ในที่สุด Apple ก็ได้ทำการอัปเกรด AirPods Pro มาถึงรุ่นที่ 2 หลังจากเปิดตัวรุ่นแรกเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งในรุ่นใหม่ล่าสุด ได้มีการยกระดับเคสชาร์จให้สามารถค้นหาตำแหน่งได้ ลดโอกาสทำหายได้มากขึ้น อีกทั้งยัง รองรับการชาร์จไร้สาย MagSafe ขณะที่หูฟังได้รับการอัปเกรดคุณภาพเสียงด้วยชิป H2 ตัดเสียงรบกวนได้ดีขึ้น และมีโหมดฟังเสียงภายนอกที่ฉลาดมากขึ้น สเปก AirPods Pro 2
แกะกล่อง AirPods Pro 2AirPods Pro รุ่นที่ 2 ถูกเก็บไว้ในกล่องสีขาว บนฝากล่องมีรูปภาพหูฟังทั้ง 2 ข้าง พิมพ์ชื่อ AirPods Pro ไว้ที่ข้างกล่อง ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ระบุไว้ที่ใต้กล่อง พลิกมาดูที่ใต้กล่อง จะเห็นรูปภาพ AirPods Pro รุ่นที่ 2 พร้อมเคสชาร์จ และมีการซีลกล่องด้วยแถบกระดาษกาวตามขอบด้านบนและด้านล่าง สามารถลอกออกได้อย่างสะดวก หลังจากลอกแถบกระดาษกาวที่ซีลกล่องไว้ ก็จะสามารถยกฝากล่องขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะพบกับซองเอกสารเป็นอย่างแรก ในซองประกอบด้วยคู่มือและใบรับรองจาก กสทช. ใต้ซองเอกสารจะเป็นถาดรองเคสชาร์จ MagSafe ที่มีแผ่นพลาสติกห่อหุ้มไว้ ภายในบรรจุหูฟังมาให้เรียบร้อย ภายในกล่องยังแถมสายชาร์จแบบ Lightning เป็น USB-C มาให้ 1 เส้น นอกจากนี้ Apple ยังแถมจุกหูฟังซิลิโคนมาให้ 4 คู่ ในขนาดแตกต่างกัน ได้แก่ XS, S, L ให้ผู้ใช้งานถอดเปลี่ยนด้วยตัวเอง ส่วนขนาด M ได้รับการติดตั้งมาให้แล้วจากโรงงาน ดีไซน์เคสใหม่
เคสชาร์จของ AirPods Pro รุ่นที่ 2 มีขนาดและดีไซน์เหมือนกับเคสชาร์จของ AirPods Pro รุ่นแรก แต่มีความแตกต่างอย่างชัดเจนอยู่ 2 – 3 จุด โดยเฉพาะที่ด้านข้าง มีการติดห่วงโลหะมาให้ ช่วยให้ผู้ใช้งานนำสายคล้องมือมาเกี่ยวได้ หรือ จะผูกไว้กับกระเป๋า พวงกุญแจ ก็เป็นเรื่องง่าย
เคสชาร์จของ AirPods Pro รุ่นที่ 2 ยังมีความพิเศษที่รองรับการชาร์จไร้สายแบบ MagSafe หรือจะชาร์จร่วมกับที่ชาร์จของ Apple Watch ก็ได้เช่นกัน รวมไปถึงแท่นชาร์จไร้สายที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน Qi แต่ถ้าไม่มีที่ชาร์จไร้สายแบบต่างๆ ก็ยังสามารถชาร์จผ่านสาย Lightning ได้ตามปกติ นอกจากนี้ เคสชาร์จของ AirPods Pro รุ่นที่ 2 ยังได้รับมาตรฐานป้องกันเหงื่อและน้ำที่ระดับ IPX4 ขณะที่ AirPods Pro รุ่นแรก ป้องกันน้ำเฉพาะหูฟังเท่านั้น สำหรับดีไซน์หูฟัง AirPods Pro รุ่นที่ 2 ยังดูคล้ายกับรุ่นแรก แต่น่าแปลกใจที่ Apple ไม่แนะนำให้ใช้จุกหูฟังซิลิโคนร่วมกับ AirPods Pro รุ่นแรก ดังนั้น ใครที่มี AirPods Pro รุ่นเก่า ต้องแยกเก็บจุกหูฟังให้ดีๆ Apple อธิบายว่า “จุกหูฟัง AirPods Pro รุ่นที่ 1 มีตาข่ายที่หนากว่าจุกหูฟัง AirPods Pro รุ่นที่ 2” จึงเป็นเหตุผลที่ไม่สามารถนำจุกหูฟังของแต่ละรุ่นมาสลับใช้กันได้ พูดถึงจุกหูฟัง สำหรับ AirPods Pro รุ่นที่ 2 มาพร้อมจุกหูฟังซิลิโคน 4 คู่ ในขนาด XS, S, M และ L ทำให้ผู้ใช้งานที่มีขนาดช่องหูเล็ก มีขนาด XS ให้เลือกใช้ การควบคุมด้วยระบบสัมผัสที่บริเวณก้านหูฟัง ยังรองรับคำสั่งเหมือน AirPods Pro รุ่นแรก ได้แก่…
