มอเตอร์เป็นโหลดที่สำคัญในระบบไฟฟ้า ส่วนใหญ่จะมีมอเตอร์เป็นองค์ประกอบ เช่น เครื่องจักรในโรงงาน ปั๊มน้ำ เครื่องปรับอากาศ กล้องวงจรปิด cctv เป็นต้น มอเตอร์ที่ใช้งานทั่วไปมีตั้งแต่ขนาดเล็กพิกัดไม่กี่วัตต์ จนถึงขนาดใหญ่ และมีทั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ และมอเตอร์กระแสตรง ในการออกแบบวงจรมอเตอร์ เพื่อให้การใช้งานมอเตอร์เป็นไปอย่างปลอดภัย และเชื่อถือได้ และมีมาตรฐานควบคุมการออกแบบ และติดตั้งวงจรมอเตอร์ ส่วนประกอบของวงจรมอเตอร์ แบ่งออกเป็นส่วนต่าง ๆ ที่ผู้ออกแบบจะต้องพิจารณาหาค่าพิกัดเป็น 6 ส่วน คือ 1. สายไฟฟ้าวงจรย่อยมอเตอร์ 2. การป้องกันการลัดวงจรของวงจรย่อยมอเตอร์ 3. การป้องกันโหลดเกิน 4. เครื่องควบคุมมอเตอร์ 5. เครื่องปลดวงจรมอเตอร์ 6. วงจรควบคุมมอเตอร์ มอเตอร์ที่ใช้กันในปัจจุบันสามารถแบ่งตามหลักการทำงานได้ 3 ชนิด คือ 1. มอเตอร์เหนี่ยวนำ เป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุด มีความทนทาน ราคาถูก และไม่ต้องการบำรุงรักษามาก 2. มอเตอร์ซิงโครนัส เป็นมอเตอร์ชนิด 3 เฟส จะหมุนที่ความเร็วจำกัดค่าหนึ่ง เรียกว่า ความเร็วซิงโครนัส ตัวมอเตอร์ประกอบไปด้วยขดลวดอาร์เมเจอร์ และขดลวดสนาม 3. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง เป็นที่ใช้กับไฟฟ้ากระแสตรง โดยมีขดลวดสนามที่อยู่บนสเตเตอร์ และขดลวดอาร์เมเจอร์ที่อยู่บนโรเตอร์ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงมีข้อดีที่สามารถควบคุมความเร็วได้ดี และแรงบิดเริ่มเดินเครื่องสูง ฟิวส์ สำหรับใช้ในการป้องกันการลัดวงจรมอเตอร์ มี 2 ประเภท คือ 1. ฟิวส์ทำงานไว ใช้ในวงจรจำหน่ายทั่วไป ฟิวส์แบบนี้สามารถใช้กับวงจรมอเตอร์ได้ 2. ฟิวส์หน่วงเวลา ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับวงจรมอเตอร์โดยเฉพาะ ฟิวส์แบบนี้จะให้การป้องกันที่ดีกว่าแบบแรก เซอร์กิตเบรกเกอร์ ในวงจรมอเตอร์ ที่ใช้กันมี 2 ประเภท คือ 1. เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบเวลาผกผัน ใช้โดยทั่วไปในวงจรจำหน่าย มีเส้นโค้งลักษณะสมบัติ 2 ช่วง คือ ช่วยกระแสเกินโหลด เป็นแบบเวลาผกผัน และช่วงกระแสปลดวงจรทันที เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบนี้จะต้องปรับตั้งช่วงกระแสปลดวงจรทันทีให้มากกว่ากระแสเริ่มต้นของมอเตอร์ 2. เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบปลดทันที คือ เซอร์กิตเบรกเกอร์ที่มีช่วงปลดวงจรทันทีเพียงอย่างเดียว ถูกออกแบบให้ใช้กับวงจรมอเตอร์โดยเฉพาะ การป้องกันโหลดเกิน การใช้งานมอเตอร์ที่มีการใช้งานเกินขนาดจนทำให้มอเตอร์มีความร้อนสูง ซึ่งจะทำความเสียหายต่อมอเตอร์ และบริภัณฑ์ที่ต่ออยู่ได้ ซึ่งได้แก่ ฟิวส์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ ที่ใช้ในการป้องกันการลัดวงจรนั้น ต้องปรับค่าที่สูงเพื่อให้มีค่าเพียงพอสำหรับการเริ่มเดินเครื่อง เพื่อทำหน้าที่ป้องกันมอเตอร์ในกรณีที่มีการใช้โหลดเกินบริภัณฑ์ที่ใช้ในการป้องกันโหลดเกินคือ รีเลย์โหลด มีใช้ 3 แบบคือ 1. แบบโลหะคู่ แบบนี้ทำง่าย