มาตรฐาน ตัว บ่ง ชี้ สม ศ 2564

สมศ.

  • ความเป็นมา
  • หน้าที่และอำนาจ
  • วิสัยทัศน์/พันธกิจ/ค่านิยม
  • ตราสัญลักษณ์
  • โครงสร้างองค์กร
  • คณะกรรมการ/อนุกรรมการ

    • คณะกรรมการ สมศ.
    • ที่ปรึกษาของคณะกรรมการ
    • คณะกรรมการตรวจสอบ
    • คณะกรรมการพัฒนาระบบการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน
    • คณะกรรมการพัฒนาระบบการประเมินคุณภาพการศึกษาด้านการอาชีวศึกษา
    • คณะกรรมการพัฒนาระบบการประเมินคุณภาพการศึกษาระดับอุดมศึกษา
    • คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบ กศน.
    • คณะอนุกรรมการกฎหมาย
    • คณะอนุกรรมการบริหารงานบุคคล
  • ยุทธศาสตร์และกลยุทธ์
  • ผลผลิตและเป้าหมาย

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • พระราชบัญญัติ/พระราชกำหนด
  • พระราชกฤษฏีกา
  • กฎกระทรวง
  • ข้อบังคับ
  • ข้อกำหนด
  • ระเบียบ
  • คำสั่ง
  • ประกาศ

ความก้าวหน้าการประเมินคุณภาพภายนอก

สถานศึกษา/สถาบันอุดมศึกษา และต้นสังกัด

  • ศูนย์พัฒนาเด็ก

    • ประกาศ
    • เครื่องมือ/คู่มือ
  • การศึกษาขั้นพื้นฐาน

    • ประกาศ
    • เครื่องมือ/คู่มือ
  • การศึกษาขั้นพื้นฐานวัตถุประสงค์พิเศษ

    • เครื่องมือ/คู่มือ
  • กศน.

    • เครื่องมือ/คู่มือ
  • ด้านการอาชีวศึกษา

    • เครื่องมือ/คู่มือ
  • ระดับอุดมศึกษา
  • รายงานประเมินภายนอก

ผู้ประเมิน

  • คู่มือผู้ประเมิน
  • เกณฑ์การประเมิน
  • แบบฟอร์ม

ประชาสัมพันธ์

  • ภาพกิจกรรม
  • สมัครงาน
  • ปฏิทินกิจกรรม
  • ข่าว สมศ.

ประกาศ

คลังความรู้

  • ส่งเสริมความรู้ประเมินภายนอก
  • มัลติมีเดีย
  • สัมมนา
  • อินโฟกราฟิก
  • E-Book
  • จุลสาร
  • สื่อสิ่งพิมพ์
  • ดาวน์โหลด

งานวิจัย

  • ระเบียบ/ข้อบังคับ
  • ประกาศ
  • ฐานข้อมูลโครงการวิจัย

    • งานวิจัยการประกันภายนอก
    • งานวิจัยผู้ประเมินภายนอก
    • งานวิจัยระบบสนับสนุนการประเมิน
    • งานวิจัยอื่น ๆ

การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA)

  • ปีงบประมาณ พ.ศ.2561
  • ปีงบประมาณ พ.ศ.2562
  • ปีงบประมาณ พ.ศ.2563
  • ปีงบประมาณ พ.ศ.2564
  • ปีงบประมาณ พ.ศ.2565

ข้อมูลเผยแพร่

  • การเผยแพร่ข้อมูลตามหลักธรรมภิบาลของ กพร.
  • ข้อมูลข่าวสารตามเกณฑ์มาตรฐานความโปร่งใสของหน่วยงาน

การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล

เจตจำนงสุจริตของผู้บริหาร

  • นโยบายความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน
  • ประกาศเจตจำนงสุจริตในการปฏิบัติงาน

คุณธรรมความโปร่งใสและการป้องกันทุจริต

  • แผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริต
  • การส่งเสริมความโปร่งใสภายในองค์กร
  • รายงานผลตามแผนการป้องกันทุจริต
  • การบริหารความเสี่ยงด้านทุจริต

ความเสี่ยง

  • รายงานการติดตามประเมินผลการดำเนินงานและบริหารความเสี่ยง
  • รายงานผลการติดตามและทบทวนความเพียงพอของระบบบริหารจัดการฯ (COSO)

จัดซื้อจัดจ้าง

  • ข้อบังคับการจัดหาพัสดุ
  • แผน/ผลจัดซื้อจัดจ้าง
  • ประกาศแผนจัดซื้อจัดจ้าง
  • ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง
  • ประกาศผลจัดซื้อจัดจ้าง
  • ราคากลาง

หญิงสาวผู้ยึดมั่นในรักจนตัวตายและปฏิเสธ "Nikola Tesla"

"Jelena Dundjerski" เป็นหญิงสาวที่เรียกได้ว่าเกิดมามีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ

