แบบทดสอบเรื่องเห็นแก่ลูก ม.3 พร้อมเฉลย

Aมนุษย์ย่อมทำได้ทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดเมื่อไม่มีทางเลือก Bผู้หลงผิดเมื่อกลับตัวได้ย่อมได้รับความชื่นชมจากชนทุกชั้น Cพฤติกรรมมีส่วนสำคัญในการกำหนดชะตาชีวิตมนุษย์ Dโชคร้ายเป็นเรื่องของเคราะห์กรรมที่ไม่มีใครฝ่าฝืนได้

Show

5) อ้ายคำเป็นแบบอย่างที่ดีเด่นชัดในเรื่องใด

Aมีความเสียสละ Bมีความซื่อ Cไม่ไว้ใจคนแปลกหน้า Dมีความกตัญญู

6) พฤติกรรมทั่วไปของนายล้ำ แสดงให้เห็นว่าเป็นคนเช่นไร

Aไม่รับผิดชอบ Bเกียจคร้าน Cฉ้อโกง Dไม่ชอบทำงานประจำ

7) “เห็นได้ว่าเป็นคนกินเหล้าจัด แต่งกายจะค่อนข้างจะปอน ๆ แต่ยังเห็นได้ว่าเคยเป็นผู้ดีมาครั้งหนึ่งแล้ว” นักเรียนคิดว่าข้อใดแสดงให้เห็นว่าเคยเป็นผู้ดี ?

Aบุคลิกภาพ Bรูปร่าง Cหน้าตา Dคำพูด

8) อ้ายคำปฏิบัติต่อแขกของนายเหมาะสมหรือไม่ เพราะเหตุใด

Aหมาะสม เพราะแขกแต่งตัวสกปรก Bไม่เหมาะสม เพราะไม่ควรให้แขกเข้าบ้านเมื่อไม่น่าไว้วางใจ Cไม่เหมาะสม เพราะอ้ายคำเป็นแค่บ่าว Dเหมาะสม เพราะสุภาพและรักษาประโยชน์ของนาย

9) จากบทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก การที่นายล้ำยอมกลับโดยไม่เปิดเผยให้แม่ลออรู้ เพราะสาเหตุใดเป็นสำคัญ

Aเพื่อให้แม่ลออมีชีวิตที่สุขสบาย Bเพื่อเอาชนะคำสบประมาทของพระยาภักดี Cเพื่อแสดงว่าตนมีศักดิ์ศรี Dเพื่อพิสูจน์ความเป็นชายชาตรี

10) เพราะเหตุใดพระยาภักดีฯ จึงให้เงินนายล้ำและขอร้องแกมบังคับให้รีบหนีไป

Aตอบแทนนายล้ำที่ยกแม่ลออให้ Bให้ไปตั้งตัวใหม่ Cให้เป็นสินน้ำใจในฐานะเพื่อนเก่า Dให้ตอบแทนที่สำนึกตัวได้

11) นายล้ำมอบสิ่งใดเป็นของขวัญวันแต่งงานแก่แม่ลออ

Aแหวนรักของนายล้ำที่ใส่มาตั้งแต่ยังหนุ่ม Bแหวนของแม่นวลที่นายล้ำเก็บไว้ดูต่างหน้า Cสร้อยของแม่นวลที่นายล้ำซื้อให้

12) จากบทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก นักเรียนคิดว่าลักษณะของตัวละครใดที่มีพฤติกรรมสอดคล้องกับชื่อเรื่อง

Aนายล้ำ Bอ้ายคำ Cแม่ลออ Dพระยาภักดีนฤนาถ

13) นิสัยข้อใดของแม่ลออ ที่นักเรียนสามารถนำมาเป็นแบบอย่างในชีวิตได้

Aเป็นการแสดงที่จำลองชีวิตจริง Bมีบทร้อยกรองประกอบ และการร่ายรำประกอบ Cการสนทนาโต้ตอบของตัวละคร Dสอดแทรกแนวคิด ข้อคิด คติเตือนใจ

14) ข้อใด ไม่ใช่ ลักษณะของบทละครพูด

Aการเคารพนับถือผู้ใหญ่ Bการกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ Cการมีปิยวาจา Dการมีน้ำใจต่อผู้อื่น

15) แกจะมาให้แม่ลออเป็นหมาหัวเน่าหรือ หมาหัวเน่า ในที่นี้มีความหมายว่าอย่างไร

Aบุคคลที่ไม่มีคุณลักษณะของกุลสตรี Bบุคคลที่รูปร่างอัปลักษณ์ Cบุคคลที่มีนิสัยไม่ดี Dบุคคลที่สังคมรังเกียจ

แบบทดสอบเรื่องเห็นแก่ลูก
เป็นการทบทวนความรู้และวัดความเข้าใจที่ได้เรียนบทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก
 ID: 2203845
Language: Thai
School subject: ภาษาไทย มัธยมศึกษาปีที่ 3
Grade/level: ม.3
Age: 14-18
Main content: เนื้อหาบทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก
Other contents: ศึกษาบทสนทนาในบทละคร

