ก็ถ้าคลิกเข้ามาอ่านที่บทความนี้ รีวิว คอลลาเจน ยี่ห้อไหนดี แสดงว่า ร่างกายกำลังมีปัญหาเรื่องริ้วรอย หรือผิวพรรณไม่เต่งตึง จึงอยากจะหาซื้ออาหารเสริมชนิดนี้ไปทานกันอยู่ใช่ไหมล่ะครับ ก็บอกเลยว่าคลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้ว เพราะที่นี่ ทางผมได้ไปรวบรวมอาหารเสริมคอลลาเจนยี่ห้อที่น่าสนใจ มีทั้งแบบเม็ด, เม็ดฟู่ละลายน้ำ, แบบผง หรือแบบเยลลี่ มารีวิวของจริงให้ดูกันหลากหลายยี่ห้อเลยทีเดียว ซึ่งถ้าทุกคนได้ลองอ่านเนื้อหากันจนจบล่ะก็ จะต้องอยากซื้อไม่ยี่ห้อใดก็ยี่ห้อหนึ่ง หรือได้ไอเดียไปเลือกซื้อกันอย่างแน่นอน ส่วนจะมียี่ห้ออะไรมารีวิวให้ดูกันบ้างนั้น ก็ตามมาเลยครับผม ! Show
สารบัญครับผม 1ตารางเปรียบเทียบรีวิว อาหารเสริมคอลลาเจน ยี่ห้อไหนดีสำหรับใครที่อยากจะเห็นหลาย ๆ ยี่ห้อแบบพร้อม ๆ กัน รวมถึงสามารถเลื่อนตารางไปมาซ้ายขวา เพื่อทำการเปรียบเทียบรายละเอียด, ความเข้มข้น หรือราคากันได้แบบง่าย ๆ ทางผมก็อยากให้ลองคลิกที่ปุ่มด้านล่าง เพื่อเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบกันได้เลยครับ ตารางเปรียบเทียบ Collagen ยี่ห้อไหนดี 1. ยี่ห้อ Mega We care Glow Gollagenราคาโดยประมาณ 600 บาท ต่อ 30 ซอง หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada สำหรับใครที่อยากทานอาหารเสริมคอลลาเจน และเน้นอยากได้ Collagen คุณภาพดีแบบจัดหนักจัดเต็ม ต้องขอแนะนำให้ลองยี่ห้อ Mega We care Glow Gollagen กันเลยครับ โดยความน่าสนใจก็อยู่ที่ ทางแบรนด์เขาได้ใช้ส่วนผสมเป็น Collagen ชนิดพิเศษ Bio-active peptide ที่อยู่ภายใต้สูตรลิขสิทธิ์ของ Verisol® ซึ่งได้มีผลการศึกษามาแล้วว่า เมื่อให้ผู้ที่อยู่ในช่วงอายุ 45-65 ปี (กลุ่มที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย) ได้ลองทานอาหารเสริมตัวนี้ 2,500 mg เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก็พบว่า ตัว Glow Gollagen สามารถช่วยเพิ่มปริมาณคอลลาเจนได้จริง และเห็นถึงผิวพรรณที่มีสุขภาพดี มีความยืดหยุ่นที่ดีกว่าเดิมด้วยครับ นอกจากนี้ ตัวอาหารเสริมก็มาในรูปแบบของผงชงละลายน้ำ ที่มีกลิ่นหอม ไม่มีกลิ่นคาวเลย และรสชาติก็รสผลไม้รวม มีความอร่อย ดื่มง่ายมากก อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นของ Collagen ยี่ห้อนี้ จะไม่ได้เข้มข้นสูงเท่าหลาย ๆ ยี่ห้อ แต่ก็มั่นใจได้ว่า ถึงจะความเข้มข้นน้อย แต่ก็ให้ประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดี จึงไม่จำเป็นต้องทานพวกความเข้มข้นสูง ๆ ที่มีราคาค่อนข้างแพงเลย ส่วนโรงงานผลิตก็มีมาตรฐานยาระดับสากล ส่งออกไปกว่า 30 ประเทศทั่วโลก รวมถึงวัตถุดิบของ Verisol® ก็มาจากเยอรมัน และมีผลการศึกษาถึงผลลัพธ์ที่ได้อย่างเป็นทางการอีก ก็รวม ๆ แล้ว มั่นใจถึงคุณภาพและประสิทธิภาพของ Glow Gollagen กันได้เลยครับ จุดเด่น
