บันไดเสียงเมเจอร์ อาจอยู่ในบทเพลงที่คุณชอบเล่น ท่วงทำนองที่คุณชอบร้อง เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ถูกสร้างมาจากบันไดเสียงทั้งนั้น มันอาจจะเป็นสิ่งที่คุณคุ้นเคยที่สุดก็ได้ เพราะทุกคนต้องเคยฟังเพลง ทุกคนต้องเคยร้องเพลง เพียงแต่คุณอาจจะยังไม่รู้ว่าท่วงทำนองเหล่านั้น คือ ส่วนของบันไดเสียงที่ถูกนำมาร้อยเรียงกันให้เกิดเป็นความไพเราะงดงาม Show
ดังนั้นทฤษฎีดนตรีสากลเบื้องต้นในบทเรียนนี้ จะเป็นการปูพื้นฐานเรื่องบันไดเสียงเบื้องต้น เพื่อทำให้คุณเข้าใจถึงโครงสร้างของบันไดเสียงที่ใช้กันส่วนมากในทางดนตรี 3 บันไดเสียง ที่นักดนตรีควรรู้บันไดเสียง (Scale) คือ กลุ่มของตัวโน้ตตั้งแต่ 5 – 12 ตัว ที่เรียงกันเป็นขั้นๆ เหมือนขั้นบันได ไม่ว่าจะเป็นการเรียงโน้ตจากสูงไปต่ำหรือจากต่ำไปสูง ในทำนองเพลงป๊อปที่เราได้ยินและคุ้นเคย ส่วนมากจะใช้บันไดเสียง 3 บันไดเสียงนี้ คือ
บันไดเสียงเมเจอร์ Major Scale“โด เร มี ฟา โซ ลา ที โด” คุ้นๆกันหรือไม่ครับ นี่แหละครับที่เขาเรียกว่า บันไดเสียง (Scale) ง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน การไล่ Scale จะต้องเริ่มจากโน้ตตัวแรกและซ้ำที่โน้ตตัวแรกอีกครั้ง ดังนี้ C D E F G A B C เพื่อให้ครบ 1 ช่วงคู่แปด (Octave) การพิจารณาว่าบันไดเสียงใดเป็นบันไดเสียงเมเจอร์นั้นต้องดูที่โครงสร้าง ของระยะห่างของโน้ตที่เรียงกัน ดังนี้
ตัวอย่าง: บันไดเสียง C เมเจอร์ C _ D _ E ̬ F _ G _ A _ B ̬ C ข้อสังเกต: โน้ต E-F และ B-C มีระยะห่างกันครึ่งเสียงเสมอ ในตัวอย่างบันไดเสียง C เมเจอร์ โน้ตในลำดับที่ 3-4 และ 7-8 มีระยะห่างครึ่งเสียง ส่วนโน้ตลำดับอื่นมีระยะห่างกัน 1 เสียงเต็ม ตามโครงสร้างของบันไดเสียงเมเจอร์ ตัวอย่าง: บันไดเสียง G เมเจอร์ G _ A _ B ̬ C _ D _ E ̬ F _ G ในตัวอย่างนี้จะเห็นว่าโน้ตในลำดับที่ 3-4 มีระยะห่างกันครึ่งเสียงถูกต้องแล้ว แต่โน้ตในลำดับที่ 7-8 ยังมีระยะห่างกัน 1 เสียงเต็ม และโน้ตในลำดับที่ 6-7 มีระยะห่างกันครึ่งเสียง ตามโครงสร้างของบันไดเสียงเมเจอร์โน้ตลำดับที่ 3-4 และ 7-8 ต้องมีระยะห่างกันครึ่งเสียงเท่านั้น และโน้ตในลำดับอื่นๆจะต้องมีระยะห่างกัน 1 เสียงเต็ม วิธีทำ: การปรับโครงสร้างของบันไดเสียงให้ตรงกับโครงสร้างของบันไดเสียงเมเจอร์นั้น จำเป็นต้องใช้เครื่องหมายแปลงเสียงเข้ามาช่วย ในตัวอย่างบันไดเสียง G เมเจอร์นี้ เราจะต้องใส่เครื่องหมายชาร์ป ที่โน้ตตัว F เพื่อทำให้โน้ต F เสียงสูงขึ้นครึ่งเสียง จะทำให้โน้ตในลำดับที่ 6-7 มีระยะห่างกัน 1 เสียงเต็มพอดี และโน้ตในลำดับที่ 7-8 มีระยะห่างกัน ครึ่งเสียง ดังนี้ G _ A _ B ̬ C _ D _ E _ F♯ ̬ G ตัวอย่าง: บันไดเสียง F เมเจอร์ F _ G _ A _ B ̬ C _ D _ E ̬ F โน้ตในลำดับที่ 3-4 ต้องมีระยะห่างกัน ครึ่งเสียง และโน้ตในลำดับที่ 4-5 ต้องมีระยะห่างกัน 1 เสียงเต็ม วิธีทำ: ใส่เครื่องหมายแฟล็ต