แบบทดสอบเรื่องเห็นแก่ลูก ม.3 พร้อมเฉลย
 Add to my workbooks (1)
แบบทดสอบเรื่องเห็นแก่ลูก ม.3 พร้อมเฉลย
 Download file pdf
แบบทดสอบเรื่องเห็นแก่ลูก ม.3 พร้อมเฉลย
 Embed in my website or blog
แบบทดสอบเรื่องเห็นแก่ลูก ม.3 พร้อมเฉลย
 Add to Google Classroom
แบบทดสอบเรื่องเห็นแก่ลูก ม.3 พร้อมเฉลย
 Add to Microsoft Teams
แบบทดสอบเรื่องเห็นแก่ลูก ม.3 พร้อมเฉลย
 Share through Whatsapp

Link to this worksheet:  Copy
แบบทดสอบเรื่องเห็นแก่ลูก ม.3 พร้อมเฉลย

Buttree


แบบทดสอบเรื่องเห็นแก่ลูก ม.3 พร้อมเฉลย
แบบทดสอบเรื่องเห็นแก่ลูก ม.3 พร้อมเฉลย

What do you want to do?

แบบทดสอบเรื่องเห็นแก่ลูก ม.3 พร้อมเฉลย
แบบทดสอบเรื่องเห็นแก่ลูก ม.3 พร้อมเฉลย
Check my answersEmail my answers to my teacher

Enter your full name:

Group/level:

School subject:

Enter your teacher's email or key code:

Cancel

Please allow access to the microphone
Look at the top of your web browser. If you see a message asking for permission to access the microphone, please allow.

Close

แบบทดสอบเรื่องเห็นแก่ลูก ม.3 พร้อมเฉลย

แจกฟรีโปรแกรมจัดตารางเรียน แจกฟรีโปรแกรมเช็คชื่อ บันทึกความดี กดติดตาม Facebook และ YouTube ห้องพักครูเพื่อเป็นกำลังใจโจทย์ข้อสอบ วัดแววความเป็นครู และความถนัดทางวิชาชีพครู พร้อมเฉลย

ห้องพักครูดอตคอม (Hongpakkroo.com) ขอนำเสนอ


ดาวน์โหลดได้ที่นี่ครับ..

http://www.sopon.ac.th/sopon/test/university_test/teacher/teacher47-2.pdf

1. เจตคติ(Atttitude)หมายถึงข้อใด?
ก. การรับรู้พฤติกรรมในการสื่อสาร
ข.การสร้างมนุษย์สัมพันธ์ในการแสดงออก
ค. ความรู้สึกของบุคคลทั้งทางบวกและทางลบ ที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ง. การสร้างสถานการณ์ แสดงออกให้บุคคลยอมรับ
 ตอบ   ค. ความรู้สึกของบุคคลทั้งทางบวกและทางลบ ที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

2. ข้อใดกล่าวถูกต้อง?
ก. เจตคติเปลี่ยนแปลงไม่ได้
ข.เจตคติเกิดจากความรู้สึกของบุคคลเฉพาะทางบวกเท่านั้น
ค. เจตคติเริ่มเกิดขึ้นครั้งแรกกับวัยรุ่น
ง. ไม่มีข้อถูก
ตอบ     ง. ไม่มีถูกข้อถูก

3. เจตคติเกิดได้ ต้องมีองค์ประกอบ 3 ประการคือ?
ก.ด้านความคิด ด้านความรู้สึก ด้านพฤติกรรม
ข. ด้านความคิด ด้านความรู้สึก ด้านพันธุกรรม
ค. ด้านพันธุกรรม ด้านพฤติกรรม ด้านความรู้สึก
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ    ก. ด้านความคิด ด้านความรู้สึก ด้านพฤติกรรม

4. ข้อใดเป็นเจตคติจากการเลียนแบบ?
       ก. ประสบการณ์ความรู้สึก            ข. อารมณ์และสิ่งแวดล้อม
       ค.  เอาแบบอย่างจากพ่อแม่         ง. การรับรู้และสิ่งเร้า
       ตอบ   ค. เอาแบบอย่างจากพ่อแม่
5. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง?
     ก. เจตคติเกิดจากการเรียนรู้         ข. เจตคติเป็นสิ่งที่ซับซ้อน
      ค. เจตคติเกิดจากการเลียนแบบ         ง. ไม่มีคำตอบ
    ตอบ   ง. ไม่มีคำตอบ

6. จากคำกล่าวที่ส่า”เจตคติเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้”อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เจตคติของบุคคลเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
    ที่สุด
    ก.พฤติกรรม               ข. ความรู้สึก
      ค.ความคิด                               ง.ไม่มีข้อถูก
ตอบ    ค. ความคิด

7. วิธีการที่ใช้วัดเจตคติของผู้เรียนที่เหมาะที่สุดคือข้อใด?
        ก. การสอบถาม               ข. การสังเกต
      ค. การตรวจผลงาน            ง. ไม่มีข้อใดถูก
     ตอบ   ก. การสอบถาม

8. เจตคติ คือ ความพร้อม โน้มเอียง ที่แสดงออกว่าชอบไม่ชอบเป็นคำกล่าวของใคร?
      ก. Hilgacd               ข. .Anastasi
     ค. Frederic               ง. Good
      ตอบ    ข. Anastasi

