โดยทั่วไปคนในสังคมจะอาศัยอยู่ในบริเวณใดบริเวณหนึ่ง ซึ่งพื้นที่อาจมีขนาดจำกัด เช่น ในบริเวณบ้าน ในบริเวณโรงเรียน หน้าที่ของสังคม
สถาบันทางสังคม สถาบันครอบครัว บทบาทหน้าที่
สถาบันเศรษฐกิจ บทบาทหน้าที่
สถาบันการเมืองการปกครอง บทบาทหน้าที่
สถาบันการศึกษา บทบาทหน้าที่
สถาบันศาสนา บทบาทหน้าที่ 1. เป็นศูนย์รวมความศรัทธาของสมาชิกในสังคม เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ช่วยให้สมาชิกทางสังคมสามารถใช้หลักธรรมในการแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นได้ 2. เป็นแบบแผนการดำเนินชีวิตของสมาชิกในสังคม ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้แก่สมาชิกในสังคมเพื่อนำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต 3. สอนให้บุคคลกระทำความดี ละเว้นความชั่ว เพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของตนเองและผู้อื่น สถาบันนันทนาการ บทบาทหน้าที่ 1. ส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ให้สมาชิกในสังคมเห็นคุณค่าของการทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์เพื่อตนเองและส่วนรวม 2. สร้างความบันเทิงให้แก่สมาชิกในสังคม เพื่อให้การดำรงชีวิตมีความสุขสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น 3. ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด เพิ่มพูนอนามัยที่ดี รวมทั้งเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดีให้กับสมาชิกในสังคม สถาบันสื่อสารมวลชน บทบาทหน้าที่
การจัดระเบียบทางสังคม · การจัดระเบียบทางสังคม หมายถึง วิธีการต่างๆ ที่คนในสังคมกำหนดขึ้น เพื่อใช้เป็นระเบียบกฎเกณฑ์ในการอยู่ร่วมกัน เป็นการควบคุมสมาชิกให้มีความสัมพันธ์กันภายใต้แบบแผนเดียวกัน เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคม
1. ระบบคุณค่าทางสังคม เป็นเป้าหมายสูงสุดที่สังคมปรารถนาให้เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่สังคมยอมรับและสมควรกระทำให้บรรลุผล ได้แก่ ความรักชาติ ความยุติธรรม ความเสมอภาค เป็นต้น 2. บรรทัดฐานทางสังคม คือ มาตรฐานการปฏิบัติตามบทบาทของแต่ละบุคคล ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามทิศทางของระบบคุณค่าทางสังคม 3. สถานภาพและบทบาท มีความเกี่ยวข้องกันสัมพันธ์กัน โดยสถานภาพเป็นตำแหน่งที่บุคคลครอบครองอยู่ และบทบาทก็คือหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งนั้นๆ จะต้องกระทำ เช่น นักเรียนต้องตั้งใจเรียนหนังสือ ข้าราชการต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ เป็นต้น การขัดเกลาทางสังคม · การขัดเกลาทางสังคม หมายถึง กระบวนการเรียนรู้การเป็นสมาชิกของสังคม โดยซึมซับบรรทัดฐานและค่านิยมทางสังคมมาเป็นของตนและเรียนรู้ในการปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ เพื่อที่จะสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมที่ตนเป็นสมาชิกอยู่ได้เป็นอย่างดี · การขัดเกลาทางสังคมทางตรง 1. การอบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่ ต้องใช้เหตุผลในการอบรมเลี้ยงดูลูก ไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจหรือแก้ไขปัญหา รับฟังความคิดเห็นของลูก รวมทั้งเปิดโอกาสให้ลูกได้แสดงความสามารถที่ตนมีอยู่ 2. การอบรมสั่งสอนของครูอาจารย์ ครูต้องอบรมและเสริมสร้างทักษะความรู้และพฤติกรรมที่ดีงามให้แก่นักเรียน ฝึกฝนให้นักเรียนได้พัฒนาศักยภาพอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเรียน การทำกิจกรรม ตลอดจนการใช้ชีวิตในสังคมอย่างมีความสุข · การขัดเกลาทางสังคมทางอ้อม 1. การอ่านหนังสือ ช่วยเพิ่มพูนความรู้ให้มีความหลากหลาย สร้างเสริมประสบการณ์ใหม่ๆ สามารถนำมาเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตนให้ชีวิตมีคุณค่าและมีระเบียบแบบแผนที่ดียิ่งขึ้น 2. การฟังอภิปราย ช่วยเปิดโลกทัศน์ให้กว้างไกลมากขึ้น ได้รับฟังข้อมูลจากผู้มีความรู้ ซึ่งสามารถนำข้อคิดที่ได้มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ 3. การทำกิจกรรมกลุ่ม ช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ รู้จักเสียสละเพื่อให้กิจกรรมที่ทำนั้นประสบความสำเร็จสูงสุด · องค์กรที่ทำหน้าที่ขัดเกลาทางสังคม 1. ครอบครัว เป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญ ซึ่งทำหน้าที่อบรมสั่งสอนสมาชิกให้เป็นพลเมืองดี ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่สังคมกำหนด 2. โรงเรียน เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่เสริมสร้างความรู้ ความสามารถ ตลอดจนการปรับตัวในการใช้ชีวิตในสังคม 3. สื่อมวลชน เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดข่าวสาร ความรู้ ศิลปะ ประเพณี รวมทั้งกฎระเบียบทางสังคมไปยังสมาชิกของสังคมทุกหมู่เหล่า 4. สถาบันศาสนา เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดแนวทางการดำเนินชีวิตให้แก่สมาชิกในสังคม โดยมุ่งเน้นให้คนกระทำความดี ละเว้นความชั่ว · การเปลี่ยนแปลงทางสังคม o การเปลี่ยนแปลงทางสังคม หมายถึง การเปลี่ยนแปลงระเบียบของสังคมในการกระทำ · การเปลี่ยนแปลงระดับจุลภาค o เป็นการเปลี่ยนแปลงขนาดย่อยในระดับบุคคล กลุ่มบุคคล และรวมถึงพฤติกรรมต่างๆ ของบุคคล ตัวอย่างเช่น 1. การผลิตสินค้า จากเดิมที่ผลิตสินค้าด้วยมือ เปลี่ยนมาเป็นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการผลิตสินค้า เพื่อให้ได้ปริมาณมาก เพียงพอกับความต้องการในปัจจุบัน 2. การศึกษาของนักเรียน จากเดิมที่ครูจะเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักเรียนฝ่ายเดียว เปลี่ยนเป็นการศึกษาที่เน้นให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนคิดเป็น ทำเป็น มีภาวะความเป็นผู้นำ · การเปลี่ยนแปลงระดับมหภาค o เป็นการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับระบบสังคม มีผลกระทบต่อแบบแผนการดำเนินชีวิตของผู้คนในสังคมเป็นจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น 1. การเลิกทาสในสมัยรัชกาลที่ 5 ส่งผลให้ราษฎรทุกคนมีความเท่าเทียมกัน มีเสรีภาพในการดำเนินชีวิต การประกอบอาชีพ นอกจากนี้ยังมีผลทำให้ประเทศมีแรงงานอิสระเพิ่มมากขึ้น 2. การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เป็นการเปลี่ยนแปลงจากระบอบมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ ประชาชนมีสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคเท่าเทียมกัน |