เธอเกิดมาในครอบครัวพ่อค้าชาวเซอร์เบียที่ร่ำรวย อีกทั้งยังมีใบหน้าที่สวยงามโดดเด่น เป็นที่ต้องตาต้องใจชายหนุ่มหลายคน ซึ่งชายหนุ่มรูปงามและการศึกษาดีหลายคนต่างก็ต้องการจะแต่งงานกับ Jelena หากแต่หัวใจของ Jelena นั้นมีไว้สำหรับชายเพียงคนเดียว

นั่นคือกวีชาวเซอร์เบียที่มีชื่อว่า "Laza Kostić"

Laza เองก็รัก Jelena ความรักของทั้งคู่นั้นสุกงอมมาเป็นเวลานาน แต่ติดปัญหาเพียงหนึ่งข้อ

Jelena อายุเพียง 21 ปี ส่วน Laza อายุ 50 ปี และดูไม่มีอะไรเหมาะสมกับ Jelena เลย

Laza นั้นแก่แล้ว อีกทั้งการเงินก็ไม่ได้ดี งานประพันธ์ก็แปลกประหลาด และยังไม่ใช่ชายหนุ่มรูปงามเหมือนคนอื่นๆ

หากแต่สำหรับ Jelena แล้ว Laza คือชายคนเดียวที่เธอรัก

เพื่อตัดปัญหา Laza ตัดสินใจแต่งงานกับหญิงอื่นเพื่อหวังให้ Jelena ตัดใจจากตนและมีชีวิตที่ดี หากแต่ผลที่ได้กลับตรงกันข้าม

Jelena นั้นหัวใจแตกสลายและเสียชีวิตในวันเกิดปีที่ 25 ของตน

สำหรับเรื่องราวโศกนาฏกรรมรักนี้ เริ่มจากเรื่องราวของ Jelena

Jelena เกิดในปีค.ศ.1870 (พ.ศ.2413) โดยเป็นลูกของพ่อค้าชาวเซอร์เบียที่มีฐานะร่ำรวย

นอกจากฐานะจะร่ำรวยแล้ว Jelena ยังมีรูปโฉมสวยงามโดดเด่น รูปร่างสูง ตาสีฟ้า ผมสีทอง ดูโดดเด่นกว่าหญิงทั่วๆ ไป

นอกจากนั้นเธอยังมีความสามารถรอบด้าน ทั้งเล่นเปียโน ร้องเพลงได้เพราะ และยังสามารถพูดได้หลายภาษา อีกทั้งยังได้เดินทางไปทั่วยุโรป ซึ่งในยุคนั้น มีสตรีเพียงไม่กี่รายที่ได้ทำเช่นนี้

หากแต่ผู้ชายไม่ใช่สิ่งที่ Jelena ให้ความสนใจ

แต่ต่อมาในปีค.ศ.1891 (พ.ศ.2434) เธอได้พบกับ "Laza Kostić" กวีและนักเขียนชาวเซอร์เบีย โดย Laza นั้นเป็นเพื่อนของพ่อ Jelena และก็ได้เป็นแขกที่มักจะมาเยือนคฤหาสน์ของครอบครัวเธอเป็นประจำ

คนทั้งสองสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว โดยทั้งคู่มักจะเดินเล่นไปทั่วคฤหาสน์อันกว้างใหญ่ พูดคุยกันอย่างถูกคอ โดย Jelena รู้สึกชื่นชอบในตัว Laza ที่ซึ่งฉลาดและรอบรู้ ต่างจากผู้ชายคนอื่นๆ ที่เธอเคยพบ อีกทั้ง Laza ก็ยังดูไม่แก่ ไม่มีผมหงอกซักเส้น

ทั้งคู่ได้พูดคุย เดินเล่น ทำความรู้จักกันเช่นนี้ติดต่อกันนานถึงสี่ปี ซึ่งนานพอที่จะแปรเปลี่ยนจากความชอบเป็นความรักได้

ทั้งคู่ได้ตกหลุมรักกัน หากแต่ด้วยความต่างระหว่างวัยและปัจจัยรอบข้าง ทำให้รักนี้ไม่ง่าย

Jelena นั้นยังเด็กและมักจะจินตนาการถึงอนาคตที่ต้องการ หากแต่ Laza นั้นแก่พอที่จะรู้ว่าแค่ความรักอย่างเดียวมันไม่พอ

บทสนทนาที่น่าเจ็บปวดใจก่อนจากกันของทั้งคู่ มีดังนี้

Laza: แต่งงานซะเถอะคุณ Jelena แต่งงานและปล่อยให้ผมเป็นอิสระจากความทุกข์และปรารถนา

Jelena: แต่คุณ Laza ทำไมฉันจะแต่งงานกับคุณไม่ได้

Laza: ผมแก่แล้วและไม่คู่ควรกับคุณ ผมไม่คู่ควรกับคุณ

จากนั้น Laza ก็จากไป

แม่ของ Jelena ก็ไม่ได้ชอบนักที่ Laza มายุ่งเกี่ยวกับ Jelena เนื่องจากทำให้ชายคนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้ Jelena แต่ถึงแม้ว่า Jelena จะเลือกใครก็ได้ แต่ชายคนเดียวที่เธอต้องการก็คือ Laza

