Oppo เครื่องร้อน แบตหมดเร็ว

เคยไหมครับ ชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนมาเต็มร้อย แต่ใช้ไม่ถึงครึ่งวัน แบตเกลี้ยงแบบไม่ทันตั้งตัว ถ้าเคยแสดงว่าคุณเจอ ปัญหาแบตโทรศัพท์มือถือเสื่อมสภาพเข้าแล้วครับ ปัญหาคลาสสิคทีอยู่คู่กับคนใช้มือถือมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะผ่านมาถึงปี 2021 iPhone Samsung Oppo Huawei ฯลฯ ก็ต้องเคยเจอ ว่าแต่ อาการแบตเตอรี่โทรศัพท์เสื่อม มีวิธีสังเกตอย่างไรบ้าง และมีวิธีดูแล แก้ไขอย่างไรเพื่อยืดอายุการใช้งาน ไปดูกันเลย

แบตเตอรี่โทรศัพท์เป็นแบบไหน

แม้สมาร์ทโฟนในตลาดจะมีมากมายหลายแบรนด์ หลายรุ่น หลายราคา หลายความจุ แต่แบตเตอรี่มือถือที่นิยมใช้ในปัจจุบันนี้ มีแค่ 2 แบบเท่านั้นครับ ได้แก่

  • Lithium Ion (Li-Ion) 
  • Lithium Ion Polymer (Li-Po)

ซึ่งความแตกต่างเรื่อง อายุการใช้งาน ความจุ ฯลฯ ของแบตเตอรี่ทั้งสองแบบนี้ ก็ไม่ค่อยมีความแตกต่างกันซักเท่าไหร่ครับ เพียงแต่แบตเตอรี่แบบ Li-Po จะมีน้ำหนักที่เบากว่า ยืดหยุ่น และปลอดภัยกว่า แต่โดยรวมคือไม่แตกต่างกันมากครับ 

โดยโทรศัพท์ iPhone ของ apple จะใช้แบตเตอรี่แบบ Li-Po

ส่วนของ Android รุ่นใหม่ๆ ส่วนมากก็จะเป็นแบบ  Li-Po แต่ก็มีรุ่นที่ราคาถูกที่ผู้ผลิตยังเลือกใช้แบบ Li-Ion อยู่

แบตเตอรี่ไอโฟนเป็นแบบไหน

สาเหตุที่แบตเตอรี่โทรศัพท์เสื่อม

มีเกิดก็ต้องมีดับ แฟรงค์เปิดด้วยคำคมเลยนะครับ แต่มันก็เป็นเรื่องจริง เพราะแบตเตอรี่ทุกชนิดนั้นมีอายุการใช้งานอยู่แล้ว ถ้าใช้ไปนานๆ ก็ย่อมเสื่อมสภาพเป็นธรรมดา แต่ก็มีหลายสาเหตุ ที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

1. ใช้จนแบตหมดเกลี้ยง

เนื่องจากแบตเตอรี่แบบ Li-Po , Li-Ion ที่ใช้กันในปัจจุบัน หากปล่อยให้แบตหมดจนเหลือ 0% บ่อยๆ จะยิ่งทำให้แบตเสื่อม และคายประจุออกไปเรื่อยๆ จนมีความจุสูงสุดน้อยลง

2. ใช้เครื่องร้อนเกินไป

แน่นอนว่าเมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ ย่อมเกิดความร้อนอยู่แล้วครับ แต่หากเราฝืนใช้งานหนักๆ เช่น เล่นเกมหนักๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เปิดหน้าจอความสว่างสูงสุดต่อเนื่อง หรือใช้งานขณะชาร์จจนเครื่องเกิดความร้อนสะสมเกินมาตรฐาน เซลล์ของแบตเตอรี่ค่อย ๆ เสื่อมลงตามไปด้วยครับ

