หลักการ ทำงาน Google Assistant

ข้อมูลจากบัญชี Google จะปรับเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งาน Google Assistant ให้เหมาะกับคุณ เพื่อทำให้ Assistant เป็นประโยชน์ต่อคุณยิ่งขึ้น

บางคำถามจำเป็นต้องใช้ข้อมูลของคุณเพื่อให้ Google Assistant ช่วยได้ เช่น เมื่อถามว่า "วันเกิดแม่วันที่เท่าไร" Assistant จะต้องใช้ข้อมูลจากรายชื่อติดต่อเพื่อดูว่าใครคือ "แม่" และดูข้อมูลวันเกิด หรือหากถามว่า "พรุ่งนี้ต้องพกร่มไหม" Assistant จะใช้ข้อมูลตำแหน่งปัจจุบันของคุณเพื่อให้คำตอบที่ตรงที่สุด

Google Assistant ยังใช้ข้อมูลเพื่อให้คำแนะนำคุณล่วงหน้าด้วย เช่น Assistant จะแจ้งเตือนได้เมื่อมีการจราจรติดขัดบนเส้นทางที่คุณใช้ประจำ โดยใช้ข้อมูลตำแหน่งของคุณ

Google Assistant คือวิธีง่ายๆ ในการใช้งานโทรศัพท์และแอปของคุณในแบบแฮนด์ฟรี
ใช้ Google Assistant เพื่อรับความช่วยเหลือแบบแฮนด์ฟรี ทั้งช่วยคุณตั้งการช่วยเตือนและนาฬิกาปลุก จัดการกำหนดการ หาคำตอบ นำทาง และควบคุมอุปกรณ์ในบ้านอัจฉริยะระหว่างที่คุณไม่อยู่บ้าน* และอื่นๆ อีกมากมาย

*ต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่เข้ากันได้

วิธีง่ายๆ ในการใช้โทรศัพท์และแอปของคุณ
เปิดแอปโปรดได้อย่างรวดเร็ว ไปยังส่วนต่างๆ และจัดการการตั้งค่าของโทรศัพท์ได้ง่ายๆ ทั้งเปิดโหมดห้ามรบกวน ปรับการตั้งค่าบลูทูธและโหมดบนเครื่องบิน รวมถึงเปิดไฟฉาย ซึ่งทุกอย่างที่ว่ามานี้ทำได้โดยใช้แค่เสียงของคุณเท่านั้น:

"เปิด YouTube"
"เปิดไฟฉาย"

ไม่พลาดทุกการติดต่อด้วยการโทร ส่งข้อความ และอีเมลแบบแฮนด์ฟรี
ติดต่อสื่อสารกับคนสำคัญของคุณ ทั้งการโทร ส่งข้อความ และค้นหาอีเมลจากรายชื่อติดต่อของคุณ

"ส่งข้อความบอกสำราญว่า 'กำลังไป'"

ทำงานเต็มประสิทธิภาพได้ทุกที่ทุกเวลา
ทำอะไรๆ ให้เสร็จได้ทุกที่ทุกเวลาโดยใช้แค่เสียงของคุณ ทั้งตั้งการช่วยเตือนและนาฬิกาปลุก จัดการกำหนดการและงานต่างๆ ค้นหาคำตอบและรับความช่วยเหลือด้วยการบอกเส้นทางและข้อมูลในพื้นที่

"เตือนให้ฉันซื้อนมตอน 1 ทุ่ม"
"ตั้งปลุก 7 โมงเช้า"
"จับเวลาถอยหลัง 5 นาที "
"เพิ่มไข่ลงในรายการช็อปปิ้ง"
"การประชุมแรกของพรุ่งนี้คือเรื่องอะไร"
"ปั๊มน้ำมันใกล้ๆ"
"นำทางกลับบ้าน"

ช่วยให้คุณนำหน้าคนอื่นหนึ่งก้าวเสมอ
รับข้อมูลเชิงรุกและการช่วยเตือนที่อิงบริบทเพื่อช่วยเหลือในสิ่งที่จำเป็นต่อคุณ ในเวลาที่คุณต้องการ และสำหรับสิ่งที่ทำเป็นประจำ คุณก็สร้างกิจวัตรแบบอัตโนมัติเพื่อปรับปรุงให้แต่ละวันดียิ่งกว่าเดิมได้

