ด้านวรรณศิลป์๑.การสรรคำ การใช้คำที่หลากหลายในการสื่อความหมายถึงตัวละครแต่ละตัว ซึ่งการสรรคำ จะทำให้ผู้อ่านไม่เกิดความเบื่อหน่ายเพราะหากไม่มีการสรรคำก็จะต้องใช้สรรพนามแทนตัวละครหนึ่งๆซ้ำๆ กันอยู่ตลอดเวลาก็จะทำให้เรื่องราวอาจกร่อยลงได้ Show คำที่มีความหมายว่า พระราม, พระนารายณ์
คำที่มีความหมายว่า นางสีดา
คำที่มีความหมายว่า ทศกัณฐ์
๒.การเล่นคำซ้ำ ทำให้เกิดความไพเราะและเสริมความงดงามของบทประพันธ์ ซึ่งในเรื่องรามเกียรติ์นี้พบเป็นจำนวนมาก เช่น
คำที่มีความหมายว่า โกรธ ได้แก่ โกรธ โกรธา กริ้ว๓. การหลากคำ หรือคำไวพจน์ การเลือกใช้คำที่เขียนต่างกันแต่ความหมายเหมือนกัน เช่น
ด้านเนื้อหาเนื้อหานอกจากจะให้ความเพลิดเพลินแล้ว ตัวละครในเรื่องยังได้แสดงถึงคุณธรรมที่เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต เช่น พระรามเป็นบุตรที่มีความกตัญญูต่อบิดามารดา โดยยินยอมออกเดินป่าเป็นเวลาถึง ๑๔ ปีเพื่อรักษาความสัตย์ของบิดา
นอกจากนี้ยังมีข้อคิดที่ได้อีกมากมาย เช่น ๑.ทั้งในเรื่องความยุติธรรมของท้าวมาลีวราชที่ไม่เข้าข้างฝ่ายทศกัณฐ์ซึ่งเป็นหลานของตน แต่ฟังความจากทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ทุกคน ๒.การไม่เห็นแก้พวกพ้องจนเสียความยุติธรรม เห็นได้จากสุครีพ ที่สาบานเป็นเพื่อนตายกับพิเภก แต่เมื่อได้รับบัญชาให้สอบสวนนางเบญจกายซึ่งปลอมตัวเป็นนางสีดาตายลอยน้ำมาลวงพระราม สุครีพสอบสวนความได้ว่า นางเป็นธิดาของพิเภกจึงเชื่อคำให้การของนางเบญจกายแต่ก็ให้นางเข้าพบพระรามเพื่อตัดสินคดี ไม่ปล่อยให้นางเป็นอิสระทันที ๓.ความกล้าหาญในการรบของหนุมานและสุครีพ ที่ต่อสู้กับศัตรูอย่างกล้าหาญ ด้านสังคม๑.วัฒนธรรมและประเพณี ได้แก่ การทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ประเพณีการจัดทัพและการตั้งค่าย ความเชื่อเรื่องโชคลาง และการบูชาบวงสรวงเทวดา เช่น พิธีปรุงข้าวทิพย์ ความเชื่อเรื่องโชคลางในการหาฤกษ์ยามที่เหมาะสมในการออกทัพ หรือระเบียบวิธีทางการทูตสมัยเก่า เช่นการปฏิสันถารสามนัด (เมื่อพระราชาพบทูต จะถามคำถามสามคำถามก่อนที่จะเจรจากัน ได้แก่ ๑.พระราชาของท่านเป็นอย่างไร ๒.เมืองของท่านเป็นอย่างไร ๓.ท่านมีจุดประสงค์อะไร ซึ่งเป็นโอกาสให้ทูตให้ปฏิภาณไหวพริบตอบ) เป็นต้น ๒.การแสดงสภาพชีวิตความเป็นอยู่และค่านิยมของบรรพบุรุษ ที่ย่อมจะสอดแทรกสภาพสังคมสมัยก่อน ๓.การเข้าในธรรมชาติของมนุษย์ ตัวละครแต่ละตัวเป็นตัวแทนของมนุษย์โดยทั่วไปที่มี รัก โลภ โกรธ หลง ดีใจ เสียใจ ๔.เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ชื่อเมืองและสถานที่หลายๆแห่งในเรื่องรามเกียรติ์นั้น ร่วมสมัยกับเมืองไทยในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เช่นเมืองอยุธยา เมืองบุรีรัมย์ แม่น้ำสะโตง นอกจากนั้นเทคโนโลยีก็ร่วมสมัยกัน เช่นมีการกล่าวถึงอาวุธปืน ซึ่งย่อมไม่มีในรามายณะ นอกจากนั้นระบบการปกครองในรามเกียรติ์ยังเป็นระบบการปกครองแบบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เก่า ที่เจ้าเมืองขึ้นยอมสยบต่อเมืองแม่เป็นทอดๆ โดยการเคารพใน ‘บุญ’ ของพระมหากษัตริย์เป็นหลัก ๕.สอดแทรกมุมมองของปราชญ์ไทยที่นอกเหนือจากรามายณะ เช่น เมื่อกุมภกรรณออกรบกับพระรามนั้น ได้ตั้งปริศนาถามพระรามไว้บอกว่าถ้าพระรามตอบได้จะยอมเลิกทัพกลับ ปริศนาถามว่า ชีโฉด หญิงโหด ช้างงารี ชายทรชน สี่อย่างนี้คืออะไร พระรามตอบไม่ได้จึงใช้องคตมาถาม กุมภกรรณจึงเฉลยว่า หญิงโหด คือนางสำมะนักขาที่คิดเอาพระรามเป็นสามี พอไม่ได้ก็และยุยงให้พี่น้องมารบกับพระรามจนเกิดเรื่อง ช้างงารี คือทศกัณฐ์ที่เกะกะอันธพาล ไปแย่งเมียคนอื่น ชีโฉด คือพระรามที่เพื่อแย่งชิงนางสีดากลับ ถึงกับยกทัพใหญ่มาทำการวุ่นวาย ทำให้คนบริสุทธิ์มากมายเดือดร้อน ชายทรชน คือพิเภกที่ไม่รู้จักบุญคุณพี่น้อง ไปบอกความลับของฝ่ายลงกาแก่ศัตรู เหมือนแกล้งฆ่าพี่น้องทุกคน คำบริภาษนี้เป็นของปราชญ์ไทยแต่งขึ้นโดยไม่มีในรามายณะต้นฉบับ ได้เป็นคำบริภาษทุกฝ่ายอย่างยุติธรรมตามมุมมองของกุมภกรรณ หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นมุมมองของกวีที่สอดแทรกไว้ก็ได้ สำนวนไทยที่สอดแทรกกล่องดวงใจ : ในเรื่อง มียักษ์สองตนคือ ทศกัณฐ์และไมยราพที่อยู่ยงคงกระพันแม้โดนฟาดฟันด้วยอาวุธต่างๆ ก็ไม่ตาย ทั้งนี้เนื่องมาจาก ทั้งสองได้ถอดดวงใจออกจากตัวแล้วนำใส่กล่องไปเก็บไว้ที่อื่น โดยที่ทศกัณฐ์นำดวงใจไปเก็บไว้ที่ภูเขานิลคีรี ส่วนไมยราพนั้นนำไปเก็บไว้ในถ้ำบนยอดเขาตรีกูฏ กล่องดวงใจ จึงหมายถึงสิ่งหรือผู้ที่เจ้าของผู้ครอบครองเห็นว่ามีค่าสูงดังชีวิตตนและพยายามเก็บรักษาไว้ด้วยความหวงแหน น้ำบ่อน้อย : คราวที่หนุมานรับอาสาไปเฝ้านางสีดา แล้วตอนกลับได้ฉวยโอกาสลอบเผากรุงลงกา แต่ไฟก็ได้ไหม้ที่ปลายหางของตนซึ่งพยายามดับเท่าไหร่ก็ไม่มอดจึงต้องอาศัยฤๅษีบอกใบ้ว่าให้ดับด้วยน้ำบ่อน้อย หนุมานนึกออกจึงส่งปลายหางเข้าปากอมไว้ ไฟนั้นจึงได้มอดสนิท