หลังจากมีเสียงเรียกร้องจากนักวิ่งหลายท่าน ต้องการทราบเกี่ยวกับ รองเท้าวิ่งแบรนด์ Saucony ของปี 2020 มีรุ่นอะไรบ้างและแต่ละรุ่นเหมาะกับการใช้งานอะไร? ติดตามได้เลยครับ Show
ความรู้เพิ่มเติม แบรนด์ Saucony (อ่านว่า ซอค-กะ-นี) ก่อตั้งขึ้นในปี 1898 ณ เมือง Kutztown รัฐ Pennsylvania, สหรัฐอเมริกา โดยนักธรุกิจหนุ่ม 4 คน คือ William A. Donmoyer, Thomas S. Levan, Walter C.C. Snyder และ Benjamin F. Reider ซึ่งชื่อแบรนด์ Saucony ได้มาจากลำธารน้ำที่มีชื่อว่า Saucony (หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Saucony Creek) ที่ไหลผ่านที่ตั้งโรงงานแรกของพวกเขาในเมือง Kutztown โดยชื่อ Saucony ได้รากศัพท์มาจากภาษาของชนพื้นเมืองอเมริกัน (หรือชนเผ่าอินเดียนแดง) คือ Saconk ที่มีความหมายว่า “สถานที่ที่แม่น้ำสองสายมาบรรจบกัน” ดังนั้น โลโก้ของแบรนด์ Saucony จึงเป็นรูปลำธารน้ำ โดยมีจุด 3 จุดบนโลโก้แทนก้อนหินขนาดใหญ่ 3 ก้อน ซึ่งในปัจจุบันก้อนหินทั้ง 3 ก้อนเปรียบเสมือนคุณค่าที่แบรนด์ Saucony ต้องการที่จะส่งมอบไปให้กับผู้บริโภค นั้นคือ ประสิทธิภาพที่ดี, สุขภาพที่ดี, และสังคมที่ดี ซึ่งเป็นการเปรียบเปรยถึงคุณค่าของแบรนด์ที่จะไม่ถูกพัดหายไป เหมือนดั่งก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่ในธารน้ำ นอกจากนี้ แบรนด์ Saucony เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ถูกออกเสียงผิดอยู่เป็นประจำ แม้แต่ในต่างประเทศ โดยถึงขั้นที่ว่าแบรนด์ Saucony เคยต้องเขียนคำอ่านง่าย ๆ อย่าง “sock – a – knee (อ่านว่า ซอค-กะ-นี)” ลงไปบนกล่องรองเท้ากันเลยทีเดียวและในปัจจุบันยังถูกเขียนไว้บนเว็บไซต์ในส่วนของประวัติอีกด้วย ในปัจจุบันแบรนด์ Saucony ถูกซื้อและเปลี่ยนมือไปอยู่ในเครือของบริษัทด้านการลงทุนยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Wolverine World Wide ซึ่งมีแบรนด์ในเครือที่คนไทยเราคุ้นเคยอย่าง Hush Puppies, Keds และ Merrell ปัจจุบันในปี 2020 รองเท้าวิ่งถนนของ Saucony มีทั้งหมด 15 รุ่น โดยแบ่งตามประเภทรองเท้าวิ่งดังนี้ ต่อจากนี้คือ รายละเอียดของทั้ง 15 รุ่น (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดเทคโนโลยี FORMFIT และพื้นโฟม PWRRUN PB, PWRRUN+, PWRRUN, EVERUN, PWRFOAM และ SSL EVA ของทาง Saucony) รองเท้าสำหรับใส่ซ้อมทุกวัน (Daily Trainers) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (NEUTRAL & UNDERPRONATOR)Saucony Cohesion 13Saucony Cohesion 13 เป็นรองเท้าวิ่งตัวเริ่มต้นสำหรับซ้อมวิ่งทั่วไป (Daily Run) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral Foot) ที่ Saucony โฆษณาว่ามาพร้อมกับปัจจัยพื้นฐานที่รองเท้าวิ่งควรมีอย่างเช่น การรองรับแรงกระแทกที่นุ่มนวลและความทนทาน รวมทั้งความสบายในการสวมใส่ ซึ่งแน่นอนว่ารุ่นนี้ไม่ได้มีการใส่เทคโนโลยีพิเศษใด ๆ เข้ามา ข้อมูลจำเพาะของ Saucony Cohesion 13