Laza นั้นนึกขึ้นได้ว่าตนมีเพื่อนคนหนึ่ง ชื่อ "Nikola Tesla"

ทุกคนคงรู้จัก Tesla เป็นอย่างดี เขาคือนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งและเป็นที่จดจำมาจนถึงทุกวันนี้

Laza ได้เขียนจดหมายถึง Tesla วัย 39 ปี กล่าวว่าตนนั้นได้พบผู้หญิงที่น่าจะเหมาะเป็นภรรยาของ Tesla

ทางด้าน Jelena ซึ่งรับรู้ถึงการกระทำของ Laza ก็สับสนและไม่พอใจ และได้เขียนลงในสมุดบันทึก ความว่า

"ประมาณฤดูร้อน ค.ศ.1895 (พ.ศ.2438)"

"ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร เขาเขียนจดหมายถึงฉัน จดหมายบ้าบอ เขาเสนอให้ฉันแต่งงานกับสุภาพบุรุษจากอเมริกาที่มาจากดินแดนเดียวกันกับเรา รู้สึกว่าเขาจะชื่อ "Nikola" ส่วนนามสกุลก็แปลกๆ"

"ทำไมเขาไม่เข้าใจว่าฉันต้องการแค่เขา ฉันไม่ต้องการคนหล่อ คนหนุ่ม หรือคนสูง ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว"

จากนั้น Laza ได้ตัดสินใจแต่งงานกับคู่หมั้นของตนซึ่งรู้จักผ่านพ่อของ Jelena และเพื่อนเจ้าบ่าวก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พ่อของ Jelena นั่นเอง

เมื่อ Jelena ทราบข่าว ก็เสียใจเป็นอย่างมาก และได้เขียนลงในสมุดบันทึกว่า

"จะอยู่ต่อทำไม" และอาการทรุดลงเรื่อยๆ

ทางด้าน Laza กับภรรยา ภายหลังจากแต่งงาน ทั้งคู่ก็ได้ไปฮันนีมูนที่เวนิส โดย Laza หวังว่าตนจะเพลิดเพลินกับงานศิลปะที่สวยงามจนลืม Jelena ได้ หากแต่เขาก็ยังคงคิดถึง Jelena

ทางด้าน Jelena หนึ่งวันก่อนวันเกิดปีที่ 25 ของตน Jelena ได้เขียนลงในสมุดบันทึกว่า

"พรุ่งนี้คือวันเกิดอายุครบ 25 ปีของฉัน แล้วสิ่งที่ฉันพบเจอมาตลอดห้าปีนี้คืออะไรล่ะ? มีแต่ความทุกข์ รักนั้นคือทุกข์และฉันไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว และทำไมต้องมีชีวิตอยู่โดยไม่มีความรักล่ะ? ใช่ พรุ่งนี้คือวันเกิดของฉัน ฉันจะมอบของขวัญที่ราคาแพงที่สุดให้แก่เขาและตัวฉันเอง ของขวัญชิ้นนี้จะเป็นนิรันดร์และจะไม่มีวันถูกลืม อย่างน้อยก็ในระหว่างที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาจะต้องรู้ เขาจะเข้าใจทุกอย่าง"

8 พฤศจิกายน ค.ศ.1895 (พ.ศ.2438) วันเกิดปีที่ 25 ของ Jelena เป็นวันเดียวกับที่ Jelena เสียชีวิต

จากการชันสูตรได้ระบุว่าเธอตายจากไข้ไทฟอยด์ หากแต่จากในบันทึกของเธอ ระบุว่าเธอได้กินยาพิษฆ่าตัวตายเนื่องจากผิดหวังในความรัก

เมื่อ Laza ทราบข่าว ก็เสียใจเป็นอย่างมาก และโทษตัวเอง

ความรู้สึกผิดนี้ติดอยู่ในใจ Laza ไปตลอดชีวิต โดยมีบันทึกว่าวิญญาณของ Jelena ได้ตาม Laza ไปเป็นเวลานับปี ทุกๆ คืนที่เข้านอน Laza จะได้ยินเสียงฝีเท้าและรู้สึกได้ว่า Jelena อยู่ข้างๆ ตน

สำหรับ Laza แล้ว Jelena ไม่เคยตายจากไปไหน และในคืนหนึ่ง Laza ก็ฝันเห็น Jelena และชวน Laza ไปอยู่ด้วยกัน

จากนั้นไม่นาน Laza ก็ได้ตามไปอยู่กับ Jelena ในสถานที่ซึ่งไม่มีความเจ็บปวดอีกต่อไป

Laza เสียชีวิตในปีค.ศ.1910 (พ.ศ.2453) ที่เวียนนา เมืองเดียวกับที่ Jelena เสียชีวิต

ในปีค.ศ.2016 (พ.ศ.2559) 121 ปีหลังการเสียชีวิตของ Jelena ได้มีการตั้งรูปปั้นของ Jelena และ Laza บนที่ดินของตระกูล Jelena โดยรูปปั้นทั้งสองนั้นหันหน้าเข้าหากัน เหมือนกับว่าทั้งคู่กำลังมองกันและกัน ปราศจากความกังวลใดๆ

