วันแม่ซื้ออะไรให้แม่ดี pantip

"เรียนจบ ทำงานแล้ว ส่งเงินให้พ่อแม่เดือนเท่าไหร่ดี"

"ช่วงโควิด-19 ส่งเงินให้ที่บ้านเท่าไหร่ครับ"

"เงินเดือนน้อย ยังไม่ส่งเงินให้ที่บ้าน ถือว่าอกตัญญูไหม"

"ไม่ได้ส่งเงินให้พ่อแม่ผิดมากไหม"

"เงินเดือน 20,000 บาท ส่งให้ที่บ้าน 10,000 บาท ไม่มีเงินเก็บเลย"

!(*@#^@)$(@&@!_$(*@^#)@(#&@)#_+_(!^*#).................

มีกระทู้แบบนี้เพียบเลยในเว็บไซต์ Pantip รวมถึงเพจหรือกลุ่มเกี่ยวกับการเงินใน Facebook

อ่านไปเรื่อย ๆ แล้วนึกสะท้อนใจขึ้นมาว่า "เฮ้ย ! เป็นปัญหาวงกว้างนะเรื่องนี้"

จัดการผิดวิธี ชีวิตพังได้เลยนะ...

ที่จริงผมก็มีปัญหานี้...มีเสมอมา

ตั้งแต่เริ่มทำงานถึงปัจจุบัน

แต่ผมไม่เคยคิดว่ามันเป็นปัญหา

เพราะมีความเชื่อว่า "กตัญญู" เป็นสิ่งที่ต้องทำ

แม้กระทั่งวันที่ผมขาดสภาพคล่องสุดขีด

"ส่งเงินให้ที่บ้าน" จะเป็นปัญหาสุดท้ายของผม

ไม่มีก็กู้เอา หยิบยืม หาให้ได้สักทาง

ยังไง "ที่บ้าน" ต้องได้เงินประจำเดือน

อย่างที่บอกว่าผมทำงานหลายอย่างมาก

ซึ่งหากไม่มีภาระ "ที่บ้าน" ผมสามารถทิ้งทุกงาน

แล้วเลือกทำสิ่งที่ชอบที่สุด ทุ่มกับมันให้เต็มที่ไปเลย

แต่ความเป็นจริง มันทำไม่ได้...

เพราะ 35% จากรายได้ทั้งหมดของผม ต้องส่งไปให้ "ที่บ้าน" ทุกเดือน

ดังนั้นหากเลิกงานใดงานหนึ่ง ระบบพังแน่

พอมาศึกษาเรื่องนี้จริงจัง (อ่านกระทู้แล้วอิน)

ผมไปตามอ่าน-ดู ความเห็นของบรรดากูรูวางแผนการเงินทั้งหลาย

เฮ้ย ! บางทีผมอาจจะใช้ชีวิตบนความเชื่อแบบผิด ๆ อยู่หรือเปล่า

เพราะในทางการเงิน ความกตัญญู ต้องอยู่ในระดับที่พอดี

ผู้ให้ต้องไม่เหนื่อยเกินไปทั้งกายและใจ

ผู้ให้ต้องมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดี

โอเค บ้านเราอาจจะเป็น "สังคมอุปถัมภ์ค้ำจุน"

ลูกต้องเลี้ยงพ่อแม่หรือผู้มีอุปการะคุณที่เลี้ยงเรามา

ก็ถูกนะ ไม่เถียงเลย ... แต่ต้องไม่เกินกำลัง

ไม่ใช่ แต่ละเดือนต้องใช้หนี้นอกระบบให้พ่อ, จ่ายค่าแชร์ให้แม่ หรือให้ยายไว้ใช้ทำบุญ

เพราะนั่นมันคือ กิเลส ของเขาเหล่านั้นทั้งสิ้น แต่ตั้งอยู่บนบ่าเรา

อย่าให้เงินจากความต้องการของ "ที่บ้าน"

จงให้แต่ความจำเป็นแต่พอดีเท่านั้น (ถ้ามีกำลัง)

เช่น ค่าอาหาร, ค่ารักษาพยาบาล หรืออาจให้ค่าใช้จ่ายส่วนตัวประมาณหนึ่ง เป็นต้น

นี่คือสิ่งที่ผมสรุปมาได้จากนักวางแผนการเงินทั้งหลาย

คิดไปคิดมา ก็จริงนะ...

อีกแนวคิดที่ทำให้ผมถึงบางอ้อคือ...