9. ประสบการณ์ที่ทำไห้พฤติกรรมเปลี่ยนเรียกว่าอะไร?
      ก. การระลึกได้               ข. การทดสอบ
      ค. การสอน               ง. การเรียนรู้
      ตอบ    ง. การเรียนรู้

10. ข้อใดหมายถึง เจตคติจากประสบการณ์รุนแรง?
      ก. กฎระเบียบของโรงเรียน
   ข.แม่ดุลูกที่ไม่ตั้งใจเรียน
      ค. เขียวเล่นคอมพิวเตอร์
                ง. แดงกินอาหารชนิดหนึ่ง และเกิดอาการแพ้อาหารอย่างรุนแรง
ตอบ   ง. แดงกินอาหารชนิดหนึ่ง และเกิดอาการแพ้อาหารอย่างรุนแรง

11. ข้อใดมีอิทธิพล ต่อการเกิดเจตคติ ต่อเด็กมากที่สุด?
      ก.อิทธิพลจากสื่อมวลชน            ข. อิทธิพลจากการเลี้ยงดู
      ค.อิทธิพลจากกลุ่มต่างๆกลุ่มในโรงเรียน                       ง. อิทธิพลจากประสบการณ์ตรง
      ตอบ   ค. อิทธิพลจากกลุ่มต่างๆกลุ่มในโรงเรียน

12. ข้อใดกล่าวถูกต้องมากที่สุด?

      ก. เจตคติของบุคคลเปลี่ยนแปลงได้เพียงครั้งเดียว
      ข. เจตคติอาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเปลี่ยนได้ในเวลาอันรวดเร็ว
      ค. เจตคติ เกิดขึ้นจากความต้องการขั้นพื้นฐาน
      ง. เจตคติ เกิดขึ้นจากประสบการณ์เป็นอันดับแรก
      ตอบ    ข. เจตคติอาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเปลี่ยนได้ในเวลาอันรวดเร็ว

13. เราสามารถรู้พฤติกรรมที่บุคคลนั้นแสดงออกมาได้อย่างไร
      ก. การสัมผัส               ข. การซักถาม
     ค. การสังเกต               ง. การทดสอบ
      ตอบ   ค. การสังเกต

14. เด็กเกิดเจตคติจากสื่อมวลชนข้อใดมากที่สุด?
      ก. วิทยุ                  ข. หนังสือพิมพ์
      ค. โทรทัศน์               ง. นิตยสาร
      ตอบ    ค. โทรทัศน์

15. การวัดเจตคติที่นิยมกัน ได้แก่ การวัดของใคร?
       ก. Maslow      ข. Likert         ค. Pavlova
   ง. Skinner
      ตอบ    ข. Likert

16. การวัดเจตคติโดยใช้ข้อความที่เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง สอบถามความคิดเห็นของบุคคลที่มีต่อเรื่องนั้น
      เป็นแนวคิดของใคร?
       ก. Freud      ข. Maslow      ค. Likert
        ง. Skinner
       ตอบ    ค. Likert

17. วิธีวัดเจตคติสามารถวัดได้จากพฤติกรรมใด?
       ก. ทางตรงอย่างเดียว            ข. ทางอ้อมอย่างเดียว
       ค. ทางตรงและทางอ้อม            ง. ทางบวกและทางลบ
       ตอบ   ค. ทางตรงและทางอ้อม

18. วิธีการวัดเจตคติที่นิยมกันมาก คือข้อใด?
       ก. การสำรวจ               ข. การใช้มาตราส่วนประเมินค่า
      ค. การวัดแบบไม่วุ่นวาย            ง. การใช้ Projective Technique
      ตอบ    ก. การสำรวจ

19. ข้อใดเป็นวิธีการวัดแบบสำรวจ?
       ก. การหยั่งเสียงก่อนการเลือกตั้ง
       ข. การใช้แบบทดสอบถามที่มีหัวข้อให้เลือก
       ค. วิธีการทำจดหมาย โดยการจ่าหน้าซองถึงคนที่ต้องการจะวัด
       ง. การวัดโดยการสร้างภาพเพ้อฝัน
       ตอบ    ก. การหยั่งเสียงก่อนการเลือกตั้ง

20. การใช้Projictive tenicques เป็นการวัดแบบเจตคติของใคร?
       ก. ทางตรง      ข. ทางอ้อม      ค. การสร้างภาพเพ้อฝัน
   ง. การสำรวจ
      ตอบ   ข. ทางอ้อม

21. Congruent Change หมายถึงข้อใด?
      ก. การเปลี่ยนแปลงไปคนละทาง         ข. การเปลี่ยนแปลงไปในทางเดียวกัน
      ค. การเปลี่ยนแปลงไปในทางบวก         ง. การเปลี่ยนแปลงไปในทางลบ
       ตอบ   ข. การเปลี่ยนแปลงไปในทางเดียวกัน

22. การเปลี่ยนแปลงเจตคติไปคนละทาง หมายถึงข้อใด?
       ก. Congruent Change            ข. InCongruent Change
       ค. Thematic Appcarance Test         ง. Direct Experience
       ตอบ   ข. InCongruent Change

