สินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันเป็นสินค้าประเภทใด

ภาพรวมและวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจ

บริษัท เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “KK”) จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2536 มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค โดยธุรกิจค้าปลีกเป็นการจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคผ่านร้านสาขาชื่อ “เค. แอนด์ เค. ซุปเปอร์ค้าส่ง” จำนวน 26 สาขา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดสงขลา พัทลุง และสตูล รวมถึงบริษัทฯ มีศูนย์กระจายสินค้าจำนวน 1 แห่งในจังหวัดสงขลา เพื่อรองรับการดาเนินธุรกิจค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค และเป็นสถานที่กระจายสินค้าให้แก่ร้านสาขาของบริษัทฯ ต่อมาในเดือนสิงหาคม 2562 บริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนชื่อร้านสาขาเป็น “เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์” ทั้งนี้ ด้วยการดำเนินธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในพื้นที่จังหวัดสงขลามาเป็นระยะเวลามากกว่า 27 ปี ทำให้บริษัทฯ มีความเข้าใจในวิถีการดำเนินชีวิตและความต้องการสินค้าของคนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี บริษัทฯ มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “ซื้อของครบ พบของถูก ถูกทุกวัน ที่ K&K ใกล้บ้านคุณ”

บริษัทฯ จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งเป็นสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่า 8,000 รายการ ในรูปแบบสินค้าปลีก สินค้าเป็นแพ็ค และสินค้าเป็นลัง เพื่อรองรับความต้องการสินค้าในรูปแบบต่างๆ ของลูกค้าที่มาซื้อสินค้าในร้านสาขา และลูกค้าค้าส่งที่ต้องการซื้อสินค้าไปเพื่อจำหน่ายต่อ ทั้งนี้ ลักษณะสินค้าของบริษัทฯ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ สินค้าอุปโภค และสินค้าบริโภค

ลักษณะสินค้าอุปโภคของบริษัทฯ

สินค้าอุปโภค

ประกอบด้วยสินค้า 5 หมวดดังนี้

  • ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือน ได้แก่ ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาอัดกลีบ เป็นต้น
  • ผลิตภัณฑ์ของใช้ประจำวัน ได้แก่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก เป็นต้น
  • ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวและเส้นผม ได้แก่ แชมพู ครีมอาบน้า สบู่ เป็นต้น
  • ผลิตภัณฑ์ด้านความงาม ได้แก่ แป้ง ครีมบำรุงผิว โคโลญจน์ เป็นต้น
  • ผลิตภัณฑ์ของใช้เด็กและผู้ใหญ่ ได้แก่ แปรงล้างขวดนม ผ้าอ้อมเด็ก ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ เป็นต้น

ลักษณะสินค้าบริโภคของบริษัทฯ

สินค้าบริโภค

ประกอบด้วยสินค้า 5 หมวดดังนี้

  • ผลิตภัณฑ์ชงดื่ม ได้แก่ ผงโกโก้ กาแฟ ครีมเทียม เป็นต้น
  • ผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่ง ได้แก่ นมผง นมข้นหวาน นม UHT เป็นต้น
  • ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ได้แก่ น้ำดื่ม น้ำอัดลม เครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ เป็นต้น
  • ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงและอาหารแห้ง ได้แก่ เครื่องปรุงรส น้ำมันพืช ข้าวสาร เป็นต้น
  • ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว ได้แก่ ขนมขบเคี้ยว หมากฝรั่ง ลูกอม เป็นต้น

FMCG คืออะไร?

FMCG คือ Fast Moving Consumer Goods หรือสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปที่มีการซื้อขายได้อย่างรวดเร็วและมีราคาถูกจากต้นทุนที่ต่ำ โดยทั่วไปสินค้า FMCG จะเป็นสินค้าที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของทุกคน และมักจะเป็นสินค้าประเภทที่ใช้แล้วหมดไป ทำให้ FMCG เป็นสินค้าประเภทที่สามารถขายได้เรื่อยๆ

ลักษณะทั่วไปของ สินค้า FMCG คือ สินค้าที่ขายได้ง่ายและขายได้เร็วขายเร็วที่ผู้บริโภคสามารถซื้อได้ง่ายจากราคาที่ไม่แพง (มักจะเป็นสินค้ามีต้นทุนการผลิตต่ำ) และเป็นสินค้าที่มีสินค้าทดแทนอยู่เป็นจำนวนมากในตลาด

ถ้าหากยังนึกภาพไม่ออก ภาพที่ง่ายที่สุดของ สินค้า FMCG (Fast Moving Consumer Goods) คือสินค้าที่เป็นสินค้าส่วนใหญ่ที่เราเห็นวางอยู่ในห้างสรรพสินค้าอย่าง Tesco Lotus และ BigC ที่ทุกคนต้องกินต้องใช้อยู่เป็นประจำ

ลักษณะของ Fast-moving Consumer Goods

สินค้าที่ขายง่ายขายเร็ว เพราะเป็นสินค้าที่คนทั่วไปจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันเป็นปกติ (และส่วนใหญ่ใช้แล้วหมดไป) ตัวอย่างเช่น สบู่ แชมพู ผงซักฟอก ยาพารา และเครื่องดื่ม เป็นต้น

