โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ โอนรถต้องเตรียมอะไรบ้าง Show โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ โอนรถต้องเตรียมอะไรบ้างสถานที่ยื่นเรื่องโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ หลายๆ คนพอจะทราบกันแล้ว เราต้องไปทำเรื่องที่สำนักงานขนส่งจังหวัด หรือ สำนักงานขนส่งจังหวัดสาขาที่ผู้โอนมีที่อยู่ปรากฎในใบคู่มือจดทะเบียนรถหรือที่ขอแจ้งใช้รถไว้ ก่อนอื่นมาทำความทำความรู้จักการโอนรถในแบบต่างๆ กันดีกว่า การโอนรถยนต์ แบ่งเป็นกี่ประเภทโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ แบบ โอนตรง หรือ โอนกับกรมการขนส่ง โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์กับทางกรมการขนส่งโดนตรง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของเก่าหรือใหม่ ยื่นเรื่องโอนรถต่อหน้านายทะเบียน ต่างกับโอนลอยที่ผู้ขายดำเนินการเอง เซ็นสัญญาการโอนที่ไม่ได้ไปยื่นเรื่องที่กรมขนส่ง โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ แบบ โอนลอย โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์แบบโอนลอย เป็นการโอนรถยนต์แบบเซ็นสัญญาซโอนของผู้ชาย ทำสัญญากันระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย แต่ยังไม่ได้ไปทำเรื่องโอนที่กรมขนส่งทางบกให้จบเสร็จสิ้นตามกระบวนการ การโอนประเภทนี้อาจมีปัญหายุ่งยากในภายหลัง หากรถยนต์ที่มีการซื้อขายกันไปทำผิดกฏหมายใดๆ คนที่รับผิดชอบจะเป็นชื่อของคนที่อยู่ในทะเบียนโอน หรือเจ้าของรถคนเก่าที่ยังไม่ได้ไปทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์กับทางนายทะเบียน ในการโอนลอยนั้น อาจใช้วิธีการส่งเอกสารคำจอโอน โดยมีชื่อผู้โอน หรือเจ้าของรถคนเดียว ยังไม่มีการกรอกชื่อผู้รับโอนหรือกรอกแล้วแตต่ยังไม่ได้ไปโอนให้เรียบร้อยตามกระบวนการ เป็นช่องว่างที่อาจทำให้เกิดการโจรกรรม หรือซื้อขายรถที่ผิดกฎหมายได้โดยง่าย โอนรถยนต์ กับกรมขนส่ง ใช้เอกสารอะไรบ้าง?
ในกรณีผู้โอนหรือผู้รับโอนไม่ได้มาด้วยตนเอง
ในกรณีโอนรับมรดก และ กรณีเจ้าของรถเสียชีวิต
ขั้นตอนการดำเนินการ
หมายเหตุ : การโอนกรรมสิทธิ์รถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน นับแต่วันโอน (หากไม่ดำเนินการภายในกำหนดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท) สำหรับการโอนลอย เป็นวิธีที่หลายคนอาจเลือกใช้เพื่อความสะดวกสบายต่อการซื้อขายรถมือสอง แต่การโอนลอยนั้นมีข้อเสียตามมาไม่น้อย ยกตัวอย่างเช่น เสี่ยงเรื่องของรถที่อาจมาด้วยวิธีผิดกฎหมาย อาจมีการสวมทะเบียนมาหลอกขาย การซื้อขายด้วยวิธีโอนลอย หรือมอบอำนาจให้ผู้ซื้อหรือผู้ขายดำเนินการแทน โดยไม่ได้ไปโอนกับทางทะเบียนด้วยตนเองให้ถูกต้องในทันที ปัญหาที่อาจจะตามมาคราวหลัง เช่น หลักฐานจากเอกสารการดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์หมดอายุก่อน โดยไม่ทันได้ดำเนินการกับทางกรมขนส่งให้เสร็จสิ้นเรียบร้อย หากผู้ซื้อไม่ได้ทำการชำระภาษีประจำปี ค้างชำระ หรือรถเกิดอุบัติเหตุ และในทะเบียนยังเป็นชื่อของเจ้าของเดิมอยู่ เจ้าของรถคนเดิมที่ยังมีชื่ออยู่ในทะเบียนจะต้องรับผิดชอบความผิดเหล่านั้น แม้การโอนกรรมสิทธิ์แบบถูกต้องตามกฎหมายในทันที อาจเสียเวลาบ้าง แต่ไม่มีปัญหาตามมาภายหลังให้สบาย ดีกว่าโอนลอยแล้วมาเสี่ยงว่าจะมีปัญหาตามมาที่หลังหรือไม่ ลองชั่งน้ำหนักดูนะคะ ไปโอนกรรมสิทธิ์รถกับทางทะเบียนด้วยตนเอง แม้จะเสียเวลาไปบ้างแต่ก็คุ้ม หมดห่วงว่าจะมีปัญหายุ่งยากใจตามมาหรือเปล่า ขอบคุณข้อมูล : https://www.tidlor.com/ , https://www.dlt.go.th/ ——————— Ford RMA ยินดีให้บริการ ——————— Hotline : 091-772-9899, 091-770-2177 |