Show คนทำงานมานานหลายปี คงไม่กังวลใจเท่าไรว่าจะคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอย่างไร แต่สำหรับน้องใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงานไม่นาน หลายคนคงอยากรู้ว่าจะ คำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อย่างไรดี และมีอะไรบ้างที่สามารถนำมาหักภาษีได้ บทความนี้ เลยจะมาให้ความรู้และทบทวนความจำกันเสียหน่อยว่าการ คำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่คนทำงานต้องรู้ มีอะไรบ้างที่ต้องคำนึงถึง ... คำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เรื่องที่คนทำงานต้องรู้ทุกๆ ปี คนไทยทุกคนที่มีรายได้ถึงเกณฑ์กำหนดจะต้องยื่นแสดงรายได้และจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับกรมสรรพากร โดยในปีภาษี 2564 (ที่จะยื่นแบบในช่วงต้นปี 2565) จะใช้โครงสร้างภาษีเหมือนที่ปรับใหม่ในปี 2560 ซึ่งมีการเพิ่มค่าลดหย่อนใหม่หลายประเภท คือ
บุคคลที่ต้องยื่นภาษี 2564ในการยื่นภาษีในแต่ละปีนั้น หลายคนมักจะมีความเข้าใจว่า ถ้ามีเงินได้มากกว่าเดือนละ 25,833 บาท หรือมีเงินได้ต่อปีสูงกว่า 300,000 บาท จำเป็นจะต้องยื่นเสียภาษี ซึ่งความเข้าใจนี้ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเสมอไป เพราะกรมสรรพากรได้กำหนดให้คนที่มีเงินได้แม้มีเงินได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี ก็ต้องมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายได้ ในกรณีต่อไปนี้
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร?แบบยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีด้วยกัน 2 แบบ คือ
สำหรับคนที่ต้องการยื่นภาษี สามารถยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ตามลิงก์ที่ทางสรรพากรให้ไว้ หรือ https://efiling.rd.go.th/rd-cms/tax ยื่นภาษีได้ถึงวันที่เท่าไรทั้งนี้ การยื่นเสียภาษีในปี 2564 ที่จะยื่นผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร จะต้องยื่นภายในวันที่ 1 ม.ค.65 – 8 เม.ย. 65 ส่วนผู้ที่จะยื่นเอกสารเสียภาษีแบบกระดาษจะสามารถยื่นได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มี.ค.65 เท่านั้น รวมเอกสารประกอบการยื่นภาษีก่อนยื่นภาษี อย่าลืมตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ให้ครบก่อน เพราะช่วยให้มีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น หากต้องมีการตรวจสอบเอกสาร ซึ่งเอกสารประกอบการยื่นภาษี มีหลายรูปแบบ อาทิ
ทั้งนี้ เมื่อรวมค่าเบี้ยประกันแบบบำนาญกับเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือเงินสะสมเข้ากองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพแล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท ในแต่ละปีภาษี
หลักคำนวณ อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2564การเสียภาษี จะต้องเสียมาก หรือน้อยแค่ไหนนั้น ต้องนำมาหักค่าลดหย่อนด้วย โดยมีวิธีคำนวณภาษีดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 นำรายได้ทั้งปีมาหักค่าใช้จ่ายส่วนตัว แยกตามประเภทของรายได้ และหักลดหย่อนตามรายการต่าง ๆ เพื่อหารายได้สุทธิ หากนาย A มีรายได้ทั้งปี 600,000 บาท จะต้องหักค่าใช้จ่ายเบื้องต้นดังนี้ หักค่าใช้จ่าย 50% ของเงินได้ (แต่ไม่เกิน 100,000 บาท) = 100,000 บาท จะเหลือรายได้สุทธิ 500,000 บาท ขั้นตอนที่ 2 นำรายได้ที่เหลือมาหักค่าลดหย่อน จากนั้น ลองสำรวจดูว่าเรามีค่าลดหย่อนอะไรบ้าง แล้วนำค่าลดหย่อนนั้นมาลบออกจาก 500,000 บาท เช่น หากปีนี้ นาย A ซึ่งมีภรรยา 1 คน มีรายได้ไม่ถึง 30,000 บาท ทั้งคู่จดทะเบียนสมรสกันแล้ว แต่ไม่มีบุตร จ่ายประกันสังคมไป 9,000 บาท, มีบิดาอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ต้องเลี้ยงดู 1 คน, ซื้อ LTF ไป 50,000 บาท ก็สามารถนำค่าลดหย่อนทั้งหมดมาหักออกจาก 500,000 บาท ดังนี้
รวมหักไปทั้งหมด 209,000 บาท จนเหลือรายได้สุทธิ 291,000 บาท ขั้นตอนที่ 3 นำรายได้สุทธิที่ได้ มาเทียบอัตราภาษี ปัจจุบันใช้วิธีเสียภาษีแบบขั้นบันได ซึ่งอัตราภาษีในปี 2564 เป็นดังนี้ อัตราภาษีแบบขั้นบันได ตามรายได้ที่ได้รับ
วิธีคำนวณ: นาย ก. มีรายได้สุทธิอยู่ที่ 290,000 บาท เท่ากับต้องเสียภาษีในอัตราสูงสุดที่ 5% แต่ในจำนวนนี้ 150,000 บาทแรก ได้รับการยกเว้นภาษี จึงคงเหลือส่วนที่ต้องเสียภาษีอยู่ที่ :
จริง ๆ แล้วการ คำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ใช่เรื่องซับซ้อน แถมปัจจุบันยังมีแอปพลิเคชั่นมากมายที่ทำขึ้นเพื่อช่วยคำนวณภาษี ดังนั้น ขอเพียงรู้หลักในการคำนวนและสิทธิ์ที่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ก็สามารถยื่นภาษีทางออนไลน์ได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย อ่านเพิ่มเติม : ยื่นภาษี ปี 2564 สิทธิลดหย่อนภาษี มีอะไรบ้าง เนื่องจากในทุกวันนี้ การใช้รถใช้ถนนมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา ดังนั้นนอกจากผู้ใช้รถทุกคนต้องไม่ประมาทและควรระมัดระวังในการขับขี่แล้ว การทำประกันรถยนต์นั้นก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ท่านเพิ่มความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น ดังนั้นสามารถเข้ามาเปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้ทาง www.moneyguru.co.th ต้องการที่จะช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าใช้จ่ายจากการจ่ายเบี้ยประกันด้วยการ ลดราคาเบี้ย 5% พร้อมรับบัตรเติมน้ำมัน 500 บาท รับมือพิษเศรษฐกิจในเวลานี้ ข้อมูลอ้างอิง: กรมสรรพากร บทความแนะนำ
|