เผยแพร่: 22 ม.ค. 2560 20:30 โดย: MGR Online
เมื่อพระองค์ดำวิ่งไปถึง ทหารเลวโยนหนังสือเล่มสุดท้ายเข้ากองไฟพอดี ทหารทุกคนชะงักมอง เวลากลางคืน เปลวไฟจากตะเกียงจานนํ้ามันที่ให้แสงสว่าง บุญทิ้ง ไอ้จัน และไอ้สมิงนั่งพูดกันบนแคร่ที่ลานฝึกซ้อมหลังศาลาด้วยความเจ็บแค้นใจ ค่ายทหารที่ลานวัดพระมหาเถร เวลากลางคืน มีทหารอยู่จำนวนหนึ่ง บริเวณหน้ากระโจมของสุรสิงหะ
มีเสียงมณีจันทร์ร้องดังมาแว่วๆ ทำให้สุรสิงหะโผล่จากกระโจมออกมา ไอ้จันตะโกนร้องให้ช่วยอยู่บนต้นไม้ต้นหนึ่งในป่าโปร่งหลังวัด วันใหม่ ทหารหงสาที่บาดเจ็บยืนเรียงแถวหน้ากระดานที่ค่ายทหารที่ลานวัดพระมหาเถร หน้าทหารแต่ละคนมีแต่หน้าบอบชํ้า หน้าแตก หน้าบวม แขนหัก ฯลฯ สุรสิงหะยืนประกาศก้องด้วยความขุ่นเคืองใจ "ถ้าเอ็งสงสัยข้า ก็มาพูดกับข้าคนเดียว ไม่จำเป็นต้องทรมานศิษย์ วัดพวกนี้" ขบวนเสด็จของพระมหาจักรพรรดิ และพระวิสุทธิกษัตรีย์ เดินมาถึงหน้าประตูเข้าพระราชวังหลัง อยุธยา มีทหารราชองค์รักษ์และนางข้าหลวงติดตามมาเป็นแถว ทั้งสองหยดยืนคุยกันที่หน้าประตู ในเรือนศาลาวัดมหาเถร สี่สหายนั่งรวมกันอยู่เบื้องหน้าพระมหาเถร เหมือนรับฟังคำสอน ในป่าโปร่ง พระองค์ดำถอยเข้ามาอย่างเร็ว แล้วยืนถือดาบไม้ตั้งท่าสู้อย่างมั่นใจ ครั้งนี้ที่สุดด้ามดาบไม้มีบ่วงเชือกคล้องกับข้อมือที่ถือดาบไว้ด้วย "เอาใหม่ เต็มที่เลย คราวนี้" ไอ้สมิงโผนเข้าฟันดาบไม้ในมือใส่พระองค์ดำด้วยเพลงดาบหงส์ผงาดฟ้าอีกตามเคย และองค์ดำก็รับไว้ได้หมดทุกกระบวนท่าอย่างรวดเร็วเช่นกัน การฝึกครั้งนี้มีกันเพียงสองคน ไม่มีใครมาเห็น การต่อสู้ดำเนินไปจนในที่สุดเมื่อถึงท่าไม้ตาย ไอ้สมิงก็ฟันดาบของพระองค์ดำหลุดจากมือ แต่ดาบไม่กระเด็นไปไหน เพราะมีเชือกคล้องติดข้อมืออยู่ พระองค์ดำพลิกมือจับด้ามดาบในทิศทางตรงกันข้าม คือถือให้ปลายดาบลงดิน แล้วตวัดมือขึ้น ใช้สันดาบกระแทกใต้ข้อมือของสมิงถึงกับดาบหลุดมือ สมิงตกใจที่พระองค์ดำเอาชนะได้ "พระองค์แก้ไม้ตายได้แล้ว แก้ได้จริงๆด้วย" "มันก็แค่หญ้าปากคอก ข้ามัวแต่คิดหาทางแก้ไม่ให้ดาบหลุดมือ ถึงได้ คิดไม่ออก แต่พอข้าเห็นมีดที่มีบ่วงคล้องข้อมือของไอ้จัน ข้าก็นึกออก ว่า ถ้าใช้บ่วงคล้องไว้ ถึงดาบหลุดมือแล้ว ดาบก็ยังอยู่กับเรา" "โอ้โฮ ไม่น่าเชื่อ คาดไม่ถึงจริงๆ" "ข้าอยากให้เจ้าเก็บเรื่องนี้เป็นความลับก่อน อย่าเพิ่งบอกใคร นอกจากหลวงตาเท่านั้น ตกลงไม๊" "ได้ ข้ารับปากว่าจะไม่บอกใคร แม้แต่สหายของเรา" พระองค์ดำขยับมือถือดาบ ให้บ่วงเชือกคล้องข้อมือเข้าที่เรียบร้อย "เอาละ มาลองกันใหม่อีกที" "ทั้งสองซ้อมฟันดาบกันต่อไป อย่างมีกําลังใจมากขึ้นกว่าเดิม" พลับพลาในงานประลองฝีมือในหงสาวดี เสียงประโคมสังข์แตรแบบพม่ารามัญดังกังวาน ขณะพระเจ้าบุเรงนองก้าวขึ้นสู่ที่ประทับใหญ่แล้วลงนั่ง โดยมีพระมหาธรรมราชาประทับอยู่บนพระที่ตํ่าลงมาด้านซ้าย ส่วนพระอุปราช พระเจ้าแปร พระเจ้าอังวะ และพระเจ้าตองอูประทับอยู่บนพระที่อีกด้านหนึ่งเรียบร้อยแล้ว นอกนั้นก็มีพญาทะละ เจ้ากรมวัง
และเสนาบดีนั่งตามที่อันควร มีทหารหงสาวดีจำนวนหนึ่งยืนถือหอกรักษาการอยู่ทั่วไป ริมลานประลอง ไอ้จันหันชะเง้อมองไปทางที่พักรอของผู้เข้าประลอง แล้วหันมาบอกไอ้สมิง ไอ้จันเดินผ่านผู้คนมายังบริเวณที่พักรอ แต่พอถึงทางเข้าซึ่งเป็นหลืบระหว่างผืนผ้ารั้วกั้น ก็ต้องชะงักหยุดเดิน สีหน้าเจื่อนลง เมื่อมองไปข้างหน้า เจ้าหญิงวิไลแสดงความห่วงใยองค์ดำ ไอ้จันสีหน้าบึ้งตึงแหวกกลุ่มคนดูกลับเข้ามายังริมลานที่ไอ้สมิงยืนดูการต่อสู้อยู่ ในพลับพลา บุเรงนองหันมาถามพระมหาธรรมราชา ณ ลานประลอง
นักสู้คู่ที่สองต่อสู้กันจนฝ่ายหนึ่งทำให้อีกฝ่ายล้มลงไปได้อย่างสวยงาม พระมหาธรรมราชารู้สึกไม่สบายใจ เพราะไม่รู้ว่าผลการประลองจะออกมาอย่างไร ริมลาน ไอ้ทิ้ง ไอ้สมิง และไอ้จันเกาะเชือกขึงขอบลานดูอยู่อย่างเอาใจช่วย พระองค์ดำและมังกยอชวาต่อสู้กันด้วยเพลงดาบเดี่ยวอย่างแคล่วคล่องว่องไว โดยมังกยอชวาเป็นฝ่ายรุก แต่องค์ดำก็รับดาบที่ฟาดฟันมาได้ทุกกระบวนท่าอย่างไม่พลาดพลั้ง ไอ้จัน บุญทิ้ง ไอ้สมิง ตะโกนเชียร์แข่งกับเสียงผู้คนรอบๆลาน ณ ลานประลอง ritองค์ดำลุกขึ้น ยิ้มแสดงความยินดีอย่างให้เกียรติคู่ต่อสู้ ขณะที่มังกยอชวายังคงชูมือรับเสียงโห่ร้อง ด้วยความผยองลำพองใจยิ่งกว่าเดิม ไอ้จันหน้างํ้า ยืนเกาะเชือกบ่น ในขณะที่กลุ่มคนดูต่างวิพากษ์วิจารณ์การต่อสู้กันอยู่
"อึ้มม์ องค์ดำท่านฉลาดจริงๆแฮะ นี่ละมั๊ง ที่เรียกว่า เล่ห์เหลี่ยมลวงตา" "ผ่านไปแล้ว ในที่สุดวันแห่งการพิสูจนฝีมือก็ผ่านไปแล้วอย่างสมความ ตั้งใจ คุ้มจริงๆที่รอ
รอเอาชนะไอ้เชลยที่ใครๆชมว่าเก่งนักเก่งหนา" ช่องทางเดินร่มรื่นอันเป็นทางลัด ไอ้จัน หรือ มณีจันทร์ เดินลิ่วๆมาแต่ไกล แล้วกระแทกตัวลงนั่งที่ขอนไม้ใหญ่ด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเพราะความผิดหวัง ไม่มองพระองค์ดำซึ่งรีบเดินตามมาจนทัน ห้องเจ้าหญิงวิไลกัลยาในตำหนักวังหน้า เจ้าหญิงปากมีแผลบวมชํ้า นั่งเขียนจดหมายอยู่กับตั่งไม้เตี้ยๆ มีลวดลายละเอียดสวยงาม เมื่อเขียนเสร็จก็ยกจดหมายขึ้นอ่านทวน พระพี่เลี้ยงเม้ยรีบเดินเหลียวหน้าเหลียวหลังมาตามทางเดินข้างพระตำหนักวังหน้าอย่างมีพิรุธเต็มที่ แต่แล้วเมื่อเดินๆหยุดๆมาได้ครู่หนึ่งก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงพระชายาเรียกไว้ "นั่นไง นึกแล้วไม่มีผิด" ค่ำเดียวกัน
พระมหาธรรมราชาก้าวเข้ามาในหอหลวง ถึงกับชะงักตะลึงอย่างไม่คาดฝัน เมื่อเห็นเจ้าเมืองและเสนาบดีทุกคนนั่งประจำที่อยู่พร้อมเพรียงกันแล้ว ค่ำเดียวกัน บริเวณชานตำหนัก พระองค์ดำยืนรอการกลับมาของพระมหาธรรมราชาอยู่ที่ประตู ไอ้จัน พระสุนทรสงคราม และขุนศรีก็นั่งรออยู่ที่ชานนั้นด้วย
พระองค์ดำเดินมายืนที่กลางชานด้วยความร้อนใจ กระทั่งรู้สึกว่ามีคนเดินขึ้นบันไดชานมา พระมหาธรรมราชา รู้สึกหนักใจในสิ่งที่จำเป็นต้องฝืนใจทำต่อไป ศาลากลางชานเรือนของพระรามรณรงค์มีสำรับอาหารและกับแกล้มถาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ พระยาพิชัยรณฤทธิ์ และพระยาวิชิตณรงค์ มานั่งร่วมดื่มกินกับเจ้าของเรือนด้วย ในเรือนศาลา พระมหาเถรลืมตาขึ้น พระองค์ดำและสหายทั้งสามเดินออกมาจากเรือนศาลา สหายทั้งสามล้วนมีสีหน้าครุ่นคิดราวกับคำพูดของหลวงตาเมื่อครู่นี้ยังก้องอยู่ในหัว คนทั้งสี่ที่ยื่นมือมากุมกัน อ่านต่อตอนที่ 8 |