Ropect rolar cap ม ผลอะไรก บหญ งต งครรภ หร อไม

Ropect rolar cap ม ผลอะไรก บหญ งต งครรภ หร อไม

  1. อาการไข้ : วิธีการดูแลตนเองเมื่อมีไข้ คือ ประคบผ้าเย็นที่บริเวณศีรษะ พิจารณาทานยาลดไข้

หากมีภาวะไม่สุขสบายจากอาการไข้สูง (ไม่แนะนำให้ทานยากลุ่ม NSAIDs เช่น แอสไพริน บรูเฟน) อาการไข้สูงจะเป็นอยู่ไม่นานเกิน 2-3 วัน หากเกินกว่านั้นแนะนำให้รีบพบแพทย์ ถ้าเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 3 ปี อาจเกิดภาวะไข้สูงแล้วชักได้ มักเกิดในวันแรก ๆ ให้สังเกตหากเด็ มีอาการ หนาวในขณะที่มีอาการไข้และตัวซีดลง จับมือแล้วมือเย็น เสี่ยงต่อการเกิดอาการชักได้ การรักษาคือ หากเด็กมีอาการไข้ให้ใช้ผ้าเย็นประคบที่ ศีรษะเพื่อลดอุณหภูมิและหากมีอาการชักให้รีบพบแพทย์

  1. อาการน้ำมูก : รับประทานยาลดน้ำมูก ในเด็กเล็กใช้ลูกยางหรืออุปกรณ์เฉพาะเพื่อดูดน้ำมูกออกจมูก
  2. อาการคัดแน่นจมูก : ใช้กลิ่นหอมระเหย เช่น เปราะหอมแดง ใส่ผ้าขาววางไว้รอบห้อง เพื่อให้ได้น้ำมันหอมระเหย สามารถช่วยลดอาการไอคัดแน่นจมูกตอนกลางคืน
  3. อาการไอ : แนะนำให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อช่วยในการละลายเสมหะขับเสมหะออกง่าย น้ำขิงใส่มะนาว หรือน้ำผึ้ง ก็ช่วยลดอาการได้ หลีกเลี่ยงอาหารระคายคอ ของทอดของมัน รับประทานยาแก้ไอตามคำแนะนำของแพทย์
  4. อาการเจ็บคอ : บรรเทาอาการเจ็บคอด้วยยาแก้เจ็บคอ หรือใช้ยาสมุนไพร
  5. อาการท้องเสีย : จำเป็นต้องดื่มน้ำมาก ๆ และผสมน้ำเกลือเพื่อให้ได้สารน้ำและเกลือแร่ชดเชย

ในเด็กอาจจะทำผสมน้ำเกลือแร่และผสมน้ำหวานทำเป็นไอครีมแช่แข็งก็ช่วยให้กินได้ ให้ระวังถ้าเด็กมีอาการซึมลงให้รีบปรึกษาแพทย์

อาการไอ เป็นปฏิกิริยาตอบสนองอย่างหนึ่งของร่างกายที่มีขึ้นเพื่อกำจัดสารคัดหลั่ง สิ่งระคายเคือง สารแปลกปลอมอื่นๆ และจุลชีพออกจากทางเดินหายใจ การไอประกอบด้วยสามระยะ เริ่มจากการหายใจเข้าเพื่อเพิ่มปริมาตรอากาศและแรงดันในช่องอกและท้อง ส่งผลให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อท้องทำให้เกิดการหายใจออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับการเปิดของกล่องเสียง จึงเกิดเสียงไอพร้อมกับขับเอาสิ่งตกค้างในทางเดินหายใจออกมา

อาการไอ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ชนิด ตามระยะเวลา ดังนี้

  1. ไอเฉียบพลัน คือ มีระยะเวลาของอาการไอน้อยกว่า 3 สัปดาห์
  2. ไอกึ่งเฉียบพลัน คือ อาการไอที่มีระยะเวลาระหว่าง 3-8 สัปดาห์
  3. ไอเรื้อรัง คือ มีระยะเวลาของอาการไอมากกว่าหรือเท่ากับ 8 สัปดาห์

ไอเรื้อรัง เกิดจากอะไร?