ที่โน้ตตัว B เพื่อทำให้โน้ตลำดับที่ 3-4 มีระยะห่างกันครึ่งเสียง และโน้ตในลำดับที่ 4-5 มีระยะห่างกัน 1 เสียงเต็ม ดังนี้ F _ G _ A ̬ B♭ _ C _ D _ E ̬ F บันไดเสียงไมเนอร์ Minor Scaleบันไดเสียงไมเนอร์ มีความคล้ายกันกับบันไดเสียงเมเจอร์ เพียงแต่บันไดเสียงไมเนอร์จะให้ความรู้สึกเศร้ากว่าบันไดเสียงเมเจอร์ แน่นอนโครงสร้างของบันไดเสียงไมเนอร์ก็ต่างจากบันไดเสียงเมเจอร์ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้บันไดเสียงไมเนอร์ยังแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผู้แต่งเพลง ที่จะเลือกใช้ ซึ่งได้แก่
ทั้ง 3 บันไดเสียงนี้ อาจจะทำให้สับสนในบทเรียนทฤษฎีดนตรีสากลเบื้องต้นนี้ เราจึงอยากให้ศึกษาบันไดเสียงไมเนอร์แบบเนเชอรัล (Natural minor scale) ก่อน เมื่อคล่องแล้วจึงค่อยศึกษาบันไดเสียงไมเนอร์ประเภทอื่นต่อในระดับที่สูงขึ้น โครงสร้างของบันไดเสียงไมเนอร์แบบเนอเชอรัลโครงสร้างของบันไดเสียงไมเนอร์แบบเนเชอรัลต่างจากโครงสร้างของบันไดเสียงเมเจอร์ กล่าวคือ บันไดเสียงเมเจอร์โน้ตในลำดับ 3-4 และ 7-8 มีระยะห่างกันครึ่งเสียง แต่สำหรับโครงสร้างของบันไดเสียงไมเนอร์แบบเนเชอรัลลำดับโน้ตที่มีระยะห่างกันครึ่งเสียงจะอยู่ในลำดับที่ 2-3 และ 5-6 ดังตัวอย่าง ตัวอย่าง: บันไดเสียง A ไมเนอร์แบบเนเชอรัล A _ B ̬ C _ D _ E ̬ F _ G _ A โน้ตในลำดับที่ 2-3 และ 5-6 มีระยะห่างกันครึ่งเสียงตรงตามโครงสร้างของบันไดเสียงไมเนอร์แบบเนเชอรัล ดังนั้นจึงไม่ต้องใส่เครื่องหมายแปลงเสียง ตัวอย่าง: บันไดเสียง E ไมเนอร์แบบเนเชอรัล E ̬ F _ G _ A _ B ̬ C _ D _ E โน้ตในลำดับที่ 2-3 มีระยะห่างกัน 1 เสียงเต็ม แต่ในขณะที่โน้ตในลำดับที่ 1-2 มีระยะห่างกันครึ่งเสียง ในโครงสร้างของบันไดเสียงไมเนอร์แบบเนเชอรัลโน้ตในลำดับที่ 2-3 และ 5-6 ต้องมีระยะห่างครึ่งเสียง วิธีทำ: ใส่เครื่องหมายชาร์ป ที่โน้ต F เพื่อทำให้ E-F♯ มีระยะห่างกัน 1 เสียงเต็ม และ F♯-G มีระยะห่างกันครึ่งเสียง ตรงตามโครงสร้างของบันไดเสียงไมเนอร์แบบเนเชอรัล ดังนี้ E _F♯ ̬ G _ A _ B ̬ C _ D _ E บันไดเสียงเพนทาโทนิก Pentatonic scaleบันไดเสียงเพนทาโทนิก เป็นบันไดเสียงที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการเพลงป๊อปปัจจุบัน เพราะ ง่ายต่อการนำไปใช้เนื่องจาก บันไดเสียงเพนทาโทนิก ได้ตัดเอาโน้ตที่มีระยะห่างกันครึ่งเสียงออกไป ทำให้บทเพลงมีอิสระมากขึ้น บันไดเสียงเพนทาโทนิกมี 2 ประเภท คือ
บันไดเสียงเมจอร์เพนทาโทนิก VS บันไดเสียงเมเจอร์บันไดเสียง C เมเจอร์: C _ D _ E ̬ F _ G _ A _ B ̬ C วิธีสร้างบันไดเสียง C เมเจอร์เพนทาโทนิก โดยการตัดโน้ตที่มีระยะห่างกันครึ่งเสียงออก ดังนี้ C _ D _ E ̬ F _ G _ A _ B ̬ C บันไดเสียง C เมเจอร์เพนทาโทนิก C _ D _ E ̬ _ G _ A _ ̬ C บันไดเสียง G เมเจอร์: G _ A _ B ̬ C _ D _ E _ F♯ ̬ G วิธีสร้างบันไดเสียง G เมเจอร์เพนทาโทนิก