ถึงแม้ว่ารักของทั้งคู่จะไม่สมหวัง แต่ก็ไม่เคยถูกลืมเลือน

-----

References:
https://www.sutori.com/en/story/laz...-reality-and-dreams--vcEjVunThhhj1DuJQVipHp6D
https://rumenka.kulturnestanice.rs/...ka-dundjerski-told-through-a-play-and-a-book/

ต้นฉบับ: https://www.blockdit.com/posts/63a196232f8cba9cf1ebd55c

 

BRIEF: ‘The Serpent’ ฆาตกรต่อเนื่อง ผู้ฆ่าเหยื่อในไทยและอีกหลายประเทศ ถูกสั่งปล่อยตัวจากคุกเนปาลแล้ว
.
ทศวรรษ 1970 ยุคที่วัฒนธรรมฮิปปี้กำลังรุ่งเรือง ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนชื้นในเอเชีย กับสงครามเย็นที่ยังเดือดดาล ขณะนั้น ‘ชาร์ลส์ โสภราช’ (Charles Sobhraj) กำลังมองหาเหยื่อนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก ที่กำลังเดินทางบนเส้นทางสายบุปผาชน (hippie trail) ในอินเดียและไทย
.
ว่ากันว่า เขาเกี่ยวข้องกับการสังหารเหยื่อที่อาจมากกว่า 20 คน ในระหว่างปี 1972 และ 1982 ทำให้เขากลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ที่ต่อมาจะได้รับฉายาว่า ‘’Bikini Killer’ และ ‘The Serpent’ ซึ่งชื่อหลังนี้ BBC และ Netflix หยิบยกไปใช้เป็นชื่อซีรีส์เกี่ยวกับตัวเขา ที่ออกฉายเมื่อปี 2021 ด้วย
.
โสภราช ซึ่งปัจจุบันอายุ 78 ปี เกิดที่เมืองไซ่ง่อน เวียดนาม ในสมัยที่อยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส ก่ออาชญากรรมจนติดคุกครั้งแรกที่ปารีสเมื่อปี 1963 ข้อหาลักทรัพย์ ต่อมากลายมาเป็นอาชญากรในอีกหลายประเทศ ได้แก่ กรีซ ตุรกี อิหร่าน อัฟกานิสถาน ปากีสถาน เนปาล อินเดีย ไทย และมาเลเซีย
.
แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวของเขาไม่พ้นสายตาตำรวจตลอดไป ครั้งสุดท้ายที่โสภราชถูกจับกุมตัวคือที่เนปาล เมื่อปี 2003 ก่อนจะต้องใช้โทษจำคุก 2 คดี คดีละ 20 ปี จากการสังหารหญิงชาวอเมริกัน คอนนี โจ บรอนซิช (Connie Jo Bronzich) และ ลอเรนต์ แคร์เรียร์ (Laurent Carrière) เพื่อนนักท่องเที่ยวชาวแคนาดาของเธอ
.
...แต่โทษจำคุกดังกล่าว ก็เป็นการจองจำที่โสภราชกำลังจะหลุดพ้นแล้ว หลังศาลสูงสุด (Supreme Court) ของเนปาล มีคำสั่งปล่อยตัว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (21 ธันวาคม)
.
ก่อนหน้านี้ โสภราชเคยเข้าเรือนจำที่อินเดียมาแล้วกว่า 21 ปี ด้วยข้อหาฆาตกรรม นับตั้งแต่ปี 1976 แต่ก็เคยแหกคุกออกมาในช่วงสั้นๆ เมื่อปี 1986 ด้วยการจัดปาร์ตี้ในคุกและมอมยาผู้คุม สุดท้ายถูกจับกุมตัวคืนสู่เรือนจำได้ โดยจะพ้นโทษและเดินทางกลับฝรั่งเศสเมื่อปี 1997
.
การแหกคุกครั้งดังกล่าว รวมถึงความสามารถในการหลบหลีกและปลอมตัว จึงเป็นที่มาของฉายา ‘The Serpent’ ของเขา
.
โสภราชยังออกมาอ้างในภายหลังอีกว่า การแหกคุกที่อินเดียครั้งนั้น เป็นกลอุบายให้โทษของเขาถูกยืดระยะเวลาออกไป จะได้ไม่ต้องถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนมาที่ไทย ซึ่งตอนนั้น ไทยได้ออกหมายจับโสภราชในข้อหาวางยาและฆ่าหญิงในชุดบิกินี่ 6 ราย ที่ชายหาดในพัทยา (การที่เขาสนใจแต่เหยื่อที่เป็นหญิงใส่บิกินี่ จึงเป็นที่มาของอีกฉายาว่า ‘Bikini Killer’ ด้วย)
.
ตัดภาพกลับมาที่ปัจจุบัน หลังจากที่ทีมกฎหมายของเขายื่นคำร้องขอลดโทษจำคุกได้สำเร็จ โดยอ้างถึงอายุของเขา และความประพฤติที่ดี ศาลสูงสุดเนปาลก็อนุญาตให้ปล่อยตัวได้ อิงจากกฎหมายเนปาลที่ให้นักโทษออกจากเรือนจำได้ ถ้าประพฤติตัวดี และใช้โทษจำคุกไป 75% แล้ว
.
“การขังเขาไว้ในเรือนจำต่อไป ไม่สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนของนักโทษ” คือส่วนหนึ่งของคำพิพากษา ที่มีการรายงานโดยสำนักข่าว AFP คำพิพากษาของศาลยังอ้างถึงอีกหนึ่งในปัจจัยในการปล่อยตัว คือ การที่เขาต้องเข้ารับการรักษาโรคหัวใจเป็นประจำ
.
ด้านทนายความของโสภราช ระบุว่า เขาอาจถูกปล่อยตัวจากเรือนจำเร็วสุดวันนี้ (22 ธันวาคม) โดยได้ถูกสั่งเนรเทศกลับฝรั่งเศสภายใน 15 วัน
.
.
.
อ้างอิงจาก


