คํา ถาม สัมภาษณ์ งาน จบ ใหม่

การให้แนะนำตัวเองมักจะเป็นคำถามแรกที่ผู้สัมภาษณ์ใช้ถามเพื่อทำความรู้จักกับผู้สมัครมากขึ้น รวมถึงเป็นการช่วยละลายพฤติกรรม ทำให้บรรยากาศในการพูดคุยไหลลื่น และเป็นกันเอง ซึ่งการให้พูดเรื่องตัวเองอาจฟังดูง่ายแต่หลายคนก็ตกม้าตายตอนแนะนำตัวกันมามากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาจบใหม่หรือกระทั่งคนทำงานที่มีประสบการณ์ทำงานมาแล้วก็ตาม บางคนที่เป็น Extrovert ก็อาจแนะนำตัวเองมากเกินจนกลายเป็นข้อเสีย ในขณะที่คน Introvert ก็แนะนำตัวเองน้อยเกินจนกลายเป็นไม่น่าสนใจพอ

JobThai เลยอยากมาแนะนำแนวทางการแนะนำตัวเองทั้งสำหรับคนมีประสบการณ์ และนักศึกษาจบใหม่ 

วิธีแนะนำตัวเองฉบับเด็กจบใหม่

นักศึกษาจบใหม่อาจยังไม่มีประสบการณ์ในการทำงานมาพรีเซนต์ แต่เรื่องหนึ่งที่ควรรู้เอาไว้คือ เมื่อบริษัทเรียกเรามาสัมภาษณ์นั่นหมายความว่า เราต้องมีทักษะหรือผลงานระหว่างเรียนที่ตรงกับสิ่งที่องค์กรต้องการ เมื่อ HR หรือผู้สัมภาษณ์ยิงคำถามให้เราแนะนำตัวเอง สิ่งที่ควรทำคือ แนะนำชื่อ-นามสกุล คณะ สาขา และสถานศึกษาที่จบมา จากนั้นก็เล่าประสบการณ์ในช่วงเรียนพร้อมขยายรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น ในงานที่เรายกตัวอย่างเราทำอะไรบ้าง เจออุปสรรคอะไร แก้ปัญหาอย่างไร และจะใช้ประสบการณ์ที่ได้จากผลงานชิ้นนั้นมาต่อยอดกับงานที่สมัครนี้ได้อย่างไร หรือวิชาเรียนที่ได้เรียนมาหากเป็นประโยชน์ต่อตำแหน่งนี้ เราก็สามารถพูดได้เหมือนกัน เพราะมันอาจทำให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่าเราเหมาะสมมากขึ้นได้ 

วิธีแนะนำตัวเองฉบับคนมีประสบการณ์

คนทำงานหลายคนอาจผ่านการสัมภาษณ์งานมามากมาย แต่ก็พลาดในคำถามนี้ได้ หากแนะนำตัวเองน้อยเกินไปก็จะไม่สามารถแสดงศักยภาพที่เรามีและถูกตัดคะแนนได้ หรือถ้าเล่ามากเกินไปโดยที่มีแต่น้ำก็ส่งผลเสียได้เหมือนกัน ทางที่ดีเราควรแนะนำตัวเองอย่างพอดี เพียงแค่ชื่อ-นามสกุล ตำแหน่งงานในปัจจุบันที่ทำอยู่หรือตำแหน่งที่เคยทำก่อนหน้านั้น เล่าผลงานที่สำเร็จ พร้อมรายละเอียดและหน้าที่ที่รับผิดชอบ รวมทั้งประสบการณ์ที่เคยมีว่าสามารถนำมาปรับใช้กับตำแหน่งที่กำลังสัมภาษณ์อยู่ได้ยังไงบ้าง

สุดท้ายทั้งเด็กจบใหม่และคนที่มีประสบการณ์ทำงานแล้ว ก็ควรเล่าปิดท้ายถึงความสนใจและเหตุผลที่อยากทำงานในตำแหน่งนี้และร่วมงานกับที่นี่ เช่น สนใจในตำแหน่งนี้เพราะเรียนจบมาโดยตรงหรือมีทักษะที่คิดว่าสามารถนำมาใช้กับตำแหน่งนี้ได้ ส่วนเหตุผลที่มาสมัครงานที่นี่ก็เป็นเพราะว่าศึกษาข้อมูลของบริษัทแล้วชอบวัฒนธรรมองค์กร และอธิบายว่าตัวเองเหมาะสมกับที่นี่ยังไงบ้าง

