กล่าวความรู้สึกที่มีต่อสถาบัน

เขียนตามคำขอของคุณอรเพ็ญ  ตัดต่อแต่งเติมเสริมเองนะครับ

กราบเรียน  ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวังเมาวิทยา  คุณครู คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาและแขกผู้มีเกียรติ  ที่เคารพรักทุกท่าน  สวัสดีเพื่อน ๆ และน้อง ๆ ทุกคน

ดิฉันนางสาวอรทัย  สวยบาดตา   รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนนักเรียนที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประจำปีการศึกษา  2559   ให้เป็นตัวแทนกล่าวแสดงความรู้สึกและข้อคิดเห็นเนื่องในงานเลี้ยงส่งนักเรียนที่เรียนจบในครั้งนี้

สิบสองปีที่พวกเราได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ เป็นสิบสองปีแห่งการเรียนรู้ที่พวกเราภูมิใจและประทับใจมากที่สุด  เพราะการเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ทำให้พวกเราได้เป็นเพื่อนกัน ได้เป็นลูกศิษย์ของคุณครูที่ดีที่สุด เก่งที่สุด รักและหวังดีต่อพวกเรามากที่สุด  ทำให้พวกเราได้รับทั้งความรู้และประสบการณ์ที่จะนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ไปประกอบอาชีพ และไปเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น เป็นสิบสองปีแห่งความทรงจำทีดีที่สุดของพวกเราที่จะไม่มีวันลบเลือนไปจากใจ  งานเลี้ยงวันนี้รู้สึกเป็นเกียรติ ภูมิใจและดีใจเป็นอย่างยิ่ง  แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกใจหายเพราะต้องพลัดพรากจากกันไป  คงมีโอกาสได้พบกันอีกเพียงในความฝันเท่านั้น     ออกจากโรงเรียนไปวันนี้  พวกเราไม่มีอะไรจะมอบให้เป็นการตอบแทน  เพราะชีวิตของพวกเรายังต้องพึ่งพาอาศัยพ่อแม่และผู้ปกครองต่อไปอีกหลายปี  พวกเรามีหนี้บุญคุณที่ยังไม่ได้ทดแทนอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนความแค้น ความผิดหวัง ความเสียใจ ความทุกข์ ความโศกเศร้า และความไม่ดีทั้งหลาย  พวกเราได้จับพวกมันใส่กระทงลอยคงคาในวันเพ็ญเดือนสิบสองหมดแล้วค่ะ  พวกเรามีคำมั่นสัญญาจากใจที่จะมอบให้ว่า  วันหนึ่งเมื่อพวกเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่  มีงานทำ มีรายได้ และพึ่งตัวเองได้แล้ว  พวกเราจะกลับมาตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ  และทุกครั้งที่มีงานบุญผ้าป่าการศึกษาของโรงเรียน  พวกเราจะกลับมาช่วยงาน  สำหรับเพื่อน ๆ ทุกคน ขออย่าได้ลืมคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ต่อกันว่า  เราจะไม่ทิ้งกัน  นะคะ  ส่งข่าว ส่งยิ้ม ส่งรัก ส่งลายน์และฝันถึงกันบ้างนะคะ

กราบขอบพระคุณท่านผู้อำนวยการโรงเรียนและคุณครูทุกท่าน  ที่ตั้งใจอบรมสั่งสอนพวกเราด้วยความรักและเอื้ออาทรเสมือนหนึ่งพวกเราเป็นลูกหลาน  ตั้งใจถ่ายทอดวิชาความรู้ให้โดยไม่ปิดบังอำพราง กราบขอบพระคุณ คุณพ่อ คุณแม่และผู้ปกครองที่กรุณาทุมเทเสียสละเพื่อพวกเรามาโดยตลอด  และกราบขอบพระคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมจัดงานวันอำลาสถาบันให้แก่พวกเราในครั้งนี้

หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พวกเราได้ล่วงเกินผู้มีพระคุณทั้งหลาย ด้วยกาย วาจาและใจ  ทั้งต่อหน้าและลับหลัง  ทั้งโดยเจตนาและไม่ได้เจตนา  ต้องกราบขออภัยทุกท่านเป็นอย่างมากไว้ ณ โอกาสนี้

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย  ตลอดถึงคุณความดีที่พวกเราได้ทำร่วมกันมา  ได้โปรดดลบันดาลให้ท่าน ผอ. คุณครู คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง ท่านผู้มีเกียรติ เพื่อน ๆ และน้อง ๆ ทุกคน  จงประสบแต่ความสุขความเจริญยิ่งขึ้น  และขอให้การจัดงานเลี้ยงอำลาสถาบันวันนี้ เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความรักความผูกพันมั่นคงยืนยาวระหว่างกันตลอดไป และขอให้เพื่อน ๆ ทุกคนจงโชคดี ประสบความสำเร็จดั่งตั้งใจ  ได้ มี เป็น เช่นที่ฝันไว้ทุกประการ  ได้กลับมาตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูอาจารย์   และกลับมาพัฒนาโรงเรียนบ้านวังเมาวิทยาร่วมกันในวันข้างหน้า