23. สมศักดิ์มีเคารพต่อครูประจำชั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกที่เคยมีกลับลดลง ข้อความนี้สมศักดิ์มีเจตคติ
      เปลี่ยนแปลงอย่างไร
       ก. เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา         ข. เปลี่ยนแปลงไปในทางเดียวกัน
       ค. เปลี่ยนแปลงไปคนละทาง         ง. เปลี่ยนแปลงไปตามความรู้สึก
       ตอบ    ค. เปลี่ยนแปลงไปคนละทาง

24. “ผมมีความรู้สึกชอบงานประเภทนี้อยู่แล้ว และเมื่อได้ทำก็จะยิ่งชอบมากขึ้น”ข้อความนี้เกิดเจตคติในด้านใด?
       ก. เปลี่ยนแปลงไปในทางเดียวกัน         ข. เปลี่ยนแปลงไปคนละทาง
       ค.เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา         ง. ไม่มีข้อใดถูก
       ตอบ    ก. เปลี่ยนแปลงไปในทางเดียวกัน

25. ข้อใดกล่าวถูกต้อง?
       ก. เจตคติทางบวกจะได้คะแนนมาก         ข. เตคติทางลบจะได้คะแนนมาก
       ค. เจตคติทางลบจะได้คะแนนน้อย         ง. ข้อ ก. ข้อ ค. ถูก
       ตอบ    ง. ข้อ ก. ข้อ ค.ถูก

26. ตามปกติของคนเรา เมื่อถูกวัดเจตคติตรงๆคำตอบที่ได้คือข้อใด?
       ก. อาจเสี่ยงที่จะตอบตามตรง ตอบตามที่สังคมชอบมากกว่า
       ข. อาจได้ข้อมูลตามตรง
      ค. อาจได้ข้อมูลจากใจจริง
      ง. อาจได้ข้อมูลใกล้เคียงความจริง
       ตอบ   ก. อาจเสี่ยงที่ตอบตามตรง ตอบตามที่สังคมชอบมากกกว่า

27. การเล่าเรื่องอธิบายภาพบางอย่างที่กำกวมสามารถบอกได้หลายแง่มุม เรียกว่าอะไร?
       ก. การต่อเนื่องโดยความสัมพันธ์         ข. การสร้างเพ้อฝัน
       ค. การสำรวจประชามติ            ง. การหยั่งเสียงก่อนการเลือกตั้ง
       ตอบ    ข. การสร้างภาพเพ้อฝัน

28. บุคคลที่มีอิทธิพลต่อการสร้างเจตคติของเด็กมากที่สุดคือข้อใด
       ก. พ่อ แม่               ข. ญาติสนิท
       ค. เพื่อน                  ง. ครูและเพื่อน
       ตอบ   ง. ครูและเพื่อน

29. อารมณ์ของบุคคล เกิดจากเจตคติในด้านใด?
       ก. Behavioral Component         ข. Affective
        ค. Congnitive Component         ง. Imitaiton
        ตอบ     ข. Affective

30. เด็กได้รับเจตคติจากการเรียนรู้ที่ใดเป็นลำดับแรก?
       ก. บ้าน                  ข. โรงเรียน
       ค. ครู                  ง. เพื่อน
      ตอบ    ก. บ้าน
31. การวัดเจตคติจะต้องสอดคล้องกับข้อใดมากที่สุด?
       ก. เนื้อหา               ข. กิจกรรม
       ค. จุดประสงค์               ง. การตอบสนอง
       ตอบ    ค. จุดประสงค์

32. เจตคติหมายถึงอะไร?
        ก. ท่าที หรือความรู้สึกของบุคคลต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
        ข. ความพร้อมที่จะแสดงออกในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง
        ค. ความพร้อม โน้มเอียงที่แสดงว่าชอบ หรือไม่ชอบต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
       ง. ถูกทุกข้อ
        ตอบ    ง. ถูกทุกข้อ

33. ข้อใดกล่าวความหมายของวิชาชีพได้ถูกต้องที่สุด?
       ก. สิ่ง หรือ เรื่องที่จำเป็นภารกิจต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นคราวๆ
       ข. ภารกิจที่ต้องทำเสมอ
       ค. งานที่ทำเป็นประจำเพื่อเลี้ยงชีพ
       ง. อาชีพที่ต้องใช้ความรู้ความชำนาญที่ได้รับฝึกฝน
       ตอบ    ง. อาชีพที่ต้องใช้ความรู้ความชำนาญที่ได้รับฝึกฝนมา

34. คุณลักษณะของวิชาชีพสูง ต้องได้รับการฝึกอบรมมีระยะเวลาตาม้อใด?
       ก. ไม่น้อยกว่า 1 ปี   ข. ไม่น้อยกว่า 2 ปี   ค. ไม่น้อยกว่า 3 ปี   ง. ไม่น้อยกว่า 4 ปี
       ตอบ  ง. น้อยกว่า 4 ปี