ความยากจนถ่ายทอดผ่านพันธุกรรมโดยพฤติกรรมได้

คือ พ่อแม่ ยากจน เลี้ยงลูกเพื่อหวังพึ่งพิง

ระหว่างทางก็สร้างหนี้สินพะรุงพะรัง

คิดเพียงวันหนึ่งลูกโตทำงานหาเงินได้ จะช่วยจัดการตรงนี้

คิดดูว่า ชีวิตเพิ่งจะเริ่มต้นตั้งตัว ก็เจอภาระก้อนโตแล้ว

หากวันหนึ่งลูกมีครอบครัวมีลูกเอง ภาระก็จะเพิ่มเข้าไปอีก

ต้องทำงานหนักแค่ไหนถึงจะเพียงพอช่วยเหลือตั้งหลายขา

สุดท้ายขาดสภาพคล่องก็ต้องสร้างหนี้

วนลูปวงจรภาระสิครับท่าน !!!

สิ่งที่ควรทำคือ "สร้างกรอบความคิดใหม่"

เพื่อให้ความจนนี้ "มันจบที่รุ่นเรา" หึหึ

ผมจะเริ่มจากตัวผมนี่แหล่ะ...

โอเค ผมคงไม่ไปลดรายเดือนของ "ที่บ้าน"

เพราะเขาได้รับแบบนี้มานานหลายปีแล้ว

แต่...ผมจะตัดรายการพิเศษที่ไม่จำเป็นซึ่งชอบโผล่มาระหว่างเดือนเสมอ

เช่น "วัดข้างบ้านที่ทำบุญใหญ่", "หลานอยากได้ชุดใหม่ไปโรงเรียน"

"อยากตัดหญ้าบริเวณบ้านจังเริ่มยาวขึ้นละ" หรือ "น้าตกงานมาอยู่ด้วยช่วงนี้เพิ่มเงินให้หน่อย" เป็นต้น

เพราะสิ่งที่ให้ไปแต่ละเดือนเพียงพอเหลือ ๆ กับการเลี้ยงชีพของ "ที่บ้าน" แน่ ๆ

ที่เหลือควรบริหารจัดการเอง เพราะด้วยวัยวุฒิ ก็ควรจะเข้าใจ

อยากเอาหลานมาเป็นภาระ ก็ดูแลเองให้ได้ ไม่งั้นก็ไปขอเงินจากพ่อ-แม่ เขาโน้น ไม่ใช่ผม

ญาติคนอื่น อยู่ในวัยทำงาน ตกงาน ก็หางานทำ ไม่ใช่มานั่งรอความช่วยเหลือ

แต่พูดคุยดี ๆ นะครับ พูดให้เข้าใจ หวังว่าจะเข้าใจนะ ^^

สำหรับท่านที่ขาดสภาพคล่องช่วงนี้

อย่าสร้างหนี้ เพื่อส่งเงินให้ "ที่บ้าน" นะครับ

ควรเจรจากับ "ที่บ้าน" เล่าให้เขาฟังให้เข้าใจ

อีมนุษย์ข้างบ้านจะมาแนะแหนว่า "อกตัญญู" ก็ช่างมัน

ต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน เพราะสำคัญสุด

อาจจะดูเห็นแก่ตัว...

แต่ในทางวางแผนการเงินที่ดี

"ไม่ควรสร้างหนี้เพื่อให้คนอื่นสบายแต่ตัวเองเดือดร้อน"

คำว่า "กตัญญู" ไม่จำเป็นต้องแลกด้วยเงินเสมอไป

อย่าให้ "ที่บ้าน" เสพติดภาวะพึ่งพิง

หากยังมีกำลังก็ลองช่วยกันหารายได้เพื่อดูแลตัวเองกันไป

ไม่มีเงิน ยื่นมือ ให้คำปรึกษา แสดงความเป็นห่วงเป็นใย

เป็นวิธีการแสดงความ "กตัญญู" อีกทางหนึ่ง

อย่ามีชุดความเชื่อผิด ๆ ที่ว่า "กตัญญู" คือการให้เงินเท่านั้น

สุดท้ายที่อยากจะบอกก็คือตัวเราเองก็ควรวางแผนเก็บออมเพื่อการเกษียณ

ใครยังไม่เริ่ม เริ่มเลยตอนนี้ เพื่อที่จะไม่ได้เป็นภาระลูกหลาน ในอนาคต

ให้ลูปของวงจรภาระจาก "ที่บ้าน" มัน "จบที่รุ่นเรา" เถอะ ^^

//////////// 

หากคุณต้องการรวมหนี้ เพื่อแก้หนี้
สามารถยื่นสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อการแก้หนี้ได้ที่นี่ >> สมัคร คลิก