https://www.bbc.com/news/world-asia-64050714

https://edition.cnn.com/2022/12/21/asia/the-serpent-charles-sobhraj-nepal-release-intl/index.html

https://www.reuters.com/world/asia-pacific/who-is-bikini-killer-charles-sobhraj-2022-12-21

#TheSerpent #ฆาตกรต่อเนื่อง #เนปาล #TheMATTER

 

UPDATE: ตีตกขายเหล้าได้ถึงตีสอง กรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ มีมติให้ขายตามเวลาเดิมดีแล้ว สอดคล้องพฤติกรรมประชาชน
.
วันนี้ (22 ธันวาคม 2565) ที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2565 โดยมี นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
.
ดร.สาธิต กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบแนวทางการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 กำหนดแนวคิดการรณรงค์ ‘ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ’ ภายใต้คำขวัญรณรงค์ ‘ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ’ ตามที่คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เสนอ โดยแบ่งการดำเนินงานเป็น 3 ช่วง คือ
.
1. ช่วงเตรียมความพร้อมก่อนเทศกาลปีใหม่ รณรงค์จัดกิจกรรมปีใหม่ปลอดเหล้า หรือสวดมนต์ข้ามปี สร้างกระแสให้ร้านค้าและประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น ห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ห้ามส่งเสริมการขาย ลดแลกแจกแถม ขายในเวลาที่กำหนด 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น.
.
2. ช่วงเทศกาลปีใหม่ ใช้มาตรการชุมชนเชิงบวก เพิ่มศักยภาพด่านชุมชนคัดกรองผู้ขับขี่ที่มีอาการมึนเมา กรณีเกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ให้เป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ทางลมหายใจทุกราย หากไม่สามารถเป่าได้ให้ส่งโรงพยาบาลเพื่อเจาะเลือดตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ และบังคับใช้กฎหมายเข้มงวดในผู้กระทำผิด
.
3. ช่วงหลังปีใหม่ เน้นคัดกรองส่งต่อผู้กระทำผิดฐานเมาแล้วขับที่ถูกศาลสั่งคุมประพฤติให้เข้ารับการบำบัดรักษา โดยจะแจ้งให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการเตรียมพร้อมต่อไป
.
ดร.สาธิต กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้รับทราบการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับชาติ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2565-2570) โดยมอบคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ติดตามความก้าวหน้าการจัดทำแผนดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อควบคุมและลดการบริโภคแอลกอฮอล์ของประชาชน ป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ ควบคุมจำนวนผู้บริโภค ลดความเสี่ยงจากการบริโภค และลดความรุนแรงของปัญหาจากการบริโภค
.
ส่วนข้อเสนอของกลุ่มผู้ประกอบการเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันและขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน เช่น ขยายเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปจนถึง 02.00 น. ยกเลิกเวลาห้ามขาย 14.00-17.00 น. และการพิจารณากำหนดพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยามค่ำคืน ให้ขายได้ตั้งแต่ 11.00-04.00 น. นั้น คณะกรรมการเห็นตรงกันว่าประเทศไทยมีการกำหนดเวลาให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคของประชาชน และการควบคุมการขายก็เพื่อลดปัญหาด้านสุขภาพ ครอบครัว อุบัติเหตุ อาชญากรรม การบำบัดฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และป้องกันเด็กและเยาวชนไม่ให้เข้าถึงโดยง่าย ซึ่งเป็นมาตรการที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ
.
“การศึกษาจำนวนมากพบว่า การขยายระยะเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะนำไปสู่การบริโภคที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอันตรายที่เกี่ยวข้อง เช่น การเพิ่มของอาชญากรรมความรุนแรงในพื้นที่ จึงเห็นควรคงมาตรการดังกล่าวไว้ตามเดิม ซึ่งประกาศดังกล่าวยกเว้นการขายภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติอยู่แล้ว จึงไม่ต้องแก้ไขประกาศ ส่วนที่กล่าวอ้างว่ามาตรการห้ามขายบริเวณสถานศึกษาตามคำสั่ง คสช. ไม่มีประสิทธิภาพควบคุมการดื่ม ไม่เป็นจริงตามที่กล่าวอ้าง จึงไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิกมาตรการนี้” ดร.สาธิตกล่าว
.
ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปีพบว่ามีอุบัติเหตุการบาดเจ็บและเสียชีวิตบนท้องถนนจำนวนมาก ข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2564 - 4 มกราคม 2565 รวม 7 วัน เกิดอุบัติเหตุ 2,707 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 333 ราย ผู้บาดเจ็บ 2,672 คน พบอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับขี่ยานพาหนะเป็นอันดับ 2 คิดเป็นร้อยละ 29.51 ส่วนข้อมูลจากสำนักงานศาลยุติธรรม สรุปสถิติคดีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ที่เข้าสู่การพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นทั่วประเทศ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 (7 วันอันตราย) เป็นคดี ‘เมาแล้วขับ’ สูงถึง 15,000 คน
.
ทั้งนี้ ในการประชุม เพชรรัตน์ เอกแสงกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ประกาศเจตนารมณ์ สังคมปลอดภัย ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อลดปัญหาและผลกระทบทางสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ สร้างค่านิยมที่ดีในการรับผิดชอบต่อสังคม คือปฏิบัติตามกฎหมายจราจรทางบกและควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จัดงานเลี้ยงปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขอความร่วมมืองดการขับขี่รถทุกครั้งหลังการดื่ม ตรวจสุขภาพประจำปีและคัดกรองพฤติกรรมการดื่มอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี กำหนดโทษสำหรับเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดอันมีสาเหตุมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และส่งเสริมให้มีการติดตั้ง Alcohol Interlock บนรถขนส่งสินค้า เพื่อเป็นการประเมินผู้ขับขี่ก่อนการเดินทาง
.
#TheStandardNews

