ระยะที่ ๒ ดำเนินการทำโครงงาน โดยมีกิจกรรม ดังนี้ ๑. จัดอบรมแกนนำนักเรียนในโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัยและโรงเรียนเครือข่ายทั้ง ๕ โรงเรียน จำนวน ๑๖๐ คน แล้วเชิญชวนให้ช่วยกันลดปัญหาโลกร้อนด้วยการเก็บกล่องเครื่องดื่มที่บริโภคแล้วส่งไปผ่านกระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ๒. นำเสนอโครงงานในการประชุมผู้ปกครองเครือข่ายประจำปีการศึกษา ๒๕๕๐ ของโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย เพื่อขอความร่วมมือจากผู้ปกครองในการเก็บกล่องเครื่องดื่มหลังบริโภค และขอข้อเสนอแนะเพิ่มเติมจากผู้ปกครอง ๓. รณรงค์ให้นักเรียนโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัยและนักเรียนในโรงเรียนเครือข่ายเชิญชวนบุคคลในครอบครัว เก็บกล่องเครื่องดื่มหลังบริโภค นำมาทำให้อยู่ในสภาพที่พร้อมจะนำไปผ่านกระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่ โดยทำตามวิธีการในแผ่นพับที่นักเรียนแกนนำจัดทำเผยแพร่ และนำมาให้แกนนำทั้ง ๘ คน ไปส่งต่อให้ชมรมผู้ผลิตต่อไป ๔.จัดกิจกรรมยกย่องครอบครัวและโรงเรียนเครือข่ายที่บริจาคกล่องเครื่องดื่มที่อยู่ในสภาพที่พร้อมแล้วได้มากที่สุดโดยมอบเป็นเกียรติบัตรและเงินรางวัล เพื่อเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้บุคคลทั่วไปในการทำเรื่องดีๆ มีน้ำใจ โดยมีคนดีเป็นแบบอย่าง จำนวนผู้เข้าใช้งาน จัดทำโดยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น วิจัยบทที่ 3 คลิกเพื่อดาวโหลดไฟล์ สำเร็จรูป บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน ในการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ การสร้างเว็บบล็อกด้วย WordPress เรื่องแท็บเล็ต นี้
ผู้จัดทำโครงงานมีวิธีดำเนินงานโครงงาน ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 3.1 ขอบเขตในการจัดทำโครงการ 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 3.1 ขอบเขตในการจัดทำโครงการ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักศึกษา1ชั้น ปีที่ 3 และคณาจารย์ คณะศึกษาศาสตร์ สาขานวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา ในภาคเรียนฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556 จำนวนคณาจารย์ 10 ท่าน และ นิสิต 10 ท่าน
จำนวนทั้งสิ้น 20 ท่าน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนิสิตชั้นปีที่ 3 และคณาจารย์ คณะศึกษาศาสตร์ สาขานวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา ในภาคเรียนฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556 โดยสุ่ม จำนวนนิสิตและคณาจารย์ ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 10 ท่าน – จัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ การสร้างเว็บบล็อกด้วย WordPress เรื่อง แท็บเล็ต – วัสดุ อุปกรณ์
เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ – เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต – เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ www.wordpress.com – เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เช่น www.facebook.com www.hotmail.com www.google.com – โปรแกรมตัดต่อและตกแต่งรูปภาพ เช่นAdobe Photoshop CS4 และ PhotoScape2.0 ตัวแปรที่ศึกษา ตัวแปรอิสระ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน ระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระดับชั้นการทำงาน การมีคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ตใช้ในการทำงาน ตัวแปรตาม ได้แก่ เจตคติต่อวิชาโครงงานเทคโนโลยีการศึกษา:การศึกษาอิสระ 3 ด้าน คือ ด้านคุณประโยชน์ ด้านเนื้อหา ด้านกิจกรรม ระยะเวลาที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ ภาคเรียนฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556 ใช้เวลาในการทดลอง 11 ชั่วโมง 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 3.2.1 เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 3.2.2 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ http://www.wordpress.com 3.2.3 เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เช่น http://www.facebook.com http://www.hotmail.com 3.2.4 โปรแกรมตัดต่อและตกแต่งรูปภาพ เช่นAdobe Photoshop CS5 และ PhotoScape2.0 3.2.5 แบบประเมินความพึงพอใจของผู้ศึกษาในหน้าเว็บเพจ เว็บบล็อก 3.2.6 แบบสอบถามเรื่องการสร้างเว็บบล็อก เรื่อง แท็บเล็ต 3.2.7 แบบทดสอบ เรื่อง แท็บเล็ต 3.3 วิธีสร้างและหาคุณภาพของเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา การสร้างและหาคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยจะกล่าวถึงหลักการ ขั้นตอนการเขียนการสร้างและหาคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยหรือรวบรวมข้อมูล ว่านิสิตนักศึกษาคาดว่าจะสร้างเครื่องมือแต่ละชนิดประกอบด้วยขั้นตอนใดบ้าง มีหลักการใดบ้าง กำหนดว่าจะสร้างจำนวนเท่าใด ต้องการจริงเท่าใด มีลักษณะอย่างไร เช่น สร้างแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า(Rating Scale) 5 ระดับ สร้างจำนวน 10 ข้อ ต้องการจริง 5 ข้อ เป็นต้นและการหาคุณภาพเครื่องที่ใช้ในการวิจัยนั้น จะใช้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครื่องมือกี่คน
ทดลองกับใคร จำนวนเท่าใด จะใช้สูตรใดในการหาค่าอำนาจจำแนก หาความยาก หาค่าความเชื่อมั่น และมีการกำหนดเกณฑ์คุณภาพเครื่องมือที่ระดับใด ซึ่งในการเขียนการสร้างและหาคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นขั้นตอนโครงร่างที่นิสิต นักศึกษาจะคาดว่าทำและปฏิบัติตามขั้นตอนที่เขียนไว้เท่านั้น แต่หลังจากนิสิตทำแล้วซึ่งจะเขียนเป็นโครงการนั้น นิสิตต้องปรับเปลี่ยนข้อความใหม่ ซึ่งพบข้อบกพร่องมากในโครงการ กล่าวคือ นิสิต นักศึกษาไม่มีปรับเปลี่ยนยังคงใช้ข้อความเดิมที่เขียนไว้ในเค้าโครงการ
แท้จริงและถูกต้องนั้น เมื่อนิสิต นักศึกษาทำการสร้างจริง ตรวจสอบและทดลองไปใช้จริงแล้ว ผลที่ได้จะแตกต่างกัน ดังนั้นข้อความก่อนทำกับหลังต้องการแตกต่างกัน ตรงที่ต้องมีการนำเสนอผลการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญและการทดลองใช้ว่า ได้ผลอย่างไร มีการปรับปรุงอะไรบ้าง เข้าเกณฑ์กี่ข้อ นำไปใช้จริงกี่ข้อ นิสิต นักต้องพึงระวังในการเขียนการสร้างและหาคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเค้าโครงวิทยานิพนธ์ สำหรับหลักการ เกณฑ์การสร้างและหาคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มีดังนี้ 2) ในขั้นการศึกษาเอกสารและงานวิจัย นิสิตนักศึกษาควรระบุชื่อเอกสารที่ค้นคว้าให้ครบและชัดเจน ว่าเป็นของใคร ชื่อหนังสือ พ.ศ. ที่พิมพ์ เช่น ศึกษาเอกสารการสร้างแบบสอบถามจากหนังสือการวิจัยเบื้องต้นของบุญชม ศรีสะอาด (2545: 90-100) 3) กรณีที่เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ขั้นตอนการสร้างนิสิต นักศึกษา ควรสร้างตารางวิเคราะห์รายละเอียด (เนื้อหา ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง) และระบุจำนวนข้อที่สร้างขึ้นและต้องการจริงเท่าใด 4) การเลือกผู้เชี่ยวชาญพิจารณาความเที่ยงตรงนั้น นิสิต นักศึกษาควรเลือกผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนั้นอย่างแท้จริง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้พิจารณาให้ข้อเสนอแนะ ปรับปรุงเครื่องมือ ดังนั้นการเลือกผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชี่ยวชาญ จะทำให้เครื่องมือมีคุณภาพด้วย ผู้เชี่ยวชาญควรมี 2 ประเภท ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาและผู้เชี่ยวชาญด้านการวัดผล 5) ผู้เชี่ยวชาญที่ใช้ในการตรวจสอบเครื่องมือนักศึกษาต้องเขียนระบุตำแหน่งทางวิชาการ ตำแหน่งหรือหน้าที่การงาน สถานที่ทำงาน เช่น รศ.ดร.บุญชม ศรีสะอาด อาจารย์ภาควิชาการวิจัยและพัฒนาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการวัดผลและกรณีเครื่องมือที่สร้างมีมากกว่า 1 ชนิดแต่ใช้คณะผู้เชี่ยวชาญชุดเดิม การเขียนอธิบายในขั้นตอนการสร้างไม่ต้องเขียนรายละเอียดอีก ระบุข้อความ ผู้เชี่ยวชาญชุดเดิม ในขั้นตอนการสร้างเครื่องมือเท่านั้นพอ เช่น นำเครื่องมือไปให้ผู้เชี่ยวชาญชุดเดิมตรวจสอบความถูกต้อง 6) นิสิต นักศึกษาต้องเขียนขั้นตอนการสร้างให้ชัดเจน ถูกต้อง เช่น กระบวนการสร้าง อธิบายค่าอำนาจจำแนก วิธีหาความเชื่อมั่นและความเที่ยงตรง เพื่อให้ผู้อื่นอ่านแล้วเข้าใจง่ายกรณีที่ใช้เครื่องมือคนอื่นสร้างไว้มาใช้ ต้องระบุว่าเป็นของใคร สร้าง พ.ศ.ใดและที่สำคัญเครื่องนั้นต้องทันสมัย มีความสอดคล้องกับเรื่องที่ทำและไม่ควรเกิน 5 ปี 7) เครื่องมือแต่ละชนิดที่สร้างขึ้น ควรเขียนแสดงตัวอย่างลักษณะของเครื่องมือที่ใช้วัด อธิบายวิธีการตรวจให้คะแนน เกณฑ์การให้คะแนนอย่างชัดเจน พร้อมทั้งระบุแหล่งที่มาอย่างชัดเจน เช่น มากที่สุด ให้ 5 คะแนน หรือ คะแนนความคิดคล่องในการคิด พิจารณาคำตอบที่เป็นไปได้ในเงื่อนไขของข้อสอบถือว่าเป็นคำตอบที่เป็นไปได้ ให้คำตอบละ 1 คะแนน 8) การหาคุณภาพเครื่องมือเป็นรายข้อ (อำนาจจำแนก ความยาก) ให้ทดลองใช้ที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างไม่น้อยกว่า 50 คน แล้วคัดเลือกข้อที่ดีไว้ใช้แล้วจึงหาคุณภาพทั้งฉบับ (ความเชื่อมั่น) 9) การเขียนขั้นทดลองใช้ นิสิต นักศึกษาควรระบุให้ชัดเจนว่ากลุ่มที่ใช้ทดลองเป็นใคร จำนวนเท่าใดและทดลองวันที่เท่าใด ตัวอย่าง การเขียนการสร้างและหาคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มีขั้นตอนการเขียนดังนี้ 1. กำหนดจุดประสงค์ในการสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 2. ศึกษาเอกสาร ทฤษฏีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ (เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย) จากหนังสือของ 4. สร้าง..(ระบุชื่อเครื่องมือ)บอกลักษณะของเครื่องมือเป็นแบบใด มีกี่ระดับ มีกี่ด้านอะไรบ้าง สร้างขึ้นจำนวน…ข้อและต้องการจริง จำนวน…ข้อ (อาจจะสร้างตารางวิเคราะห์รายละเอียดหรือไม่สร้างก็ได้) 5. นำ(ระบุชื่อเครื่องมือ)ที่สร้างขึ้นไปให้ผู้เชี่ยวชาญ (ระบุด้าน) พิจารณาตรวจสอบความเที่ยงตรง(เชิงประจักษ์) โดยพิจารณาว่าข้อความของเครื่องมือที่สร้างขึ้นนั้น วัดได้(จุดประสงค์ นิยามศัพท์เฉพาะหรือเนื้อหาหรือไม่)แล้วให้ผู้เชี่ยวชาญให้คะแนน อาจจะเป็น +1 เมื่อแน่ใจวัดได้ตรงในด้านนั้น 0 เมื่อไม่แน่ใจว่าวัดได้ในด้านนั้น และ -1 เมื่อแน่ใจว่าวัดได้ไม่ตรงในด้านนั้น และให้ระบุจำนวนผู้เชี่ยวว่ามีกี่คน ระบุตำแหน่งหน้าที่ สถานที่ทำงาน และระบุผลการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบคุณภาพของ…(ระบุชื่อเครื่อง)…ผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนเป็นรายข้อแล้วคำนวณค่าดัชนีความสอดคล้อง พบว่า ได้ดัชนีความสอดคล้องระหว่าง…..ถึง…. 6. แก้ไข…(ระบุชื่อเครื่อง).. ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ แล้วนำไปทดลองใช้(Try out) กับ …..(ระบุว่าเป็นกลุ่มใด) … ที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง จำนวน…คน 7. วิเคราะห์คุณภาพของ…(ระบุชื่อเครื่องมือ)…วิเคราะห์..(ระบุชื่อเครื่องมือ)..โดยคำนวณหาค่าอำนาจจำแนกรายข้อโดยใช้….(ระบุสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์)…. ซึ่งได้ค่าอำนาจจำแนกเป็นรายข้อตั้งแต่.ถึง…..(ได้ค่าความยากเป็นรายข้อตั้งแต่….ถึง…..(ถ้ามี))และหาค่าความเชื่อมั่นของ..(ระบุชื่อเครื่องมือ)…โดยใช้ (ระบุสถิติที่ใช้)…ปรากฏว่าได้ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 8. จัดพิมพ์..(ระบุชื่อเครื่องมือ)…ฉบับสมบูรณ์เพื่อนำไปใช้จริง (พร้อมแสดงตัวอย่างเครื่องมือ)
3.4 วิธีดำเนินการทดลอง 3.4.1 คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนำเสนอครูที่ปรึกษาโครงงาน 3.4.2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สนใจ คือเรื่องแท็บเล็ต ว่ามีเนื้อหามากน้อย เพียงใด และต้องศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเพียงใดจากเว็บไซต์ต่างๆ และเก็บข้อมูลไว้เพื่อจัดทำเนื้อหาต่อไป 3.4.3 ศึกษาการสร้างเว็บบล็อกที่สร้างจากเว็บไซต์ WordPress จากเอกสารที่ครูประจำวิชากำหนด และจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่นำเสนอเทคนิค วิธีการสร้างเว็บบล็อก 3.4.4 จัดทำโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อนำเสนอครูที่ปรึกษาผ่านเว็บบล็อกของตัวเอง โดย ได้นำไฟล์ข้อมูลไปฝากไว้ที่เว็บไซต์ชื่อ http://www.slideshare.net 3.4.5 ปฏิบัติการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์การสร้างเว็บบล็อกด้วยWordpress เรื่องแท็บเล็ต โดยการสมัครสมาชิก และสร้างบทเรียนที่สนใจตามแบบเสนอโครงร่างที่เสนอไว้แล้ว ทั้งนี้ ได้นำเสนอบทเรียนผ่านเว็บบล็อกที่ http://piyakorn.wordpress.com/ 3.4.6 นำเสนอรายงานความก้าวหน้าเป็นระยะๆ โดยแจ้งให้ครูที่ปรึกษาโครงงานเข้าไปตรวจ ความก้าวหน้าของโครงงานผ่านเว็บไซต์ www.facebook.com/ ปิยากร พจนารุ่งฤกษ์ ซึ่งครูที่ปรึกษาจะให้ข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อให้จัดทำเนื้อหาและการนำเสนอที่น่าสนใจต่อไป ทั้งนี้เมื่อได้รับคำแนะนำก็จะนามา ปรับปรุง แก้ไขให้เป็นที่สนใจยิ่งขึ้น อีกทั้งได้สร้างเครือข่ายสังคมโดยใช้เว็บไซต์ Facebook เพื่อให้เพื่อนๆ มาช่วยให้ข้อเสนอแนะ และสื่อสารกันหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการสร้างและพัฒนาเว็บบล็อกดังกล่าว 3.4.7 จัดทำเอกสารรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยนาเสนอในรูปแบบไฟล์คอมพิวเตอร์และนำฝากข้อมูลไฟล์ดังกล่าวไว้ที่เว็บ http://www.slideshare.net แล้วนำมาเชื่อมโยงผ่านเว็บบล็อกที่สร้างขึ้น 3.4.8 ประเมินผลงาน โดยการนำเสนอผ่านเว็บบล็อก ที่ชื่อ piyakorn แล้วให้ครูที่ปรึกษา ประเมินผลงาน และให้เพื่อนๆ ผู้สนใจเข้าร่วมประเมิน โดยการสร้างกล่อง Like Box เพื่อให้คลิก Like และ คอมเม้นในหน้าเว็บบล็อก 3.4.9 นำเสนอผ่านเว็บบล็อก ที่ชื่อ piyakorn เพื่อให้ผู้สนใจศึกษาหาความรู้ต่อไป การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ทำการศึกษาได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยดำเนินการดังนี้ 1.