ส่อง Idea ของขวัญปีใหม่แจกพนักงาน ใครได้รับต้องแฮปปี้

เวลาช่างผ่านไปเร็ว อีกไม่นานเข้าสู่เทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่กันอีกแล้ว  แม้ตลอดปีที่ผ่านมาหลายถูกพิษโควิด-19 เล่นงานอย่างหนักหน่วง แต่การละเลยอีเวนท์ช่วงปีใหม่เช่นการจับฉลากไม่ควรเกิดขึ้น เพราะนี่คือกิจกรรมที่่สร้างเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และคราบน้ำตาสำหรับผู้ที่พลาดหวังจากรางวัลใหญ่อย่างน่าเสียดาย นอกจากมองหาของขวัญจับฉลากกันในกลุ่มเพื่อน เพื่อนร่วมงาน และในครอบครัวแล้ว การเลือกซื้อของขวัญปีใหม่ให้เพื่อนร่วมงานที่เป็นคู่บัดดี้ หรือนายจ้างจัดหาของขวัญปีใหม่แจกพนักงาน ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของหลายบริษัทที่อยากตอบแทนพนักงานของตนที่ร่วมแรงร่วมใจฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจมาด้วยกันนอกเหนือไปจากเงินโบนัสก้อนโต แต่ปัจจุบันมีตัวเลือกของขวัญปีใหม่ที่เหมาะซื้อมาแจกลูกน้องมากมาย ฉะนั้นเพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจวันนี้เรามีไอเดียซื้อขของขวัญปีใหม่ให้พนักงาน Pantip มาแนะนำ

จดลิสต์ไว้ 6 ของขวัญปีใหม่ เหมาะซื้อแจกพนักงาน

1. หูฟังบลูทูธ

หูฟังบลูทูธ ไอเทมจำเป็นของคนรุ่นใหม่

ด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายและความคล่องตัวยามใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะหูฟังบลูทูธที่หลายคนใช้เพื่อสร้างโลกส่วนตัวขณะฟังเพลง เล่นเกม หรือดูซีรีส์ได้อย่างสนุกสนานทั้งมีอรรถรสมากขึ้นแบบไม่ร่วมรบกวนเพื่อนร่วมงานและเพื่อนร่วมทาง ปัจจุบันมีหูฟัง Bluetooth หรือหูฟังไร้สายให้เลือกหลายยี่ห้อหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Apple AirPods Pro, Samsung Galaxy Buds Live, Marshall Mid, Beats PowerBeats Pro หรือ JBL T450 BT โดยแต่ละแบรนด์มีความแตกต่างที่ดีไซน์ ส่วนคุณสมบัติหรือฟีเจอร์อื่น ๆ ก็มีความคล้ายคลึงกัน เช่น คุณสมบัติตัดเสียงรบกวนภายนอกเพื่อการประชุมทางโทรศัพท์ หรือกันน้ำได้ ฉะนั้นปีใหม่ลองมองหาหูฟังบลูทูธไปเป็นของขวัญให้พนักงานก็ถือเป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย

2. บัตรกำนัล

บัตรของขวัญ เป็นเสมือนเงินสดในรูปแบบหนึ่ง

หากไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อของขวัญปีใหม่อะไรไปแจกที่ทำงานดี "บัตรกำนัล" ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ดี นอกจากหาซื้อง่าย มีตัวเลือกให้ใช้บริการเยอะ นี่ยังเป็นการเปิดโอกาสได้เลือกซื้อของหรือใช้บริการต่าง ๆ ตามเงื่อนไขและวงเงินในบัตรอีกด้วย โดยบัตรกำนัลที่นิยมซื้อมามอบเป็นของขวัญมีทั้งบัตรกำนัลสำหรับใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สปา คอร์สเรียนทำอาหาร คอร์สเรียนออนไลน์ เวิร์กชอป รวมไปถึงแพ็กเกจสุขภาพและโปรแกรมทัวร์ แต่ถ้าอยากให้พนักงานมีตัวเลือกในการใช้บริการเยอะ ๆ แนะนำให้ซื้อบัตรกำนัลหลาย ๆ แบบแล้วเฉลี่ยงบให้เหมาะสมกับกิจกรรม ที่สำคัญลูกน้องของคุณที่ได้รางวัลชิ้นนี้อาจตกลงแลกเปลี่ยนบัตรกำนัลเพื่อให้ได้รางวัลที่ตรงใจมากขึ้น เช่น นาย A ได้บัตรกำนัลสำหรับช้อปปิ้งมูลค่า 1,000 บาทเป็นรางวัล ปรากฎว่าอยากพาครอบครัวไปทานอาหารนอกบ้านช่วงปีใหม่ จึงขอแลกรางวัลกับนาย C ที่ได้คูปองเงินสดในร้านอาหารชื่อดัง และต้องการบัตรกำนัลไปซื้อของขวัญให้พ่อแม่ เป็นต้น

