มี เงิน ล้าน ลงทุน อะไร ดี

เราต้องการให้ผลตอบแทนงอกเงยขึ้นในระยะเวลาเท่าไหร่ ช้าหรือเร็ว เช่น 6-1 ปี 1-3 ปี 3-5 ปี หรือใช้ระยะเวลานานกว่านี้ และเรามีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้เมื่อไหร่ หรือเป็นเงินที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ในเร็ววัน เพื่อที่จะกำหนดนโยบายการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ต้องการให้ได้ในระยะเวลาที่กำหนด

  1. สามารถยอมรับความเสี่ยงได้หรือไม่ และคาดหวังในผลตอบแทนเพียงใด 

เราจะต้องสำรวจและตอบตนเองให้ได้ก่อนว่า ความเสี่ยงที่มากที่สุดที่เราจะรับได้นั้นเป็นมูลค่าเท่าไหร่ หากไม่ได้รับเงินลงทุนกลับมาเต็มจำนวน หรือต้องสูญเงินลงทุนเกินครึ่งจะเป็นอะไรหรือไม่ และผลตอบแทนที่เราต้องการเป็นจำนวนเท่าไหร่ หรือคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุน อย่าลืมว่าการคาดหวังผลตอบแทนสูง โดยที่ไม่สามารถรับความเสี่ยงที่จะสูญเงินลงทุนนั้นเป็นไปไม่ได้เลยในทางปฏิบัติ

มี เงิน ล้าน ลงทุน อะไร ดี

หลังจากนี้เป็นขั้นตอนที่เราใช้พิจารณาเลือกแนวทางการลงทุน ที่สัมพันธ์กันระหว่างระยะเวลา ผลตอบแทน และความเสี่ยง

มีเงิน 100,000 บาท ลงทุนอย่างไรดี

เรามาเริ่มกันที่เงินจำนวน 100,000 บาทก่อน ว่าจะสามารถลงทุนอย่างไร ให้ได้รับผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ ตัวอย่างเช่น เราตั้งเป้าว่าต้องการผลตอบแทนที่ 1% เราก็ต้องมองหาวิธีลงทุนแบบต่าง ๆ ที่มากกว่า 1% ก็จะเรียกว่าประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย

เงินจำนวนนี้ ถือเป็นเงินจำนวนน้อยถ้าจะนำไปลงทุนในธุรกิจ นอกจากนี้ยังต้องมีเงินทุนหมุนเวียน และเงินสำรองอีก ดังนั้น ถ้ามีเงินเย็นจำนวนเท่านี้ แนะนำให้นำไปฝากไว้ในบัญชีธนาคาร ซึ่งมีทั้งแบบออมทรัพย์และฝากประจำจะดีกว่า หรือลงทุนในหุ้นปันผลที่มีความมั่นคง มีแนวโน้มการเติบโตดี และมีประวัติจ่ายปันผลต่อเนื่อง ซึ่งโอกาสได้ผลตอบแทนต่อปีอาจจะมากกว่าที่คาดหวังอีกด้วย

ทั้งนี้ การลงทุนในตลาดหุ้นนั้นพึงรู้ไว้ว่ามีความเสี่ยงต่อเงินต้นมากกว่าการฝากธนาคาร แต่ถ้าวิเคราะห์หาหุ้นดีๆ ก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว เงินแสนบาทก็สามารถสร้างผลตอบแทนตามที่คาดหวังได้อย่างแน่นอน


หากมีเงิน 1 ล้านบาท จะนำเงินก้อนนี้มาลงทุนอะไรดี

การพิจารณานำเงินก้อน 1 ล้านบาท มาลงทุนเพื่อให้ได้ผลกำไรงอกเงยนั้น มีทางเลือกที่มากกว่าเงินแสน เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์  การลงทุนในหุ้น การลงทุนในทองคำ ตราสารหนี้ หรือ อนุพันธ์ เป็นต้น  ซึ่งหลักในการลงทุนเงินหลักล้าน สำหรับคนในวัยสูงอายุ และคนในวัยหนุ่มสาวนั้นมีหลักในการพิจารณาต่างกันดังนี้

