ทะเลาะวิวาทเสียค่าปรับเท่าไร

          และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หลัง “ศรีสุวรรณ” ถูกชายบุกชก ขณะร้องเรียนให้ตรวจสอบ “โน้ส อุดม” เดี่ยว 13 ชวนทำความเข้าใจโทษทำร้ายร่างกายผู้อื่น

“ศรี​สุวรรณ​ จรรยา”​ เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย​ ยื่นหนังสือร้องเรียนเอาผิด​ เดี่ยว13 ของ โน้ส-อุดม แต้พานิช ว่าเข้าข่ายเป็นการหนุนการชุมนุมหรือไม่ เเต่ที่ขณะกำลังแถลงข่าวอยู่นั้น ได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้น เพราะมีชายคนหนึ่งเดินตรงเข้าไปชกใบหน้าของนายศรีสุวรรณ ก่อนที่จะทั้งสองจะชุลมุน ทำการต่อสู้กัน ภายหลังทราบชื่อชายคนดังกล่าวในเวลาต่อมาคือ วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล 

เมื่อตรวจสอบข้อกฎหมาย การทำร้ายร่างกาย ปัจจุบันไม่ใช่แค่จ่ายค่าปรับเรื่องก็จบ แต่อาจจะได้ไปจบที่ศาลหรือติดคุก ซึ่งกรณี ตบ ชก สมัยก่อนจะถูกปรับ 500 บาท เเต่ปัจจุบัน โทษสูงขึ้น อัตราโทษปรับที่สูงขึ้น 

 

ตามกฎหมายอาญามาตรา 391 ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ…. เดิมปรับไม่เกิน 1,000 บาทเปลี่ยนขึ้นเป็นปรับไม่เกิน 10,000 บาท

 

 

 

กรณีทะเลาะวิวาทตบตีกัน และมีการถอดเสื้อผ้า ผิดกฎหมายอาญามาตรา 278 ผู้ใดกระทำอนาจาร โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย ไม่สามารถขัดขืนได้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปีหรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับประมวลกฎหมายอาญา



แห่แชร์ ตำรวจโพสต์ระบุ หากทะเลาะวิวาทตบตี ไม่ปรับ 500 บาทแล้ว แต่กฎหมายเปลี่ยนเป็นปรับ 10,000 บาทแล้ว พร้อมจำคุก 1 เดือน และหากมีการถ่ายคลิปไลฟ์สดจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 60,000 บาท

จากกรณีดรามาในโซเชียลฯก่อนหน้าที่มีการแชร์คลิปทะเลาะวิวาทตบตีในคอนโดแห่งหนึ่ง เป็นภาพลูกบ้านสาวทะเลาะกับเจ้าหน้าที่นิติบุคคลของอาคาร ถึงขั้นตบตีลงไม้ลงมือ เหตุเพราะลูกบ้านรายนี้ต้องกักตัว เนื่องจากเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด และต้องรอให้ทางนิติฯ ส่งอาหารให้ แต่ไม่พอใจที่ทางนิติฯ ส่งอาหารให้ช้า ซึ่งลูกบ้านมีการพูดจายั่วยุ และตบหน้าเจ้าหน้าที่นิติฯ อย่างแรงหลายครั้ง ก่อนจะลุกลามกลายเป็นการทำร้ายร่างกายกันทั้งสองฝ่าย และได้มีการดำเนินคดีและเสียค่าปรับเรียบร้อยตามที่เคยนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันนี้ (1 ก.ย.) เพจ “ตำรวจภูธรเมืองสงขลา” ได้ออกมาโพสต์ข้อกฎหมายที่ทำเอาชาวเน็ตต่างฮือฮา โดยระบุข้อความว่า “ตบกัน ไม่ใช่ปรับ 500 แล้วนะ แต่เป็น 10,000 แล้ว พร้อมคุก 1 เดือน”

ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 372 ผู้ใดทะเลาะกันอย่างอื้ออึงในทางสาธารณะหรือสาธารณสถาน จากเดิมโทษปรับอยู่ที่ไม่เกิน 500 บาท แต่ได้มีแก้ไขใหม่ จากเดิมโทษปรับอยู่ที่ไม่เกิน 500 บาท แต่ได้มีแก้ไขใหม่ เพิ่มโทษเป็นปรับไม่เกิน 5,000 บาท ขณะที่ในมาตรา 391 ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ ตัวอย่างเช่น การตบตีกัน โทษจากเดิม คือ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก็มีการแก้ไขใหม่ โดยเพิ่มโทษปรับเป็นไม่เกิน 10,000 บาท หากมีการถ่ายคลิปวิดีโอและนำไปเผยแพร่ ทั้งการไลฟ์สดบนเฟซบุ๊ก (facebook live) หรือเผยแพร่ลงที่ใดก็ตาม จะมีโทษเพิ่มด้วย เนื่องจากเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 16 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 60,000 บาท

นอกจากนี้ กรณีที่ทะเลาะวิวาทตบตีกัน และมีการถอดเสื้อผ้า ก็ผิดกฎหมายอาญามาตรา 278 ผู้ใดกระทำอนาจาร โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย ไม่สามารถขัดขืนได้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าหากผู้ถูกกระทำเป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ก็มีโทษหนักกว่าเดิมอีกด้วย



  • จำคุก
  • ตบกัน

วันที่ 29 มี.ค. 65 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุข้อความว่า ตบฝรั่ง ตบไทย ตบเมื่อไหร่เป็นข่าว ตบครั้งเดียวดังไปทั่วโลก

ตบ ต่อย แบบไทยเมื่อก่อนปรับ 500 ขอตบซ้ำอีกทียินดีจ่าย 1000 คำพูดนี้จบไปแล้วในสังคมไทย เดี๋ยวนี้โทษสูงขึ้น แต่รายได้อาจไม่สูงขึ้น ตามอัตราโทษปรับที่สูงขึ้น คำพูดนี้คิดใหม่ได้แล้ว ตบ ต่อย 1 ครั้ง ปรับสูงสุดถึง 10,000 บาท ขอตบซ้ำอีกทีปรับสูงสุดถึง 20,000 บาท

เตือนสติพวกหัวร้อน อย่าคิดว่ามีตังจ่ายค่าปรับ กฎหมายแก้ไขแล้ว ปรับแพงขึ้น ขณะที่รายได้ส่วนใหญ่คนไทยไม่ขึ้น แถมลดลง

กฎหมายอาญามาตรา 391 ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุ ให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เดิมปรับไม่เกิน 1,000 บาท เปลี่ยนขึ้นเป็นปรับไม่เกิน 10,000 บาท ถ้าไม่มีเงินค่าปรับ ก็กักขังแทนค่าปรับ วันละ 500 บาท เข้าห้องขังกันไป

ส่วนฝรั่งตบกันใช้ความรุนแรงเป็นเรื่องของเขา เรามาว่าของเราแบบไทย กฎหมายต้องการให้คนไม่ทำร้ายร่างกายกัน ไม่ใช้กำลังข่มเหงรังแก หรือตัดสินกันเอง มีปัญหาต้องแก้ปัญหาด้วยกฎหมาย คือไปแจ้งความดำเนินคดี

ย้ำว่าไปโรงพักแจ้งความครับ หากใช้อารมณ์แก้ปัญหาเองในที่เกิดเหตุ ตบสวนไป ชกสวนไป เชิญไปโรงพัก ไม่จบไปขึ้นศาลต่อ จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ถ้าบาดเจ็บ เจ็บสาหัส โทษสูงขึ้นตามลำดับ ใช้สติอย่าใช้อารมณ์ ไม่นำความเดือดร้อนความทุกข์มาสู่ตนเองและครอบครัว ไม่ต้องมาเสียใจและขอโทษกันภายหลัง อัยการศาลแขวงไม่อยากให้บริการ.