น้ำบ่อน้อย หมายถึงน้ำลาย คือถ้าพูดให้ดีก็สามารถดับทุกข์ได้ ลูกทรพี/วัดรอยเท้า : ทรพีเป็นลูกของทรพากันางนิลากาสร เดิมทรพานั้นชื่อนนทกาลทำหน้าที่เฝ้าทวาร ณ เขาไกรลาส ถูกสาปให้ลงมาเกิดเป็นควายและเมื่อใดที่ถูกลูกฆ่าตายจึงจะพ้นโทษ เมื่อกำเนิดเป็นควายทรพาจำคำสาปได้จึงเที่ยวฆ่าลูกให้ตายเสมอ จนนางนิลากาสรแอบไปคลอดในถ้ำ พอทรพีโตขึ้นก็มีความอาฆาตแค้นพ่อ คอยวัดรอยเท้าทรพาอยู่เป็นประจำ จนเห็ว่าขนาดรอยเท่ากันแปลว่าไม่เสียเปรียบกันแล้ว จึงไปท้าสู้และได้ฆ่าต่อของตนตาย วัดรอยเท้า ใช้เปรียบในกรณีที่ผู้เยาว์หรือผู้น้อยแอบฝึกตัวเพื่อหาทางเอาชนะผู้อาวุโสหรือผู้ใหญ่ แก่นของเรื่องรามเกียรติ์คืออะไรรามเกียรติ์ คือการเล่าถึงเรื่องราวของเทพเจ้าที่อวตารลงมาเป็นมนุษย์ นั่นคือพระรามที่เป็นร่างอวตารปางหนึ่งของพระนารายณ์ที่แบ่งภาคเป็นมนุษย์เพื่อลงมาปราบมาร แต่ไม่ว่าจะเป็นลิง ยักษ์ หรือเทวดา ต่างก็มีความรัก โลภ โกรธ หลง เหมือนมนุษย์ทั่วไป ทีมงานผู้สร้างจึงได้มองเห็นตรงกันว่า แก่นของเรื่องคือ 'ความลุ่มหลงมัวเมา ย่อมเป็น ...
เรื่องรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทกให้ข้อคิดอะไรบ้างรามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก (ข้อคิด ( อำนาจอยู่ในมือของคนที่ลืมตัว…. อำนาจอยู่ในมือของคนที่ลืมตัว จะเกิดผลร้าย. เมื่อคนมีอำนาจ จะตัดสินใจด้วยความรู้สึกก้าวร้าวรุนแรงได้ง่ายเมื่อคิดว่าถูกรังแก. คนเราควรใช้อำนาจเพียงเพื่อป้องกันตัวไม่ให้รับพิบัติเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อทำลายผู้อื่นเพื่อแก้แค้น. ข้อคิดเรื่องใดที่นักเรียนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ จากเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทกข้อคิดจากเรื่องรามเกียรติ์ข้อใดที่เราสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ การอดทนอดกลั้น แค้นนี้ต้องชำระ การใช้อำนาจ
ในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ให้คุณธรรมในด้านใด“แก่นเรื่องรามเกียรติ์คือการสู้รบระหว่างธรรมะกับอธรรม นอกจากความบันเทิงแล้ว ยังมีคุณธรรมต่าง ๆ สอดแทรกไว้อีกมากมาย ทั้งเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ความเสียสละ ความมีสติ ความกตัญญู รวมทั้งชี้โทษของความหลงในกิเลส และที่สำคัญ ยังสะท้อนธรรมชาติของมนุษย์ผ่านบทบาทของตัวละครในเรื่อง หากอ่านให้เข้าใจและดูให้เป็นแล้วจะได้ทั้งความ ...
|