5 ไมครอน กับ 10 ไมครอน อันไหนละเอียดกว่ากัน

5 ไมครอน กับ 10 ไมครอน อันไหนละเอียดกว่ากัน
วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับชนิดของใส้กรองน้ำกันบ้างนะครับ เป็นใส้กรองที่สำคัญมากขาดไม่ได้ โดยจะเป็นใส้กรองตัวแรกอันดับแรก สำหรับกรองหยาบเรียกว่า ใส้กรองPP (Polypropylene) หรือ บางทีก็เรียก Sediment fileter ทำมาจากพลาสติก โพลีโพรไพลีน ที่สามารถนำมาบรรจุอาหารหรือเครื่องดื่มได้ โดยที่ผู้ผลิตจะออกแบบอัดเป็นแท่งที่มีรูพรุนประมาณ 5 ไมครอน ทำหน้าที่ดักจับทรายขนาดเล็ก ตะกอนสารแขวนลอยต่างๆ ที่อยู่ในน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองขั้นตอนต่อไป ใส้กรองชนิดนี้จะมีอายุการใช้งานสั้นกว่าแบบอื่นเฉลี่ยประมาณ 6 เดือนก็ควรเปลี่ยน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพน้ำประปาในแต่ละพื้นที่ด้วยนะครับ บางที่น้ำประปามีคุณภาพดี ก็จะช่วยยืดอายุใส้กรองชนิดนี้ได้นานขึ้น ราคาใส้กรองชนิดนี้ไม่แพงครับอยู่หลักประมาณยี่สิบกว่าบาทขึ้นไป ส่วนใหญ่หากชุดเครื่องกรองที่ไม่มี ใส้กรองที่ละเอียดกว่านี้มาเพิ่มหลังจากนี้ จะเรียกว่าเป็นระบบ ไมโครฟิลเตอร หรือ หากมีใส้เป็นเซรามิก ความละเอียด 0.3 ไมครอนมาเพิ่ม ก็ยังจะเรียกว่า ไมโครฟิลเตอร อยู่นะครับ โดยที่ค่ามาตรฐานของไมโครฟิลเตอร(Micro Filter หรือ MF) จะอยู่ที่ความละเอียด 0.3 - 0.9 ไมครอน


1) เครื่องกรองน้ำราคาถูกและแพงต่างกันตรงไหน

คำถามนึงที่มักจะโดนถาม ตอบได้ดังนี้ครับ หลักๆเลยหากพูดถึงเครื่องกรองในระดับเดียวกันก็คือแต่ละยี่ห้อจะใช้วัสดุชิ้นส่วนคุณภาพที่ต่างกัน ทั้งตัว Housing และการออกแบบระบบกันซึม และ วัสดุพลาสติก คุณภาพไส้กรอง แหล่งนำเข้าเกรดต่างกัน เกรดจีน เกรดไต้หวัน เกรดเกาหลี เกรดอเมริกา ดังนั้น เครื่องกรองจึงราคาต่างกัน แน่นอนครับสินค้าที่ราคาสูงกว่าก็ย่อมได้สิ่งที่เหนือกว่าตามดังที่กล่าวมา ทั้งในเรื่องของความคงทนในการใช้งาน รวมไปถึงการกรองที่มีประสิทธิภาพดีกว่า 

 2) จะใช้เครื่องกรองน้ำแบบไหนดี

การเลือกเครื่องกรองน้ำนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ เพราะหากลูกค้าเลือกเครื่องกรองน้ำผิดชนิด นอกจากจะกรองน้ำได้ไม่ดีแล้วอาจจะถึงขั้นใช้งานไม่ได้เลยเพราะกรองน้ำออกมาแล้วดื่มไม่ได้อาจจะต้องเสียเงินค่าเครื่องกรองน้ำไปฟรีๆเลยก็เป็นได้ดังนั้น ทางเรามีวิธีพิจารณาการเลือกเครื่องกรองน้ำให้เหมาะสมที่ขึ้นอยู่กับสภาพของน้ำดิบ หรือ แหล่งน้ำที่จะนำมา กรองน้ำ ถ้าแหล่งน้ำที่จะนำมาเข้าเครื่องกรองมีคุณภาพอยู่แล้วอย่างเช่นประปาในเมืองก็สามารถใช้เครื่องกรองน้ำระบบธรรมดาที่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าก็ได้ ยกตัวอย่างเครื่องกรองระบบ 5 ขั้นตอนแบบธรรมดา MF Microfilter ที่กรองละเอียด 0.1 ไมครอนหรือ ระบบ Membrane UF ที่กรองละเอียด 0.01 ไมครอน อย่างเช่นเครื่องกรองน้ำ 5 ขั้นตอน UF ก็จะดีกว่าครับ ส่วนถ้าแหล่งน้ำที่ไม่ค่อยดี อย่างเช่นน้ำบาดาล หรือ น้ำผิวดินต่างๆ หรือ น้ำประปาหมู่บ้าน นั้นต้องเช็คสภาพน้ำก่อนว่าควรจะต้องนำมาบำบัดก่อนเข้าเครื่องกรองน้ำดื่มหรือไม่ เพราะอาจจะมีแร่ธาตุพวกหินปูน มีสภาพเป็นน้ำกระด้าง หรือ สนิมเหล็กปนอยู่ ทำให้น้ำรสชาติไม่ดี หรือ ถ้าบางท่านอยู่ติดทะเลน้ำประปาบางช่วงจะเป็นน้ำกร่อยซึ่ง เครื่องกรองแบบธรรมดาไม่สามารถกรองได้ จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องกรองน้ำแบบ RO Reverse Osmosis เท่านั้น จึงจะสามารถกรองน้ำเพื่อนำมาดื่มได้ นี่จึงเป็นวิธีพิจารณาการเลือกเครื่องกรองน้ำอีกวิธีนึงที่คำนึงถึงแหล่งน้ำที่จะนำมากรองเพื่อใช้ในการเลือกเครื่องกรองน้ำ

