โปรแกรม Defragment Windows 10

วิธีการทำ Defragment Drives ใน Windows 10  หรือการจัดระเบียบในการจัดวางขอมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของฮาร์ดไดรฟ์ เป็นการจัดเรียงข้อมูลของไฟล์ต่าง ๆ ที่เก็บอยู่ในฮาร์ดดิสก์ของเรานั้น ให้มีความต่อเนื่องหรือเรียงต่อกันเป็นระบบระเบียบ ไม่กระจัดกระจ่าย เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการอ่านข้อมูล บนระบบปฏิบัติการอย่าง Windows 10 นั้น ก็ไม่ต่างกันกับที่ทำในระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นอื่น ๆ มากนัก เพียงแต่อาจจะเปลี่ยนแปลงให้เรางงเล่น ๆ เท่านั้นเอง ไม่ต้องไปหาโหลดโปรแกรมอะไรมาทำ ในระบบปฏิบัติการ หรือ Windows เอง ก็จะมีมาให้ทุกเวอร์ชั่นอยู่แล้ว มาดูวิธีทำกันครับ

1. ดับเบิลคลิกที่ This PC หรือถ้าใน Windows XP คือ My Computer และ Windows 7 คือ Computer นั่นละครับ
2. คลิกขวาที่ Drive  C: 
3. คลิกเลือก Properties
4. คลิกเลือก Toole
5. คลิกเลือก Optimize
6. คลิกเลือกไดร์ที่ต้องการทำจัดระเบียบให้ข้อมูล (Defragment )
7. คลิกเลือก Analyze รอให้ครบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็น (100%)
8. คลิกเลือก Optimize
9. รอจนกว่าจะเสร็จครับ

หรืออีกวิธีครับ

1. คลิกเลือกที่ปุ่ม Search the web and Windows รูปแว่นขยายที่ทาสบาร์ข้าง ๆ ปุ่มสตาร์ทเมนู
2. พิมพ์คำว่า Defragment ในช่อง Search
3. คลิกเลือก Defragment and Optimze Drives
4. คลิกเลือกไดร์ที่ต้องการทำจัดระเบียบให้ข้อมูล (Defragment )
5. คลิกเลือก Analyze รอให้ครบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็น (100%)
6. คลิกเลือก Optimize
7. รอจนกว่าจะเสร็จครับ

เสร็จแล้วก็ปิดหน้าต่างออกได้เลยครับ เพียงเท่านี้เครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านก็เร็วขึ้นแล้วล่ะครับ

ขยายความ  Analyze และ Optimize

• Analyze การคลิกเลือกข้อนี้ เป็นเพียงการวิเคราะหํข้อมูลเท่านั้น ว่ามีข้อมูลมากน้อยเพียงใด จะยังไม่ได้จัดการใด ๆ ในข้อนี้
• Optimize การคลิกเลือกข้อนี้ คือจะทำการตรวจสอบและจัดเรียงข้อมูลทั้งหมดให้จนเสร็จสิ้น

• ในขณะที่ทำ Defragment Drive อยู่ ควรจะปิดโปรแกรมอื่น ๆ ให้หมด เพื่อความรวดเร็วและความถูกต้องของการทำ Defragment Drives
• ขอแนะนำว่าให้ทำบ่อย ๆ ทำให้เป็นกิจวัตรเลยยิ่งดีครับ เพราะถ้าเป็นการทำครั้งแรก จะต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่ถ้าทำบ่อย ๆ ใช้เวลาไม่มากก็เสร็จ ไม่ต้องเสียเวลารอนานด้วย

• ติ๊กเครื่องหมายถูกที่ช่อง Run on a schedule (recommended)
• หัวข้อ Frequency เลือกความถี่ในการ Defragment Drives มีให้เลือก 3 ระดับ คือ 

1. Daily วัน 
2. Weekly สัปดาห์ และ 
3. Monthly เดือน

• คลิกเลือก Choose เพื่อเลือก Drives ที่ต้องการให้ Defragment Drives 
• จากนั้นคลิกเลือก OK ครับ 

ขอบคุณครับที่ติดตาม

By.คอมพิวเตอร์รีวิว

หนึ่งในคุณสมบัติของ Smart Defrag ก็คือความสามารถในการจัดเรียงข้อมูล ในฮาร์ดไดรว์ได้พร้อมกันทีละหลายๆ ไดรว์ แต่ความสามารถของมันไม่ได้มีเพียงแค่นั้น เพราะเครื่องมือตัวนี้สามารถปรับแต่งที่ตั้งของไฟล์ เพื่อเก็บสเปซในส่วนที่เร็วที่สุดของดิสก์ไว้สำหรับไฟล์ที่ใช้บ่อยที่สุด