35. ข้อใดเป็นคุณลักษณะของวิชาชีพชั้นสูง?
       ก. มีจรรยาบรรณ               ข. มีสถาบันวิชาชีพ
      ค. มีการให้บริการแก่สังคมเป็นเฉพาะเจาะจง      ง. ถูกทุกข้อ
      ตอบ    ง. ถูกทุกข้อ
36. สถาบันวิชาชีพคู คือ ข้อใด?
      ก. คุรุสภา
       ข. สถาบันพัฒนาผู้บริหารการศึกษา
       ค. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
       ง. สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
       ตอบ   ก. คุรุสภา

37. ครู ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตสถาน หมายความว่าอะไร?
       ก. เคารพ               ข. ผู้ควรแก่การเคารพ
       ค. หนัก                  ง. ผู้สั่งสอนศิษย์
        ตอบ    ง. ผู้สั่งสอนศิษย์

38. วินัย เป็นผู้ให้ความสนิทสนมแก่ศิษย์ เพื่อให้ศิษย์สบายใจและกล้าเข้าไปปรึกษาแสดงว่าครูวินัย ประพฤติตนเป็นครูที่ดีตาม ธรรมะกัลยาณมิตร ข้อใด?
      ก. ปิโย                  ข. ครุ
      ค. ภาวนีโย               ง. วัตตา
       ตอบ    ค. ปิโย

39. ข้อใดแสดงว่าครูมีเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพ?
      ก. ครูสมชายใช้เวลาว่างเตรียมแผนการจัดการเรียนรู้
     ข. ครูสะอาด ใช้เวลาตอนเย็นสอนคอมพิวเตอร์แก่ศิษย์ โดยรับค่าตอบแทนเพียงเดือนละ100บาทเท่านั้น
      ค. ครูสมยศศึกษาต่อระดับปริญญาเอก เพื่อที่จะได้เปลี่ยนสถานที่ไปสอนในมหาวิทยาลัย
      ง.  ถูกทุกข้อ
      ตอบ   ก.  ครูสมชายใช้เวลาว่างเตรียมแผนการจัดการเรียนรู้

40. วิชาชีพครู กำหนดไว้ในกฎหมายใด?
       ก. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535
       ข. พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546
       ค. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547
       ง. ถูกทุกข้อ
       ตอบ     ข. พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546

41. อัตราค่าธรรมเนียมขอขั้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาจำนวนเท่าใด?ffice ffice" />
       ก. 400 บาท               ข. 500 บาท
       ค. 600 บาท               ง. 700 บาท
       ตอบ   ข. 500บาท
42. คณะกรรมการคุรุสภามีจำนวนเท่าใด?
       ก. 15 คน      ข. 19 คน       ค. 29 คน      ง. 39 คน
       ตอบ   ง. 39 คน
43. คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีจำนวนเท่าใด?
       ก. 15 คน      ข. 17 คน      ค. 23 คน      ง. 39 คน
      ตอบ   ข. 17 คน
44. ประธานกรรมการมาตรฐานวิชาชีพคือใคร?
      ก. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
      ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
      ค. รัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุรุสภา
      ง. คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุรุสภา
      ตอบ   ค. รัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุรุสภา

45. ผู้มีหน้าที่ดูแลและรักษาทะเบียนผู้ได้รับอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาคือใคร?
       ก. คณะกรรมการคุรุสภา
       ข. สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
       ค. คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
       ง. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
       ตอบ   ง. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา

46. บุคคลที่จะได้รับบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูต้องมีอายุกี่ปี?
       ก. ไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์            ข.ไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
      ค. ไม่ต่ำกว่า 21 ปีบริบูรณ์            ง. ไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์
      ตอบ   ก. ไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์

47. บุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพครูในข้อใด?
       ก. นักศึกษาฝึกสอน            ข. วิทยากรพิเศษ
       ค. ผู้จัดการศึกษาตามอัธยาศัย         ง. ถูกทุกข้อ
       ตอบ   ง. ถูกทุกข้อ
48. ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการตำแหน่งใดได้รับ การยกเว้นมีใบ
      ประกอบวิชาชีพครู?
        ก. อาจารย์               ข. อธิการบดี
       ค. เลขาธิการคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน      ง. ได้รับการยกเว้นทุกข้อ
       ตอบ   ง. ได้รับการยกเว้นทุกข้อ

49.ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา?ffice ffice" />
      ก. อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์         ข. มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา
      ค. ได้รับการฝึกฝนประสบการณ์มาไม่น้อยกว่า 1 ปี   ง. ไม่มีคำตอบ
       ตอบ   ก. อายุ ไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์

50. ผู้ประสงค์ขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูให้ยื่นต่อผู้ใด?
      ก.เลขาธิการคุรุสภา            ข. ผู้บริหารสถานศึกษา
      ค. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา      ง. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
     ตอบ   ก. เลขาธิการคุรุสภา

51. ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพมีอายุใช้ได้กี่ปี
       ก. 3 ปี         ข. 5 ปี      ค. 10 ปี      ง. 15 ปี
      ตอบ   ข. 5 ปี
52. กรณีที่ผู้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสามารถยื่นคำขอได้อีกเมื่อพ้นไปแล้วกี่ปี?
      ก. 1 ปี         ข. 2 ปี      ค. 5 ปี      ง. 7 ปี
      ตอบ   ค. 5 ปี
53. ข้อใดไม่เป็นมาตรฐานวิชาชีพ?
     ก. มาตรฐานการปฏิบัติตน            ข. มาตรฐานการปฏิบัติงาน
     ค. มาตรฐานการปฏิบัติการสอน         ง.มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ
     ตอบ   ค. มาตรฐานการปฏิบัติการสอน
54. หน้าที่ของครู คือ ?
      ก. จัดประสบการณ์ให้นักเรียน         ข. ปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย
      ค. เป็นผู้นำชุมนุม เพื่อพัฒนาชุมชน         ง. พัฒนาโรงเรียน
      ตอบ   ก. จัดประสบการณ์ให้นักเรียน
55. ใครมีหน้าที่ดูแลสวัสดิภาพนักเรียนเวลาก่อนเข้าเรียนพักกลางวันและเวลากลับบ้าน?
      ก.  ครูเวร               ข. ครูใหญ่
      ค. ครูฝ่ายปกครอง            ง. ครูทกคน
      ตอบ   ง. ครูทุกคน
56. ผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับสมุดประจำชั้น สมุดประจำตัวนักเรียนมากที่สุดรองจกครูประจำชั้นคือ?
      ก. ครูวิชาการ               ข. ครูใหญ่
      ค. ครูฝ่ายปกครอง            ง. ครูผู้สอนในชั้นนั้นๆ
      ตอบ   ง. ครูผู้สอนในชั้นนั้นๆ

57. ใครมีบทบาทต่อการเรียนการสอนมากที่สุดในโรงเรียน?
     ก. นักเรียน               ข. ครูวิชาการ
       ค. ผู้อำนวยการสถานศึกษา         ง. ครูผู้สอน
      ตอบ   ง. ครูผู้สอน
58. ท่านควรยึดหลักใดในการช่วยแหลือชุมชน?
        ก. ช่วยให้เขาช่วยตัวเองได้            ข. ช่วยให้ความรู้แก่ชุมชน
        ค. ช่วยพัฒนาคนในชุมชน            ง. ช่วยให้เศรษฐกิจของชุมชนดีขึ้น
       ตอบ   ก. ช่วยให้เขาช่วยตัวเองได้
59. ครูควรมีความรับผิดชอบต่อสิ่งใดมากที่สุด?
       ก. โรงเรียน               ข. นักเรียน
       ค. ผู้ร่วมงาน               ง. ชุมชน
       ตอบ   ข. นักเรียน
60. แนวทางที่ทางโรงเรียนจะให้บริการชุมชน ทำได้อย่างไร?
       ก. จัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่โรงเรียน      ข. จัดโรงเรียนให้เป็นโรงเรียนชุมชน
       ค. เปิดโรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่         ง. จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมอาชีพเคลื่อนที่
       ตอบ   ข. จัดโรงเรียนให้เป็นโรงเรียนชุมชน
61. ท่านควรขอให้ชุมชนช่วยเหลืออะไรในโรงเรียน?
        ก. บริจาควัสดุ ครุภัณฑ์ให้โรงเรียน         ข. บริจาคเสื้อผ้า สมุด ดินสอ อาหารกลางวัน
        ค.บริจาคเงินสร้างโรงอาหาร         ง. บริจาคเงินสร้างรั้วโรงเรียน
        ตอบ   ข. บริจาคเสื้อผ้า สมุด ดินสอ อาหารกลางวัน
62. โรงเรียนดอนไผ่ มีป้ายหลายแผ่นติดอยู่ในโรงเรียน ท่านคิดว่าป้ายใดมาสมควรคิด?
       ก. สถานที่ราการไม่มีกิจห้ามเข้า
   ข. ห้องนี้เฉพาะครูเท่านั้น
        ค. ส้วมครูห้ามนักเรียนใช้
ง. เชิญบริจาคทรัพย์ซื้อชุดรับแขกตามกำลังศรัทธา
      ตอบ   ก. สถานที่ราชการไม่มีกิจห้ามเข้า
63. ท่านชอบครูประเภทใดมากที่สุด?
      ก. สอนเก่ง               ข. มีความรับผิดชอบสูง
      ค. รักนักเรียน               ง.ชอบช่วยเหลือ
      ตอบ   ข. มีความรับผิดชอบสูง
64. ผลการวิจัย ครูที่ลูกศิษย์ไม่ชอบมากที่สุดคือ ข้อใด?
      ก. ขาดความยุติธรรม            ข.ขาดความรับผิดชอบ
      ค. เป็นคนเจ้าอารมณ์            ง. ประจบสอพลอ
  65. ท่านเห็นด้วยกับข้อความใดมากที่สุด?ffice ffice" />
       ก. ไม่มีใครสอนใครได้ ถ้าเขาไม่สอนตัวเองก่อน
       ข. คนทุกคนสามารถสอนได้ ถ้าเลือกวิธีการที่เหมาะสม
       ค. คนบางคนสอนไม่ได้ ครูควรทำใจวางเฉย
       ง. คนทุกคนสามารถสอนได้ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
   ตอบ   ข. คนทุกคนสามารถสอนได้ ถ้าเลือกวิธีการที่เหมาะสม