"อรุณสวัสดิ์"
"ราตรีสวัสดิ์"
"กลับบ้านกันเถอะ"

ควบคุมบ้านอัจฉริยะได้แม้แต่ในเวลาที่คุณไม่อยู่บ้าน
โทรศัพท์จะเป็นรีโมตคอนโทรลไว้ควบคุมบ้านอัจฉริยะของคุณ ปรับอุณหภูมิ หลอดไฟ และควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะต่างๆ แม้แต่ในเวลาที่คุณไม่อยู่บ้าน*

"ปิดไฟ"

*ต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่เข้ากันได้

พามาทำความรู้จัก Google Assistant ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ จากค่ายกูเกิล สั่งงานด้วยเสียงจากคำพูดของเรา ตอนนี้ทาง Google พร้อมลงยังมือถือรุ่นอื่นๆ แล้ว

• Facebook iconFacebook
• Twitter iconTwitter
• LINE iconLine

Google Assistant คือระบบสั่งงานด้วยเสียงจากคำพูดของเรา ปกติแล้วระบบนี้จะอยู่ในมือถือ Google Pixel ที่ทาง Google พัฒนาขึ้นมาเอง แต่ตอนนี้ทาง Google คงเห็นว่าพร้อมแล้วที่จะพา Google Assistant ออกมาโลดแล่นยังมือถือรุ่นอื่นๆ ได้แล้วจึงตัดสินใจปล่อยออกมาให้ดาวน์โหลดสำหรับมือถือแอนดรอยด์ทั่วไปสามารถใช้งานได้ ร่วมถึง iOS ก็เช่นกัน

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีระบบสั่งงานด้วยเสียงอย่าง Apple Siri, Samsung Bixby, Google Now, Amazon Alexa แต่นั่นก็เป็นการใช้งานที่ค่อนข้างจำกัดทั้งคำถาม คำตอบที่เราไม่สามารถถามนอกคำสั่งของระบบได้ แต่สำหรับ Google Assistant นั้นหลายคนให้ความสำคัญว่าเป็นอีกหนึ่งกำแพงที่ทำให้ระบบการสั่งงานด้วยเสียงถูกเอามาใช้งานได้จริง สิ่งที่ทำให้ Google Assistant นั้นแตกต่างมีดังนี้

– สามารถใช้งานกับมือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้เลยทันทีกว่าพันล้านเครื่อง

– สามารถแยกเสียงคน และเสียงภายนอกได้

– มีฐานข้อมูลที่มากกว่า สามารถใช้ค้นหา คุยเล่น ได้

– สามารถส่งต่อ เปิดแอปฯ เชื่อมต่อไปยังแอปฯ อื่นๆ ได้

– รองรับภาษาไทย ใช้เสียงภาษาไทยได้ และตอบกลับเป็นภาษาไทย

– ความน่ารักของการตอบคำถาม เป็นกลาง มุขตลกในบางโอกาส

ระบบของมือถือที่ต้องการสำหรับการใช้งาน Google Assistant

• เป็น Android 0 หรือสูงกว่า
• มี Google App 13 หรือสูงกว่า
• มีพื้นที่ 1.4 GB และหน้าจอแบบ HD ขึ้นไป

เราสามารถติดตั้งแอปฯ ได้โดยตรงจากการค้นหาใน Google Play จากชื่อของแอปฯ แต่มือถือบางรุ่นอาจจะเจอเพราะทางผู้ผลิตมือถือยังไม่ได้ทำการทดสอบเพื่อให้รองรับกับ Google จึงไม่สามารถดาวน์โหลดได้ ให้หาไฟล์มาติดตั้งเองจากเว็บ www.apkmirror.com ซึ่งเป็นเว็บไฟล์สำรองที่มั่นใจได้ว่าไม่มีไฟล์ปลอม ไม่แทรกไวรัสลงไป

Download QR-Code

Google Assistant

Developer: Google LLC

Price: Free

Download QR-Code

‎Google Assistant

Developer: Google LLC

Price: Free

⇒ ถามอย่างไรถึงได้คำตอบ

ถึงแม้ว่า Google Assistant นั้นจะเป็น AI ที่มีความฉลาดมาก แต่ก็ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการถามเรื่องทั่วไปได้ทั้งหมด เพราะขีดจำกัดทางด้านข้อมูล เราจึงมีตัวอย่างคำถามที่คิดว่าถามแล้วได้คำตอบแน่นอน แถมยังเป็นคำตอบที่ค่อนข้างมีประโยชน์ เอาไปใช้งานได้จริงด้วย แบ่งออกเป็นชุดคำถามต่างๆ ดังนี้

