น้อง ๆ คงจะรู้การคำประพันธ์อย่างกาพย์และโคลงกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ เพราะวรรณคดีไทยหลาย ๆ เรื่องที่เราเรียนกันมา ก็ใช้กาพย์และโคลงแต่งกันเสียส่วนใหญ่ และหลังจากที่ได้เรียนลักษณะการแต่งกาพย์กับโคลงสี่สุภาพ ให้ไพเราะกันไปแล้ว จะแต่งอย่างเดียวโดยไม่อ่านให้ถูกต้องก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะคะ ดังนั้นบทเรียนวันนี้จะพาร้อง ๆ ไปเรียนรู้เรื่อง การอ่านบทร้อยกรอง กันบ้าง ว่ามีวิธีอ่านอย่างไรให้ถูกต้องและไพเราะ ไปเรียนรู้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ
การอ่านบทร้อยกรอง
การอ่านบทร้องกรอง ประเภทกาพย์
จังหวะการอ่านกาพย์ กาพย์แต่ละประเภท จะแบ่งจังหวะดังนี้
การอ่านกาพย์ยานี 11
กาพย์ยานีมีจังหวะที่ดำเนินช้า จึงนิยมแต่งในความพรรณนา เช่น ชมนกชมไม้ พรรณนาความสวยงามของธรรมชาติ พรรณนาอารมณ์โศก คร่ำครวญ หรือใช้แต่งบทสวด บทสรภัญญะที่ใช้ในบทละคร เป็นต้น
ตัวอย่าง เรื่อยเรื่อย/มารอนรอน// ทิพากร/จะตกต่ำ// สนธยา/จะใกล้ค่ำ// คำนึงหน้า/เจ้าตาตรู//
การอ่านกาพย์ฉบัง 16
กาพย์ฉบังจะใช้พรรณนาธรรมชาติที่เคลื่อนไหว พรรณนาอารมณ์คึกคัก สดชื่น รื่นเริง เป็นต้น กาพย์ฉบัง 16 แบ่งจังหวะวรรคแรกและวรรคท้ายเป็น 2/2/2 วรรคกลางเป็น 2/2
ตัวอย่าง สัตว์จำ/พวกหนึ่ง/สมญา พหุ/บาทา// มีเท้า/อเนก/นับหลาย//
ทำนองการอ่านกาพย์
กาพย์ยานี 11 วรรคที่ 1 และ 2 อ่านเสียงให้เป็นกลาง ๆ หรือเสียงสูงในวรรคที่ 2 ส่วนวรรคที่ 3 และ 4 อ่านเสียงสูงขึ้น 1 บันไดเสียง หรืออ่านเสียงสูงเสมอกันทุกวรรค โดยบางวรรคอาจสลับเป็นอ่านเสียงต่ำเพื่อให้เกิดความไพเราะ กาพย์ฉบัง 16 อ่านเสียงสูงเสมอกันทุกวรรค หรืออ่านวรรคที่ 2 ต่ำกว่าวรรคที่ 2 ต่ำกว่าวรรคอื่น 1 บันไดเสียง
การอ่านกาพย์ควรใส่อารมณ์สอดแทรกลงไปในบทที่อ่าน ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องและบรรยากาศโดยอาศัยการตีความตัวบทที่จะอ่านให้ถ่องแท้เสียก่อนแล้วอ่านถ่ายทอดอารมณ์ออกมาเป็นท่วงทำนองให้น่าฟัง
การอ่านบทร้อยกรอง ประเภทโคลง
โคลง มีลักษณะการใช้คำที่สั้น กะทัดรัด เนื้อความกระชับ เนื่องจากมีการดำหนดจำนวนจำแต่ละวรรคไม่มากนัก และยังมีคำเอกคำโทอีกด้วย ทำให้บางคนอ่านแล้วอาจทำให้เสียงหลง แต่ถ้าหากอ่านให้ถูกวิธี การอ่านโคลง ก็จะไพเราะไม่แพ้บทร้อยกรองประเภทอื่นเลยค่ะ
การแบ่งจังหวะการอ่านโคลง
การอ่านโคลงสี่สุภาพ
การอ่านโคลงสี่สุภาพ จะแบ่งจังหวะ 3 บาทแรก เป็น 2/3 และ 2 หรือ 2/2 ถ้ามีคำสร้อย บาทสุดท้ายเป็น 2/3 และ 2/2
