ข้อเสียของการเปิด

การซื้อของออนไลน์นั้นเหมารวมทั้งหมดที่มีการซื้อขายกันทางอินเทอร์เน็ต แน่นอนว่าในการมีข้อดี สิ่งนั้นต้องมีข้อเสียปะปนกันอยู่อย่างแน่นอน การขายของออนไลน์อาจต้องมีความเชื่อมั่นอย่างหนึ่ง คือการเชื่อว่าตัวเราเองต้องทำได้ และมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำในสิ่งนั้นอย่างแน่วแน่ตั้งใจ ช่วงแรกอาจไม่ประสบความสำเร็จอาจทำให้ท้อและล้มเลิกไป แต่ถ้าหากเราสู้และเข้มแข็ง สิ่งใดที่ตั้งใจทำไว้ต้องผ่านไปได้และดีขึ้นอย่างแน่นอน

ความนิยมในการขายของออนไลน์ถือว่ามีมากและยังมีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นเพราะความง่ายในการซื้อขาย การวางขาย รูปแบบการบริหารร้านมีความง่ายขึ้น ไม่ต้องมีหน้าร้านก็สามารถขายสินค้าได้ เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนหันมาเปิดร้านค้าออนไลน์กันมากขึ้น แต่อย่างไรก็แล้วแต่การขายของออนไลน์ หากมีการซ้ำกัน แล้วเราคือสินค้าที่มาทีหลัง อาจได้รับความสนใจน้อยลงก็เป็นได้ ดังนั้นการขายขของเราควรอยู่ในกลุ่มเป้าหมาย และสร้างความโดดเด่นให้สินค้าของตนเองด้วย

ข้อดีของการขายของออนไลน์
• ไม่มีหน้าร้านก็สามารถขายสินค้าได้
• ไม่ต้องมีพนักงานขาย
• ลงทุนน้อยไม่ต้องเช่าพื้นที่
• บริการจัดส่งตรงถึงหน้าบ้านลูกค้า
• เป็นตัวเลือกในการเลือกซื้อสินค้า
• ลูกค้าสามารถติดต่อพูดคุยกับทางร้านได้โดยตรง
• มีการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์
• สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ

ข้อเสียของการขายของออนไลน์
• มีการแข่งขันสูงในประเภทธุรกิจหรือสินค้าที่มีความนิยม
• ความเชื่อมั่นในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์อาจยังน้อยเมื่อเทียบกับการซื้อโดยตรง
• สินค้าบางอย่างไม่สามารถนำมาขายออนไลน์ได้
• ความไม่ปลอดภัยจากระบบคอมพิวเตอร์อาจทำให้ระบบชำระเงินไม่ปลอดภัย อาจเกิดจากการดูแลเว็บไซต์ไม่รอบคอบ
• ไม่สามารถกำหนดราคาสินค้าแพงกว่าท้องตลาดได้ อาจทำให้ขายสินค้ายากขึ้น

ที่มา : vcommerce

1.ทำให้ประเทศสามารถจำหน่ายผลผลิตส่วนเกินจากการบริโภคภายในประเทศสู่ผู้บริโภคในประเทศอื่น ทำให้เกิดรายได้เข้าประเทศและส่งผลต่อมาตรฐานการครองชีพที่ดีของประชาชน
    2.ทำให้ได้รู้จักผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ ทำให้ประชาชนได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายเหล่านั้น ซึ่งถ้าไม่มีการนำเข้าจากต่างประเทศประชาชนจะเสียโอกาสไป
    3.ทำให้เกิดการพัฒนาของผู้ผลิตภายในประเทศต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งมีผลต่อความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจสังคมและการเมืองทั้งโดยทางตรงและโดยทางอ้อม
    4.ทำให้ประชาชนได้ใช้สินค้าคุณภาพดีในราคาถูก กล่าวคือแต่ละประเทศอาจไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทุกชนิด เนื่องจากความชำนาญของแต่ละประเทศในการผลิตสินค้าแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน บางประเทศอาจผลิตสินค้าหนึ่งได้ดีและต้นทุนต่ำ ส่วนอีกประเทศอาจผลิตสินค้าชนิดอื่นได้ดีและต้นทุนต่ำ การที่ทั้งสองประเทศจะเลือกผลิตสินค้าที่ตนมีความชำนาญและมีการขายหรือแลกเปลี่ยนกันจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศมากกว่า