อย่างไรก็ตาม AirPods Pro รุ่นที่ 2 มีคำสั่งใหม่ในการปรับระดับเสียง ด้วยการเลื่อนขึ้นหรือลง ซึ่งไม่พบใน AirPods Pro รุ่นแรก หูฟังของ AirPods Pro รุ่นที่ 2 ยังสามารถต้านทานน้ำและเหงื่อได้ดีเหมือนเดิม ที่ระดับ IPX4 จึงสามารถสวมใส่เพื่อออกกำลังกายได้อย่างไร้กังวล อีกทั้งเคสชาร์จของ AirPods Pro รุ่นที่ 2 ก็ไดรับมาตรฐานกันน้ำ IPX4 เช่นเดียวกัน (รุ่นแรกได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำเฉพาะหูฟัง) ตัดเสียงรบกวนดีขึ้น 2 เท่าAirPods Pro รุ่นที่ 2 มาพร้อมชิป H2 ที่ออกแบบโดย Apple ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบตัดเสียงรบกวน ANC (Active Noise Cancellation) ให้ดีกว่ารุ่นแรกสูงสุด 2 เท่า ทำให้ผู้ใช้งานรับฟังเสียงเพลงได้เต็มอิ่มมากขึ้น โหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะชิป H2 มีส่วนสำคัญในการปรับปรุงโหมดฟังเสียงภายนอก (Transparency) ของ AirPods Pro รุ่นที่ 2 ให้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถลดเสียงรบกวนจากรอบข้างได้ถึง 48,000 ครั้งต่อวินาที ไม่ว่าจะเป็น เสียงไซเรนจากรถฉุกเฉิน เสียงลำโพงในคอนเสิร์ต หรือ การจัดกิจกรรมต่างๆ รวมถึงเสียงเครื่องมือหนักในพื้นที่การก่อสร้าง คุณภาพเสียงดีขึ้นAirPods Pro รุ่นใหม่ ใช้ไดรเวอร์ High-excursion แบบเฉพาะของ Apple ที่มีความผิดเพี้ยนต่ำ พร้อมด้วยตัวขยายสัญญาณช่วงไดนามิกสูงแบบเฉพาะ ทำให้ AirPods Pro รุ่นที่ 2 มอบคุณภาพเสียงที่คมชัดครอบคลุมช่วงความถี่ที่กว้างขึ้น และเมื่อเทียบกับรุ่นแรก จะพบว่าให้เสียงเบสที่ทุ้มลึกยิ่งขึ้น ระบบเสียงตามตำแหน่งAirPods Pro รุ่นที่ 2 รองรับระบบเสียงตามตำแหน่ง (Spatial Audio) พร้อมด้วยการติดตามศีรษะแบบไดนามิก ทำให้ผู้สวมใส่ได้ระบประสบการณ์การฟังที่สมจริง เมื่อรับฟังหรือชมคอนเท้นต์ที่รองรับ Spatial Audio บน iPhone, iPad, Mac และ Apple TV สำหรับผู้ใช้งาน iPhone ที่มีกล้อง TrueDepth ยังสามารถสร้างโปรไฟล์ส่วนตัวสำหรับระบบเสียง Spatial Audio เพื่อให้เสียงที่แม่นยำ ด้วยการปรับแต่งเสียงตามขนาด รูปทรง ของศีรษะและหู เฉพาะตัวบุคคล Adaptive EQAdaptive EQ หรือ EQ แบบปรับได้เอง อาศัยการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ ช่วยปรับความถี่เสียงต่ำและเสียงกลางของเพลง ให้เข้ากับรูปทรงภายในหูของผู้สวมใส่แต่ละคนโดยอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ เพื่อให้เสียงเบสที่ทุ้มลึกหนักแน่นชัดเจน และมีรายละเอียดคมชัดสูงอย่างสม่ำเสมอทุกครั้งที่เล่นเพลง อายุการใช้งานยาวนานขึ้นAirPods Pro รุ่นที่ 2 จัดการพลังงานได้ดีขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม จะสามารถใช้ฟังได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมง (หรือสูงสุด 5.5 ชั่วโมง เมื่อเปิดใช้งานระบบเสียงตามตำแหน่งและการติดตามศีรษะ) สนทนาได้นานสูงสุด 4.5 ชั่วโมง และเมื่อชาร์จเพิ่มในเคสชาร์จ จะสามารถใช้ฟังได้นานกว่า 30 ชั่วโมง หรือ สนทนาได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมง ขณะที่ AirPods Pro รุ่นแรก สามารถใช้ฟังได้นานสูงสุด 5 ชั่วโมง และเมื่อชาร์จเพิ่มในเคสชาร์จ จะสามารถใช้ฟังได้นานกว่า 24 ชั่วโมง เคสชาร์จใหม่ของ AirPods Pro รุ่นที่ 2 ยังเติมพลังงานให้หูฟังได้อย่างรวดเร็ว ชาร์จหูฟังในเคสเพียง 5 นาที ก็ใช้ฟังเพลงหรือสนทนาได้นานประมาณ 1 ชั่วโมง อีกทั้งยังสนับสนุนการชาร์จไร้สายแบบ MagSafe รองรับที่ชาร์จของ Apple Watch รวมไปถึงแท่นชาร์จไร้สายที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน Qi และยังสามารถชาร์จผ่านสาย Lightning ได้เช่นกัน สรุปราคาและการจำหน่ายAirPods Pro รุ่นที่ 2 ได้รับการปรับปรุงที่สำคัญในเรื่องของคุณภาพเสียง ตัดเสียงรบกวนได้ดีขึ้นอย่างมากถึง 2 เท่า โหมดฟังเสียงภายนอกก็ช่วยลดเสียงรบกวนที่ไม่พึงประสงค์ได้เช่นกัน อีกทั้งยังมีระบบเสียงตามตำแหน่งที่ให้เสียงสมจริง และแบตเตอรี่ก็ให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้น นอกจากนี้ เคสชาร์จยังได้รับการออกแบบใหม่ในเรื่องของโครงสร้างภายใน ทำให้รองรับการติดตามตำแหน่งด้วยแอป Find My ง่ายในการค้นหาเมื่อเผลอทดหล่นหาย และยังชาร์จไร้สายได้สะดวกมากขึ้น สรุปแล้ว AirPods Pro รุ่นที่ 2 ถือเป็นหูฟังไร้สายที่คุ้มค่าสำหรับการอัปเกรดจากรุ่นแรก และเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเจ้าของผลิตภัณฑ์ Apple ที่กำลังมองหาหูฟังไร้สายแบบ TWS AirPods Pro รุ่นที่ 2 พร้อมวางจำหน่ายแล้วในราคา 8,990 บาท ซึ่งถูกลงกว่าเดิม (เมื่อเทียบกับ AirPods Pro รุ่นแรก ที่เปิดตัวด้วยราคา 9,490 บาท) มีให้เลือกเฉพาะสีขาว และถ้าสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ของ Apple Store จะสามารถสลักอิโมจิผสมกับชื่อ ชื่อย่อ และตัวเลข ลงบนเคสชาร์จได้ฟรี AirPod รุ่นไหนตัดเสียงรบกวนAirPods Pro มีโหมดการควบคุมเสียงรบกวน 3 รูปแบบ ได้แก่ การตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ โหมดฟังเสียงภายนอก และปิด คุณสามารถสลับระหว่างโหมดการควบคุมเสียงรบกวนทั้งสามโหมดได้ในศูนย์ควบคุมหรือการตั้งค่า
แอร์พอร์ต2 ทําอะไรได้บ้างการควบคุม แตะสองครั้งเพื่อเล่น ข้ามไปข้างหน้า หรือรับสายโทรศัพท์ พูดว่า "หวัดดี Siri" เพื่อทำสิ่งต่างๆ อย่างเล่นเพลง โทรออก หรือเรียกดูเส้นทาง. AirPods.. เคสชาร์จ Lightning.. สาย Lightning เป็น USB-A.. เอกสารคู่มือ. AirPod 2 ดียังไงสวมใส่นุ่มนวลและเบาสบายมากๆ ใช้งานได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ iOS Device ได้อย่างรวดเร็วและเชื่อมต่อง่ายด้วยชิพ Apple H1. เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้อย่างสเถียรทั้งระบบ iOS & Android. โทนเสียงดี ฟังสนุก เบสแน่น ใช้ฟังเพลงและดูหนังดี
AirPod ปรับเสียงได้ไหมหากต้องการปรับเสียงให้ดังขึ้นหรือเบาลง วางนิ้วโป้งบนก้านของ AirPods ข้างใดก็ได้ แล้วใช้นิ้วชี้ปัดขึ้นหรือลงบนการควบคุมแบบสัมผัส
|