และราคาถูก แบบนี้จะป้องกันมอเตอร์ที่ทำงานต่อเนื่องได้ดี 2. แบบอิเล็กทรอนิกส์ จะสามารถจำลองพฤติกรรมทางความร้อนของมอเตอร์ได้ดี สามารถปรับแต่งให้ใช้กับมอเตอร์ได้ทุกชนิด 3. แบบเทอร์มิสเตอร์ ใช้ตัวตรวจวัดอุณหภูมิฝังอยู่ในขดลวดอาร์เมเจอร์ตรวจอุณหภูมิของขดลวดตลอดเวลา สามารถป้องกันความร้อนเกินได้อย่างถูกต้องและใช้กับมอเตอร์ทั้งที่ใช้งานต่อเนื่อง และเป็นช่วง ๆ ได้ดี เครื่องควบคุมมอเตอร์ ชุดบริภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการเริ่ม หรือหยุดเดินเครื่องมอเตอร์ ในการบางกรณีเครื่องมอเตอร์ ในการบางกรณีเครื่องควบคุมมอเตอร์ก็สามารถใช้ในการปรับความเร็วรอบของมอเตอร์ได้ด้วย แต่ส่วนมากมักใช้ในการเริ่มเดินเครื่องมอเตอร์ จึงเรียกตัวควบคุมมอเตอร์ว่า ตัวเริ่มเดินเครื่องมอเตอร์ ตัวเริ่มเดินเครื่องมอเตอร์หรือเครื่องควบคุมมอเตอร์ที่ใช้กันโดยทั่วไปอาจแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ 1. ตัวเริ่มเดินเครื่องมอเตอร์ ที่ใช้โดยการต่อไฟเข้าโดยตรง 2. ตัวเริ่มเดินเครื่องมอเตอร์แบบลดแรงดัน พิกัดของเครื่องควบคุมมอเตอร์ ขนาดของพิกัดคอนแทคเตอร์ที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องควบคุมมอเตอร์ จะต้องสามารถทนกำลังความร้อนที่เกิดขึ้น ดังนั้นขนาดพิกัดกำลังของคอนแทคเตอร์จะต้องไม่น้อยกว่าขนาดกำลังมอเตอร์ นอกจากจะเลือกขนาดของมอเตอร์แล้ว ลักษณะการใช้งานของมอเตอร์ และจำนวนครั้งการตัดต่อของคอนแทคเตอร์ก็มีส่วนสำคัญต่อกำลังความร้อนที่เกิดขึ้นด้วย การติดตั้ง เครื่องควบคุมมอเตอร์จะต้องติดตั้งในที่มีการมองเห็นได้ และอยู่ห่างกันไม่เกิน 15 เมตร เพื่อความปลอดภัยขณะทำการบำรุงรักษา หรือ ซ่อมแซมมอเตอร์ เครื่องปลดวงจรมอเตอร์ สำหรับใช้ปลดวงจรมอเตอร์ในกรณีฉุกเฉิน หรือทำการซ่อมแซมบำรุงรักษามอเตอร์ ซึ่งต้องมีลักษณะดังนี้ - สามารถตัดวงจรขณะโหลดได้ - ใช้กับโหลดตัวเหนี่ยวนำ เนื่องจากโหลดมอเตอร์เป็นโหลดประเภทตัวเหนี่ยวนำจะมีกระแสสูง - สามารถทนกระแสลัดวงจรสูงสุด ณ จุดติดตั้งได้ โดยทั่วไปนิยมใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ หรือ สวิตช์ตัดตอนขณะมีโหลดเป็นเครื่องปลดวงจรมอเตอร์ พิกัดของเครื่องปลดวงจรมอเตอร์ พิกัดกระแสเครื่องปลดวงจรมอเตอร์ไม่ต่ำกว่า 115% ของพิกัดกระแสมอเตอร์ การติดตั้ง เครื่องปลดวงจรจะต้องติดตั้งในที่ที่สามารถมองเห็นได้ และระยะห่างกันไม่เกิน 15 เมตร ทั้งจากเครื่องควบคุมมอเตอร์ และตัวมอเตอร์ หรือเครื่องจักรที่มีมอเตอร์ขับ แต่ถ้าติดตั้งในที่ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ หรือระยะเกิน 15 เมตร จะต้องล๊อกเครื่องปลดวงจรในตำแหน่งปลดด้วย วงจรควบคุมมอเตอร์ โดยทั่วไปวงจรมอเตอร์สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. วงจรกำลัง คือ วงจรที่จ่ายกำลังไฟฟ้าให้แก่มอเตอร์ เพื่อให้มอเตอร์สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์ 2. วงจรควบคุม คือ วงจรที่ใช้ควบคุมการทำงานของตัวเริ่มเดินเครื่องมอเตอร์เพื่อให้สามารถทำงานได้ตามลำดับที่กำหนด |