 

KEY MESSAGES: รู้จักระบบป้องกันภัยทางอากาศ Patriot ที่สหรัฐฯ เตรียมส่งให้ยูเครน ช่วยรับมือรัสเซียได้แค่ไหน?
.
การเยือนสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครน ถือเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่สงครามรุกรานยูเครนโดยรัสเซียปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์
.
สถานการณ์สู้รบตลอดระยะเวลากว่า 300 วันที่ผ่านมา ยังดำเนินไปอย่างยืดเยื้อ แม้ว่าในภาคพื้นดิน กองทัพยูเครนจะช่วงชิงหลายเมืองที่ถูกยึดไปคืนมาได้อย่างต่อเนื่อง แต่กองทัพรัสเซียก็ไม่ละความพยายาม และระดมโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นถล่มเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค รวมถึงระบบไฟฟ้า เพื่อสร้างความลำบากและแรงกดดันให้ยูเครนในการรบช่วงฤดูหนาว
.
ความหวังสำคัญของทริปการเยือนวอชิงตัน ดี.ซี. ของเซเลนสกีครั้งนี้ หนีไม่พ้นความช่วยเหลือเพิ่มเติมทางการทหารที่เขาเรียกร้องมาตลอด
.
โดย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าสหรัฐฯ จะอยู่เคียงข้างยูเครนตราบนานเท่านาน ในขณะที่สัญญาว่าจะมอบแพ็กเกจช่วยเหลือทางทหารรอบใหม่แก่รัฐบาลเคียฟ วงเงิน 1.8 พันล้านดอลลาร์
.
ซึ่งสิ่งที่หลายฝ่ายจับตามองในแพ็กเกจช่วยเหลือรอบใหม่ดังกล่าว คือระบบมิสไซล์ Patriot อันเป็นระบบป้องกันขีปนาวุธเคลื่อนที่จากพื้นสู่อากาศที่มีเทคโนโลยีล้ำยุคและมีความแม่นยำสูง ถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็น ‘มาตรฐานทองคำ’ ของการป้องกันภัยทางอากาศ
.
ประสิทธิภาพของระบบขีปนาวุธ Patriot จะสูงสมคำร่ำลือแค่ไหน และจะเป็นอาวุธสำคัญที่ช่วยให้ยูเครนสามารถพลิกสถานการณ์หรือสร้างความแตกต่างในสงครามอันยืดเยื้อนี้ได้หรือไม่?
.
ระบบมิสไซล์ Patriot คืออะไร?
ระบบ Patriot เป็นระบบมิสไซล์จากพื้นสู่อากาศแบบเคลื่อนที่ได้ ผลิตโดยบริษัท Raytheon หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีการบินและอวกาศและการป้องกันประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นคู่สัญญาของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยมีการนำมาใช้ครั้งแรกในช่วงทศวรรษที่ 1980
.
ประสิทธิภาพของระบบต่อต้านขีปนาวุธ Patriot ที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง หลักๆ คือการยิงสกัดขีปนาวุธ ทั้งขีปนาวุธร่อน และอาวุธนำวิถีพิสัยใกล้ได้ก่อนที่มันจะโจมตีถึงเป้าหมาย นอกจากนี้ยังสามารถยิงสกัดเครื่องบินได้ และติดตั้งบนรถบรรทุก เคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งต่างๆ ได้ตามต้องการ
.
ในแวดวงกองทัพ ระบบ Patriot ถูกมองว่าเป็นเกราะคุ้มภัยที่สามารถปกป้องประชาชน กองกำลังทหาร หรือแม้แต่อาคารบ้านเรือนต่างๆ จากขีปนาวุธที่ยิงเข้ามา
.
ขณะที่กองทัพสหรัฐฯ ได้นำระบบ Patriot ไปใช้ในเหตุการณ์ความขัดแย้งหลายครั้งตลอดช่วง 30 ปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ล่าสุด คือกองกำลังทหารสหรัฐฯ ประจำฐานทัพอากาศอัล ดาฟรา ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ยิงมิสไซล์ Patriot สกัดกั้นขีปนาวุธหลายลูกที่ถูกยิงพุ่งเป้าไปยังฐานทัพ เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
.
ทำอะไรได้บ้าง?