กราบลาทุกท่านค่ะ

สวัสดีค่ะ

“วันที่ทุกคนกำลังปลื้มปริ่มกับความสำเร็จแต่ก็เป็นวันเดียวกันที่ทุกคนต้องโบยบินออกจากบ้านที่แสนอบอุ่น ซึ่งเราเองได้เคยใช้เวลาช่วงหนึ่งของชีวิตท่ามกลางผู้คนที่ช่วยประคับประคองให้กำลังใจ”

        วันแห่งความสำเร็จของบัณฑิตหมุนเวียนมา บรรยากาศแห่งความความปลื้มปิติเกิดขึ้นอีกครั้งเป็นช่วงเวลาที่ชาวมหาวิทยาลัยขอนแก่น ทั้งครูอาจารย์ เพื่อนๆและรุ่นน้องต่างรู้สึกมีความสุขไปกับผู้ที่สำเร็จการศึกษา ผู้ที่เข้ามาในพื้นที่มหาวิทยาลัยในช่วงเวลานี้จะพบเห็นป้ายแสดงความยินดีและการประดับตกแต่งสถานที่อย่างสวยงามเพื่อแทนความรู้สึกของทุกคนที่มีต่อบัณฑิตกว่า 8 พันคนในวันพิเศษเช่นนี้ อีกทั้งรอการกลับมาเก็บภาพความทรงจำให้กับเหล่าบัณฑิตกับเพื่อนๆและครูอาจารย์อันเป็นที่รักเคารพของพวกเขา

กล่าวความรู้สึกที่มีต่อสถาบัน

        มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำอันที่ยอมรับในเรื่องการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพตลอดจนการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันชื่อเสียงของสถาบันแห่งนี้ในอีกด้านที่เป็นแรงดึงดูดให้นักเรียนจำนวนมากตลอดจนพ่อแม่ผู้ปกครองปรารถนาที่จะได้โอกาสให้ลูกๆของตนได้มาเรียนที่นี่ คือบรรยากาศทางการศึกษาที่ให้ความอบอุ่นใกล้ชิดให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ที่มีครูอาจารย์ทำหน้าที่เสมือนพ่อแม่ดูแลลูกหลาน คอยส่งเสริมการเรียนรู้แนะแนวทางสู่ความสำเร็จทั้งด้านการศึกษาและการปรับตัวใช้ชีวิต จึงเป็นภาพจำที่อยู่ใจของนักศึกษาหลายคนติดตรึงมาแม้วันที่สำเร็จการศึกษาออกไป

กล่าวความรู้สึกที่มีต่อสถาบัน

        รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและรองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ได้เคยย้ำถึงนโยบายในการดูแลนักศึกษาของตนเองว่า “มหาวิทยาขอนแก่นให้ความสำคัญและความห่วงใยต่อนักศึกษาของเราเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะอธิการบดีและคณะผู้บริหารที่ให้การสนับสนุนเพื่อให้นักศึกษาทุกคนได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้อย่างเต็มที่และใช้ชีวิตในสถาบันแห่งนี้อย่างมีคุณภาพและมีความสุข” ด้วยแนวนโยบายที่เปี่ยมด้วยความรักและความอาทรที่มีต่อนักศึกษาดังกล่าวทำให้บัณฑิตที่ก้าวออกไปจากรั้วมอดินแดงต่างรู้สึกรักและผูกพันกับสถาบันแห่งนี้เสมือนบ้านที่เคยได้อาศัยพักพิงอย่างอบอุ่น

กล่าวความรู้สึกที่มีต่อสถาบัน
นางสาว อัยยา เชียงพฤกษ์ บัณฑิตจากคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

