
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
- ม่งุ มั่นในการทำงาน
- มจี ติ สาธารณะ

8. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขั้นที่ 1 (ขั้นนำ) Warm up
1. นำเขา้ สู่บทเรยี นดว้ ยการชแี้ จงใหน้ ักเรียนทราบวา่ ใน Unit 1fนี้ นักเรยี นจะไดเ้ รียนรูเ้ กย่ี วกับการ

ฝึกอภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับการทำงานรว่ มกนั การอ่านและฟังเพอื่ จับใจความสำคัญ (Reading and
listening for gist)

2. ครอู ธบิ ายให้นักเรียนฟังวา่ Citizenship เปน็ วิชาหน่งึ ทเ่ี ปิดการจัดการเรียนรู้ในระดบั มัธยมศกึ ษา
ในประเทศอังกฤษ เพ่ือสร้างความรู้ ความเขา้ ใจ และทักษะ ในการมีส่วนร่วมในสังคมในฐานะพลเมืองทม่ี ีความ
รับผิดชอบทางสังคมและทางจรยิ ธรรม โดยมเี ป้าหมายเพอื่ ใหผ้ ู้เรียนเกดิ ความมั่นใจและศรทั ธาวา่ พวกเขา
สามารถมปี ฏิสัมพันธ์รว่ มกับผ้อู น่ื มีอทิ ธพิ ล และสามารถสร้างความแตกตา่ งใหเ้ กิดข้นึ ในชมุ ชนของตนเองได้

ขั้นท่ี 2 (ขน้ั นำเสนอ) Presentation
1. นักเรียนดูภาพและอ่านคำศัพท์ประกอบภาพ ในหนังสอื เรยี น หน้า 15 Ex. 1 (To encourage class
discussion about working in the classroom) แลว้ พิจารณาว่าตนเองชอบการทำงานท่ีโรงเรยี นแบบใด พร้อม
ทั้งใหเ้ หตุผลประกอบ
Suggested Answer Key
I like working in pairs.

2. นักเรยี นดหู ัวเร่อื งของโปสเตอร์ และภาพประกอบ ในหนังสอื เรยี น หนา้ 15 Ex. 2 (To
read and listen for gist) แล้วบอกวา่ หัวเรอื่ ง Working together หมายความว่าอยา่ งไร และนักเรียนคิดวา่
โปสเตอร์นน้ี ่าจะเก่ยี วกบั อะไร พรอ้ มกับอา่ นเน้อื หาในโปสเตอรเ์ พอ่ื ตรวจคำตอบ

Key The poster is about how we should behave when we work in pairs or
groups at school.

ขนั้ ท่ี 3 ( ขัน้ ฝึก ) Practice

1. ใหน้ ักเรยี นนำตัวอกั ษรที่กำหนด ในหนังสอื เรียน หนา้ 15 Ex. 3 (To develop vocabulary) มา

เรยี งเป็นคำกรยิ าทพี่ บในโปสเตอรใ์ หถ้ กู ตอ้ ง

Key 2. share 3. say 4. look 5. listen

2. นักเรยี นอา่ นโปสเตอร์ ในหนงั สือเรยี น หนา้ 15 อกี คร้ัง แล้วปิดหนงั สือเรียน จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นบอก

กฎ 3 ข้อ ท่นี ักเรียนจำได้เก่ียวกบั การทำงานรว่ มกัน (To memories information)

Suggested Answer Key

Look at your partner.

Think up new ideas.

Be kind and smile.

ขน้ั ท่ี 4 (ขน้ั นำไปใช)้ Production
1. นักเรียนทำแบบฝกึ หัด Unit 1fใน Workbook หน้า 9 Exs. 1-3
2. นกั เรียนเขยี นตามคำบอก ใน Workbook หน้า 9 Ex. 4 โดยฟงั Access Workbook Audio CD
ม. 1/Track 3 แลว้ เขียนประโยคท่ไี ด้ยนิ โดยครอุ อกเสียง ให้นักเรียนฟงั 3 รอบ รอบแรกใหฟ้ งั เพียงอยา่ งเดียว
รอบที่สองให้ฟังและเขยี นตาม และรอบทส่ี ามให้ฟังเพือ่ ตรวจคำตอบ

ขน้ั ท่ี 5 (ขนั้ สรปุ ) Wrap up
1. นักเรยี นเขา้ กลมุ่ กลมุ่ ละ 5-6 คน จากนั้นอภิปรายแสดงความคิดเห็นวา่ ขอ้ แนะนำในโปสเตอรเ์ ป็น
สงิ่ ท่ีควรปฏิบตั มิ ากนอ้ ยแค่ไหน และนกั เรยี นคดิ ว่าเปน็ ประโยชนม์ ากนอ้ ยเพยี งใด ถ้าเราปฏบิ ัตติ ามขอ้ แนะนำ
ดังกล่าว เสรจ็ แล้วให้ตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอความคิดเห็นหนา้ ชั้นเรียน
2. นกั เรยี นประเมนิ ความสามารถในการเรยี นรขู้ องตนเองตามตารางทก่ี ำหนด (Now I can…)

9. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนังสือเรยี น Access ม. 1
2. Power point Access ม.1 Module 1
3. Google meet

10. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
วิธีการวัด เกณฑก์ ารประเมินช้ินงาน รอ้ ยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ การฟงั ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด แบบประเมนิ การพดู โต้ตอบ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การฟงั แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขียน แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการออกเสยี ง แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ด้านทกั ษะ/สมรรถนะ
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ประเมินการทำแบบฝึกหัด
2. สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ในชว่ งการทำกจิ กรรม
3. ประเมินการทำแบบทดสอบหลังเรยี น
4. ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5. ประเมินผลการพูดแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับคำแนะนำในการทำงาน พรอ้ มใหเ้ หตุผลสัน้ ๆ ประกอบ

แผนการจัดการเรียนรู้
รายวิชา ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน (อ21101)

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1

นางสาวเบญจรตั น์ ใจกล้า
ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย

โรงเรยี นบา้ นแม่ยางหา้
สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๒
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 10

วิชา ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน รหสั วิชา อ21101 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 My favorites!
เรื่อง Parts of body เวลา 13 ชัว่ โมง
ครผู ูส้ อน นางสาวเบญจรัตน์ ใจกล้า
โรงเรยี น บา้ นแมย่ างห้า เวลา 2 ชั่วโมง

สอนวันที่ …….. เดอื น………… พ.ศ. ……….

สำนกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 2

ต 1.3 ม.1/1 พดู และเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กจิ วัตรประจำวนั ประสบการณ์ และส่งิ แวดลอ้ ม
ต 2.1 ม.1/3 ใกลต้ ัว
ต 2.2 ม.1/1 เข้ารว่ ม/จัดกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
บอกความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดตา่ งๆ
ต 3.1 ม.1/1 การใชเ้ ครือ่ งหมายวรรคตอน และการลำดับคำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาตา่ งประเทศ
ต 4.1 ม.1/1 และภาษาไทย
คน้ คว้า รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ข้อเท็จจรงิ ท่เี กยี่ วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ืน่
จากแหลง่ เรียนรแู้ ละนำเสนอด้วยการพูด/การเขยี น
ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณ์จำลองที่เกิดขน้ึ ในห้องเรียนและ
สถานศกึ ษา

2. สาระสำคญั
บทวจิ ารณ์ การบรรยายบุคลกิ ลกั ษณะของบคุ คล และตวั การ์ตนู ท่ีชื่นชอบ

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
- อา่ นออกเสียงคำศพั ท์เก่ยี วกับส่วนต่างๆ ของร่างกาย ประโยค และบอกความหมาย
- ระบุประโยคให้สัมพนั ธก์ บั ภาพตวั การต์ ูน
- ตอบคำถามจากการฟังและอา่ นบทวจิ ารณ์

4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- คำศัพท์ ข้อความ และการใช้พจนานกุ รม
- การตีความ/ถา่ ยโอนข้อมูลให้สมั พนั ธ์กับภาพ
- คำถามเก่ยี วกบั ใจความสำคญั เชน่ Yes/No Questions, Wh-Questions
- ภาษาทใ่ี ชใ้ นการสือ่ สารระหว่างบคุ คล เชน่ การแลกเปลยี่ นข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง บุคคลและสง่ิ แวดลอ้ มใกล้ตวั
- การใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณจ์ ำลองท่เี กิดขนึ้ ในหอ้ งเรยี น