ข้อที่ควรสังเกต
2. ยี่ห้อ STRONKAราคาโดยประมาณ 30 แคปซูล 990.- / โปร 2 กล่องใหญ่ แถม 1 กล่องเล็ก 1980.- หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada สำหรับใครที่รู้สึกว่า ร่างกายเหมือนเจ็บข้อต่อ เจ็บเข่า หรือปวดกระดูกอยู่บ่อย ๆ อาจจะเป็นเพราะว่า ร่างกายกำลังขาดแคลนสารอาหารอย่าง Collagen ชนิด Type II รวมถึงแคลเซียมก็เป็นได้ ซึ่ง STRONKA เขาก็เป็นอาหารเสริมที่มีสารอาหารเน้นหนักเรื่องการดูแลข้อเข่าและกระดูกโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น Collagen Type II คุณภาพดี นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาถึง 40 mg ที่จะมาช่วยบำรุงข้อต่อให้มีความหล่อลื่นและยืดหยุ่น ไม่ให้เกิดอาการปวดข้อได้ง่าย ๆ เสริมทัพด้วย แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต (ชนิดที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้เกือบ 100%) ถึง 500 mg จึงช่วยเพิ่มความหนาแน่นและลดการสูญเสียของมวลกระดูก ทำให้กระดูกมีความแข็งแรง พร้อมทั้งยังช่วยป้องกันโรคพระดูกพรุนได้ดีอีกด้วยครับ เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีเซซามินที่ได้จากสารสกัดงาดำ ซึ่งเป็นสารอาหารที่ผ่านงานวิจัยมาแล้วว่า ช่วยยับยั้งการทำงานของสารสื่ออักเสบ IL-1β (Interleukin-1 Beta) และยังช่วยลดการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนบริเวณข้อต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ทางแบรนด์ยังได้เสริมสารอาหารอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกเพียบ ทั้งแมกนีเซียม ออกไซด์, วิตามิน C, สารสกัดจากขมิ้นชัน และวิตามิน D3 ก็มาช่วยเสริมบำรุงร่างกายได้อีกกก คือถ้าเริ่มรู้ตัวว่า ร่างกายเริ่มมีอาการเจ็บ ๆ ปวด ๆ ตามข้อตามกระดูกแล้ว ต้องจัดคอลลาเจนของ STRONKA ไปทานกันเลยครับ! จุดเด่น
ข้อที่ควรสังเกต
3. ยี่ห้อ NATURE’S TRUTHราคาโดยประมาณ 475 บาท ต่อ 60 เยลลี่ หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada เบื่อกับการทานอาหารเสริมในรูปแบบเม็ดหรือแบบผงชงละลายน้ำ อยากจะทานแบบง่าย ๆ แต่ต้องมีรสชาติและความอร่อยด้วย ถ้ายังงั้นอยากให้ลองแบบเยลลี่ของยี่ห้อ NATURE’S TRUTH จากสหรัฐอเมริกากันเลยครับ โดยตอนแรกที่ผมได้ลองเปิดฝากระปุกคือ มีกลิ่นหอมหวานกระจายออกมาดีงามมาก แค่ได้กลิ่นก็รู้สึกความหวาน ๆ แล้ว พอได้ทานเท่านั้นแหละ ก็มีรสออกหวานนิด ๆ กำลังดี รวมถึงมีความหนึบ ๆ อร่อย ทานง่ายมากก อร่อยกว่าพวกแบบเม็ดหรือพวกผงชงละลายน้ำที่ไม่มีรสชาติอย่างแน่นอนครับ อย่างไรก็ตาม ถึงตัวเยลลี่จะมีความอร่อย แต่ถ้าดูจากสารอาหารแล้ว จะพบว่า มีปริมาณของคอลลาเจนค่อนข้างน้อยมาก มี Type 1 และ Type 3 รวมกันเพียง 120 mg เท่านั้น (ต้องทาน 2 เม็ดด้วยนะ) คือความเข้มข้นสู้ยี่ห้ออื่น ๆ ไม่ได้เลย เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีราคาต่อเม็ดที่ค่อนข้างสูง อย่างกระปุกนี้ที่ประมาณ 475 บาท จะได้ 60 เม็ด ทำให้ตกถึงเม็ดล่ะ 7-8 บาทเลยทีเดียว คือถ้าเน้นเรื่องความคุ้มค่า ซื้อยี่ห้ออื่น ๆ ทานจะดีกว่า แต่ถ้าเน้นอร่อย ทานง่าย ไม่ยุ่งยาก เยลลี่ของ NATURE’S TRUTH เขาตอบโจทย์ครับ จุดเด่น
ข้อที่ควรสังเกต
4. ยี่ห้อ demosana COLLAGEN + Cราคาโดยประมาณ 219 บาท ต่อ 20 เม็ด หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada demosana ยี่ห้ออาหารเสริมจากเยอรมันนี้ เขามีความน่าสนใจตรงที่เป็นแบบ “เม็ดฟู่ละลายน้ำ” จึงทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไวกว่าแบบอื่น ๆ และสำหรับตัวเม็ดฟู่รุ่น COLLAGEN + C นั้น ก็มีความเข้มข้นของ Collagen ที่ 500 mg รวมถึงมีวิตามิน C อีก 40 mg ซึ่งทั้งสองถือเป็นสารอาหารที่ดีต่อการบำรุงผิวมากก ช่วยกันสร้างและเติมคอลลาเจนใต้ชั้นผิวกันแบบสุด ๆ ครับ และหลังจากที่ได้นำเม็ดฟู่ไปละลายน้ำแล้ว (ใช้เวลาค่อนข้างนาน สงสัยเพราะอัดแน่นไปด้วย Collagen ) ก็จะได้น้ำสีชมพูอ่อน ไม่มีกลิ่น ส่วนรสชาติออกหวานอมเปรี้ยวที่มีความพีชมากก แอบอร่อยดี ยิ่งใครที่ชอบผลไม้พีชน่าจะถูกใจกันอย่างแน่นอน แต่เรื่องราคาก็แอบค่อนไปทางสูง โดยตกเม็ดฟู่ล่ะประมาณ 11-12 บาท ก็อาจจะไม่ค่อยตอบโจทย์คนเน้นความคุ้มค่ามากนัก แต่ถ้าอยากดื่มน้ำรสชาติพีชที่มีความหวานอร่อย รวมถึงได้สารอาหารบำรุงผิว ต้องจัดยี่ห้อนี้กันเลยครับ จุดเด่น
ข้อที่ควรสังเกต
5. ยี่ห้อ VOOST Cgราคาโดยประมาณ 169 / 495 บาท ต่อ 20 / 60 เม็ด หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว มาดูอาหารเสริมคอลลาเจนแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำกันอีกสักยี่ห้อ กับ VOOST Cg Collagen จากออสเตรเลีย (แต่ผลิตที่เยอรมันนะ) โดยถ้าสังเกตจากตารางเปรียบเทียบด้านบน จะเห็นว่า ให้สารอาหารที่คล้าย ๆ กับยี่ห้อ demosana ตัวด้านบน ซึ่งมีทั้ง Collagen 500 mg เหมือนกัน แต่วิตามิน C จะมากกว่าที่ 100 mg และยังได้เสริมวิตามิน B7 หรือ Biotin มาให้อีก 8 mcg ด้วย ทำให้มีสารอาหารที่เยอะกว่า เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีราคาที่ถูกกว่าด้วย (ตกเม็ดล่ะประมาณ 8-9 บาท) คือถ้าดูโดยรวมแล้ว VOOST ดีกว่า demosana ทุกด้านครับ แต่ถ้าถามถึงเรื่องรสชาติ ของ VOOST กับ demosana ก็แอบเหมือน ๆ กัน มีความหวานอมเปรี้ยวพอ ๆ กัน เพียงแค่ VOOST จะเป็นรสสตรอว์เบอร์รีส่วน demosana เป็นรสพีช ดังนั้นถ้าชอบรสไหนก็เลือกซื้อยี่ห้อนั้น ๆ ไปทานได้ หรือจะลองซื้อมาทั้ง 2 ยี่ห้อ เพื่อเปรียบเทียบก็ตามสะดวกเลยครับ จุดเด่น
ข้อที่ควรสังเกต
6. ยี่ห้อ Youtheoryราคาโดยประมาณ 900 บาท ต่อ 390 เม็ด หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada Ok ไม่อยากคิดมาก ไม่อยากยุ่งยาก อยากทานแบบเป็นเม็ด ๆ ดื่มน้ำตามแล้วจบ แต่ต้องได้คอลลาเจนเข้มข้นสูง ๆ และราคาที่ไม่แรงจนเกินไป ถ้ายังงั้นต้องลองยี่ห้อ Youtheory จากสหรัฐอเมริกากันเลยครับ (กระปุกสีดำเหมาะสำหรับผู้ชายเด้อ) โดยตัวนี้ จะมีความเข้มข้นของ Collagen ที่เม็ดล่ะ 1,000 mg และมีวิตามิน C เสริมมาให้อีก 15 mg ในขณะที่ราคาตกเม็ดล่ะประมาณ 2-3 บาทเท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ แล้ว ยี่ห้อนี้จะค่อนข้างคุ้มค่ามากก ทานวันล่ะเม็ดสองเม็ด หรือหกเม็ดตามคำแนะนำ ก็ยังไม่แพงจนเกินไป แต่ยี่ห้อนี้ก็ไม่อร่อย ให้อารมณ์เหมือนทานยาครับ จุดเด่น
ข้อที่ควรสังเกต
7. ยี่ห้อ Dr.PONG+ราคาโดยประมาณ 399 บาท ต่อ 100.6 g หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada ยอมรับความขายดีในโลกออนไลน์ของยี่ห้อ Dr.PONG+ นี้จริง ๆ เพราะมียอดขายที่มากกว่า 90k ชิ้น ++ คือขายดีมากกกก ส่วนหนึ่งที่ขายดีกันขนาดนี้คงเป็นเพราะว่า มีราคาที่ไม่แพงมากนัก ตกการทานครั้งล่ะประมาณ 19-20 บาท อีกทั้งยังได้ความเข้มข้นของคอลลาเจนที่ค่อนข้างสูง ถึง 5,000 mg อีกด้วย (ที่เขียนหน้าซองว่า 100,000 mg น้ัน คือทานทั้งถุงเด้อ) เท่านั้นยังไม่พอ ยังได้เสริมวิตามิน C สารอาหารบำรุงผิวชั้นดีมาให้อีก 30 mg ซึ่งเมื่อเทียบกับหลาย ๆ ยี่ห้อแล้ว ยี่ห้อนี้ค่อนข้างคุ้มค่ามาก เลยไม่แปลกใจที่จะขายดีกันสุด ๆ ครับ จุดเด่น
ข้อที่ควรสังเกต
8. ยี่ห้อ GIRL BOSSราคาโดยประมาณ 179 บาท ต่อ 6 ซอง หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada ยี่ห้อนี้ GIRL BOSS บอกเลยว่า แพงจริง แพงจัง แพงกว่าหลาย ๆ ยี่ห้ออย่างเห็นได้ชัด !! แต่ด้วยความที่ราคาแรงนี้เอง ก็ทำให้เขาจัดเต็มในเรื่องของสารอาหาร ไม่ว่าจะเป็น ตัวหลักอย่างคอลลาเจนที่ให้มา 2,000 mg ต่อ 1 ซอง Ok มันอาจจะไม่ได้เข้มข้นสูงเท่ายี่ห้ออื่น ๆ แต่ GIRL BOSS เขาก็มีสารอาหารเพิ่มเติมอีกหลากหลายชนิด เช่น ผงทับทิม, ผงมะเขือเทศผงข้าว, ผงอะเชโรลาเซอร์รี่, ผงอาซาอิ หรืออื่น ๆ ตามตารางเปรียบเทียบ !! ซึ่งแต่ล่ะตัว ก็เน้นช่วยบำรุงเรื่องผิวพรรณและความงามโดยเฉพาะ อีกทั้งตัวรสชาติก็อร่อยมากกกก มีความหอมหวานของดอกมะลิ กลิ่นผู้ดีผู้ดี๊ รสก็หวานนุ่มนวล ช่วยให้ดื่มง่าย ไม่คาวเลย อีกทั้งความหวานก็ไม่ได้มาจากน้ำตาล ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องอ้วนกันอีกด้วย คือบอกเลยว่า ยี่ห้อนี้เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการทานครั้งเดียวครบ จบ บำรุงสวย ๆ สุด ๆ กันเลยครับ จุดเด่น
ข้อที่ควรสังเกต
9. ยี่ห้อ VIDA รุ่น Q10ราคาโดยประมาณ 399 บาท ต่อ 52 เม็ด หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada หาซื้อง่ายทั้งทางออนไลน์หรือที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ต้องยกให้ยี่ห้อนี้ VIDA ซึ่งเอาจริง ๆ ทางแบรนด์เขามีอาหารเสริมคอลลาเจนวางขายกันหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น คอลลาเจนผสมกลูต้า หรือผสมวิตามิน C หรือผสม Q10 ก็ชอบแบบไหนก็ไปจัดกันได้ แต่ถ้าให้แนะนำล่ะก็ อยากให้ลองแบบผสม Q10 เพราะ Coenzyme Q10 ถือเป็นสารอาหารที่ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระได้ดี จึงช่วยในเรื่องของการต่อสู้กับริ้วรอยต่าง ๆ ด้วย และนอกจาก Q10 แล้ว ทางแบรนด์ยังได้เสริมสารอาหารอีกหลายชนิด (ดูได้จากตารางเปรียบเทียบ) ก็ให้อารมณ์บำรุงความสวยความงามได้หลายด้านเลยทีเดียว แต่ยี่ห้อนี้ความเข้มข้นของคอลลาเจนจะค่อนข้างน้อย ถ้าใครเน้นความเข้มข้นสูง ๆ อาจจะต้องลองยี่ห้ออื่น ๆ ครับ จุดเด่น
ข้อที่ควรสังเกต
10. ยี่ห้อ B link รุ่น Glutaราคาโดยประมาณ 170 บาท ต่อ 10 ซอง หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada เจอกับยี่ห้อที่เสริม Q10 แล้ว ถ้ายังงั้นลองมาดูยี่ห้อที่เสริม Gluta ดูบ้าง อย่าง B link ซองสีชมพู ที่เป็นแบบประเภทผงชงละลายน้ำ และขอบอกเลยว่า ชงแล้วอร่อยโคตร !! มีน้ำสีชมพูเข้มข้น พร้อมด้วยกลิ่นหอมของสตรอเบอร์รี่เด่นชัดสุด รสก็หวานอร่อย ดื่มง่ายมากก (แต่อาจจะหวานไปสักนิด ถ้าไม่ชอบหวานคงต้องขอผ่าน) และพอดื่มแล้วก็จะได้คอลลาเจนถึง 2,000 mg กับสารอาหาร อย่าง Gluta ที่จะมาช่วยให้ผิวกระจ่างใส รวมถึงสารอาหารเพิ่มเติมอื่น ๆ อีก แต่ถ้าเทียบเรื่องสารอาหารแล้ว อาจจะแพ้ยี่ห้อ GIRL BOSS เจ้านั้นเขาเยอะจริง ๆ แต่เจ้านี้พอมีน้อยกว่า ก็ทำให้มีราคาที่ถูกกว่า ยังไงก็ลองเลือกดู ตามความชอบและกำลังทัพย์เลยครับ จุดเด่น
ข้อที่ควรสังเกต