       นางสาว อัยยา เชียงพฤกษ์ บัณฑิตจากคณะเกษตรศาสตร์ที่กำลังจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในปีนี้กล่าวแสดงความรู้สึกต่อช่วงเวลาดีๆในชีวิต 4 ปีที่ผ่านมาว่า “การได้มาเรียนในมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่เป็นเป้าหมายแรกที่เราวาดฝันไว้คือความภาคภูมิใจแรกเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาเพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่ใครหลายๆคนอยากได้โอกาสนี้เช่นกัน จนวันนี้เราได้สำเร็จการศึกษาตามที่ตั้งใจคือความภูมิใจอีกครั้งในฐานะบัณฑิตจากสถาบันการศึกษาที่ดี เป็นสถานที่ๆทำให้เราเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเกิดมุมมองที่หลากหลายแง่มุมอันจากสิ่งที่ได้เรียนรู้ มองเห็นเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจนมากขึ้น สิ่งที่ได้รับและเป็นความประทับใจคือมิตรภาพจากเพื่อนๆซึ่งเป็นคณะที่มีความรักสามัคคีกันมากช่วยเหลือกันจนจบการศึกษา อีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นความประทับใจอย่างยิ่งคือความใกล้ชิดอบอุ่นและความเป็นกันเองของอาจารย์การให้คำปรึกษาทุกเรื่องช่วยให้เราผ่านพ้นอุปสรรคปัญหาจนถึงวันนี้”
         “ถ้าตนเองก้าวไปสู่ความสำเร็จในชีวิตอยากกลับมาเพื่อให้แนวทางหรือแนะแนวน้องๆ พร้อมให้คำปรึกษาเพราะนึกถึงก้าวแรกที่เราเข้ามาที่นี่ก็ได้คำแนะนำดีๆมาก่อน อยากให้น้องๆได้มีโอกาสก้าวสู่ความสำเร็จเช่นเดียวกับที่ตนเองเคยได้รับ” นางสาว อัยยา เชียงพฤกษ์ กล่าว

        สิ่งที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นมอบให้กับสมาชิกทุกคนในบ้านคือโอกาสของการเรียนรู้ในทุกมิติภายใต้การสนับสนุนส่งเสริมที่มีเป้าหมายหลักคือการสร้างทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพพร้อมเพื่อที่ทำงานให้กับสังคมจากหัวใจที่ดีงามซึ่งถูกหล่อหลอมและขัดเกลาด้วยความตั้งใจ

กล่าวความรู้สึกที่มีต่อสถาบัน
นางสาว ภัสนภา มีรัตน์ และ นางสาว ปวีณา นาสูงชน บัณฑิตจากวิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น

       นางสาว ภัสนภา มีรัตน์ บัณฑิตจากวิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น เล่าให้เราฟังว่า ช่วงเวลาของการได้มาเรียนในมหาวิทยาลัยขอนแก่นถือเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก แม้วิทยาเขตจะเป็นสถาบันเล็กๆแต่เราได้มีเพื่อนมากมาย และพบกับอาจารย์ที่คอยให้การดูแลสนับสนุน การเรียนการสอนที่มีอาจารย์ใส่ใจให้โอกาสในการเข้าหาเพื่อขอคำปรึกษาแบบตัวต่อตัวอย่างเป็นกันเองทำให้เรามีความมั่นใจ ส่วนการได้รู้จักเพื่อนจากทั้งที่ได้เรียนด้วยกันและการทำกิจกรรมเสริมประสบการณ์ที่เลือกทำงานกิจกรรมสโมสรและพี่เลี้ยงน้องใหม่ เป็นเวลาที่สร้างความอบอุ่นใจมีคนคอยให้กำลังใจเวลาที่ท้อถอยล้วนเป็นปัจจัยของความสำเร็จในวันนี้
        “ภูมิใจที่ได้เป็นบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ๆให้ความรู้ประสบการณ์และเพื่อนที่ดี วันหนึ่งที่มีความพร้อมยินดีที่จะให้การสนับสนุนส่งเสริมน้องๆและมหาวิทยาลัยในสิ่งที่ตนเองสามารถทำได้”นางสาว ภัสนภา มีรัตน์

กล่าวความรู้สึกที่มีต่อสถาบัน

        นางสาว ปวีณา นาสูงชน บัณฑิตจากวิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น รู้สึกภาคภูมิใจมากที่ได้เรียนและจบจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่เราและพ่อแม่ตั้งใจให้เราได้มาเรียนในมหาวิทยาลัยที่ดีของภาคอีสาน ซึ่งกว่าที่เราจะเรียนจนจบได้ต้องใช้ความพยายามตั้งใจเพื่อให้มาถึงวันแห่งความสำเร็จเราก็ภูมิใจในความสำเร็จที่เราสามารถไขว่คว้ามาได้ แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จยังมีเรื่องของเพื่อนๆที่ช่วยเหลือประคับประคองกันมา ทั้งการเรียน การใช้ชีวิต การทำงาน เชื่อว่าความสำเร็จที่ได้รับนอกจากตัวเราที่ภาคภูมิใจแล้วยังมีพ่อแม่และคนรอบข้างที่ร่วมยินดี มหาวิทยาลัยขอนแก่นเรามีจุดเด่นหลายด้าน แต่สิ่งที่เด่นชัดมากในสายตาของนักศึกษาคือความเป็นกันเองและใส่ใจที่อาจารย์มีให้ต่อนักศึกษา นอกจากนั้นคือความรักความอบอุ่นของเพื่อนๆที่มีให้แก่กันภายในสถาบัน