อาการไอเรื้อรังเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

  • การรับประทานยารักษาความดันโลหิตสูงกลุ่ม Angiotensin converting enzyme inhibitors (ACE inhibitors) เป็นระยะเวลานาน
  • โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือโรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง แล้วมีน้ำมูกไหลลงคอ
  • การใช้เสียงมาก ทำให้เกิดสายเสียงอักเสบเรื้อรัง
  • เนื้องอกบริเวณคอ กล่องเสียง หรือหลอดลม
  • หลอดลมอักเสบเรื้อรัง
  • โรคหืด
  • วัณโรคปอด
  • โรคกรดไหลย้อน

ประมาณร้อยละ 85 ของอาการไอเรื้อรัง มักเกิดจากโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือโรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง แล้วมีน้ำมูกไหลลงคอ โรคหืด และโรคกรดไหลย้อน

ผู้ป่วยบางรายอาจมีสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการไอเรื้อรังมากกว่าหนึ่งชนิด การตรวจวินิจฉัยที่อาศัยความร่วมมือจากแพทย์หลายสาขา เช่น แพทย์หู คอ จมูก อายุรแพทย์โรคภูมิแพ้และโรคปอด อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหาร จะทำให้ค้นหาสาเหตุของอาการไอได้ง่ายขึ้น

ไอเรื้อรัง วินิจฉัยได้อย่างไร?

แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยหาสาเหตุของอาการไอเรื้อรังที่เกิดขึ้น โดยแพทย์จะปฏิบัติ ดังนี้

  • การซักประวัติ เช่น การสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้หรือเหตุกระตุ้นให้เกิดอาการไอ (เช่น ฝุ่น ควัน อากาศเย็น), อาการทางจมูกหรือโรคไซนัส, ประวัติโรคภูมิแพ้ของผู้ป่วยและคนในครอบครัว, การสูบบุหรี่, ประวัติการใช้ยากลุ่ม ACE inhibitors, อาการของโรคกรดไหลย้อน (เช่น เรอเปรี้ยว ท้องอืด เจ็บหน้าอก)
  • การตรวจร่างกายโดยเฉพาะในระบบทางเดินหายใจส่วนบนและล่าง และอาจส่งตรวจเพิ่มเติม เช่น ส่งตรวจภาพถ่ายรังสีของโพรงไซนัสและปอด, การส่องกล้องตรวจระบบทางเดินหายใจ, การตรวจเสมหะ, การตรวจสมรรถภาพการทำงานของปอด

ไอเรื้อรัง รักษาอย่างไร?

การรักษาอาการไอเรื้อรังที่สำคัญที่สุด คือ การหาสาเหตุของอาการไอ และรักษาตามสาเหตุนั้นๆ นอกจากนี้ การปฏิบัติตัวในขณะที่มีอาการไออย่างถูกต้อง ยังเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น หรือไม่แย่ลง โดยสิ่งที่ผู้ป่วยควรปฏิบัติในขณะที่มีอาการไอ ได้แก่

  • หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้ไอมากขึ้น เช่น สารก่ออาการระคายเคือง ฝุ่น สารเคมี ควันบุหรี่
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศจากเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมโดยตรง เนื่องจากอากาศที่เย็นสามารถกระตุ้นหลอดลมให้เกิดการหดตัว ทำให้มีอาการไอมากขึ้นได้
  • ควรให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายให้เพียงพอขณะนอน เช่น นอนห่มผ้า
  • ผู้ที่สูบบุหรี่ควรหลีกเลี่ยงหรืองดการสูบบุหรี่
  • ถ้าหากอาการไอมีไม่มาก อาจให้การรักษาเบื้องต้นโดยการรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการไอ กรณีที่มีเสมหะร่วมด้วย ควรได้รับยาละลายเสมหะ เพื่อให้เสมหะที่เหนียวข้นมากขับออกจากหลอดลมได้ง่ายขึ้น แต่หากผู้ป่วยได้รับยาดังกล่าวแล้วอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุ

ยาบรรเทาอาการไอ

ถึงแม้ว่าการใช้ยาบรรเทาอาการไอจะเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ แต่บางครั้งก็มีความจำเป็น เนื่องจากการไอมีผลรบกวนคุณภาพชีวิต โดยเราสามารถแบ่งยาบรรเทาอาการไอออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ด้วยกัน คือ