5. ทกั ษะ/กระบวนการ
- ฟงั พดู อ่านและเขียนเกีย่ วกบั บทวิจารณ์ การบรรยายบคุ ลิกลกั ษณะของบคุ คล และตัวการ์ตูนที่ชนื่ ชอบ

6. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
- ความสามารถในการสือ่ สาร

7. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- มวี นิ ัย

8. กจิ กรรมการเรียนรู้

ขั้นที่ 1 (ขน้ั นำ) Warm up

1. นำเขา้ สู่บทเรยี นด้วยการช้แี จงใหน้ กั เรียนทราบว่า หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2: My favorites! นี้

นกั เรียนจะได้เรยี นรเู้ ก่ียวกับ

· Parts of the body ·

· Countries & Nationalities

· Personal things

· Continents & Capital cities

เพ่อื ให้บรรลมุ าตรฐานการเรียนรตู้ ามตัวชี้วดั ช้ันปี ท่มี งุ่ เน้นการอา่ นออกเสยี งใหถ้ กู ตอ้ งตามหลักการอา่ น การระบุ

หวั ข้อเร่ือง (Topic) ใจความสำคัญ (Main idea) และตอบคำถามจากการฟังและอ่านเรอ่ื งสน้ั การพูดและเขยี น

บรรยาย พรอ้ มทั้งให้เหตผุ ลประกอบส้ันๆ รวมทง้ั การค้นคว้า รวบรวมสรุปขอ้ มูล/ข้อเทจ็ จริงและการนำเสนอ

ด้วยการพูด/การเขยี น ท่เี กี่ยวขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่ (สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม) ตลอดจนการ

ส่อื สารภาษาอังกฤษดว้ ยการใช้ email ในสถานการณ์จริง

ข้นั ที่ 2 (ขน้ั นำเสนอ) Presentation

1. ครสู อบถามความร้พู ้นื ฐาน กระตนุ้ และดงึ ความสนใจของนักเรียน โดยอาจใช้คำถามตอ่ ไปนี้

· Have you ever watched “A Spider-Man”? Can you imagine if the Spider-Man has parts of

the body like us? Could you tell which parts of the body that we have the same and different?

2. นกั เรียนดชู ่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 (My favourites!) แลว้ ชว่ ยกันแสดงความคดิ เห็นว่าหน่วยการ

เรยี นรู้นี้น่าจะเป็นการเรยี นรู้เก่ียวกับเรือ่ งใด โดยครูใหน้ กั เรยี นสำรวจดูเน้ือหาในหนว่ ยการเรยี นรู้

Suggested Answer Key

The title refers to the things I like, such as my favourite cartoon characters and

my personal things. We will also learn about countries and nationalities.

3. นกั เรียนดูภาพ 3 ภาพ ในหนังสือเรยี น หน้า 17 ครูกระตุ้นใหน้ กั เรียนอภปิ รายแสดง
ความคดิ เหน็ และดึงความสนใจของนักเรียนเขา้ สู่หนว่ ยการเรียนรู้ โดยการถามว่า ภาพแตล่ ะภาพปรากฏอยู่ใน
หนังสอื เรยี นหนา้ ใด และนักเรยี นเห็นอะไรเพิ่มเติมในหนงั สือเรยี นหนา้ นั้นบา้ ง

Suggested Answer Key
T : What page is pic. 1 from?
S1 : It’s from p. 19.
T : What can you see in pic. 1?
S2 : Asterix, a cartoon character.
T : What else can you see on p. 19?
S3 : I can see other cartoon characters.
T : What page is pic. 2 from? (p. 22) How do you think the picture is related to
the title of the unit? What else can you see on that page?
T : What page is pic. 3 from? (p. 20) What can you see in the picture?
What else can you see? How are they related to the title of the unit?
Do you have similar objects?