โดยการตัดโน้ตที่มีระยะห่างกันครึ่งเสียงออก ดังนี้ G _ A _ B ̬ C _ D _ E _ F♯ ̬ G บันไดเสียง G เมเจอร์เพนทาโทนิก G _ A _ B ̬ _ D _ E _ ̬ G บันไดเสียงไมเนอร์เพนทาโทนิก VS บันไดเสียงไมเนอร์บันไดเสียง A ไมเนอร์: A _ B ̬ C _ D _ E ̬ F _ G _ A วิธีสร้างบันไดเสียง A ไมเนอร์เพนทาโทนิก โดยการตัดโน้ตที่มีระยะห่างกันครึ่งเสียงออก ดังนี้ A _ B ̬ C _ D _ E ̬ F _ G _ A บันไดเสียง A ไมเนอร์เพนทาโทนิก A _ ̬ C _ D _ E ̬ _ G _ A บันไดเสียง E ไมเนอร์: E _F♯ ̬ G _ A _ B ̬ C _ D _ E วิธีสร้างบันไดเสียง E ไมเนอร์เพนทาโทนิก โดยการตัดโน้ตที่มีระยะห่างกันครึ่งเสียงออก ดังนี้ E _F♯ ̬ G _ A _ B ̬ C _ D _ E บันไดเสียง E ไมเนอร์เพนทาโทนิก E _ ̬ G _ A _ B ̬ _ D _ E ทบทวนบทเรียน บันไดเสียงเบื้องต้น
สิ่งที่ต้องจำ:ในการศึกษาเรื่องบันไดเสียงนั้น สิ่งที่จะต้องจดจำให้ดีคือ จดจำโครงสร้างของบันไดเสียงแต่ละประเภทให้ได้ เพื่อสามารถนำโครงสร้างนั้นมาสร้างบันไดเสียงต่างๆ ได้เอง สิ่งที่จำเป็นที่ต้องรู้ก่อนการเรียนบันไดเสียง คือ การอ่านโน้ตด้วยระบบตัวอักษร และ เครื่องหมายแปลงเสียง ในบทเรียนต่อไปคุณจะได้เรียนรู้เรื่อง ขั้นคู่เสียงเบื้องต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่นักดนตรีควรศึกษาเพื่อเป็นประโยชน์ในการนำไปพัฒนาทักษะในการเล่นเครื่องดนตรีต่อไป ยุคสมัยใดมีการเริ่มใช้เสียงเมเจอร์ และ ไมเนอร์เป็นยุคของดนตรีในระหว่างศตวรรษที่17-18 (ราว ค.ศ. 1600-1750) การสอดประสาน เป็นลักษณะที่พบได้เสมอในปลายยุค ช่วงต้นยุคมีการใช้ลักษณะกำรใส่เสียงประสำน (Homophony)เริ่มนิยมการใช้เสียงเมเจอร์ และไมเนอร์ แทนการใช้โหมดต่างๆ การประสานเสียงมีหลักเกณฑ์เป็นระบบ มีกำรใช้เสียงหลัก (Tonal canter) อัตราจังหวะเป็นสิ่งส าคัญ ของบทเพลง ...
การคิดค้นบันไดเสียงเกิดขึ้นในยุคใดPercy A scholes (อ้างถึงใน นพพร ด่านสกุล,2541:10) ได้กล่าวถึงการก่อเกิดบันไดเสียงในดนตรีตะวันตกไว้อย่างน่าสนใจ สรุปความว่า ในราวประมาณ 550 ปีก่อนคริสตกาล Pythagoras ได้ค้นพบวิธีคิดการใช้มาตรวัดเชิงคณิตศาสตร์กับดนตรีได้เป็นคนแ รก โดยใช้เส้นลวดเป็นอุปกรณ์การทดลอง ซึ่งทำให้เขาพบว่าเสียงที่เกิดจากการดีดเส้นลวดจะทีการ ...
นักปราชญ์ทางดนตรีแบ่งดนตรีออกเป็นกี่ยุค อะไรบ้างเรียนรู้เรื่องยุคสมัยของดนตรีสากล. ยุคกลาง ... . ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ... . ยุคบาโรก ... . ยุคโรโคโค ... . ยุคคลาสสิก ... . ยุคโรแมนติก ... . ยุคศตวรรษที่ 20 ถึงปัจจุบัน. ดนตรีที่มุ่งถ่ายทอดอารมณ์ของผู้ประพันธ์เป็นอย่างมาก คือ ยุคสมัยใดสมัยโรแมนติก เป็นยุคของดนตรีคลาสสิกในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 (ค.ศ. 1810–1910) ซึ่งเน้นอารมณ์ของดนตรีมากกว่าความสมดุลของบทตอน และเน้นความเป็นตัวตนของคีตกวีมากกว่ากฎเกณฑ์ทางดนตรีที่มีมาแต่เดิม
|