  • การลงทุนด้วยเงิน 1 ล้านบาท สำหรับคนในวัยสูงอายุ

คนมีอายุนั้นควรพิจารณาการลงทุนที่มีความเสี่ยงไม่สูงมาก ในอัตราส่วนที่มากหน่อยเมื่อเทียบกับอัตราส่วนเงินทั้งหมดที่จะลงทุน อย่างตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาลหรือหุ้นประเภทบริษัทที่มีเกรดในการลงทุนสูงกว่าในระดับ BBB หรือกองทุนรวมในตราสารหนี้ และแบ่งส่วนที่เหลือกระจายลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเป็นค่าเช่าที่มีงวดรับสม่ำเสมอ หรืออาจเป็นกองทุนที่ลงในประเภทของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็ได้

  • การลงทุนในเงิน 1 ล้านบาท สำหรับคนในวัยหนุ่มสาว

คนในวัยหนุ่มสาวนั้น สามารถจะลงทุนในความเสี่ยงที่มากกว่าเพื่อให้ได้รับผลกำไรที่มากกว่าได้ เพราะยังมีทางเลือกในการหาเงินสำรองในรายได้อีกหลายช่องทาง ยังมีแรงและกำลังและช่วงเวลาในการหาเงินมากกว่า  จึงสามารถแบ่งส่วนในเงิน 1 ล้านบาท มาลงในตราสารหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่าได้  หรือแบ่งส่วนมาลงในกองทุนประเภทสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนหนึ่ง  และส่วนสุดท้ายซึ่งอาจเป็นสัดส่วนไม่มากเท่าสองส่วนแรกคือ ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และตราสารหนี้

หลักในการลงทุนเงินก้อน 1 ล้านบาท ก็คือ การรู้จักกระจายสินทรัพย์ในการลงทุน เพื่อกระจายความเสี่ยงและผลกำไร ( Asset Allocation) หากมีการพิจารณาการกรายลงทุนที่พอเหมาะในจำนวนเงิน 1 ล้านบาท นี้ จะทำให้ได้รับผลตอบแทนที่พอใจ ในอัตราความเสี่ยงที่พร้อมจะรับได้


กรณีที่มีเงิน 10 ล้านบาท ต้องการทำให้งอกเงยจะลงทุนกับอะไรดี

สำหรับเงิน 10 ล้านบาทนั้น เป็นเงินจำนวนที่สามารถให้ดอกผลได้เป็นกอบเป็นกำและเห็น จับต้องได้ชัดเจนมากขึ้น ดังนั้น คำถามอยู่ที่ว่าคุณสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยเพียงใด และต้องการผลตอบแทนจากเงินก้อนจำนวน 10 ล้านมาก เท่าไรต่อปี

ในจำนวนเงิน 10 ล้านบาท สำหรับคนในวัยสูงอายุ อาจจะไม่ใช่วัยที่จะต้องนำเงินก้อนนี้มาเสี่ยงอีกแล้ว สามารถนำเงินไปลงทุนในการซื้อสลากออมสิน ยกตัวอย่างเช่น

หากลงทุนในฉลากออมสินเป็นเงิน 5 แสนบาท จะได้ผลกำไรเป็นเงิน 300 บาทต่อเดือน ซื้อ 10 ล้าน จะได้เดือนละ 6,000 บาท และยังมีรางวัลอื่น ๆ ที่อาจจะได้จากฉลากออมสิน ซึ่งรวมแล้วอาจได้ถึง 10,000 บาทต่อเดือน เมื่อครบกำหนด  3 ปี จะได้ดอกเบี้ยอีกเป็นเงินหน่วยละ 3 บาท ดังนั้น เงิน 10 ล้านบาท ใน 3 ปี จะได้ผลตอบแทน 3 แสนบาท และในเงินส่วนที่เป็นรางวัลก็ไม่ต้องเสียภาษีด้วย ข้อดีก็คือไม่มีความเสี่ยงเลยก็ว่าได้

ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น อพาร์ทเม้นท์ เป็นการลงทุนที่ดีแต่ต้องพิจารณาทำเลและองค์ประกอบของอพาร์ทเม้นท์ว่าสามารถมีคนเข้าพักอาศัยที่มีศักยภาพและสามารถให้ผลตอบแทนกำไรทุกเดือน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เช่นนี้ก็เหมือนดังที่เขาว่ากันว่า เสือนอนกิน เมื่อใช้เงินก้อนซื้ออพาร์ทเม้นท์ก็ไม่ต้องปันผลประกอบการไปให้กับดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร และเมื่อวันเวลาผ่านไปนอกจากผลตอบแทนที่ได้จากผู้เช่าแล้ว ยังได้กำไรจากมูลค่าของที่ดินที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

สำหรับผู้ที่ยังชอบเสี่ยงอยู่อาจจะนำเงินมากระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ และกองทุนต่าง ๆ การกระจายประเภทการลงทุนจะเป็นการกระจายความเสี่ยงได้อย่างดี

ไม่ว่าจะเป็นเงินก้อนในหลักแสน หลักล้าน หรือหลัก10 ล้านก็ตาม การจะทำเงินให้ได้ผลกำไรที่งอกเงย เป็นสิ่งที่น่าคิดและสมควรจะทำ เพื่อบริหารให้เงินทำงานให้เราและเพื่อความมีอิสระทางด้านการเงินที่แท้จริง  สิ่งสำคัญอยู่ที่ความรู้และความรอบคอบในการลงทุนนั่นเอง

การลงทุนแบบไหนดีที่สุด

มีเงิน 10,000 บาท ลงทุนอะไรดี.
1. ฝากเงินในบัญชีดอกเบี้ยสูง ... .
2. สลากออมทรัพย์ ... .
3. พันธบัตรรัฐบาล หรือพันธบัตรออมทรัพย์ ... .
4. หุ้นกู้ ... .
5. กองทุนรวม ... .
6. ลงทุนในหุ้น ... .
7. ออมทอง ... .
8. ลงทุนขายของ หรือเปิดธุรกิจ.

มีเงินเย็นลงทุนอะไรดีให้เงินเพิ่มขึ้น

ในกรณีที่เรามีเงินเย็นและลงทุนระยะยาว แนะนำให้ลงทุนตราสารหนี้ที่มีอันดับเครดิตเรตติ้ง Investment Grade ขึ้นไปจะดีกว่า เพราะความเสี่ยงไม่มากนัก แต่ผลตอบแทนก็ยังสูง สำหรับระยะเวลาในการลงทุน ก็ขึ้นอยู่กับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนยาวนานขนาดไหน เพราะตราสารหนี้มีให้เลือกหลายช่วงอายุ หรือแม้กระทั่งตลอดชีพ

เงิน 1 ล้านทำธุรกิจอะไรได้บ้าง

มีเงิน 1 ล้าน ลงทุนอะไรดี?.
1. ธุรกิจส่วนตัว ... .
2. ธุรกิจเฟรนไชส์ ... .
3. หุ้น ... .
4. กองทุนรวม ... .
5. เงินฝากประจำ ... .
6. อสังหาริมทรัพย์ ... .
7. สลากออมทรัพย์.

มีเงิน 1000 ขายอะไรดี 2564

4 การลงทุน ลงแรง เปิดเป็นธุรกิจ.
1. ร้านขายเสื้อผ้ามือสอง.
2. ร้านขนมปังกรอบรสต่าง ๆ.
3. ร้านเฟรนช์ฟรายส์.
4. ร้านข้าวต้มมัด.
1. ฝากประจำ รับดอกเบี้ยสูง.
2. เลือกฝากกองทุนรวม.
3. ลงทุนซื้อหุ้น.
4. ออมทอง.