S20559-6_1 (1) S20559-6_2 S20559-6_5 S20559-6_3 S20559-6_4 Saucony Ride 13Saucony Ride 13 เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมวิ่งทั่วไป (Daily Run) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral Foot) ซึ่งในครั้งแรกนี้ได้พัฒนาต่อยอดจากรุ่นเดิมในปี 2019 อย่าง Saucony Ride ISO 2 โดยมีการเปลี่ยนแปลงหน้าผ้าจากเดิมที่เป็นหน้าผ้าแบบ ISO Fit ไปเป็นหน้าผ้า Engineered Mesh พร้อมกับเสริมโครงรองเท้าด้วยเทคโนโลยี 3D-Print Overlays เพื่อเพิ่มความกระชับ รวมทั้งมาพร้อมกับเทคโนโลยี FORMFIT นอกจากนี้ Saucony Ride 13 ได้มีการเปลี่ยนพื้นชั้นกลางไปใช้พื้นโฟมตัวใหม่อย่าง PWRRUN ซึ่งเป็นวัสดุ TPU ผสมกับ EVA (TPU/EVA Blend) ทำให้ช่วยเพิ่มการตอบสนองและส่งแรงคืน ทั้งยังคงความนุ่มของพื้น ข้อมูลจำเพาะของ Saucony Ride 13
rs (17) rs (18) rs (15) rs (16) rs (19) Saucony Endorphin ShiftSaucony Endorphin Shift เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมวิ่งทั่วไป (Daily Run) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral Foot) ที่มาพร้อมกับคำโฆษณาที่ว่า “คุณกำลังเตรียมพร้อมสำหรับวัน Recovery อยู่ใช่ไหม? Endorphin Shift คือคำตอบของคุณ รองเท้าที่จะทำให้การวิ่งของคุณรู้สึกง่ายเหมือนเป็นขนมและยังทำให้เท้าของคุณรู้สึกผ่อนคลาย ลองให้เท้าของคุณได้สัมผัสกับความนุ่มที่คู่ควรนี้สิ” Saucony Endorphin Shift เป็นรองเท้าที่ถูกออกแบบมาเป็นรองเท้าสำหรับใส่ในวัน Recovery และ Long Run ซึ่งมาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง PWRRUN โดยความลับของรองเท้าคู่นี้คือ พื้นโฟมชั้นกลางที่หนาเป็นพิเศษ (38 มม.) และเทคโนโลยี SPEEDROLL ที่มีลักษณะเหมือนกับขาของเก้าอี้โยก ช่วยให้การวิ่งเป็นไปได้อย่างลื่นไหลและประหยัดแรง นอกจากนี้สิ่งที่พิเศษในรุ่นนี้คือ พลาสติกบริเวณ Heel Counter ที่จะทำหน้าที่ร่วมกับพื้นชั้นกลางในการลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นของเท้าขณะวิ่ง จึงช่วยทำให้กล้ามเนื้อเมื่อยล้าน้อยลงนั้นเอง ข้อมูลจำเพาะของ Saucony Endorphin Shift
rs (23) rs (21) rs (24) rs (22) rs (20) Saucony Triumph 18Saucony Triumph 18 เป็นรองเท้าวิ่งตัวท็อปสำหรับซ้อมวิ่งทั่วไป (Daily Run) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral Foot) โดยในครั้งนี้มาพร้อมกับคำโฆษณาอย่าง “Win the day” ซึ่งเป็นสำนวนภาษาอังกฤษที่เปรียบเปรยว่า “แม้การแข่งขันจะยากลำบาก แต่ท้ายที่สุดพวกเราก็จะกลับมาชนะเสมอ” นอกจากนี้ Saucony Triumph 18 ยังถูกโฆษณาว่าเป็นรองเท้าวิ่งที่หรูหราและนุ่มที่สุดของแบรนด์ Saucony อีกด้วย ทำให้เหมาะกับการซ้อมวิ่งระยะไกล (Long Run) ซึ่งรองเท้าคู่นี้ได้จัดเต็มในด้านเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นพื้นโฟม PWRRUN+, เทคโนโลยี FORMFIT, และหน้าผ้า Engineered Mesh ที่มาพร้อมกับการเสริมโครงรองเท้าด้วยเทคโนโลยี 3D-Print Overlays ข้อมูลจำเพาะของ Saucony Triumph 18
rs (10) rs (13) rs (12) rs (14) rs (11) รองเท้าสำหรับใส่ซ้อมทุกวัน (Daily Trainers) สำหรับคนเท้าแบน (NEUTRAL & OVERPRONATOR)Saucony Guide 13Saucony Guide 13 เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมวิ่งทั่วไป (Daily Run) สำหรับนักวิ่งเท้าแบน (Overpronators) ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ Saucony Ride 13 ในแง่ของการใช้งาน แต่ Saucony Guide 13 จะมีการเสริมอุ้งเท้าด้านในด้วย TPU Guidance Frame เพื่อให้นักวิ่งเท้าแบนลงเท้าได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดย Saucony Guide 13 จะมาพร้อมกับพื้นโฟมตัวใหม่อย่าง PWRRUN และหน้าผ้าทอ (Engineered Jacquard Mesh) รวมทั้งมีการเสริมด้วยเทคโนโลยี FORMFIT ข้อมูลจำเพาะของ Saucony Guide 13
rs (31) rs (32) rs (30) rs (33) rs (34) Saucony Omni 19Saucony Omni 19 เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับซ้อมวิ่งทั่วไป (Daily Run) สำหรับนักวิ่งเท้าแบน (Overpronators) ที่เท้าล้มมาก ๆ และต้องการการเสริมอุ้งเท้าแบบจัดเต็ม โดยมาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง PWRRUN และเสริมโฟมแข็งบริเวณอุ้งเท้า (Dual Density Medial Post) นอกจากนี้ยังพร้อมกับเทคโนโลยี FORMFIT ข้อมูลจำเพาะของ Saucony Omni 19
rs (35) rs (39) rs (37) rs (36) rs (38) Saucony Hurricane 22Saucony Hurricane 22 เป็นรองเท้าวิ่งตัวท็อปสำหรับซ้อมวิ่งทั่วไป (Daily Run) สำหรับนักวิ่งเท้าแบน (Overpronators) ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ Saucony Triumph 18 ในแง่ของความนุ่มที่มากที่สุดและการใช้งาน เช่น การนำไปซ้อมวิ่งระยะไกล (Long Run) แต่ Saucony Hurricane 22 จะมีการเสริมอุ้งเท้าด้านในด้วย TPU Guidance Frame เพื่อให้นักวิ่งเท้าแบนลงเท้าได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดย Saucony Hurricane 22 จะมาพร้อมกับพื้นโฟม PWRRUN+ และเทคโนโลยี FORMFIT ข้อมูลจำเพาะของ Saucony Hurricane 22
rs (40) rs (44) rs (42) rs (43) rs (41) Saucony Echelon 8Saucony Echelon 8 เป็นรองเท้าวิ่งชนิดพิเศษสำหรับบุคคลที่มีความผิดปกติเชิงโครงสร้างของร่างกาย เช่น ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ซึ่งขาดสมดุลในการทรงตัว หรือบุคคลที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บที่เท้า อย่างเช่น บุคคลที่มีการเดินหรือยืนทำงานเป็นเวลานาน ๆ ตลอดทั้งวัน ซึ่งทำให้เท้าไม่สามารถวิ่งหรือเดินได้เหมือนคนทั่วไป โดยรองเท้าประเภทนี้จะถูกเรียกว่า Orthotic Friendly Shoes (โดยปกติต้องมีการสั่งตัดรองเท้าเป็นรูปเท้าของแต่ละบุคคล ถึงจะได้รับประโยชน์สูงสุด) ซึ่ง Saucony Echelon 8 ถูกออกแบบมาให้ช่วยบรรเทาอาการเหล่านั้น โดยมีการขยายฐานของพื้นรองเท้าให้กว้างกว่ารองเท้าวิ่งทั่วไป เพื่อเพิ่มความมั่นคงขณะเดินและวิ่ง รวมทั้งมีการใช้โฟม PWRRUN ที่ค่อนข้างหนาเป็นพิเศษ (35 มม.) เพื่อเพิ่มความนุ่มนวลและสวมใส่สบาย ข้อมูลจำเพาะของ Saucony Echelon 8