ข้อผิดพลาดที่ผู้สมัครมักทำในการแนะนำตัว

การพูดถึงเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานอย่าง สมาชิกในครอบครัว สีที่ชอบ อาหารที่ชอบ หรืองานอดิเรกที่ไม่ได้มีประโยชน์ต่องานหรือสนับสนุนเรื่องงาน อาจทำให้เราถูกหักคะแนนในการสัมภาษณ์งานได้ ทางที่ดีเราควรให้ผู้สัมภาษณ์เป็นฝ่ายถามเองดีกว่าหากเขาสงสัยหรืออยากรู้เรื่องราวที่ไม่เกี่ยวกับงานของเรามากขึ้น พยายามพูดให้กระชับและเน้นเฉพาะใจความสำคัญโดยยังไม่ต้องขยายความมากเกินไปโดยไม่จำเป็น

อ่านเคล็ดลับและฝึกตอบคำถามสัมภาษณ์งานยอดฮิตทั้งหมด ได้ที่นี่ 

  • มีเป้าหมายในอาชีพยังไงบ้าง

  • ความท้าทายที่คุณมองหาในการทำงานคืออะไร

  • เป้าหมายในอนาคตของคุณคืออะไร

  • สิ่งที่คุณสนใจเกี่ยวกับงานนี้คืออะไร

  • จุดแข็งหรือจุดอ่อนของคุณคืออะไร

  • สิ่งที่บริษัทจะได้รับจากคุณคืออะไร

  • ทำไมคุณถึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานนี้

  • คุณมีคำถามเพิ่มเติมไหม

JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน

tags : freshgrad, สัมภาษณ์งาน, คำถามสัมภาษณ์งาน, job interview, หางาน, สมัครงาน, career & tips, เปลี่ยนงาน, เทคนิคสัมภาษณ์งาน, แนะนำตัวเอง, เทคนิคสำหรับเด็กจบใหม่, เคล็ดลับสำหรับเด็กจบใหม่, ไม่มีประสบการณ์, นักศึกษาจบใหม่, เด็กจบใหม่, เคล็ดลับสัมภาษณ์งาน, เคล็ดลับการทำงาน, คำถามสัมภาษณ์งานยอดฮิต

  • หน้าแรก

  • บทความที่เกี่ยวข้อง

  • Management Tips

  • การเตรียมตัวสัมภาษณ์งานของนักศึกษาจบใหม่

ปัญหาหนักอกหนักใจ คนหางานอีกหนึ่งอย่าง คงหนีไม่พ้น การสอบสัมภาษณ์หลาย ๆ คนมักจะตื่นเต้น จนทำให้ผลของการสอบสัมภาษณ์นั้นออกมาเป็นที่น่าเศร้าเสียใจ ฉะนั้น การเตรียมความพร้อมรับมือกับคำถาม คงช่วยให้คุณรู้สึกคลายความวิตกกังวลใจได้

      คำถามยอดนิยม 10 คำถาม ที่รับรองได้ว่า ไม่ว่าจะทำงานที่ไหน ต้องเจอคำถามเหล่านี้ เราขอรวบรวมมาฝากกัน เพื่อที่ว่าคุณจะได้เตรียมตัวหาคำตอบที่ดีและเหมาะสมที่สุด เรียกว่าเตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง อ่านแล้วคิดดูดี ๆ ว่าตอบอย่างไร จึงจะฟังดูดีและเข้าท่ามากที่สุด

1. ช่วยบอกเหตุผลว่าทำไมคุณถึงอยากทำงานที่นี่
      การที่จะทำงานที่ไหนก็ตาม ผู้สัมภาษณ์จะต้องถามความเป็นมาว่า ทำไมคุณต้องการที่จะทำงานในบริษัทของเขา และคำถามนี้ก็เป็นสิ่งที่คุณควรทราบ และคุณก็ควรจะรู้ถึงเหตุผลของคุณอย่างแท้จริง ไม่ใช่ตอบไปสุ่มสี่สุ่มห้า