3. สร้อยคอทองคำ

สร้อยคอทองคำ ของขวัญที่สามารถแปลงเป็นเงินสำรองฉุกเฉินได้

ทองถือเป็นเครื่องประดับที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง ฉะนั้นการมอบสร้อยคอทองคำเป็นของขวัญปีใหม่ นอกจากถือเป็นเงินขวัญถุง นี่ยังเปรียบเสมือนการอวยพรพนักงานที่ได้รับรางวัลใหญ่ชิ้นนี้เริ่มต้นปีใหม่กับความร่ำรวย แต่ด้วยมูลค่าทองคำที่ค่อนข้างสูง หากต้องการเฉลี่ยรางวัลนี้ให้กับลูกน้องในที่ทำงาน อาจเลือกซื้อสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 สลึงก็ได้

ช้อปของขวัญปีใหม่แจกพนักงานเยอะแค่ไหนก็คุ้ม เมื่อใช้บัตรเครดิต

4. นาฬิกาสมาร์ทวอทช์

สมาร์ทวอทช์ เพื่อนรู้ใจของคนรักการออกกำลังกาย

Smart Watch เป็นมากกว่านาฬิกาข้อมือแบบเดิม ๆ ที่ใช้เพื่อดูเวลาเป็นหลัก เพราะนาฬิกาสมาร์ทวอทช์สามารถใช้ติดตามการออกกำลังกาย วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ช่วยตรวจค่าออกซิเจนในเลือด วัดความดัน มี GPS ฟังเพลง ตอบกลับข้อความ หรือรับสายโทรเข้า เรียกว่าเป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่ตอบโจทย์เรื่องสุขภาพมากทีเดียว ทั้งนี้ Smart Watch บางรุ่นมีฟังก์ชันการใช้งานครอบคลุมไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนเลย

5. แท็บเล็ตหรือไอแพด

แท็บเล็ต อุปกรณ์ไอทีที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

หากเอ่ยถึงคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กฉบับพกพา หลายคนย่อมนึกถึง "แท็บเล็ต" และ "iPad" อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก สามารถตอบโจทย์การใช้งานและความบันเทิงได้ครบทุกรูปแบบ  ไม่ว่าจะใช้สรุปงาน ประชุมออนไลน์ ทำงานด้านกราฟิก ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมออนไลน์ก็สามารถทำได้ เพียงแต่ราคาอุปกรณ์ไอทีสัมพันธ์กับสเปคเครื่อง เช่น มีงบประมาณ 7,000 บาท อาจหาซื้อแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android เช่น แท็บเล็ตแบรนด์ Samsung, Huawei, Xiaomi, OPPO หรือ Lenovo แต่ถ้ามีงบมากถึง 15,000 บาท การซื้อ iPad สักรุ่นไปเป็นของขวัญปีใหม่ถือเป็นการสร้างสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงานให้กับพนักงาน

6. สมาร์ทโฟน

สมาร์ทโฟน อุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้

หากใครกำลังมองหาของขวัญไปแจกพนักงานช่วงปีใหม่อยู่ ขอแนะนำโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนไอเทมสำคัญที่ทุกเพศทุกวัยใช้ติดต่อสื่อสาร ติดตามข่าวสารทางโซเชียล ดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายรูป หรือใช้ทำงานต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน แถมทุกวันนี้มีแบรนด์มือถือให้เลือกซื้อมากมาย ทั้งแบรนด์ Apple, Xiaomi, Samsung, Huawei หรือ VIVO ที่สำคัญมีเรทราคาให้เลือกตั้งแต่หลักพันต้น ๆ ไปจนถึงราคาครึ่งแสน

และนี่ก็เป็นไอเดียของขวัญปีใหม่ให้พนักงานที่เราหยิบความคิดเห็นจากชาว Pantip มาแนะนำ แต่สุดท้ายอย่าลืมแสดงความจริงใจด้วยคำขอบคุณสั้น ๆ หรือชื่นชมพนักงานที่ทำงานได้ดี เพราะนี่เป็นการเติมพลังใจให้พนักงานก่อนเริ่มต้นทำงานใหม่ปีหน้า โดยก่อนเลือกช้อปของขวัญปีใหม่ไปแจกพนักงานลองเช็คโปรโมชั่นบัตรเครดิตในมือก่อนว่ามีส่วนลดพิเศษอะไรบ้าง เนื่องจากช่วงปลายปีแบบนี้สถาบันการเงินเจ้าของบัตรเครดิตจับมือกับร้านค้า ห้างสรรพสินค้า จัดโปรพิเศษทั้งได้คะแนนสะสม x2 ใช้แต้มแลกส่วนลดเพิ่ม หรือผ่อน 0% แน่นอนว่าสิทธิประโยชน์เหล่านี้มีให้ผู้บัตรได้เลือกซื้อสินค้าหรือชำระค่าบริการในราคาพิเศษ

เลือกซื้อของขวัญปีใหม่สุดคุ้ม พร้อมผ่อน 0% กับบัตรเครดิต
ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี