Show วันนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่อง Motivation (แรงจูงใจ) กันคะ ว่าเจ้า Motivation นี้คืออะไร แล้วมันสำคัญอย่างไรต่อตัวเรา ดังนั้นก่อนอื่นเลย เรามาเริ่มทำความรู้จักกับคำว่า Motivation หรือแรงจูงใจกันเลยดีกว่าค่ะ... Motivation
ซึ่งเจ้าแรงจูงใจนี้ สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ก็คือ Intrinsic motives (แรงจูงใจภายใน) และ Extrinsic motives (แรงจูงใจภายนอก) 1. Intrinsic motives (แรงจูงใจภายใน)
ตัวอย่างเช่น
แต่หากวิชานั้นเป็นวิชาที่เราถนัด หรือมีความสนใจ ความชอบ อยากที่จะเรียนรู้ สิ่งนี้ก็จะก่อให้เกิดแรงจูงใจจากภายใน เมื่อเวลาที่เราต้องเรียน หรือต้องทำกิจกรรมในวิชานั้น ๆ เราก็จะแสดงออกทางพฤติกรรมโดยการตั้งใจฟังอาจารย์สอน เพื่อให้เราสามารถเรียนได้เข้าใจในเนื้อหาทั้งหมดของวิชานี้ และพายามมาเรียนไม่ขาด เพราะกลัวจะพลาดเนื้อหาบางส่วนของวิชานี้ไป เห็นไหมคะว่าแรงจูงใจจากภายในนั้นสามารถเป็นแรงพลักดัน หรือแรงขับเคลื่อน เพื่อทำให้เราเกิดพฤติกรรมที่จะสามารถพาให้เราบรรลุเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้ได้ เพราะจากตัวอย่างข้างบน หากเราชอบเราสนใจที่จะเรียนวิชาไหน ๆ เราก็จะเริ่มตั้งเป้าหมายเอาไว้แล้วว่า เราจะต้องเรียนวิชานี้ให้รู้เรื่อง หรือต้องสอบวิชานี้ให้ได้เกรดดี ๆ จากนั้นพฤติกรรมต่าง ๆ ที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายก็จะแสดงออกมา ด้วยผลของแรงจูงใจนี้ แต่หากเราไม่สนใจ ไม่ชอบ และไม่อยากเรียนรู้ในวิชาใด ๆ เราก็จะไม่มีแรงจูงใจภายใน ในการเรียนวิชานั้น ๆ ทำให้เราไม่มีการกำหนด หรือตั้งเป้าหมายที่เราจะทำ ดังนั้นมันจึงไม่เกิดพฤติกรรมที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายใด ๆ นั่นเองค่ะ 2. Extrinsic motives (แรงจูงใจภายนอก)
ตัวอย่างเช่น
เมื่อมีรางวัลที่เราชอบ หรืออยากได้มาล่อใจ เราก็จะเริ่มเกิดแรงจูงใจในการเรียนแล้วใช่ไหมล่ะคะ แรงจูงใจนี้เองที่เรียกว่า แรงจูงใจภายนอก สิ่งนี้จะกระตุ้นให้เราเกิดพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนในห้องมากขึ้น เมื่อไม่เข้าใจจากที่ไม่เคยถามเพื่อก็ทำให้เราถาม หรืออาจจะเป็นการไปเรียนพิเศษเสริมเพิ่มเติมในรายวิชาคณิตศาสตร์นี้ เพื่อทำให้เราเข้าใจวิชานี้ได้มากขึ้น และมีเทคนิคต่าง ๆ ไปทำข้อสอบเพื่อเพิ่มคะแนน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เป็นพฤติกรรม อันจะพาให้เราบรรลุเป้าหมายตามที่ได้ตั้งเอาไว้ ก็คือการที่จะต้องได้เกรด 3.5 ขึ้นไปนั่นเองค่ะ เห็นไหมคะว่าแรงจูงใจนั้นสามารถเกิดจากภายนอกได้จริง ๆ ซึ่งแรงจูงใจประเภทนี้ จะเป็นแรงจูงใจเพียงชั่วคราว ไม่ยั่งยืน หากได้สิ่งของที่ต้องการ หรือสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้แล้ว เราก็อาจจะเลิกทำพฤติกรรมนั้น ๆ ไปเลยก็ได้ เอาล่ะค่ะ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ก็เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงจะพอมองเห็นภาพความแตกต่างที่เกิดจากแรงจูงใจทั้งสองประเภทนี้แล้ว และเข้าใจคำว่า Motivation หรือแรงจูงใจ กันมากพอสมควรแล้ว เรื่องต่อไปที่เราจะมาพูดคุยกันก็คือ แล้วแรงจูงใจนี้ มันสำคัญกับเราอย่างไร?
Motivation สำคัญอย่างไร?
ถ้าหากเรามีแต่เป้าหมาย แต่ว่าเป้าหมายนั้นเรายังไม่มีแรงจูงใจมากพอที่จะทำ สิ่งนี้เองก็จะไม่สามารถกระตุ้น หรือเป็นแรงพลักดันที่มากพอที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายตามที่เราได้ตั้งเอาไว้ได้ เพราะฉะนั้น หากคุณมีเป้าหมายใดก็ตามที่คิดอยากที่จะทำมันให้ประสบผลสำเร็จ จงหาแรงจูงใจทั้งจากภายใน และภายนอกให้มากพอ ที่จะกระตุ้น และเป็นแรงพลักดันคุณให้ไปให้ถึงเป้าหมายตามที่คุณได้ตั้งใจเอาไว้ และนี้คือทั้งหมดที่เราจะมาพูดคุยกันในบทความนี้ ทางสถาบัน BrainFit ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านไม่มากก็น้อย แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีสำหรับผู้อ่านทุกท่านนะคะ พบกันที่ BrainFit!BrainFit รับสมัครน้องๆ อายุตั้งแต่ 7-18 ปีรับคำปรึกษาจากเรา ได้แล้ววันนี้ ฟรี!02-656-9938 / 02-656-9915 / 091-774-3769LINE:@brainfit_th
Contact Us |