เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงาม มีความยาวประมาณ ๑ เล่มสมุดไทย สุนทรภู่แต่งระหว่างพ.ศ. ๒๓๖๕-๒๓๖๗ ในสมัยรัชกาลที่ ๒ หลังจากพ้นโทษคือออกจากคุกมาแล้ว เรื่องนี้สุนทรภู่แต่งตามพระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย Show ๑. เหตุที่สุนทรภู่แต่งขุนช้างขุนแผน ๒. สังเขปความ ในที่สุดไปพบลูกกำลังร้องไห้อยู่ พลายงามเล่าความชั่วของขุนช้างให้ฟัง แล้ววันทองก็บอกความจริงแก่ลูกว่ามิใช่ลูกขุนช้าง ส่วนขุนแผนซึ่งเป็นพ่อนั้นกำลังติดคุกอยู่ บอกว่ามีแต่ย่าชื่อทองประศรีอยู่กาญจนบุรี ที่วัดเชิงหวาย จะเป็นที่พึ่งได้ พลายงามก็คิดจะไปพึ่งย่า วันนั้นค่ำแล้ววันทองจึงพาลูกไปฝากสมภารชื่อขรัวนาควัดเขาไว้ วันทองกลับบ้านขุนช้างแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ในเรื่องพลายงาม เมื่อรู้ว่าหายไปก็แสร้งครํ่าครวญจนหลับ รุ่งเช้าวันทองจัดของให้ลูกไปรับลูกที่วัด ลาสมภารแล้วชี้ทางไปเมืองกาญจน์ ครวญครํ่าอย่างน่าปริเทวนา “จะมีผัวผัวก็พลัดกำจัดจาก จนแสนยากอย่างนี้แล้วมิหนำ มามีลูกลูกก็จากวิบากกรรม สะอื้นร่ำรันทดสลดใจ’’ ลูกน้อยกลอยใจก็ปลอบแม่ “แม่รักลูกลูกก็รู้อยู่ว่ารัก คนอื่นสักหมื่นแสนไม่แม้นเหมือน จะกินนอนวอนว่าเมตตาเตือน จะจากเรือนร้างแม่ไปแต่ตัว” วันทองหักอารมณ์อวยพรสั่งสอนลูก และว่า “ลูกผู้ชายลายมือนั้นคือยศ เจ้าจงอตส่าห์ทำสม่ำเสมียน” ตอนพรรณนาที่เด่นที่สุดคือ ตอนแม่ลูกจากกัน ลูกก็แลดูแม่แม่ดูลูก ต่างพันผูกเพียงว่าเลือดตาไหล เมื่อพลายงามถึงเมืองกาญจน์ รู้กิตติศัพท์จากเด็กๆ ว่าบ้านทองประศรีมีมะยมหวานที่เด็กๆ ชอบไปขโมย ทองประศรีคอยจับเสมอ และ “ร้ายเหมือนกับผีเสื้อแกเหลือตัว ถ้าลูกใครไปเล่นแกเห็นเข้า แกจับเอานมยานฟัดกะบาลหัว” พลายงามจึงให้เด็กเหล่านี้เป็นมัคคุเทศก์พาไปขึ้นมะยมต้นนั้นพร้อมกับเด็กๆ ในที่สุดทองประศรีจึงลงจากเรือนไล่เด็กกระจุยไป ตีไม่ว่าลูกเต้าเหล่าใคร แม้พลายงามจะบอกว่าเป็นหลานมาจากสุพรรณก็ไม่ฟังเสียง พลายงามโดดลงจากต้นมะยมมากราบตีน ก็ไม่วายโดนกระบองทองประศรี เจ้าพลายงามถอยหลบแล้วนบนอบ ฉันเจ็บบอบแล้วย่าเมตตาฉัน นี่เป็นอารมณ์คนแก่ขี้หลง พอทราบว่าเป็นลูกหลานก็ฝนไพลให้ทา อาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย ด้วยความรัก พลายงามจึงเล่าความจริงให้ฟังตลอด ทองประศรีก็ด่าขุนช้างระงมไป พอคํ่าก็จัดการรับมิ่งขวัญหลาน จัดบายศรีและมีเวียนเทียนบทเชิญขวัญมีทั้งไทย ลาว และทวาย พึงสังเกตว่าสุนทรภู่รู้ภาษาเพื่อนบ้านเป็นอย่างดี และเมื่อนำมาไว้ในกลอนยิ่งเป็นหัสบันเทิงสำคัญนัก ขวัญพ่อพลายงามทรามสวาท มาชมภาชนะทองอันผ่องใส พ่อเมื้อเมืองดง เอาพงเป็นเหย้า อึดปลา-อึดข้าว ขวัญเจ้าตกหาย แล้วพวกมอญซ้อนซอเสียงอ้อแอ้ ร้องทะแยย่องกะเหนาะย่ายเตาะเหย พลายงามถามย่าถึงเรื่องพ่อ ทองประศรีเล่าว่าติดคุกมา ๑๐ ปีแล้ว รุ่งเช้าก็ขึ้นช้างพาหลานไปหาพ่อที่อยุธยา เดินทาง ๒ วันครึ่งจึงถึง ความตอนที่ขุนแผนติดคุกเล่าไว้เป็นนัยดังนี้ อยู่เปล่าๆ เล่าก็จนพ้นกำลัง อุตส่าห์นั่งทำการสานกะทาย ทองประศรีแนะให้รู้จักพลายงาม และเล่าเรื่องขุนช้างทำร้าย ขุนแผนโกรธมากคิดจะไปฆ่าขุนช้าง แต่ทองประศรีให้สติและห้ามไว้ โบราณท่านสมมุติมนุษย์นี้