ขั้นที่ 3 ( ขัน้ ฝกึ ) Practice
1. นกั เรยี นช่วยกนั หาวา่ an article about UK souvenirs และ a film review ปรากฏอย่ใู นหน้าใด
ของหนงั สอื เรียน จากนน้ั เฉลยคำตอบพรอ้ มกัน โดยครูถามคำถามเก่ยี วกบั ภาพแตล่ ะภาพ เพอ่ื ตรวจสอบความ
เข้าใจของนกั เรยี น
Key - An article about UK souvenirs (p. 23)

What is a souvenir? What does UK stand for? Have you been there?
What are some souvenirs from your country?
- A film review (p. 18)
What is a film review? What is this film about? Do you think it will be a positive
or negative review? Would you like to see this film?
2. นกั เรยี นดคู ำศพั ทส์ ว่ นต่างๆ ของร่างกาย (Parts of the body) ในหนังสือเรยี น หน้า 17 แล้วฟัง CD
1 / Track 12 และฝกึ ออกเสียงตาม โดยฝกึ พร้อมกันทั้งชัน้ และฝกึ เป็นรายบคุ คล จากนั้นใหน้ กั เรยี นบอก
ความหมายคำศัพท์เหล่าน้ีเปน็ ภาษาไทย ครอู าจให้นักเรียนเปดิ ดคู ำศัพทใ์ น dictionary ประกอบ
3. นกั เรยี นดูภาพ ในหนงั สอื เรียน หนา้ 18 และช่วยกนั แสดงความคดิ เหน็ ว่าใน Unit 2a นักเรียนจะได้
เรียนรเู้ ก่ยี วกบั เรื่องอะไร (Cartoon characters)
4. นกั เรยี นดูภาพ Spider-Man แลว้ บอกขอ้ มลู เก่ียวกับ Spider-Man ครชู ่วยเหลือโดยการถามคำถาม
เช่น

· Have you seen the film?
· What is Spider-Man’s real name?
· What do you know about him?
· Who is his enemy?

5. ครูให้เวลานักเรียน 2 นาที อา่ นบทอ่าน Amazing Spidey ในหนังสอื เรียน หนา้ 18 ในใจ แลว้ ตอบ
คำถามใน Ex.1 (To read or listen for gist) จากนนั้ ครูเปดิ CD 1 / Track 13 ให้นักเรยี นฟังเพือ่ ตรวจคำตอบ

Key Peter Parker is Spider-Man.
Aunt May is Peter Parker’s aunt.
Mary Jane is Peter Parker’s best friend.
The Green Goblin is Spider-Man’s enemy.
It is a review.

ขน้ั ที่ 4 (ขนั้ นำไปใช)้ Production
1. นกั เรยี นอ่านบทอา่ น ในหนงั สือเรยี น หน้า 18 อกี คร้ัง แลว้ ตอบคำถามใน Ex. 2 (To read for
specific information) แลว้ ตรวจคำตอบ
Key 1. He’s from New York City.
2. He lives with his Aunt May.
3. His best friend is Mary Jane.
4. A spider bites him in a science lab.
5. He can climb walls just like a spider.
6. His enemy is the Green Goblin.
2. นักเรียนอา่ นประโยคทีก่ ำหนดให้ ใน หนงั สือเรียน หน้า 18 Ex. 3 (To consolidate new
vocabulary through translation) แลว้ ช่วยกันแปลเป็นภาษาไทย ครเู น้นวา่ นักเรยี นควรแปลเป็นถอ้ ยคำทใี่ ช้
ในภาษาไทยมากกวา่ การแปลตรงตวั
Suggested Answer Key
Students’ own answers

ขัน้ ท่ี 5 (ข้ันสรปุ ) Wrap up

1. นักเรียนทำใบงาน liveworksheet เรอ่ื ง Part of body

2. นกั เรียนดคู ำศพั ท์ทพ่ี มิ พต์ ัวหนา ในหนังสอื เรียน หน้า 18 Ex. 4(To learn adjectives related to

appearance) แล้วบอกความหมายของคำศัพท์ใหม่โดยการใบค้ ำ เชน่ พดู ว่า “I’m short.” และทำทา่ ยอ่ ตัวลง

ให้เต้ยี จากนัน้ ให้นกั เรียนดภู าพตัวการต์ ูนในหน้า 19 แล้วจบั คกู่ บั เพอื่ นทำ Ex. 4 เสร็จแล้วชว่ ยกันเฉลยคำตอบ