rs (27) rs (25) rs (29) rs (28) rs (26) รองเท้าสำหรับใส่ซ้อมทำความเร็ว (Lightweight Trainers) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (NEUTRAL & UNDERPRONATOR)Saucony Kinvara 11Saucony Kinvara 11 เป็นรองเท้าสำหรับใส่ซ้อมทำความเร็ว (Lightweight Trainers) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral Foot) โดยประวัติตระกูล Kinvara รุ่นแรกเกิดขึ้นจากความต้องการของนักวิ่งที่ต้องการรองเท้าสำหรับซ้อมทำความเร็วที่มีน้ำหนักเบาและต้องให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติขณะการวิ่ง ฉะนั้น Kinvara รุ่นแรก ในปี 2009 จึงเป็นรองเท้าที่ถูกถอดส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปเกือบทั้งหมด และยังเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่นำความสูง Drop 4 มม. เข้ามาใช้ในรองเท้าวิ่ง ซึ่งในปี 2020 Saucony Kinvara 11 ได้สานต่อเจตนาตั้งต้นของตระกูล โดยมาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง PWRRUN เสริมด้วยเทคโนโลยี FORMFIT และลดน้ำหนักให้มากที่สุดด้วยดอกยางสไตล์ Strategic Rubber หรือ ดอกยางที่จะวางไว้เฉพาะจุดสำคัญ ๆ ในการลงเท้าขณะวิ่งเท่านั้น เช่น บริเวณปลายนิ้วเท้าและบริเวณส้นเท้า นอกจากนี้ Saucony ยังโฆษณาว่า “รองเท้าคู่นี้เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการนำไปสร้างสถิติเวลาใหม่ หรือต้องการทำลายสถิติเวลาเดิมของคุณเอง” ข้อมูลจำเพาะของ Saucony Kinvara 11
rs (54) rs (52) rs (51) rs (53) rs (50) Saucony Freedom 3Saucony Freedom 3 เป็นรองเท้าวิ่งตัวท็อปสำหรับใส่ซ้อมทำความเร็ว (Lightweight Trainers) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral Foot) ที่มาพร้อมกับคำโฆษณาที่ว่า “Saucony Freedom 3 สามารถทำให้คุณไล่ล่าทำลายสถิติของตัวคุณเองในแต่ละวัน โดยไม่มีสิ่งใดสามารถฉุดรั้งคุณไว้ได้” นอกจากนี้ทาง Saucony ยังกล่าวว่า “พื้นโฟมที่ไม่หนามากและมีความยืดหยุ่นสูง (หรือสามารถงอตามรูปเท้าได้) ทำให้คุณสามารถปลดปล่อยสัญชาตญาณนักล่าและลงเท้าได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด” โดยในครั้งนี้ Saucony Freedom 3 มาพร้อมกับพื้นโฟม PWRRUN + และหน้าผ้า Knit Mesh รวมทั้งเสริมด้วยเทคโนโลยี FORMFIT ข้อมูลจำเพาะของ Saucony Freedom 3
rs (59) rs (58) rs (56) rs (55) rs (57) Saucony Endorphin SpeedSaucony Endorphin Speed เป็นรองเท้าวิ่งตัวท็อปรุ่นใหม่สำหรับใส่ซ้อมทำความเร็ว (Lightweight Trainers) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral Foot) โดยมาพร้อมกับพื้นชั้นกลางที่ดีที่สุดของแบรนด์อย่าง PWRRUN PB (PeBax®-based) ตัวเดียวกับ Endorphin Pro แต่แตกต่างกันตรงที่ Endorphin Speed แทนที่แผ่นคาร์บอนด้วยแผ่นไนลอน (TPU synthetic plate) ที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า และเสริมด้วยเทคโนโลยี SPEEDROLL ที่มีลักษณะเหมือนกับขาของเก้าอี้โยก ช่วยให้การวิ่งเป็นไปได้อย่างลื่นไหลและประหยัดแรง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับหน้าผ้าน้ำหนักเบา ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรองเท้าตะปูอย่าง Saucony Endorphin 2 และบริเวณหน้าผ้าจะมีการถักแบบ 3D (3D raised knitting) ให้มีความหนาและโครงเพิ่มขึ้นมา รวมทั้ง บริเวณส้นเท้า (Heel Counter) ที่มีโครงสร้างมากกว่า Endorphin Pro เพื่อเพิ่มความเสถียรและความทนทานให้กับรองเท้า จึงทำให้มีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากตัว Endorphin Pro เล็กน้อย ข้อมูลจำเพาะของ Saucony Endorphin Speed
rs (48) rs (45) rs (47) rs (49) rs (46) รองเท้าสำหรับใส่ซ้อมทำความเร็ว (Lightweight Trainers) สำหรับคนเท้าแบน (NEUTRAL & OVERPRONATOR)Saucony Liberty ISO 2Saucony Liberty ISO 2 (เป็นรองเท้าของปี 2019 ซึ่งในปี 2020 รองเท้าตระกูล Liberty ตัวใหม่ยังไม่มีการเปิดตัว) เป็นรองเท้าวิ่งตัวท็อปสำหรับใส่ซ้อมทำความเร็ว (Lightweight Trainers) สำหรับนักวิ่งเท้าแบน (Overpronators) ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ Saucony Freedom ISO 2 (รุ่นปี 2019) ในแง่ของการใช้งาน แต่ Saucony Liberty ISO 2 จะมีการเสริมอุ้งเท้าด้านในด้วย TPU Guidance Frame เพื่อให้นักวิ่งเท้าแบนลงเท้าได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดย Saucony Liberty ISO 2 จะมาพร้อมกับพื้นโฟม EVERUN และหน้าผ้า Engineered Mesh ที่เสริมความกระชับด้วยเทคโนโลยีโครงรองเท้าแบบ ISOFIT ข้อมูลจำเพาะของ Saucony Liberty ISO 2
rs (61) rs (64) rs (63) rs (62) rs (60) รองเท้าสำหรับใส่แข่งขัน (Race Day) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (NEUTRAL & UNDERPRONATOR)Saucony Type A9Saucony Type A9 เป็นรองเท้าสำหรับใส่แข่งขัน (Race Day) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral Foot) ซึ่งเป็นรองเท้ากลุ่ม Racing Flat ยุคดั้งเดิม ที่โดดเด่นในเรื่องความบางของพื้นโฟมและน้ำหนักที่เบาดุจดั่งขนนก โดย Saucony Type A9 มาพร้อมกับพื้นโฟมน้ำหนักเบาอย่าง SSL EVA (ย่อมาจาก Saucony Super Lite EVA) รวมทั้งมาพร้อมหน้าผ้า Open Mesh น้ำหนักเบา ที่เสริมความกระชับด้วย 3D Printed Overlays ข้อมูลจำเพาะของ Saucony Type A9
rs (66) rs (69) rs (67) rs (68) rs (65) Saucony Endorphin ProSaucony Endorphin Pro เป็นรองเท้าสำหรับใส่แข่งขัน (Race Day) สำหรับนักวิ่งเท้าปกติ (Neutral Foot) ซึ่งเป็นรองเท้าในกลุ่ม “Carbon-Fiber Plate Running Shoes” หรือ “รองเท้าตัวแข่งที่มาพร้อมกับแผ่นคาร์บอน” นอกจากนี้ในต่างประเทศ รองเท้าประเภทนี้ยังถูกเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า “Super Shoes” หรือ “สุดยอดรองเท้า” ซึ่ง Saucony Endorphin Pro ถูกออกแบบและพัฒนาโดยทีมนักวิ่งแนวหน้าของทาง Saucony อย่าง Jared Ward และ Parker Stinson ซึ่งใช้เวลาถึง 18 สัปดาห์ในการออกแบบและทดสอบ โดยมีตัว Prototype ออกมาถึง 25 แบบ จนสุดท้ายออกมาเป็น Endorphin Pro ตัวนี้ (อ่านต่อบทสัมภาษณ์ผู้ออกแบบรองเท้าวิ่ง Saucony