ระบบ Patriot สามารถขยายการป้องกันประเทศไปได้ไกลเกือบ 1,000 กิโลเมตร โดยสามารถกำหนดเป้าหมายและยิงสกัดขีปนาวุธพิสัยไกลและเครื่องบินได้จากระยะไกลหลายร้อยกิโลเมตร
.
ตัวระบบยังมีเรดาร์อันทรงพลัง ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศอื่นๆ ที่เทียบเคียงได้ และทำให้สามารถแยกแยะได้ง่ายขึ้น ว่าใครเป็นมิตรและใครเป็นศัตรู
.
ระบบ Patriot ของกองทัพสหรัฐฯ ถูกนำไปใช้งานในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกบ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังมีการใช้งานหรือสั่งซื้อไปโดย เนเธอร์แลนด์, เยอรมนี, ญี่ปุ่น, อิสราเอล, ซาอุดีอาระเบีย, คูเวต, ไต้หวัน, กรีซ, สเปน, เกาหลีใต้, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, กาตาร์, โรมาเนีย, สวีเดน, โปแลนด์ และบาห์เรน
.
ทอม คาราโค ผู้อำนวยการโครงการป้องกันขีปนาวุธ ของศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษาระหว่างประเทศ (Center for Strategic and International Studies: CSIS) กล่าวว่า “ระบบ Patriot เป็นหนึ่งในระบบป้องกันขีปนาวุธทางอากาศที่มีการใช้งานอย่างกว้างขวาง เชื่อถือได้ และได้รับการพิสูจน์แล้ว” พร้อมแสดงความมั่นใจว่าความสามารถในการป้องกันขีปนาวุธของ Patriot สามารถช่วยป้องกันยูเครนจากขีปนาวุธที่อิหร่านจัดส่งให้รัสเซียได้
.
ทำไมยูเครนถึงต้องการ?
รัฐบาลเคียฟคาดหวังที่จะใช้ระบบ Patriot เพื่อช่วยต้านทานขีปนาวุธจากรัสเซียที่ยิงเข้ามา
.
โดยนับตั้งแต่ที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน ก็มีการระดมโจมตีทางอากาศ ด้วยอาวุธปล่อยนำวิถี โดรน และปืนใหญ่ ถล่มเป้าหมายทั้งกองทัพยูเครนและพลเรือน
.
ขณะที่การโจมตีรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ หลังกองทัพยูเครนรุกคืบจนทำให้ทหารรัสเซียต้องล่าถอยออกจากเมืองเคอร์ซอน ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ที่ปูตินเพิ่งประกาศผนวกรวมได้เพียง 1 เดือน
.
การโจมตีทางอากาศในระยะหลังของรัสเซีย มุ่งทำลายโรงไฟฟ้า ระบบทำความร้อน และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานอื่นๆ ของยูเครน ซึ่งส่งผลให้ผู้คนหลายล้านคนต้องต่อสู้กับอุณหภูมิที่หนาวจัดในฤดูหนาว โดยไม่มีไฟฟ้าหรือความร้อนในการสร้างความอบอุ่น
.
หนึ่งในเมืองที่เผชิญการโจมตีระลอกล่าสุด คือเมืองท่าโอเดสซา ทางตอนใต้ของยูเครน ที่ถูกโดรนของรัสเซียโจมตีระบบไฟฟ้า จนทำให้ผู้คนกว่า 1.5 ล้านคนต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความมืดมิดและหนาวเย็น ซึ่งรัฐบาลเคียฟมองว่า ระบบ Patriot จะเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยยูเครนในการป้องกันการโจมตีทางอากาศได้
.
นอกจากนี้ รัฐบาลเคียฟยังมองเห็นข้อได้เปรียบในเชิงสัญลักษณ์ของระบบ Patriot ซึ่งก็คือข้อพิสูจน์ที่ว่า สหรัฐฯ ยังไม่ท้อใจหรือเหน็ดเหนื่อยในการสนับสนุนยูเครน และในทางกลับกัน ยังคงเพิ่มความพยายามอย่างเข้มข้นเพื่อช่วยยูเครนต่อต้านการโจมตีของรัสเซีย
.
ราคาเท่าไร?
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ระบบ Patriot ได้รับการแก้ไขและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลในรายงานของ CSIS ที่เผยแพร่เมื่อเดือนกรกฎาคม ระบุว่า มิสไซล์สกัดกั้นหนึ่งลูก ณ ปัจจุบัน มีราคาประมาณ 4 ล้านดอลลาร์ และเครื่องยิงแต่ละตัวมีราคาประมาณ 10 ล้านดอลลาร์
