คา แรง ดับเบิ้ล เซ รั่ ม ดี ไหม

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• The Claim
• Texture / Scent / Packaging
• Key Ingredients
• Conclusion

เราเป็นมนุษย์ที่ชอบลองสกินแคร์ใหม่ๆ รวมถึงชอบอ่านรีวิวจากเพื่อนๆ พี่ๆ Blogger หลายต่อหลายท่าน จนได้มีโอกาสลองผลิตภัณฑ์มากมายหลายแบรนด์ แต่เพื่อนๆ เชื่อไหมว่าเรายังไม่เคยได้ลองผลิตภัณฑ์ใดจาก CLARINS มาก่อนเลยทั้งๆ ที่มีรีวิวออกมาเยอะแยะมากมาย จนล่าสุดต้องยกเครดิตการป้ายยาให้แก่พี่ดาร์มพี่ชายที่คลังความรู้เรื่องสกินแคร์แน่นสุดๆ และเรามักจะขอคำปรึกษาในเรื่องสกินแคร์อยู่บ่อยครั้ง ( Instagram : beautyisalegend )

พี่ดาร์มแนะนำให้เราเปิดใจการใช้สกินแคร์กลุ่ม Oil-Base ด้วยเจ้า CLARINS Double Serum เนี่ยแหละ เราจึงพุ่งตัวไปที่เคาน์เตอร์และจัดมา 1 ขวดใหญ่ทันที ซึ่งต้องบอกว่าเลยเป็นเซรั่มที่ทำให้ผิวเราดูดีขึ้นม้าก ( ก.ไก่ ล้านตัว ) เอาเป็นว่าเราไปชม Full Review ในแบบฉบับของบูมกันเลยดีกว่าฮะ...

จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ทีมโว้กบิวตี้ ได้มีโอกาสร่วม Discovery Trip กับ Clarins ในการเปิดตัว Double Serum ที่ประเทศฝรั่งเศสในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นอีกครั้งที่ได้เราได้ไปถึงศูนย์วิจัยอันเป็นแหล่งกำเนิดของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับที่ดีตลอดกาลจนทำให้ Clarins เป็นสกินแคร์แบรนด์อันดับหนึ่งในยุโรป และ Double Serum เองก็ได้รางวัลการันตีถึง 212 รางวัลจากทั่วโลก ซึ่งทำให้การเปิดตัว Double Serum ขวดใหม่นี้ เต็มไปด้วยการค้นพบและวิทยาการที่น่าสนใจ ซึ่งทีมโว้กบิวตี้ ก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหาร นักวิจัย ของ Clarins โดยขอสรุปเป็น 8 ข้อที่สำคัญและน่าสนใจเกี่ยวกับ Double Serum และการดูแลผิวให้สดใส อ่อนเยาว์

1. Double Serum เริ่มต้นความสำเร็จตั้งแต่ปี 1985 แรกเริ่มเป็นเซรั่ม 2 ขวดที่ใช้ร่วมกันคือ เซรั่มสูตรน้ำ และเซรั่มสูตรน้ำมัน และมาปรับให้เป็น 1 ขวด มี 2 เซรั่มสองชนิดรวมกันในขวดเดียวเมื่อปี 2007
2. คลาแรงส์ค้นพบว่าผิวที่แลดูอ่อนเยาว์ สุขภาพดี นั้นจะต้องมีปราการผิวที่แข็งแรง ผิวจึงแลดูเรียบเนียน กระชับแน่น ซึ่งมาจากสัดส่วน น้ำ 2 ส่วน น้ำมัน 1 ส่วน ที่จะหล่อเลี้ยงเซลล์ผิวให้มี Hydrolipidic film ที่สมบูรณ์
3. เซรั่มน้ำและน้ำมันในสัดส่วน 2:1 จะช่วยฟื้นบำรุงให้ระดับความชุ่มชื้นสมดุล ผิวบริเวณที่มันเกินไปก็จะมันน้อยลงเพราะได้น้ำลงไปเติมให้ผิว ผิวจึงผลิตน้ำมันมาปกป้องผิวน้อยลง ส่วนผิวบริเวณที่แห้งเกินไปก็จะได้น้ำมันช่วยซีลและเก็บกักความชุ่มชื้นให้ดียิ่งขึ้น Double Serum จึงเป็นเซรั่มที่ออกแบบมาสำหรับทุกสภาพผิวอย่างแท้จริง
4. หัวกดผลิตภัณฑ์ Double Serum ได้จดสิทธิบัติในการปล่อยสัดส่วน 2:1 ที่คงที่แม่นยำ บรรจุในขวดสุญญากาศ ทำให้ได้เนื้อเซรั่มที่สดใหม่ในทุก ๆ ครั้งที่ใช้ ผิวจึงได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่
5. ในปี 2017 คลาแรงส์ได้ศึกษากระบวนการในเซลล์ของผิวที่อ่อนเยาว์และพบกว่า เซลล์ผิวแต่ละเซลล์มีการสื่อสารกันอยู่ตลอด และการสื่อสารจะลดน้อยลงเมื่อโดนปัจจัยภายนอกรบกวนรวมถึงอายุที่มากขึ้น ซึ่งทำให้การฟื้นฟูซ่อมแซมตัวเองทำได้น้อยและช้าลงด้วย คลาแรงส์จึงนำ Turmeric หรือขมิน มาสกัดเข้มข้นด้วยกรรมวิธีเฉพาะตัวเพื่อให้ได้ทูเมอโรน ที่ช่วยให้เซลล์สื่อสารกันได้ดียิ่งขึ้น และตอบสนองต่อสารบำรุงผิวที่ได้รับใน Double Serum อย่างเต็มที่
6. เมื่อเซลล์ผิวสามารถสื่อสารกันได้เหมือนผิวอ่อนเยาว์ และได้รับสารบำรุงที่เหมาะสมอย่างเต็มที่ 5 สัญญาณแห่งผิวสวยอันได้แก่ การสร้างเซลล์ผิวใหม่, การได้รับออกซิเจนที่ผิว, สารได้รับสารอาหารที่จำเป็นกับผิว, ความชุ่มชื้น, เกราะป้องกันผิวที่แข็งแรง ก็จะช่วยให้ผิวแลดูสดใส มีผลเป็น Anti-aging action ที่ทรงประสิทธิภาพ
7. คลาแรงส์ได้พัฒนาหัวกดให้สามารถปรับได้ 2 ระดับ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และสภาพผิวที่ต่างกัน การใช้ในปริมาณที่น้อย สำหรับตอนเช้า, ผิวผสมที่ค่อนไปทางมัน, ในวันที่อากาศร้อนชื้น และปรับระดับให้มากยิ่งขึ้นเพื่อการดูแลพิเศษสำหรับ ตอนกลางคืน, ผิวแห้ง และในวันที่อากาศแห้งและเย็น โดยยังคงสัดส่วน 2:1 ที่แม่นยำเช่นเดิม
8. เนื้อผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ทันที รวดเร็ว กว่าทุก ๆ รุ่นที่เคยมีมา เพราะเป็นการเลียบแบบของเหลวในผิว การลงผลิตภัณฑ์จึงอาศัยแค่เพียงการกระจาย Double Serum ทั่วฝ่ามือ และกดลงบนผิวเบา ๆ ผิวก็จะสามารถดูดผลิตภัณฑ์เข้าสู่ผิวไปได้จนหมด  

ติดตามอ่านรายละเอียดเต็ม ๆ ของ Clarins Double Serum ใหม่ และผลิตภัณฑ์ Makeup ที่รอคอยได้ใน VOGUE ฉบับเดือนตุลาคมนี้