โดยส่วนใหญ่แล้วเครื่องกรองน้ำดื่มจะมีชนิดหลักๆแค่ 3-4 แบบดังนี้ครับ

แบบไม่ใช้ไฟฟ้า

1) เครื่องกรองน้ำแบบระบบกรองธรรมดา 3-5 ขั้นตอน Micro Filter (MF) ความละเอียดการกรองประมาณ 0.1-0.5 ไมครอน ใช้เซรามิค หรือ เส้นใย PP และ CTO เป็นตัวกรองหลัก โดยที่สังเกตุง่ายๆว่าเครื่องกรองประเภทนี้จะไม่มี membrane คือใยกรองความละเอียดสูง ดังนั้นเครื่องกรองชนิดนี้จะมีราคาค่อนข้างจะประหยัดมากๆครับ

2)เครื่องกรองน้ำแบบระบบกรองละเอียดพิเศษ 5 ขั้นตอน Ultra Filter (UF) การกรองประมาณ 0.01 ไมครอน ความสามารถในการกรองในระดับแบคทีเรียไม่สามารถผ่านได้ โดยที่เครื่องกรองประเภทนี้จะมี Membrane UFเข้ามาช่วยเพื่อกรองให้ได้ละเอียดขึ้น ราคาก็จะแพงขึ้นกว่าแบบแรกด้วยประสิทธิภาพการกรองที่เหนือกว่า

3)เครื่องกรองแบบ UF ที่เพิ่มในส่วนของหลอดฆ่าเชื้อ UV เข้าไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและได้น้ำดื่มที่มีคุณภาพที่ดีขึ้นกว่าระบบ UF ปกติ

แบบที่ใช้ไฟฟ้า

4)เครื่องกรองน้ำแบบ RO Reverse Osmosis เป็นเครื่องกรองน้ำที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน และ เป็นระบบกรองน้ำดื่มที่สะอาดที่สุดในปัจจุบัน สามารถกรองน้ำดื่มได้ทุกสภาพน้ำให้กลายเป็นน้ำดื่มได้โดยได้ที่รสชาติที่ดี และ ยังสามารถกรองได้ละเอียดถึงในระดับไวรัส จึงมั่นใจได้ว่าน้ำที่ได้มีความสะอาดแน่นอน โดยที่ความละเอียดของการกรองนั้นถึงระดับ 0.0001 ไมครอนเลยทีเดียว

3) ซื้อเครื่องกรองน้ำดื่มมาแล้ว กรองแล้วรสชาติเหมือนน้ำประปา คล้ายกับว่าไม่ได้กรองอะไรเลย

ปัญหานี้เกิดจากการเลือกชนิดและคุณภาพของไส้กรองน้ำ ซึ่งขึ้นอยู่กับคุณภาพน้ำประปาแต่ละที่ครับ เนื่องจากประปาแต่ละที่จ่ายคลอรีนมาไม่เท่ากันและความใกล้ไกลของแหล่งจ่ายน้ำ รวมถึงมาตรฐานในการกรองแต่ละที่แตกต่างการ ประปาหมู่บ้าน กับ ประปานครหลวงก็แตกต่างกัน หากคุณภาพน้ำที่ผ่านการกรองออกมาไม่ดี ควรที่จะเปลี่ยนไส้กรองใหม่ที่มีคุณภาพสูงขึ้น มีความสามารถในการดักจับคลอรีนและสารพิษต่างๆได้ดีขึ้น ซึ่งแนะนำให้เปลี่ยนแค่ตัว CTO และ Post Carbon ที่มีคุณภาพสูงขึ้น ก็จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ครับ

4) น้ำต้ม กับ น้ำกรอง อย่างไหนจะสะอาดกว่ากัน ??