ข้อเสียคือ
    1.ทำให้เกิดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งถ้าเกิดการไม่สมดุลโดยมีการนำเข้ามากกว่าการส่งออกอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ประเทศขาดดุลการค้าและนำไปสู่การขาดดุลชำระเงินส่งผลไปยังเสถียรภาพเงินตราและทำให้เศรษฐกิจของประเทศเสียหายในที่สุด
    2.สินค้าและบริการใหม่ๆ จากต่างประเทศส่วนหนึ่งอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านรูปแบบการดำรงชีวิต ตลอดจนมีผลกระทบต่อวัฒนธรรมประเพณีซึ่งอาจเป็นผลเสียต่อชีวิตประจำวันของประชาชนรวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างกันในรูปแบบดั้งเดิมของทั้งสองประเทศที่มีอยู่เดิมให้เปลี่ยนแปลงไป
    3.บางครั้งผู้ผลิตอาจให้ความสำคัญกับตลาดในต่างประเทศมากกว่าตลาดภายในประเทศ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการขาดแคลนสินค้าภายในประเทศ ทำให้รัฐต้องคอยแทรกแซงหรือควบคุมการนำเข้าและการส่งออก

ข้อเสียของการเปิด


    โทรศัพท์มือถือเทคโนโลยีการผลิตนำเข้าจากโลกตะวันตก 

  ปัจจุบันกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารที่จำเป็นสำหรับคนไทย

ข้อเสียของการเปิด


 

 อ้างอิง : http://wanida-parena.blogspot.com/2010/02/blog-post_5204.html

ทางเลือกหนึ่งในการขยายธุรกิจไปยังประเทศใหม่ ๆ คือการจัดตั้งบริษัทย่อยในต่างประเทศ ซึ่งมีข้อได้เปรียบมากมาย รวมทั้งสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสในท้องถิ่นและดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามการตั้งบริษัทย่อยในต่างประเทศก็มีข้อเสียที่สำคัญอยู่เช่นกัน

การทำความเข้าใจถึงข้อดีและข้อเสียของการจัดตั้งบริษัทย่อยในต่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดว่าจะจัดตั้งบริษัทหรือใช้ทางเลือกอื่น เช่น Professional Employer Organization (PEO) และ Employer of Record (EOR)

 

ข้อดีของการตั้งบริษัทย่อยในต่างประเทศ

ข้อดีที่สำคัญบางประการของการจัดตั้งบริษัทสาขาย่อยในต่างประเทศ ได้แก่

 

1. การเข้าถึงตลาดใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของคุณ

การตั้งบริษัทสาขาย่อยในต่างประเทศถือเป็นการจัดตั้งนิติบุคคลในประเทศอื่น ซึ่งสามารถทำการตลาดผลิตภัณฑ์และบริการของตนให้กับคนในพื้นที่ รวมถึงยังสามารถนำเข้าและส่งออกสินค้าได้

นอกจากนี้บริษัทที่มีที่ตั้งในท้องถิ่นสามารถขยายการรับรู้แบรนด์ของตนไปยังตลาดใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มผลกำไรได้ ในต่างประเทศมีโอกาสสำหรับการเติบโตอย่างมาก และแม้แต่ประเทศที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักบางประเทศก็มีเศรษฐกิจที่มีศักยภาพและตลาดที่แข็งแกร่งซึ่งสามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้

 

2. เป็นทางเลือกสำหรับการผลิตในราคาถูก

ในบางธุรกิจการตั้งบริษัทสาขาย่อยในต่างประเทศช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงต้นทุนสินค้าและแรงงานที่ต่ำลงได้

หลายประเทศมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการผลิตที่ได้รับการพัฒนาอย่างสูง ซึ่งไม่เพียงช่วยลดต้นทุนวัสดุแต่ยังลดต้นทุนในการผลิตสินค้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งแน่นอนว่าสามารถช่วยคุณลดต้นทุนการผลิตโดยรวมได้