2. ทำไมคุณถึงลาออกจากที่ทำงานเดิมที่เคยทำอยู่
      คำถามนี้จะง่ายมาก สำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่เคยทำงานมาก่อน แต่จะเป็นคำถามที่ยากมาก สำหรับคนที่เคยมีประสบการณ์ในการทำงานมาแล้ว และเป็นคำถามที่ตรงประเด็นมากเลยทีเดียว เพราะหากคุณพอใจต่องานที่ทำอยู่ คุณคงไม่ต้องหางานใหม่ คำถามนี้จึงเป็นคำถามที่คุณต้องเตรียมตัวอย่างมากเลยทีเดียวที่สำคัญไม่ควรนำข้อเสียของที่ทำงานเดิมที่คุณได้รู้หรือทราบมาพูดเด็ดขาด เพราะการกระทำเช่นนี้ อาจทำให้คะแนนแห่งความเชื่อถือของคุณลดลง

3. กรุณาแนะนำตัวเองและประวัติของคุณแบบย่อ ๆ
      การที่จะทำงานร่วมกันได้นั้น สิ่งที่สำคัญ ก็จะเป็นเรื่อง ข้อมูลส่วนตัว ประวัติ ความเป็นมาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามารถบ่งบอกถึง นิสัยใจคอของคุณได้ และสามารถบอกถึง ความเหมาะสม กับงานด้านนี้ของคุณ ในการตอบคำถาม จึงควรอยู่ในแง่ของการทำงาน บุคลิกภาพส่วนตัว และแง่คิดของชีวิตบ้างนิดหน่อย คุณไม่ควรจะเล่าประวัติชีวิตของคุณให้มากเกินไป เพราะการพูดมากเกินไป อาจจะทำให้เกิดผลเสียแก่ตัวคุณเอง

4. ถ้าคุณได้มาทำงานกับบริษัท คุณคิดจะทำอะไรให้กับบริษัทมากที่สุด
      ข้อนี้เป็นคำถามที่ค่อนข้างเปิดกว้าง เพื่อให้คุณสามารถบอกความเป็นตัวคุณ บอกถึงความสามารถ ความชำนาญของคุณ ฉะนั้น ตอบและบอกออกไปด้วยความมั่นใจคำถามเช่นนี้จะสามารถบ่งบอกถึงความตั้งใจจริงในการทำงาน ความสามารถที่คุณจะนำมาใช้กับงานที่คุณพร้อมจะทำให้กับบริษัทนั้นว่ามีมากน้อยแค่ไหน ในการบอกถึงคุณสมบัติที่คุณสามารถทำได้นั้น ไม่ถือว่าเป็นการโอ้อวดว่าคุณเก่งแต่อย่างไร แต่สิ่งที่คุณพูดนั้น จะสามารถสร้างน้ำหนักในการตอบคำถามให้แก่คุณได้

5. ออฟฟิศเรางานค่อนข้างมาก คุณจะมีปัญหาอะไรไหมหากต้องทำงานล่วงเวลา
       เหล่า Job Seeker ทั้งหลาย ต้องออกอาการอึ้งแน่นอน เมื่อเจอคำถามแบบนี้เข้า ไม่มีใครหรอกที่เลิกงานแล้วไม่อยากกลับบ้าน ยิ่งต้องทำงานล่วงเวลาแบบไม่ได้อะไรตอบแทนยิ่งแล้วใหญ่ฉะนั้นในการตอบคำถามนี้ คุณควรจะกล่าวถึงความพร้อมเสมอในการทำงานล่วงเวลา ถึงแม้ว่า ค่าตอบแทนอาจจะน้อยมาก หรือในการทำงานล่วงเวลาจะไปตรงกับตารางนัดสำคัญกับคนพิเศษของคุณก็ตาม

6. อาจจะเป็นคำถามทั่ว ๆ ไป
      ในการสัมภาษณ์คุณอาจจะต้องพูดถึงเรื่องปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ข่าวทาง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และค่านิยม ที่เกิดขึ้นในเวลานั้น เป็นข่าว หนังสือพิมพ์ คำถามนี้จะแสดงให้เห็นว่า คุณให้ความสนใจกับข่าวสาร บ้านเมือง ไม่เป็นคนที่ตกข่าว สามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง ที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ปัจจุบัน การทราบข้อมูลเหล่านี้ อาจทำให้คะแนนการสัมภาษณ์ของคุณเพิ่มขึ้นมาก็ได้

7. ความใฝ่ฝันของคุณและโครงการในอนาคต
      เป็นการพิจารณาถึงความเอาจริงเอาจังของคุณ เพราะหากคุณสามารถบอกถึงทิศทางในอนาคตได้ นั่นก็แสดงว่าคุณสามารถรับผิดชอบ ในงานที่ได้รับมอบหมายอย่างดีทีเดียว ก็ขนาดอนาคตที่ไม่มีใครสามารถรู้ได้ คุณยังวางแผนสู่อนาคตได้อย่างเป็นระบบ นั่นก็หมายถึงว่าคุณไม่ได้มีความคิดย่ำอยู่กับที่จริงไหม