และโปรแกรมนี้ยังมีฟังก์ชันที่เรียกว่า Auto Defrag ซึ่งจะจัดเรียงข้อมูลในฮาร์ดไดรว์ที่เลือก เมื่อคอมพิวเตอร์เริ่มทำงานช้าลง Smart Defrag จะช่วยให้สามารถจัดเรียงข้อมูลของโปรแกรมได้ และปิดคอมพิวเตอร์อย่างอัตโนมัติเมื่อกระบวนการเสร็จสิ้นเรียบร้อย

ด้วยวิธีนี้เอง จึงทำให้แอพพลิเคชันนี้กลายเป็นทางเลือกที่ดีมาก เมื่อเทียบกับแอพพลิเคชันตัวเดิมของ Windows ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่สูงขึ้น และยังลดการใช้ CPU ลงอีกด้วย

นอกจากนี้ในเวอร์ชันล่าสุดนั้น Smart Defrag ก็มีเครื่องมือสำหรับการจัดเรียงข้อมูล เพื่อลดการใช้ CPU และทำให้การทำงานเร็วและเสถียรมากขึ้น และยังมีการปรับปรุง SSD เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และมีเทคโนโลยีใหม่ระดับมืออาชีพสำหรับการจัดเรียงข้อมูลของเกม เพื่อให้คุณได้พบประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ดีขึ้นอีกด้วย

ดาวน์โหลด Auslogics Disk Defrag Pro 2023 + Portable ตัวเต็มถาวร ฟรี โปรแกรม Disk defragment ดีที่สุด ทำให้ความเร็วคอมเพิ่มขึ้น ลื่นไหลมากขึ้น ตัวใหม่ล่าสุด

สารบัญเนื้อหา

เกี่ยวกับ Auslogics Disk Defrag

Auslogics Disk Defrag คือโปรแกรม defragment harddisk หรือโปรแกรมจัดเรียงฮาร์ดดิสก์ ที่จะทำการจัดระเบียบระบบไฟล์ต่างๆในคอมของเรานั้นให้อยู่เป็นระเบียบมากขึ้น ทำให้ Harddisk เรานั้นเข้าถึงไฟล์ต่างๆในเวลาที่น้อยลงนั่นเองครับซึ่งเวลาที่น้อยลงนั่นก็หมายถึงว่าเข้าถึงเร็วขึ้นนั่นแหละครับ ซึ่งการ Defrag นี่แหละครับจะทำให้เรานั้นสามารถที่จะเรียกโปรแกรม หรือเปิดไฟล์ต่างๆนั้นได้ในเวลาน้อยลงนั่นเอง

ถ้าขยายความในความหมายของระบบวินโดวส์ เวลาที่เราใช้คอมฯ ใช้ไปอาทิตย์หนึ่ง เดือนหนึ่ง ปีหนึ่ง มันก็จะเกิดอาการ “Fragment” ก็คือไฟล์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์งานของเรา ไฟล์ของระบบโปรแกรม หรือแม้กระทั่งไฟล์ของระบบวินโดวส์เอง เริ่มอยู่กระจัดกระจายไปทั่วฮาร์ดดิสก์ ซึ่งมีผลทำให้การเรียกใช้งานในส่วนต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ช้าลง เพราะมันต้องใช้เวลารวบรวมไฟล์ระบบหรือข้อมูลที่จำเป็นต่อการประมวลผลนั้นๆ มากกว่าปกติ ซึ่งคำว่า defragment ก็ตรงข้ามกับ fragment คือมันจะไปจัดเรียงข้อมูลไม่ให้กระจายกันอยู่ ทำให้ใช้เวลาในการอ่านและเขียนน้อยลง ส่งผลให้ความเร็วของระบบโดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดนั่นเอง

ข้อแตกต่างของ Pro และ Ultimate

ข้อแตกต่างของ Auslogics Disk Defrag Pro และ Auslogics Disk Defrag Ultimate คือ Ultimate จะมีฟังค์ชันที่ครบกว่า ส่วน Pro จะมีหน้าตาที่ใช้งานง่ายกว่า แต่คุณสมบัติก็ยังจัดเต็ม สำหรับ User ทั่วไป แนะนำให้ใช้ตัว Pro น่าจะเหมาะสมกว่าครับ

Windows 10 Defragment ยังไง

โปรแกรม Disk Defragment คืออะไร

Disk Defragment ทำยังไง