66. การที่รัฐประกาศให้เด็กพิการามารถเข้าเรียนในโรงเรียนทั่วไปได้ ท่านคิดว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะเหตุใด?
       ก. เหมาะสม เพราะเด็กปกติจะได้ช่วยเหลือเด็กพิการ
       ข. เหมาะสม เพราะเด็กพิการจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับเด็กปกติ
       ค. ไม่เหมาะสม เพราะอุปกรณ์การเรียนไม่เหมาะสมกับเด็กพิการ
       ง. ไม่เหมาะสม เพราะจะทำให้เด็กปกติเรียนไม่ทันหลักสูตร
       ตอบ   ข. เหมาะสม เพราะเด็กพิการจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับเด็กปกติ

67. ด.ช. แอ๊ค  กรุ๊ป มีผลการเรียนดี กำลังเรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยากได้คำแนะนำในการวางแผน
     เรียนต่อ  ถ้าท่านมีโอกาสให้คำแนะนำด.ช.มานะ ท่านจะให้คำแนะนำอย่างไร?
        ก.เลือกเรียนในสาขาที่จะให้โอกาสการมีงานทำมากที่สุด
        ข. เลือกเรียนในสาขาที่ตรงกับธุรกิจของครอบครัว
        ค. ควรเรียนต่อทางสายวิทยาศาสตร์ในชั้นมัธยมปลาย
        ง. เลือกเรียนในสาขาที่ตนชอบและถนัด
        ตอบ   ง. เลือกเรียนในสาขาที่ตนชอบและถนัด

68.ปัจจุบันนักเรียนจำนวนไม่น้อยประพฤติตนไปตามรูปแบบหรือพฤติกรรมของวัฒนธรรมต่างชาติ?
       ก. อบรมให้สำนึกในวัฒนธรรมไทย
       ข. ยกย่องการปฏิบัติตนของเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ
       ค. ร่วมกันวิเคราะห์เหตุผลของวัฒนธรรมต่างชาติ
       ง. จัดประกวดมารยาทแบบไทยในโรงเรียน
       ตอบ   ค. ร่วมกันวิเคราะห์เหตุผลของวัฒนธรรมต่างชาติ
69. วันนรัตน์     : ถ้าฉันเรียนเก่งอย่างเธอ ฉันคงไม่ต้องมาเรียนเป็นครูแบบนี้หรอก
      สุวรรณรัตน์ : แต่ฉันอยากจะเป็นครูสอนเด็กยากจนในชนบทเหมือนกับคุณแม่และพี่สาว
       ท่านมีความรู้สึกต่อคำสนทนานี้อย่างไร?
          ก.ครูเป็นอาชีพที่สืบทอดทางสายเลือด
          ข.อาชีพครูเหมาะสำหรับผู้หญิง
          ค.อาชีพครูทำประโยชน์ให้แก่สังคม
          ง.ควรเรียนครูด้วยใจรัก
          ตอบ   ง. ควรเรียนครูด้วยใจรัก
70. สมหญิง : อาชีพครูมีแต่ความจำเจซ้ำซาก ดูอย่างพี่สาวของฉันซิ ตื่นเช้ายืนหน้าเสาธง...
      ค่ำลงตรวจการบ้าน                นักเรียน...แล้วเธอยังคิดจะเป็นครูอีกหรือ?
      สมศรี  : ...........................................”?”..........................................................
      ถ้าท่านเป็นสมศรีจะตอบสมหญิงว่าอย่างไร
         ก.อาชีพครูจำเจก็จริง แต่ไม่เครียดมากหรอกนะเธอ
         ข. พี่สาวของเธอคงมีหน้าที่รับผิดชอบมากกว่าครูคนอื่นๆ
         ค.งานของครูน่าเบื่อก็จริง แต่ไม่ต้องแข่งขันกับคนอื่นมากนัก
         ง. ถ้าเรามีใจรักในงานครู ความจำเจน่าเบื่อเหล่านั้นเป็นเรื่องเล็ก
        ตอบ   ง. ถ้าเรามีใจรักในงานครู ความจำเจน่าเบื่อเหล่านั้นเป็นเรื่องเล็ก
71. สมชาย : นายคิดดีแล้วหรือ ที่คิดอยากจะเป็นครู ใครๆ ก็รู้ว่าครูเป็นอาชีพที่ไม่ร่ำรวย
.     สมหวัง : ........................................”?”.............................................................
      ถ้าท่านเป็นสมหวังจะตอบสมชายว่าอย่างไร?
         ก. ก็เป็นจริงอย่างที่นายพูด แต่วิชาชีพครูเรียนจบง่าย
         ข. ถ้าทุกคนคิดอย่างเดียวกับนายแล้วจะมีใครสอนนักเรียน
         ค. เห็นด้วยกับที่นายพูด แต่พ่อแม่ต้องการให้ผมเป็นครู
         ง. แม้ว่าจะมีเงินเดือนน้อยแต่ถ้าขยันสอนพิเศษก็จะร่ำรวยเอง
         ตอบ   ข. ถ้าทุกคนคิดอย่างเดียวกับนายแล้วจะมีใครสอนนักเรียน
72. อันว่าห่วงใดใดในสงสาร จะเปรียบปานห่วงลูกหามีไม่
      แต่ถึงห่วงถึงรักสักเพียงใด ก็วางใจให้อยู่กับครูเอย
      ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับบทร้อยกรองนี้?
         ก. เห็นด้วย เพราะครูเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ
         ข. เห็นด้วย เพราะครูมีหน้าที่สอนเด็ก
         ค. ไม่แน่ใจ เพราะครูบางคนยังมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ
         ง. ไม่แน่ใจ เพราะครูบางคนยังมีปัญหาส่วนตัว
        ตอบ   ข. เห็นด้วย เพราะครูเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ
73.ผู้ปกครองนักเรียนคาดหวังในตัวครูสูงมาก นอกจากความรู้ความสามารถในการสอนแล้ว
     ครูจะต้องเป็น        แบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก ดังนั้นครูจะต้องไม่ประพฤติไปในทางเสื่อมเสียในๆ
     ท่านมีความคิดเห็นต่อข้อความนี้อย่างไร?
        ก. การเป็นครูยากลำบากกว่าที่คิด
        ข. อาชีพครูอยู่ภายใต้ความกดดันของสังคม
        ค. สังคมยังเห็นคุณค่าของครู
        ง. ครูเป็นมนุษย์ปุถุชนอาจกระทำผิดได้
       ตอบ   ค. สังคมยังเห็นคุณค่าของครู
74. ในปัจจุบันมีข่าวในทางเสื่อมเสียเกี่ยวกับครูบ่อยๆ เช่น ลงโทษเด็กด้วยวิธีการทารุณ ข่มขืน/ อนาจารเด็ก
      เป็น ท่านมีความคิดเห็นต่อข่าวเหล่านี้อย่างไร?
         ก. อาชีพครูเสี่ยงต่อการกระทำความผิดได้ง่าย
         ข. เป็นข่าวที่ทำลายความรู้สึกในทางที่ดีต่อครูอย่างมาก
         ค. เป็นธรรมดาที่ทุกวิชาชีพต้องมีบุคคลไม่ดีรวมอยู่ด้วย
         ง. ในปัจจุบันครูมักผิดวินัยและไร้จริยธรรมกันมาก
         ตอบ   ค. เป็นธรรมดาที่ทุกวิชาชีพต้องมีบุคคลไม่ดีรวมอยู่ด้วย