3.ใช้อุปกรณ์ชาร์จแบตปลอม

ใครคิดว่าสายชาร์จ หัวชาร์จ ที่ไหนก็เหมือนกัน บอกเลยว่าผิดครับ! เพราะในสายชาร์จหรือหัวชาร์จ ไม่ได้มีแค่สายไฟเฉยๆ นะ แต่ยังมีชิปสำหรับควบคุมการจ่ายไฟ ให้ได้มาตรฐานอยู่ ซึ่งถ้าเราไปซื้อสายชาร์จของปลอม ที่ไม่ได้มาตรฐานมา นอกจากจะชาร์จช้าแล้ว ยังทำให้แบตเตอรี่เสื่อม หรือเสี่ยงระเบิดด้วย

วิธีชาร์จโทรศัพท์ให้ถูกต้อง

วิธีเช็กว่าแบตเตอรี่เสื่อมหรือเปล่า

การดูว่าแบตเตอรี่มือถือของเราเสื่อมรึเปล่า สามารถทำได้หลายวิธีครับ โดยแฟรงค์ได้แบ่งออกเป็น 3 วิธี ดังนี้

1. ดูเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ด้วยตัวเอง

แน่นอนว่าเราต้องรู้อาการของโทรศัพท์ของเราดีที่สุดครับ โดยเราสามารถสังเกตอาการแบตเตอรี่ได้ด้วยตัวเอง โดยมีจุดสังเกตุ ดังนี้ครับ

  • แบตเตอรี่ลดฮวบทั้งๆที่ไม่ได้ใช้งาน
  • ชาร์จเต็ม 100% เร็วกว่าปกติ และหมดเร็วกว่าปกติ ความจุของแบตลดลงนั่นเอง
  • แบตเตอรีรวน ลดเอง เพิ่มเอง โดยที่ไม่ได้ใช้และไม่ได้ชาร์จ

ถ้าแบตเตอรี่ิของโทรศัพท์เราเป็นแบบนี้ ให้สันนิษฐานไว้เลยว่า แบตเตอรี่เสื่อมแน่นอน

2. ใช้แอปพลิเคชั่นช่วยเช็ก

แอปพลิเคชั่นของโทรศัพท์มือถือทุกวันนี้มีหลากหลายให้เราเลือกใช้งานครับ ทั้งแอปถ่ายรูปสวยๆ ไม่แพ้กล้องโปร หรือ แอปสำหรับคนชอบเที่ยวต่างประเทศ และแน่นอนว่า แอปสำหรับเช็กแบตเตอรี่ก็มีเช่นกัน

Andriod : แฟรงค์แนะนำให้ใช้แอปพลิเคชั่น AccuBattery ในการเช็กสุขภาพของแบตนะครับ โดยสามารถเข้าไปตรงแถบ health ในแอปพลิเคชั่นได้เลย

iOS : สามารถเช็กได้เลยผ่าน Battery Health หรือ  สุขภาพแบตเตอรี่ โดยดูที่ Maximum Capacity หรือ ความจุสูงสุดของแบตเตอรี่ครับ หากลดต่ำลงกว่าตอนซื้อมาใหม่ๆ แสดงว่าแบตเริ่มเสื่อมแล้วครับ

3. ดูด้วยตาเปล่า

เมื่อแบตเตอรี่เสื่อม สิ่งที่ตามมาก็คือ อาการแบตเตอรี่บวม โดยถ้าเป็นโทรศัพท์ยุคก่อน ๆ ที่สามารถถอดฝาหลังออกมาเช็กได้ ก็ให้ลองถอดแบตมาหมุนกับพื้นเรียบๆ ดู หากแบตของเราหมุนได้ แสดงว่ามีอาการบวมแล้ว ส่วนโทรศัพท์สมัยใหม่ที่มักจะปิดฝาหลังให้สนิท ไม่สามารถถอดได้ ให้ดูว่าโทรศัพท์ของเราเริ่มมีรอยเผยออกมาหรือเปล่าครับ เพราะแบตที่บวมจะดันหน้าจอให้สูงขึ้น จับๆดู ก็จะรู้เองครับ