 

3. การเข้าถึงทักษะทางเทคนิค

ในหลาย ๆ ประเทศ (โดยเฉพาะในอาเซียนที่กำลังมีเพิ่มขึ้น) ให้การเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงและวิธีคิดใหม่ ๆ เกี่ยวกับปัญหาทางเทคนิค ตัวอย่างเช่น กัมพูชามีความรู้ทางเทคนิคระดับสูงที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

 

4. การเข้าถึงความรู้ท้องถิ่น

ด้วยการจัดตั้งนิติบุคคลในต่างประเทศ คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจใหม่กับคู่ค้าในพื้นที่และจัดตั้งกิจการร่วมค้าที่ใช้ประโยชน์จากความรู้ในท้องถิ่นได้

 

5. เพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ

ในบางสถานการณ์การเริ่มธุรกิจในประเทศใหม่สามารถทำให้เกิดการขยายตัวมากขึ้นและเพิ่มรายได้ที่ไม่สามารถทำได้ในประเทศบ้านเกิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตลาดในประเทศเต็มไปด้วยการแข่งขัน

 

6. กระบวนการและสิ่งจูงใจที่มีประสิทธิภาพ

บางประเทศยินดีต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศอย่างเปิดเผย โดยทำให้กระบวนการจัดตั้งบริษัทเป็นเรื่องง่าย และอาจให้สิ่งจูงใจเพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ เช่น

  • สิทธิประโยชน์ทางภาษี
  • ไม่มีข้อกำหนดเงินทุนขั้นต่ำ
  • เขตเศรษฐกิจพิเศษ
  • เขตการค้าเสรี
  • กระบวนการจัดตั้งบริษัทรวดเร็วขึ้น
  • ไม่มีข้อจำกัดการเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของบริษัทในต่างประเทศ

 

ข้อเสียของการเปิด

 

ข้อเสียของการตั้งบริษัทสาขาย่อยในต่างประเทศ

ข้อเสียที่เห็นได้ชัดบางประการของการจัดตั้งบริษัทสาขาย่อยในต่างประเทศ ได้แก่

 

1. ต้นทุนและเวลาที่เพิ่มขึ้น

การตั้งบริษัทสาขาย่อยในต่างประเทศมักใช้เวลาและเงินเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นอุปสรรคที่กีดกันบริษัทส่วนใหญ่จากการลงทุนในลักษณะนี้

ข้อกำหนดด้านเงินลงทุนนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศและอุตสาหกรรม แต่บางครั้งก็เป็นจำนวนค่อนข้างมาก ตัวอย่างเช่น ในสิงคโปร์ข้อกำหนดด้านเงินทุนชำระแล้วสำหรับบริษัทตัวแทนประกันภัยคือ 300,000 ดอลลาร์ และ 100,000 ดอลลาร์ สำหรับบริษัทนำเที่ยว

 

2. มีข้อห้ามในการเป็นเจ้าของชาวต่างชาติ

บางประเทศมีการควบคุมอุตสาหกรรมบางประเภทและห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติเป็นเจ้าของกิจการ ในบางกรณี เจ้าของต้องเป็นคนในท้องถิ่น แต่ยอมให้ชาวต่างชาติสามารถลงทุนในธุรกิจนั้นได้เป็นบางส่วน

ในอดีตบางประเทศไม่เต็มใจที่จะให้ต่างชาติเป็นเจ้าของบริษัททั้งหมด ตัวอย่างเช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำหนดให้นักลงทุนต่างชาติต้องมีหุ้นส่วนในท้องถิ่นที่มีสัดส่วนการถือหุ้นอย่างน้อย 51% จึงจะตั้งบริษัทย่อยในต่างประเทศได้ จนมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเมื่อปี 2562

แต่ก็ยังคงมีอุตสาหกรรมบางประเภทในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่มีการจำกัดจำนวนแรงงานต่างชาติอยู่

 

3. เงื่อนไขการเข้าเมืองที่ยุ่งยาก

การทำงานในต่างประเทศมักมีปัญหาเกี่ยวกับข้อกำหนดในการเข้าเมือง การขอวีซ่าทำงานหรือใบอนุญาตสำหรับคุณหรือพนักงานอาจเป็นเรื่องยาก ซึ่งต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการอนุมัติ

นอกจากนั้นวีซ่าอาจอนุญาตให้เฉพาะการเข้าพักระยะสั้นและมักมีข้อจำกัดเกี่ยวกับกิจกรรมทางธุรกิจที่สามารถดำเนินการได้

 

4. การปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ซับซ้อน

ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งในการจัดตั้งบริษัทสาขาย่อยในต่างประเทศคือการดำเนินการดังกล่าวให้เป็นไปตามข้อกำหนด ซึ่งโดยปกติมักจะมีกฎที่ซับซ้อนเกี่ยวกับการจ้างพนักงาน การจัดการเงินเดือน และการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษี

 

คุณควรตั้งบริษัทสาขาย่อยในต่างประเทศหรือไม่?

การตั้งบริษัทสาขาย่อยในต่างประเทศมีทั้งข้อดีและข้อเสียมากมาย ธุรกิจที่มีแผนการดำเนินงานระยะยาวในต่างประเทศมักเลือกที่จะจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศนั้น ๆ เนื่องจากผลประโยชน์มักจะมีมากกว่าความเสี่ยง

ในกรณีนี้เวลาและค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการจัดตั้งบริษัทจะมีความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความยืดหยุ่นที่ได้รับ

อย่างไรก็ตามในสถานการณ์อื่น ๆ อาจมีทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่า เช่น การใช้ EOR มักจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับบริษัทที่

  • ต้องการทดลองตลาดก่อนลงทุนอย่างจริงจัง
  • ไม่ต้องการชำระเงินทุนจำนวนมากในต่างประเทศ
  • ต้องการใช้ประโยชน์จากโอกาสในปัจจุบัน
  • ไม่ต้องการรอการแข่งขันจากกระบวนการจัดตั้งบริษัทที่ยาวนาน
  • ต้องการความยืดหยุ่นในการจ้างและเลิกจ้างพนักงาน

EOR มีโครงสร้างทางกฎหมายที่จำเป็น พร้อมสำหรับจัดการเรื่องการจ้างงาน การจ่ายเงินเดือน และการเข้าเมือง

นอกจากนี้ยังมีความเชี่ยวชาญเพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับทั้งหมด สำหรับหลาย ๆ บริษัท EOR เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า รวดเร็ว และเชื่อถือได้ในการจัดตั้งบริษัทย่อยในต่างประเทศ

 

ข้อเสียของการเปิด

 

InterLoop บริการจดจัดตั้งบริษัทต่างประเทศ

InterLoop มีพันธมิตรครอบคลุมทุกประเทศในอาเซียน รวมถึงจีน และอินเดีย สามารถช่วยให้คุณบรรลุวัตถุประสงค์การขยายธุรกิจไปยังต่างประทศได้ ทีมงานของเรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่หลากหลาย ได้แก่ ภาษี กฎหมาย ทรัพยากรบุคคล และการจ้างงานที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

เราสามารถจัดหาสัญญาทางกฎหมาย จัดทำระบบการจ่ายเงินเดือน และช่วยเหลือคุณในเรื่องการปฏิบัติตามข้อกำหนด ด้วยบริการ PEO และ EOR ของเรา คุณจะโอนความเสี่ยงเกี่ยวกับความรับผิดชอบของนายจ้างมาให้เรา ในขณะที่คุณได้ใช้ประโยชน์จากพนักงานในประเทศที่คุณต้องการอย่างรวดเร็ว

หรือหากคุณตัดสินใจที่จะจดจัดตั้งบริษัท เราก็สามารถช่วยคุณดำเนินการได้ ที่ InterLoop เรามีบริการด้านกฎหมายและการจ้างงานทั้งในระยะสั้นและระยะยาวสำหรับประเทศใหม่ของธุรกิจของคุณ

ติดต่อเราวันนี้เพื่อเริ่มต้นการขยายธุรกิจของคุณไปให้ไกลกว่าเดิม ติดต่อ: 097-106-9113 หรือ Lind ID: @inlps