  1. ยาบรรเทาอาการไอสำหรับอาการไอแบบมีเสมหะ ได้แก่
  2. ยาขับเสมหะ ออกฤทธิ์ระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจ ทำให้เยื่อบุทางเดินหายใจมีการหลั่งสารคัดหลั่งมากขึ้น และไอออกมาได้ง่ายขึ้น เช่น Glyceryl guaiacolate, Ammonium chloride
  3. ยาละลายเสมหะ ออกฤทธิ์โดยทำลายพันธะภายในเสมหะ ทำให้เสมะหะละลายน้ำได้ดีขึ้น เช่น Ambroxol, Bromhexine, Carbocysteine, Acetylcysteine
  4. ยาบรรเทาอาการไอสำหรับอาการไอแห้ง หรือยากดอาการไอ เช่น Dextromethorphan, Codeine เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทโดยการกดศูนย์การไอ มักใช้สำหรับบรรเทาอาการไอที่เกิดจากการแพ้หรืออาการไออื่นๆ ที่ไม่มีเสมหะ เพราะหากใช้ในอาการไอแบบมีเสมหะ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เสมหะถูกขับออกมาจากทางเดินหายใจได้ยากขึ้น อาการข้างเคียงที่อาจพบได้ เช่น ง่วง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก

จะเห็นได้ว่าอาการไอเรื้อรังเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยอาจเกิดจากโรคที่ไม่ร้ายแรง เช่น โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนและล่าง ได้แก่ โรคหวัด หลอดลมอักเสบ หรืออาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงโรคร้ายแรง เช่น ปอดอักเสบ เนื้องอกบริเวณคอ กล่องเสียง หรือหลอดลม ได้เช่นกัน ดังนั้น ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาเบื้องต้นแล้วอาการไอยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการไอ และรับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป

หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ข้อมูลยาโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ตลอด 24 ชั่วโมง

ยาแก้ไอขับเสมหะยี่ห้อไหนดี

แนะนำ 6 ยาแก้ไอและละลายเสมหะ ให้คล่องคอหายใจสะดวก.

Brown Mixture GPO ยาแก้ไอน้ำดำ 60ml. ยาแก้ไอน้ำดำชนิดช่วยขับเสมหะ จากองค์กรเภสัชกรรม ขนาด 60 มล. ... .

Bisolvon Ex 60ml. ... .

ยาแก้ไอน้ำดำ LP ตราเสือดาว 60 – 120 ml. ... .

ยาแก้ไอ Solmax ชนิดแคปซูล 500 mg. ... .

ยาแก้ไอน้ำเชื่อม ชวนป๋วยปี่แปกอ ของ เนียมฉื่ออำ ... .

ยาแก้ไอ ตรา อาปาเช่.

ไอ มาก ๆ อันตราย ไหม

ในกรณีที่ผู้ป่วยอายุมาก การไอมากๆ อาจทำให้กระดูกอ่อนซี่โครงหัก, ถุงลมหรือเส้นเลือดฝอยในปอดแตกออกสู่โพรงเยื่อหุ้มปอด, เกิดภาวะลมในช่องเยื่อหุ้มปอด, เลือดออกในช่องเยื่อหุ้มปอด หรือ เกิดอาการหอบเหนื่อยและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

อาการไอมีเสมหะ กี่วันหาย

อาการไอมีเสมหะ มี 2 ชนิด คือ การไอมีเสมหะแบบเฉียบพลัน จะมีอาการไม่เกิน 3 สัปดาห์ และการไอแบบเรื้อรัง มีอาการไอ 8 สัปดาห์ขึ้นไป สำหรับเด็ก 4 สัปดาห์ โดยทั่วไปแล้วไอมีเสมหะแบบเฉียบพลัน สามารถหายเองได้ 2-3 สัปดาห์ หากมีอาการในระยะเวลานานกว่านี้ ควรมาทำการพบแพทย์ เพื่อทำการรรักษา เพราะอาจจะเป็นโรคร้ายแรงอื่นๆ และหากไม่ ...

อาการไอแห้งๆ เกิดจากอะไร

ไอแห้ง เกิดจากการระคายคอหรือระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง จนกระตุ้นให้เกิดการไอ โดยไม่มีเสมหะปน สาเหตุที่พบได้ เช่น ภาวะกรดไหลย้อน โรคหลอดลมอักเสบ ยาลดความดันโลหิตกลุ่มของ ACEi inhibitor และเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนไข้ COVID-19.