ปกติสมัยก่อนการต้มน้ำก่อนนำมาดื่มถือว่าเป็นกระบวนการหนึ่งที่ทำให้น้ำสะอาด ปราศจากเชื้อโรคซึ่งถือว่าเป็นกระบวนการที่ดี และหากน้ำมีความกระด้างก็จะช่วยกำจัดความกระด้างของน้ำออกไปด้วยหากชนิดขอบน้ำกระด้างนั้นเป็นชนิดคาร์บอเนตซึ่งความร้อนสามารถทำให้ตกตะกอนได้ แต่น้ำที่ต้มไม่สามารถกำจัดสารพิษหรือสารเคมีที่ปนมากับน้ำได้ ยิ่งต้มนานเท่าไหร่หากมีสารพิษหรือสารเคมีละลายอยู่ในน้ำก็จะทำให้ความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงต้องมีขบวนการกรองสารพิษสารเคมีเหล่านั้นเสียก่อน จึงค่อยนำมาต้ม 

แต่ในปัจจุบันเครื่องกรองน้ำได้มีการพัฒนาขึ้นมามาก ความละเอียดในการกรองสามารถกรองได้ละเอียดมากขึ้นจนถึงในระดับกรองเชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัส ได้เลย จึงไม่จำเป็นต้องนำน้ำมาต้มอีก ก็สามารถดื่มได้เลย ขนาดความละเอียดช่วงที่แนะนำในการกรองโดยไม่ต้องต้มควรอยู่ที่ 0.01 ไมครอนขึ้นไป ถ้าต่ำกว่านี้ นำน้ำกรองไปต้มด้วยก็จะดี และในปัจจุบันมีการพัฒนาในส่วนของการใช้แสง UV เพื่อใช้ยับยั้งและฆ่าเชื้อโรคได้ด้วย

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าหากไม่ได้ใช้เครื่องกรองน้ำควรนำน้ำมาต้มก่อนบริโภคเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรอย่าต้มนานเกินไป สมมุติว่าใช้น้ำประปาต้ม ในน้ำประปาจะมีคลอรีนผสมอยู่ ซึ่งคลอรีนในปริมาณน้อยร่างกายสามารถขับออกไปได้ แต่ถ้ามากจะมีผลเสียกับร่างกาย ยิ่งการต้มจะทำให้คลอรีนเข้มข้นขึ้นเป็นต้น ส่วนถ้าหากมีเครื่องกรองน้ำอยู่แล้ว ก็สามารถกรองดื่มได้เลย แต่ควรเปลี่ยนไส้กรองตามระยะเวลาที่ผู้จำหน่ายแนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองเพื่อประสิทธิภาพในการกรองของเครื่องกรองน้ำดื่มที่สะอาดต่อร่างกาย  

ไส้ กรองน้ำ 1 ไมครอน กับ 5 ไมครอน ต่าง กัน อย่างไร

Sediment Filter 1 Micron. เหมาะสำหรับการกรองฝุ่น ผง ดิน ทราย สารแขวนลอย ตะกอนในน้ำ มีความละเอียด 1 ไมครอน ซึ่งละเอียดกว่าไส้กรองทั่วไปในท้องตลาดที่มีความละเอียด 5 ไมครอน เหมาะสำหรับในการใช้เป็น Pre - treatmentให้กับเครื่องกรองน้ำ เพื่อยืดอายุการใช้งานของไส้เครื่องกรองน้ำตัวอื่นๆ โดยเฉพาะในระบบอาร์โอ (Reverse Osmosis)

ความละเอียด ไมครอน คืออะไร

ไมครอน (micron) ย่อมาจากไมโครเมตร (micrometer) เป็นหน่วยวัดระยะทาง 1 micron คือ 1 ใน 1 ล้านของเมตร (1/1,000,000 เมตร หรือ 10- 6 เมตร หรือ 1 ใน 1 พันของมิลลิเมตร (1/1,000 มิลลิเมตร) 1 ใน สองหมื่นห้าพันของนิ้ว (1/25,000 นิ้ว) เช่น เซลล์ของแบคทีเรียมีขนาด 0.5 ถึง 10 ไมครอน (เข้าชม 53 ครั้ง)

ความหนา 150 ไมครอนเท่ากับกี่มิล

150 ไมครอน เท่ากับ 0.15 มิลลิเมตร 100 ไมครอน เท่ากับ 0.10 มิลลิเมตร

ไส้กรอง PP ใช้กี่ไมครอน

ไส้กรองหยาบ (PP) ทำมาจากเส้นใย Polypropylene ที่มีขนาดเล็ก มาพันกันจนมีความสามารถในการกรอง และขนาดที่ต้องการ มีความละเอียดของรู ที่นิยมสำหรับน้ำดื่ม อยู่ที่ 1-10 ไมครอน ที่นิยมมากที่สุก็คือ 5 ไมครอน มักจะถูกนำมากรองเป็นขั้นตอนแรก เพื่อทำการกรองฝุ่น ผง สารแขวงลอย สนิมเหล็ก โคลน และสิ่งสกปรกต่างๆที่มากับน้ำ เป็นไส้กรอง ...