ยากแล้วมีใหม่สำเร็จถึงเจ็ดหน ขุนแผนมอบให้ทองประศรีอบรมพลายงาม แล้วลูบหลังสั่งความพลายงามน้อย เจ้าจงค่อยร่ำเรียนเขียนคาถา ขุนแผนสอนบุตรพร้อมกับความโศกาดูร มาหาพ่อพ่อไม่มีสิ่งไรผูก
ยังแต่ลูกประคำจะทำขวัญ พลายงามขออยู่ในคุกด้วยเพื่อปรนนิบัติพ่อ แล้วทองประศรีก็พาหลานกลับ ไปอบรมสั่งสอนคาถาอาคมต่างๆ จนอายุได้ ๑๓ ปี ‘‘นัยน์ตากลมคมขำดูดำขลับ ใครแลรับรักใคร่ปราศรัยถาม” โกนจุกมีขรัวเกิดสมภารวัดเขาชนไก่ใกล้บ้านเป็นครูขุนแผนมาสวดมนต์ด้วย ท่านว่าขุนแผนว่า “อ้ายเจ้าชู้กูได้ว่ามาแต่ก่อน จะทุกข์ร้อนอ่อนหูเพราะผู้หญิง” แล้วดูพลายงามว่า “หมื่นศรีร้องเรียกว่ามาสิเกลอ ด้วยรักใครใจซื่อถือว่าเพื่อน แนะนำให้รู้จักพลายงาม ขอฝากจมื่นศรีเสาวรักษ์ๆ ก็รับอุปการะและอบรมเป็นอย่างดี ตอนหนึ่งสอนว่า ที่ไม่สู่รู้อะไรผู้ใหญ่เด็ก มหาดเล็กสามต่อพ่อลูกหลาน พลายงามตามหลังพระหมื่นศรีไปวังทุกวัน ถึงวันดีได้ช่องพระหมื่นศรีก็นำพลายงามถวายตัว ว่าเป็นบุตรขุนแผน มีความรู้ และขอรับราชการเป็นมหาดเล็ก ครานั้นสมเด็จพระพันวษา
เหลือบเห็นหน้าพลายงามความสงสาร ๓. ข้อสังเกตกระบวนกลอน เมื่อสุนทรภู่มาเขียนกลอนเสภา มีเสียงกล่าวกันว่า ศิลปะของท่านขัดกับลีลาของเสภา กล่าวคือ เสภาเป็นบทสำหรับขับร้อง (และบางทีมีการรำด้วย) ให้เหมาะเจาะกับกิริยาอาการและอารมณ์ต่างๆ ที่มา:สมชาย พุ่มสอาด ผู้ใดแต่งเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิดพลายงามสุนทรภู่แต่งเป็นกลอนเสภา ตอน กำเนิดพลายงาม เพื่อสนองพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) กล่าวถึง นางวันทองคลอดบุตรชาย ชื่อ “พลายงาม” ที่บ้านขุนช้าง หน้าตาพลายงามคล้ายขุนแผน ขุนช้างจึงไม่พอใจ จ้องหาทางจะกำจัดพลายงามอยู่ตลอดเวลา วันหนึ่งโอกาสมาถึง ขุนช้างจึงลงพลายงามไปฆ่าในป่า แต่ไม่เป็นไร ...
เรื่อง "ขุนช้างตอนที่ ๒๔ กำเนิดพลายงาม ผลงานของสุนทรภู่ แต่งสมัยรัชกาลที่ ๒ ตอนที่ ๒๕ เจ้าล้านช้างถวายนางสร้อยทองแก่พระพันวษา สำนวนเก่าก่อน รัชกาลที่ ๒ ตอนที่ ๒๘ พลายงามได้นางศรีมาลา มี ๓ สำนวน คือ สำนวนเก่า สำนวน ครูแจ้ง และสำนวนที่กวีช่วยกันแต่งในสมัยรัชกาลที่ ๕ ตอนที่ ๒๙ ขุนแผนแก้พระท้ายน้ำ ผลงานของครูแจ้ง
ข้อคิดที่ได้จากเรื่องขุนช้างขุนแผนตอนกำเนิดพลายงามคืออะไรข้อคิดที่ได้จากเรื่อง
๑. ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี เราจึงควรมีความกตัญญูต่อบิดามารดาผู้ที่ให้ กำเนิดเรามา ๒. การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญสมัยก่อนเด็กผู้ชายจะเรียนหนังสือที่วัด ๓. วัดเป็นสถานที่ผูกพันกับชีวิตของคนไทยตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ๔. ในสมัยก่อนจะมีการมัดจุกโกนจุกและนุ่งโจงกระเบนผูกขวัญรับขวัญ
ขุนช้างนําอะไรมาทับตัวพลายงามต่อมานางก็คลอดลูกชาย แล้วตั้งชื่อให้ว่าพลายงาม ขุนช้างรู้ว่าไม่ใช่ลูกของตนก็เกลียดชัง วันหนึ่งจึงหลอกพาเข้าไปในป่าทุบตีจนสลบแล้วเอาท่อนไม้ทับไว้ โหงพรายของขุนแผนมาช่วยได้ทัน นางวันทองจึงให้ลูกไปอยู่กับนางทองประศรีที่กาญจนบุรีพลายงามได้ร่ำเรียนวิชาของพ่อเชี่ยวชาญ ขุนแผนจึงพาไปฝากไว้กับหมื่นศรี เพื่อหาโอกาสให้เข้ารับ ...
|