ประโยชน์ของคอลลาเจนก็ถ้าทุกคนอยากจะเห็นสินค้ากันแล้ว ก็ข้ามผ่านหัวข้อเหล่านี้ไปได้เลยนะครับ แต่ถ้าอยากจะอ่านสักหน่อยล่ะก็ ประโยชน์ของคอลลาเจนเนี่ย ก็มีมากมายหลายอย่างเลยทีเดียว ไม่ว่าจะ ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ, ป้องกันการสูญเสียความหนาแน่นของมวลกระดูก, ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ, ช่วยส่งเสริมสุขภาพของหัวใจ และที่สำคัญที่สุดที่คิดว่าหลาย ๆ คนเลือกซื้ออาหารเสริมคอลลาเจนมาทานกันก็คือ “เรื่องของความสวยความงาม” นี้แหละครับ เพราะคนเราเมื่อมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น ก็จะเกิดการสูญเสียของ Collagen ในร่างกาย ทำให้ผิวดูมีร่องรอย ดูแห้งกร้าน เหี่ยวย่น แลดูผิวอ่อนแอเอามาก ๆ ซึ่งสังเกตได้จากผู้สูงอายุที่สูญเสีย Collagen ไปนั้นเอง ดังนั้นการทานอาหารเสริมชนิดนี้เข้าสู่ร่างกาย ก็จะมาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ครับ คอลลาเจนกินตอนไหน ? และปริมาณที่ควรทานต่อวัน ?หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินมาว่า เวลาที่ดีที่สุดในการทานอาหารเสริมชนิดนี้คือ ช่วงท้องว่าง เพราะร่างกายจะสามารถย่อยและดูดซึมสารอาหารได้ดีที่สุด ทำให้หลาย ๆ คนจึงทานอาหารเสริมชนิดนี้หลังตื่นนอนกันเลยทีเดียว แต่จริง ๆ แล้ว จะท้องว่าง หรือไม่ว่าง ก็ไม่สำคัญครับ โดยคุณ Scott Keatley, R.D. นักโภชนาการของสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวว่า การสลายตัวของโปรตีนจำนวนมาก (คอลลาเจนคือโปรตีนชนิดหนึ่งเด้อ) จะเกิดขึ้นในลำไส้เล็ก ทำให้กระเพาะอาหารจะเต็ม มีครึ่งท้อง หรือท้องว่าง ก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนักสำหรับการทานโปรตีน ดังนั้นอยากจะกินอาหารเสริมชนิดนี้เมื่อไรก็ได้ เอาตามที่สะดวกได้เลยครับ ส่วนปริมาณที่สมควรทานต่อวัน เอาจริง ๆ ยังไม่มีสถาบันไหนออกมายืนยันในเรื่องนี้ แต่ได้มีผลการศึกษาพบว่า การทานที่วันละ 2,500 – 5,000 mg จะส่งผลให้ผิวดูมีสุขภาพดี ดูชุ่มชื้น ดูดีขึ้น มากกว่าไม่ได้ทานอย่างมีนัยสำคัญครับ เป็นยังไงกันบ้างครับทุก ๆ คน หลังจากที่ได้เห็นรีวิว อาหารเสริมคอลลาเจน ยี่ห้อไหนดี แบบจัดหนักจัดเต็ม รีวิวของจริงกันไปแล้วหลายยี่ห้อด้วยกัน ก็ไม่ทราบว่าสนใจ อยากจะซื้อยี่ห้อไหน อาหารเสริมแบบไหน ไปทานเพื่อเสริม Collagen กันบ้างครับ ?? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย ถ้าเน้นเรื่องความคุ้มค่าและความเข้มข้น การเลือกซื้อพวกยี่ห้อแบบเม็ด ๆ จะดีกว่า แต่ถ้าเน้นเรื่องความอร่อย ทานง่าย พวกยี่ห้อแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำ หรือเยลลี่จะตอบโจทย์ ยังไงก็ขอให้ได้ยี่ห้อที่ถูกใจ ทานแล้วชอบ พรรณมีริ้วรอยลดลง ดูเด็กขึ้นกันด้วยครับ |