ตัวอย่าง ผลเดื่อ/เมื่อสุกไซร้// มีพรรณ ภายนอก/แดงดูฉัน// ชาดป้าย ภายใน/ย่อมแมลงวัน// นอนบ่อน ดุจดั่ง/คนใจร้าย// นอกนั้น/ดูงาม
ทำนองการอ่านโคลงสี่สุภาพ
-อ่านด้วยเสียงระดับเดียวกันทั้งบท บางคำขึ้นลงสูงต่ำตามเสียงวรรณยุกต์ ยกเว้นวรรคแรกของบาทที่ 3 จะอ่านเสียงสูงกว่าทุกวรรค 1 บันไดเสียง หรือวรรคสุดท้าย อาจจะอ่านเป็นเสียงต่ำกว่าทุกวรรค 1 บันไดเสียง -คำสุดท้ายของวรรคหลังบาทที่ 2 หากเป็นเสียงตรี สามารถอ่านได้สองแบบ คือ อ่านผวนเสียงขึ้นสูง หรืออ่านเสียงทบต่ำ -คำสุดท้ายของบาทที่ 1 หรือ 4 หากเป็นเสียงจัตวา มักอ่านขึ้นเสียงและผวนเสียงขึ้นสูง
จบไปแล้วนะคะ สำหรับบทเรียนเรื่องการอ่านบทร้อยกรอง ประเภทกาพย์และโคลง เป็นอีกคำประพันธ์ที่เมื่ออ่านแล้วจะมีความไพเราะมาก ไม่ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ น้อง ๆ สามารถฝึกอ่านได้ด้วยตัวเอง หรือจะไปฟังคำอธิบายจากครูอุ้มในคลิปการสอนเรื่อง การอ่านบทร้อยกรองได้ รับรองว่าจะสามารถเข้าใจการอ่านและอ่านได้อย่างถูกวิธีมากขึ้นด้วยค่ะ ไปดูกันเลย
อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้ สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ ดูคลิป แนะนำ แชร์ การบรรยายลักษณะและความรู้สึก โดยใช้คำคุณศัพท์ Adjective ทบทวนความหมายและหน้าที่ของคำคุณศัพท์ คำคุณศัพท์หรือ Adjective มีตัวย่อคือ Adj. ทำหน้าที่ขยายคำนามหรือสรรพนามที่อยู่ในประโยค คำนามหรือสรรพนาม ณ ที่นี้ ก็คือ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ นั่นเองค่า นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ขยายในที่นี้เพื่อบอกให้รู้ว่าคำนามหรือสรรพนามเหล่านั้นมีลักษณะยังไง และในบทนี้ครูจะพาไปดูการใช้คำคุณศัพท์บอกลักษณะและความรู้สึก (Descriptive Adjective) กันนะคะ ไปลุยกันเลย การใช้คำคุณศัพท์ (Adjective) หลักการคูณทศนิยม พร้อมตัวอย่างที่เข้าใจง่าย บทความนี้จะพาน้อง ๆมาทำความเข้าใจกับหลักการคูณทศนิยมในแต่ละรูปแบบ พร้อมทั้งอธิบายหลักการและยกตัวอย่างวิธีคิดในแต่ละรูปแบบของการคูณทศนิยม ให้น้อง ๆสามารถนำไปปรับใช้กับการหาคำตอบจากแบบฝึกหัดในห้องเรียนได้จริง ตัวบ่งปริมาณและค่าความจริงของตัวบ่งปริมาณ ตัวบ่งปริมาณ ตัวบ่งปริมาณ คือ สัญลักษณ์หรือข้อความที่เมื่อเราเอาไปเติมใน “ประโยคเปิด” แล้วจะทำให้ประโยคนั้นกลายเป็นประพจน์ ประโยคเปิด คือประโยคบอกเล่าหรือปฏิเสธที่ติดค่าตัวแปรที่ยัง “ไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือเท็จ” โดยตัวแปรนั้นเป็นสมาชิกของเอกภพสัมพัทธ์ (Universe : U) ประโยคเปิด ยังไม่ใช่ประพจน์ (แต่เกือบเป็นแล้ว) เพราะเรายังไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือเท็จ เช่น “x มากกว่า 3” จะเห็นว่าตัวแปร คือ x ซึ่งเราไม่รู้ว่า x การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ บทความนี้ได้รวบรวมความรู้เรื่อง การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ ซึ่งได้กล่าวถึงในลักษณะของความหมายและยกตัวอย่างประกอบ และอธิบายอย่างละเอียด ซึ่งก่อนจะเรียนเรื่อง การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ น้องๆสามารถทบทวน ความน่าจะเป็น ได้ที่ ⇒⇒ ความน่าจะเป็น ⇐⇐ การทดลองสุ่ม การทดลองสุ่ม คือ การทดลองซึ่งทราบว่าผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นอาจจะเป็นอะไรได้บ้าง แต่ไม่สามารถบอกได้อย่างถูกต้องแน่นอนว่าในแต่ละครั้งที่ทำการทดลอง ผลที่เกิดขึ้นจากการทดลองจะเป็นอะไรในบรรดาผลลัพธ์ที่อาจเป็นไปได้เหล่านั้น เช่น การโยนเหรียญซึ่งมีผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นได้ 2 แบบ คือ หัวหรือก้อย เมื่อโยนเหรียญ ส่วน 10 หรือ ส่วน 1000 แปลงเป็นทศนิยมกันได้หมดถ้าสดชื่น! จากบทความที่แล้วเราได้ทราบความสัมพันธ์ของเศษส่วนและทศนิยมไปแล้ว เชื่อว่าน้อง ๆหลายคนคงเกิดคำถามในใจว่า แล้วถ้าเจอเศษส่วนที่ตัวส่วนไม่ใช่ 10, 100 หรือ 1000 ต้องทำอย่างไร บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยพร้อมกับแสดงวิธีคิดที่ทำให้น้อง ๆต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ง๊ายง่าย! โต้วาที และยอวาที แต่งต่างกันอย่างไร? การพูดมีมากมายหลายประเภท แล้วแต่จุดประสงค์ของผู้พูดว่าต้องการจะสื่อสารออกมาในรูปแบบใด แต่จะมีอยู่ประเภทหนึ่งที่มีหัวข้อให้พูดและต้องแบ่งออกเป็นสองฝ่าย โดยไม่ได้มีเจตนาเพื่อมาทะเลาะกัน เพราะเรากำลังหมายถึงการพูดโต้วาทีและการยอวาที ที่เป็นการพูดแสดงความคิดเห็นในลักษะที่ต่างกัน แต่จะต่างกันอย่างไรบ้างนั้น เราไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ การโต้วาที การโต้วาที เป็นการแสดงความคิดเห็นโต้แย้งด้วยเหตุผลเพื่อให้ชนะอีกฝ่าย โดยจะแบ่งผู้พูดออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายญัตติและฝ่ายคัดค้านญัตติ และมีกรรมการคอยตัดสินว่าจะให้ฝ่ายใดชนะ โดยแต่ละฝ่ายจะต้องมีข้อมูลเพื่อมาสนับสนุนการพูดของตัวเอง หักล้างแนวคิดของอีกฝ่ายและต้องมีปฏิภาณไหวพริบ องค์ประกอบของการโต้วาที |