        นอกจากความรู้และประสบการณ์ในวิชาชีพแล้วยังมีอีกบางสิ่งที่มหาวิทยาลัยได้ปลูกฝังลงไว้ในใจของทุกคนคือความเอื้ออาทรและการสำนึกในบุญคุณต่อทุกสิ่งที่ตนเองได้รับมา ซึ่งรวมถึงสถาบันการศึกษาที่ตนเคยได้รับการประสิทธิ์ประสาทวิชา จนเสมือนคำสัญญาของการกลับมาอีกสักครั้ง

กล่าวความรู้สึกที่มีต่อสถาบัน
นาย พีรดนย์ กุลเดชปริยวิศว์ บัณฑิตจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

        นาย พีรดนย์ กุลเดชปริยวิศว์ บัณฑิตจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาคภูมิใจมากที่ได้เป็นบัณฑิตของมหาวิทยาลัยขอนแก่นซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ ที่เป็นศูนย์รวมของคณะวิชามากมายให้เลือกมาศึกษาหาความรู้ นักศึกษามีขอบเขตการเรียนรู้ที่กว้างและมีเทคโนโลยีอุปกรณ์เครื่องมือที่พร้อมสรรพให้ใช้ค้นคว้าหาความรู้ เพื่อนำไปต่อยอดในอนาคตได้ ในอีกด้านที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยที่อบอุ่นมากอันมาจากการดูแลที่ดีของครูอาจารย์และการช่วยเหลือกันของเพื่อนๆ
        “ผมพร้อมที่จะให้การสนับสนุนมหาวิทยาลัยขอนแก่นในฐานะเป็นสถาบันการศึกษาที่ให้ความรู้ประสบการณ์และอนาคต อยากช่วยเหลือน้องๆให้มีโอกาสในการศึกษา และส่งเสริมให้ได้เข้ามาเรียนในที่แห่งนี้ ทั้งเรื่องอุปกรณ์การศึกษาหรือทุนการศึกษาในสิ่งที่ผมช่วยเหลือได้ในวันข้างหน้า”นาย พีรดนย์ กุลเดชปริยวิศว์ กล่าว

        วันที่ทุกคนกำลังปลื้มปริ่มกับความสำเร็จแต่ก็เป็นวันเดียวกันที่ทุกคนต้องโบยบินออกจากบ้านที่แสนอบอุ่น ที่เราเองได้เคยใช้เวลาช่วงหนึ่งของชีวิตท่ามกลางผู้คนที่เคยช่วยประคับประคองให้กำลังใจจนมาถึงหลักชัยแรกของชีวิต ห้วงเวลาได้เปลี่ยนผ่านจากการเป็นนักศึกษาไปสู่บัณฑิตที่ถึงพร้อมด้วยความรู้และประสบการณ์ แต่ยังคงโยงใยสายสัมพันธ์ในฐานะศิษย์เก่าแห่งรั้วมอดินแดงเช่นเดียวกับผู้ที่เดินทางล่วงมาก่อนนี้ ซึ่งได้นำความรู้ประสบการณ์ไปใช้เพื่อการพัฒนาและสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามให้กับสังคมในหลายด้านโดยไม่เคยลืมว่าที่นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีวันนี้

       รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า “สิ่งหนึ่งที่อยากฝากเป็นข้อคิดให้กับบัณฑิตทุกท่านในฐานะที่ตนเองก็เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยขอนแก่น และโชคดีที่ได้มีโอกาสมาทำงานให้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในขณะที่บัณฑิตหลายคนท่านออกไปทำงานในภาครัฐภาคเอกชนมากมาย สิ่งที่อยากจะฝากคือว่าเมื่อท่านประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วก็อย่าลืมสถาบันที่ทำให้ท่านมีวันนี้ คือทำให้ท่านมีความรู้ที่ไปประกอบอาชีพที่เป็นประโยชน์แก่ตนเองต่อครอบครัวและต่อสังคม ก็หวังว่าวันใดวันหนึ่งที่บัณฑิตมีความพร้อมท่านจะมองย้อนกลับมาที่สถาบันแห่งนี้ เพื่อหาโอกาสมาให้การช่วยเหลือน้องๆช่วยเหลือสถาบันเพื่อให้สถาบันได้พัฒนาเจริญก้าวหน้าต่อไป เพราะความสำเร็จของมหาวิทยาลัยก็จะนำมาซึ่งชื่อเสียงและความภาคภูมิใจของทุกคน”

กล่าวความรู้สึกที่มีต่อสถาบัน

อุดมชัย สุพรรณวงศ์ / เรียบเรียง