8. งานอดิเรกที่คุณทำเป็นประจำมีอะไรบ้าง
      คำถามในข้อนี้จะเจาะประเด็นว่า คุณรู้จักแบ่งเวลาของคุณ ให้เกิดประโยชน์ มากน้อยแค่ไหน และแสดงให้เห็นถึงบุคลิกของคุณว่าคุณเป็นคนอย่างไร ร่าเริง เปิดเผย หรือเก็บตัว เช่น ถ้าคุณตอบว่า คุณชอบอ่านหนังสือ คุณอาจจะถูกถามต่อว่าหนังสือเล่มล่าสุดที่คุณอ่าน คือเรื่องอะไร และอาจให้คุณวิจารณ์ถึงหนังสือเล่มนั้น ในการถามคำถามนี้ ยังสามารถได้รู้ถึงความละเอียดอ่อนของคุณ การรู้จักสังเกต การมีปฏิภาณไหวพริบ กระทั่ง การใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น ๆ อีกด้วย9. เงินเดือนที่คุณต้องการจากงานที่ใหม่
      เป็นเรื่องที่ยากมากในการตอบคำถามนี้ ถ้าหากว่างานที่คุณไปสมัครระบุเงินเดือนไว้แล้ว ก็เกิดความสบายใจหน่อย แต่ถ้าไม่ได้ระบุถึงอัตราค่าจ้างเลย ก็อาจต้องคิดมากอยู่บ้าง ทางที่ดีคุณควรตอบตามอัตราเงินเดือนที่คนทั่วไปได้รับกัน เช่น อาจจะถามเพื่อนที่ทำงานเหมือนกับตำแหน่งที่คุณสมัคร หรือตอบตามเงินเดือนราชการ ที่คุณทราบก็ได้ แต่ถ้าหากผู้สัมภาษณ์ เสนอเงินเดือนมาสูงหรือต่ำกว่าอัตราที่คุณรู้ คุณก็อย่าพึ่งตอบตกลง คุณอาจจะขอเวลาในการพิจารณาสัก 3 วัน แล้วค่อยให้คำตอบ เพราะถ้าเกิดคุณตอบตกลงไปแล้ว และคุณมาขอขึ้นทีหลังก็เหมือนกับว่าคุณเป็นคนโลเล ไม่น่าเชื่อถือก็ได้

10. มักจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มาสอบสัมภาษณ์ ได้มีโอกาสถาม ถึงข้อสงสัยต่าง ๆ ในการร่วมงานกับที่ทำงานใหม่

      เจอคำถามนี้ก็บ่งบอกว่า การสัมภาษณ์ได้สิ้นสุดลง แต่ในการตอบคำถาม ข้อสุดท้ายนี้ จะตอบอย่างไรดี ที่จะแสดงว่าเราไม่เป็นคนไม่ฉลาดออกมา เช่น คุณอาจถามย้ำ เรื่องเวลาการทำงานก็ได้หรือคุณอาจจะไม่ต้องการถามอะไรก็ได้ เพราะการไม่ได้ถามก็เท่ากับว่า คุณได้ทราบข้อมูลของบริษัทมากพอแล้ว แต่ถ้าเกิดสงสัยจริง ๆ ก็ควรตั้งคำถามที่ฟังแล้วดูดี และถูกใจนายจ้างของคุณให้มากที่สุด      ทั้ง 10 ข้อนี้เป็นคำถามที่คนหางานมักต้องเผชิญ เมื่อยามสอบสัมภาษณ์ อาจดูแล้วไม่ยาก เหมือนจะง่าย แต่สิ่งสำคัญก็อยู่ที่การเตรียมตัวของคุณนั่นแหละว่า จะสามารถตอบได้ดีเพียงใด และควบคุมอารมณ์และความตื่นเต้นได้มากน้อยแค่ไหน หวังว่า 10 คำถามตัวอย่างนี้ จะสามารถทำให้คุณพิชิตงานและความก้าวหน้าดั่งใจของคุณได้ และนอกจากนี้สไตส์การแต่งตัวก็มีผลต่อการประเมินอยู่ไม่น้อย อ่านเพิ่มเติมได้ที่:สไตล์การแต่งกายมีผลต่อการประเมินผลจริงหรือ ขอให้โชคดีครับ