 75. ครูในยุคปฏิรูปการศึกษาจะต้องไม่เป็นแค่เพียงเรือจ้าง แต่จะต้องทำหน้าที่เป็นยิ่งกว่าจิตแพทย์เพื่อขัดเกลา
      นักเรียนที่เป็นบัวอยู่ใต้โคลนตม ให้ผุดขึ้นมาเหนือน้ำให้ได้
      ท่านมีความคิดเห็นต่อข้อความนี้อย่าไร?
         ก.แม้ภาระหน้าที่ของครูมีมากขึ้น แต่ก็เป็นสิ่งท้าทายความสามารถ
         ข. ภาระหน้าที่ของครูในยุคปฏิรูปมีมากมาย แต่เงินเดือนเลี้ยงกายมีน้อยนิด
         ค. งานของครูในยุคปฏิรูปมีแนวโน้มบั้นทอนสุขภาพและจิต
         ง. เฉพาะคนที่กินอุดมคติแทนข้าวเท่านั้นที่อยากเป็นครูในยุคปฏิรูป
        ตอบ   ก. แม้ภาระหน้าที่ของครูมีมากขึ้น แต่ก็เป็นสิ่งท้าทายความสามารถ
76.                                                                       ประกาศ
ลำไย ขยันสอนโรงเรียนบ้านหนองเสือ ได้รับรางวัลครูดีเด่นภาษาไทย
เนื่องจากเป็นครูที่อุทิศตนเพื่องานการสอนภาษาไทยโดยแท้จริง
                                                             ขอแสดงความยินดี
                                                               สปอ. ชายแดน
     ท่านมีความรู้สึกต่อข้อความที่ปรากฏในประกาศข้างต้นอย่างไร?
       ก. เหมาะสมแล้วที่ครูลำไยจะได้รับรางวัลก่อนเกษียณ
       ข. ครูที่ทำความดีควรได้รับรางวัล
       ค. ครูกับคนอื่นๆ ควรยินดีกับครูลำไย
       ง. ครูทุกคนคนน่าจะเป็นอย่างครูลำไย
       ตอบ   ง. ครูทุกคนคนน่าจะเป็นอย่างรูลำไย
77.ทุกวันนี้การปฏิบัติงานของครูบางหมู่ ทำให้รู้สึกกันโดยทั่วไปว่าครูไม่ค่อยห่วงประโยชน์ที่ควรห่วงหันไป
     ห่วงยศ    ห่วงตำแหน่ง ห่วงสิทธิและค่อนข้างร้ายคือห่วงรายได้ ท่านมีความค