สินค้ามีต้นทุนต่ำ ทำให้ราคาของสินค้า FMCG ไม่สูงมาก นอกจากนี้สินค้า FMCG มักจะเป็นสินค้าที่เน้นผลิตเป็นจำนวนมากเพื่อใช้ประโยชน์จาก Economies of Scale หรือการประหยัดต่อขนาด ที่ยิ่งผลิตมากยิ่งทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง

กลุ่มลูกค้ากว้างครอบคลุมทุกเพศทุกวัย ด้วยเหตุผลเดิมคือเป็นสินค้าที่ทุกคนต้องใช้ ทำให้ส่วนมากสินค้า FMCG (Fast Moving Consumer Goods) จำจับกลุ่มลูกค้าแบบ Mass Market หรือออกผลิตภัณฑ์มาตอบสนองครบทุกกลุ่มลูกค้า เช่น โฟมล้างหน้า ชาย หญิง และเด็ก

มีสินค้าทดแทนเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่สินค้า FMCG เป็นสินค้าธรรมดา ไม่มีนวัตกรรมที่พิเศษทำให้เป็นสินค้าที่สามารถผลิตได้ง่ายจึงทำให้ใครก็สามารถผลิตออกมาขายก็ได้

นอกจากนี้ด้วยความที่ FMCG คือสินค้าที่ลักษณะเหมือนกันไปหมดไม่ได้แตกต่างกันมาก ส่งผลให้ สินค้า FMCG คือ กลุ่มสินค้าที่มักจะแข่งขันกันอย่างดุเดือดผ่านการโฆษณามาโดยตลอด และมักจะเป็นกลุ่มสินค้าที่ใช้งบโฆษณาสูงที่สุดในแต่ละปี

เหตุผลมาจากการที่แบรนด์เหล่านี้ต้องการให้คนรู้จักและอยู่ในใจของลูกค้า เพราะสินค้ามีลักษณะและคุณสมบัติที่เหมือนกัน อีกทั้งยังมีราคาต่างกันไม่มาก สิ่งที่จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งได้ คือภาพจำที่อยู่ในหัวของลูกค้าเมื่อนึกถึงสินค้านั้นๆ

สินค้า FMCG มีอะไรบ้าง

สินค้า FMCG หรือ Fast Moving Consumer Goods คือฟังที่อาจฟังดูแล้วซับซ้อนหรือเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่จริงในความเป็นจริงสินค้า FMCG คือสินค้าที่คุณใช้บ่อย ๆ หรืออาจจะเพิ่งใช้มาก่อนที่คุณจะอ่านบทความนี้ก็ได้

ถ้าหากยังนึกไม่ออกว่า สินค้า FMCG มีอะไรบ้าง ลองดูตัวอย่างของ แบรนด์ FMCG ชื่อดังที่หลายคนน่าจะคุ้นเคย

  • Nestle
  • Pepsi
  • Coca-Cola
  • Procter & Gamble (P&G)
  • Unilever
  • Johnson & Johnson
  • L’Oreal
  • Shiseido
  • Sunsilk (เจ้าของก็คือ Unilever)
  • Heinz
  • Lays (เลย์)
  • Knorr (คนอร์)
  • Colgate
  • Ajinomoto

สำหรับสินค้าที่แบรนด์เหล่านี้ขายเกือบทุกสินค้าและเกือบทุกแบรนด์ย่อย สามารถเรียกได้ว่าเป็นสินค้าที่อยู่ในกลุ่ม FMCG หรือ Fast Moving Consumer Goods

นอกจากนี้ ถ้าหากสังเกตจากตัวอย่างและลักษณะของ FMCG ที่กล่าวไว้ในตอนต้น จะเห็นว่าสินค้าในกลุ่ม FMCG เป็นสินค้าที่ราคาค่อนข้างต่ำและเป็นสินค้าที่แทบไม่มีความแตกต่างกันเป็นผลให้กำไรต่อหน่วยค่อนข้างต่ำ ทำให้วิธีการที่จะทำกำไรเป็นกอบเป็นกำจากการขายสินค้า FMCG ได้นั้นก็คือการขายให้ได้ในจำนวนมาก ส่งผลให้สินค้าประเภท FMCG เป็นสินค้าประเภทที่มีการแข่งขันด้านราคาอย่างดุเดือด และมักจะลดราคาแข่งกัน

สรุป สินค้า FMCG หรือ Fast Moving Consumer Goods ก็คือสินค้าประเภทที่คนทั่วไปต้องกินต้องใช้อยู่ในชีวิตประจำวันและมักจะเป็นสินค้าที่ใช้แล้วหมดไป ส่งผลให้เป็นสินค้าที่สามารถขายได้ง่ายตามชื่อ Fast Moving Consumer Goods ที่ถึงแม้จะมีให้เลือกหลากหลายแบรนด์แต่ก็เป็นสินค้าประเภทที่มีความแตกต่างระหว่างแบรนด์ที่ต่ำ (เหมือน ๆ กันหมด)

Kris Piroj

บรรณาธิการ GreedisGoods | อดีตที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการเงิน | นักลงทุนที่สนใจในเศรษฐศาสตร์มหภาคและอนุพันธ์เป็นพิเศษ | หากบทความเป็นประโยชน์สามารถติดตามเราได้บน Facebook และ Twitter