วิธีป้องกันไม่ให้แบตเสื่อม

เมื่อเรารู้สาเหตุที่ทำให้แบตเสื่อมแล้ว วิธีการป้องกันไม่ให้แบตเสื่อมก็ง่ายๆ ครับ ทำทุกอย่างตรงข้ามเลย ดังนี้ 

1. ไม่ใช้แบตเตอรี่จนหมดเกลี้ยงแล้วค่อยชาร์จ

โดยแฟรงค์แนะนำให้ชาร์จตอนแบตเหลือ 30% จะเหมาะสมนะครับ

2. ไม่ใช้โทรศัพท์จนร้อนเกินไป

เมื่อโทรศัพท์มีอุณหภูมิสูงเกินปกติ ให้ลองพักเครื่องสักนิด หรือลดความสว่างหน้าจอลง และค่อยมาใช้ต่อเมื่ออุณหภูมิเป็นปกติแล้วนะครับ

3. ใช้อุปกรณ์ชาร์จแบตที่ได้มาตรฐาน

ให้เลือกซื้อสายชาร์จและหัวชาร์จของแท้ จากร้านที่เชื่อถือได้เท่านั้นนะครับ

และนี่ก็คือเรื่องราวของอาการแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ที่เรานำมาเสนอ แต่ส่วนมาก สาเหตุที่เราเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือกันไม่ใช่เพราะแบตเสื่อม แต่เป็น “หน้าจอแตก” หรือ “ตกน้ำ” ต่างหากครับ ว่าแล้วก็ขายของ Mobile Care แพ็คเกจความคุ้มครองดีๆ ไม่ว่าจะรุ่นไหนแบรนด์ไหน ตกพื้นด้วยสาเหตุอะไร ขอแค่ จอแตก เราซ่อมให้ครบเลยครับ แถมมีบริการรับส่งถึงที่ใน 24 ชั่วโมงด้วย

ปัจจุบันอาการมือถือร้อนถือเป็นปัญหาในวงการมือถือมาโดยตลอด แม้เทคโนโลยีการออกแบบสมัยใหม่จะทำให้ปัญหานี้ลดลงไปมาก แต่ก็ยังมีมากวนใจอยู่ ใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ เรามาดูสาเหตุและวิธีแก้ไขกัน

ก่อนจะพูดถึงเรื่องนี้เราควรทำความเข้าใจก่อนว่าร้อนแบบไหนจะมีปัญหา? เพราะบางคนคิดว่าสมาร์ทโฟนควรจะเย็นอยู่เสมอ แต่ในความเป็นจริงแล้วสมาร์ทโฟนร้อนมากจนคุณจะรู้สึกได้เมื่อใช้งานบ่อยๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติเช่นการเล่นเกมและการเล่นวิดีโอ หรือเปิดใช้งานกล้องเป็นเวลานานหากเครื่องร้อนเพียงเล็กน้อยก็ไม่จำเป็นต้องกังวล แต่ถ้าเครื่องร้อนเกินไปโดยไม่ได้ใช้งาน หรืออุณหภูมิสูงและอาการอื่น ๆ เช่น พลังงานแบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็ว แบบนี้ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้

ความร้อนในสมาร์ทโฟนเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น สวมเคสที่ไม่ระบายความร้อน, ใช้สายชาร์จไม่ได้มาตรฐาน ไปจนถึงสาเหตุภายใน เช่น บั๊กที่ทำให้แอปใช้ CPU ตลอดเวลา มีแอปทำงานเบื้องหลังมากเกินไป, บั๊กของตัวระบบ, แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด ความร้อนมักจะมาจาก 3 จุดด้วยกัน นั่นคือ แบตเตอรี่, CPU และหน้าจอ