Endorphin Pro) โดย Saucony Endorphin Pro มาพร้อมกับพื้นชั้นกลางที่ดีที่สุดของแบรนด์อย่าง PWRRUN PB (PEBAX based) รวมทั้งเสริมด้วยแผ่นคาร์บอนแบบแข็งรูปตัว S และเทคโนโลยี SPEEDROLL ที่มีลักษณะเหมือนกับขาของเก้าอี้โยก ช่วยให้การวิ่งเป็นไปได้อย่างลื่นไหลและประหยัดแรง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับหน้าผ้า (Upper) ที่มีลักษณะเป็นผ้า Mesh ชั้นเดียว (Single layer engineered mesh) ทำให้มีความบางและน้ำหนักเบา ข้อมูลจำเพาะของ Saucony Endorphin Pro
rs (75) rs (77) rs (78) rs (79) rs (76) รองเท้าสำหรับใส่แข่งขัน (Race Day) สำหรับคนเท้าแบน (NEUTRAL & OVERPRONATOR)Saucony Fastwitch 9Saucony Fastwitch 9 เป็นรองเท้าสำหรับใส่แข่งขัน (Race Day) สำหรับนักวิ่งเท้าแบน (Overpronators) ซึ่งเป็นรองเท้าในกลุ่ม Racing Flat ยุคดั้งเดิม คล้ายคลึงกับ Saucony Type A9 ที่โดดเด่นในเรื่องความบางของพื้นโฟมและน้ำหนักที่เบา แต่ Saucony Fastwitch 9 จะมาพร้อมกับการเสริมโฟมแข็งบริเวณอุ้งเท้า (Dual Density Medial Post) ทาง Saucony ได้โฆษณารองเท้าคู่นี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า Fastwitch 9 เป็นรองเท้าที่พร้อมจะเปลี่ยนคุณจาก “นักวิ่งธรรมดาที่จบงานได้ (Finisher)” ไปเป็น “ผู้เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก (Finishing First)” โดยรองเท้าคู่นี้มาพร้อมกับพื้นชั้นกลางน้ำหนักเบาอย่าง SSL EVA และหน้าผ้า Engineered Air Mesh ข้อมูลจำเพาะของ Saucony Fastwitch 9
rs (74) rs (73) rs (70) rs (71) rs (72) แอดมินหวังว่าบทความนี้เป็นจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิ่งหรือผู้ที่สนใจในการวิ่งหลาย ๆ ท่าน ถ้าหากท่านใดมีคำถามหรืออยากจะแชร์ประสบการณ์ในการวิ่งสามารถเข้าไปคอมเม้นได้ในเพจ FB: Running Profiles ได้เลยครับ ฝากกดไลน์และติดตามเพจด้วยครับ ขอให้วิ่งให้สนุกครับ รองเท้าวิ่งยี่ห้อ Saucony ดีไหม“Saucony Guide 14” รองเท้าวิ่งที่มีความแข็งแรง สามารถบังคับให้นักวิ่งลงน้ำหนักและทรงตัวได้อย่างมั่นคง ซัพพอร์ตฝ่าเท้า กลางเท้า และส้นเท้าด้วยโครงพลาสติก TPU โฟม Pwrrun จึงไม่นิ่มจนเกินไป เสริมบุนุ่มที่เอ็นร้อยหวายและลิ้นรองเท้า เพิ่มความนุ่มสบาย และช่วยล็อคข้อเท้าด้วยสัมผัสที่อ่อนโยน
รองเท้าวิ่ง Saucony รุ่นไหนดีรองเท้า Saucony รุ่นไหนดี ?. Saucony Guide 14. ... . Saucony Triumph 18. ... . Saucony Endorphine Pro. ... . Saucony Endorphine Speed. ... . Saucony Kinvara 12.. Saucony Triumph 19 เหมาะกับใครประเภท : รองเท้าวิ่งถนน สำหรับคนเท้าเว้า เท้าปกติ (neutral)
รองเท้าวิ่ง Saucony มีกี่รุ่นวันนี้มาต่อกันที่รายละเอียดต่างๆ และภาพรองเท้าตัวจริงของทั้ง 6 รุ่นจากแบรนด์ Saucony: Endorphin Pro 3, Endorphin Speed 3, Endorphin Shift, Tempus, Kinvara 13 และ Ride 15 ที่จะวางจำหน่ายในปี 2022 นี้ ซึ่งจะเป็นน่าสนใจแค่ไหน เชิญติดตามได้เลยครับ รองเท้าวิ่งถนนแบรนด์ Saucony 6 รุ่นใหม่ในปี 2022.
|