วิเคราะห์การสร้างเว็บบล็อกด้วยwordpress เรื่อง แท็บเล็ต จากผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน จากแบบประเมินบทเรียนการดำเนินการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แล้วนำไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์ประเมินสื่อ โดยแปลความหมายข้อมูลที่เป็นค่าเฉลี่ย ดังต่อไปนี้ (ไชยศ เรืองสุวรรณ.2548 : 178) แบบประเมินนี้เป็นมาตราส่วนประมานค่า (Rating Scale) มี 5 ระดับ ดังนี้ มีคุณภาพมากที่สุด เท่ากับ 4.50 – 5.00 เหมาะสมมากที่สุด เท่ากับ 3.50 – 4.49 เหมาะสมปานกลาง เท่ากับ 2.50 – 3.49 เหมาะสมพอใช้ เท่ากับ 1.50 – 2.49 เหมาะสมปรับปรุง เท่ากับ 1.00 – 1.49 2.วิเคราะห์ความสอดคล้องระหว่างจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมกับเนื้อหาและข้อสอบของโปรแกรม คอมพิวเตอร์ การสร้างเว็บบล็อกด้วยwordpress เรื่อง แท็บเล็ต จากผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน จากแบบประเมินความสอดคล้องระหว่างจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมกับเนื้อหาและข้อสอบ แล้วนำไปเทียบกับเกณฑ์การแปลความหมายตามวิธีของโรวิเนลลีและแฮมเลิดัน ดังนี้ 0.50 – 1.00 แสดงว่า มีความเที่ยงตรงตามเนื้อหา ต่ำกว่า 0.50 แสดงว่า มีความสอดคล้องต่ำ ต้องปรับปรุงแก้ไข 3.วิเคราะห์แบบสอบถามวัดความพึงพอใจที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การดำเนินการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การสร้างเว็บบล็อกด้วยwordpress เรื่อง แท็บเล็ต ตามความเป็นจริง โดยใช้ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แล้วนำค่าเฉลี่ยที่ได้ไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์การแปลความหมายตามวิธีของลิเคอร์ท (Likert) ดังนี้ ค่าเฉลี่ย ความหมาย 4.51 – 5.00 ความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด 3.51 – 4.50 ความพึงพอใจในระดับมาก 2.51 – 3.50 ความพึงพอใจในระดับปานกลาง 1.51 – 2.50 ความพึงพอใจในระดับน้อย 1.00 – 1.50 ความพึงพอใจในระดับน้อยที่สุด 3.5 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 1. สถิติที่ใช้ในการวัดคุณภาพเครื่องมือ 1.1 การวิเคราะห์ประสิทธิภาพของโปรแกรมบทเรียน โดยใช้สถิติ ค่าเฉลี่ย (X : Arithmetic Mean) ร้อยละ (Percentage) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D. : Standard Deviation) ของคะแนนที่ได้จากแบบฝึกหัดในโปรแกรมบทเรียนแต่ละหน่วยและคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนทั้งหมด 1.2 การวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิผลของโปรแกรมบทเรียน โดยใช้วิธีการหาดัชนีประสิทธิผล E.I. (The Effectiveness Index) (เผชิญ กิจระการ 2545 : 30-31) 1.3 วิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยโปรแกรมบทเรียน โดยการตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์ ดังนี้ มากที่สุด กำหนดให้ 5 คะแนน มาก กำหนดให้ 4 คะแนน ปานกลาง กำหนดให้ 3 คะแนน น้อย กำหนดให้ 2 คะแนน น้อยที่สุด กำหนดให้ 1 คะแนน แล้วนำคะแนนไปหาค่าเฉลี่ย และกำหนดเกณฑ์ในการแปลความหมายค่าเฉลี่ย ดังนี้ (บุญชม ศรีสะอาด. 2545 : 103) ค่าเฉลี่ย ระดับความพึงพอใจ 4.51 – 5.00 มากที่สุด 3.51 – 4.50 มาก 2.51 – 3.50 ปานกลาง 1.51 – 2.50 น้อย 1.00 – 1.50 น้อยที่สุด |