.
ด้วยราคาระดับนี้ จึงไม่คุ้มค่าและไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะใช้ Patriot เพื่อยิงสกัดโดรนของอิหร่านที่ขายให้รัสเซีย ซึ่งมีขนาดเล็กและราคาถูกกว่ามาก โดยการใช้งานอาจจำกัดเฉพาะในสถานการณ์ที่การโจมตีทางอากาศกำลังจะก่อให้เกิดความเสียหายหรือมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
.
“การยิงมิสไซล์มูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ ใส่โดรนมูลค่า 50,000 ดอลลาร์นั้นเป็นการเสียเปรียบ” มาร์ก แคนเชียน ที่ปรึกษาอาวุโสของ CSIS กล่าว
.
โอกาสยิงสกัดพลาด?
โอกาสที่มิสไซล์ระบบ Patriot จะยิงสกัดผิดพลาดนั้นเป็นไปได้ยากสำหรับการยิงสกัดในระยะไกล
.
ที่ผ่านมา มีผู้วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับประสิทธิภาพและความแม่นยำของระบบ Patriot จำนวนมาก โดยพาดหัวข่าวในนิตยสาร Foreign Policy เมื่อปี 2018 อ้างว่า ‘มิสไซล์ Patriot ที่ผลิตในอเมริกานั้นทำงานล้มเหลวในทุกๆ ที่’ ซึ่งกองทัพสหรัฐฯ ออกมาตอบโต้ว่าเป็นการกล่าวหาที่ ‘เกินความจริง’
.
ขณะที่ชาวอเมริกันและผู้คนทั่วโลก เคยเข้าใจผิดเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมิสไซล์ Patriot มาก่อน โดยในช่วงสงครามอ่าว เจ้าหน้าที่ทหารหลายนายเผยว่า ระบบ Patriot สามารถยิงสกัดขีปนาวุธ Scud ของอิรักได้เกือบทั้งหมด เหลือเพียง 2 ลูกที่พลาดเป้า ซึ่งต่อมา กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้แก้ไขอัตราความแม่นยำในการยิงสกัดของ Patriot เหลือ 50%
.
อย่างไรก็ตาม สำหรับวันนี้ เชื่อว่าอัตราประสิทธิภาพของระบบ Patriot จะสูงขึ้น แต่ยังคงยากที่จะระบุตัวเลขที่แม่นยำ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารมองว่าสิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าจะใช้มันอย่างไรและในสถานการณ์ใด
.
การใช้งานต้องใช้กำลังคนแค่ไหน?
Patriot 1 ระบบ ต้องใช้กำลังคนเกือบ 100 คนในการทำงาน โดยกองกำลังทหารยูเครนต้องได้รับฝึกฝนเพื่อใช้งาน แต่ช่วงเวลาในการเรียนรู้อาจไม่ยาวนานมาก ซึ่งที่ผ่านมาทหารยูเครนแสดงให้เห็นว่าสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับระบบทางการทหารได้อย่างรวดเร็ว
.
สำหรับแต่ละระบบของ Patriot ประกอบไปด้วยรถบรรทุก 1 คัน ที่ติดตั้งระบบยิงที่มีเครื่องยิง 8 เครื่อง และแต่ละเครื่องสามารถบรรจุขีปนาวุธสกัดกั้นได้ 4 ลูก นอกจากนี้ ยังมีเรดาร์ภาคพื้นดินสำหรับเฝ้าระวัง ติดตาม และโจมตี พร้อมทั้งสถานีควบคุมและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
.
ขณะที่กองทัพบกสหรัฐฯ มีกองพัน Patriot 16 กองพัน ซึ่งข้อมูลจาก CSIS ระบุว่าแต่ละกองพันจะต้องรับผิดชอบดูแลปฏิบัติการของระบบ Patriot 50 ระบบ ซึ่งหมายถึงมิสไซล์สกัดกั้นมากกว่า 1,200 ลูก
.
ภาพ: Photo by Peter Mueller/Bundeswehr via Getty Images
.
อ้างอิง:
https://edition.cnn.com/2022/12/21/politics/patriot-missiles-ukraine/index.html
https://www.nytimes.com/2022/12/21/us/politics/patriot-missiles-russia-ukraine-us.html
https://fortune.com/2022/12/15/patriot-missile-defense-systems-what-they-are-and-what-they-do/
.
#TheStandardNews