ช่วยเตือนความจำ ตั้งปลุก

เราสามารถตั้งเตือนความจำ หรือตั้งปลุกได้ง่ายๆ เพียงแค่พูดว่า “ตั้งปลุกเวลา 8 โมงเช้า” แต่ถ้าต้องการให้มีรายละเอียดมากกว่านั้นให้พูดตั้งปลุกที่มีรายละเอียดเยอะขึ้น เช่น ตั้งปลุกไปส่งเด็กที่โรงเรียนเวลา 7.30น. ทุกวัน ตัว Google Assistant จะเปิดนาฬิกาปลุกพร้อมกรอกข้อมูลให้เราอย่างครบถ้วน เรียกว่าไม่ต้องมานั่งตั้งค่าอะไรเลย ถ้าอยากดูว่าเราตั้งปลุกอะไรก็แค่พูดว่า “รายการตั้งปลุก” แค่นี้จะมีรายการขึ้นมาให้เราดูทันที นอกจากการตั้งปลุกแล้วยังสามารถตั้งให้เป็นรายการซื้อของ รายการบันทึกเตือนความจำด้วย แต่ Google จะบอกให้เราติดตั้งแอปฯ Shopping List และ Reminder เพิ่มเติม ปกติแล้วแอปฯ พวกนี้จะมีอยู่ในมือถือของ Google Pixel เอง

คิดเลขได้ง่ายๆ ไม่ต้องคิดมาก

ถ้าเราอยากจะคิดเลขง่ายๆ ไม่ต้องกดเครื่องคิดเลขเลย เพียงแค่พูดไปว่า ตัวเลขอะไร บวกอะไร ลบอะไร ไปจนถึงคูณหาร ซึ่งเป็นการใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่การคำนวนทางวิทยาศาสตร์ ก็สามารถใช้งานเครื่องคิดเลขได้ทันทีโดยการพูด เช่น 2 + 5 – 10 เท่ากับเท่าไหร่ ตัว Google Assistant ก็จะหาคำตอบให้เราทันที 

รวมถึงการแปลงค่าเงิน และหน่วยต่างๆ ก็ทำได้ด้วย เพียงแค่พูด 25 เซ็นติเมตร เท่ากับกี่นิ้ว หรือว่า 100 บาทเท่ากับกี่หยวน ระบบก็จัดการแปลงค่าให้เราได้ง่ายๆ เวลาเราดูข่าวว่ามือถือราคา 4,999 หยวน ก็ไม่ต้องคิดมาก แค่พูดไปเลยว่า “4,999 หยวนเท่ากับกี่บาท” แค่นี้เราจะได้ราคาไทยมาทันที มีประโยชน์มากเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ

นอกจากการคำนวนทั่วไปเรายังใช้เปอร์เซ็นต์ในการหาคำตอบได้ด้วย เช่น ถ้าเราต้องเสียภาษี 7% ก็แค่พูดว่า “500 บวก 7 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับเท่าไหร่” ก็จะได้คำตอบออกมาทันที ถ้าอยากหารค่าอาหารกัน ก็อาจจะพูดไปยังแอปฯ ได้เพื่อหารกัน เช่น 500 หาร 6 เท่ากับเท่าไหร่ ก็จะได้คำตอบมาทันที ไม่ต้องกดเครื่องคิดเลขอะไรเลย

โทรหาและส่งข้อความไปหาเพื่อนได้ทันที

ถ้าอยากโทรหาเพื่อน หรือว่าส่งข้อความไปหา เราไม่ต้องกดเปิดหน้าจอโทรออก เปิดสมุดรายชื่อ เพียงแค่พูดไปว่า “โทรหา <ชื่อ>” หรือ “ส่งข้อความหา <ชื่อ> ว่า จะไปรับตอนหกโมงเย็น” แค่นี้แอปฯ ก็จัดการโทรหาตามที่เราต้องการให้ทันที โดยไม่ต้องกดยืนยันอะไรอีกรอบ สิ่งที่สำคัญคือการบันทึกชื่อเบอร์โทรให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ การบันทึกชื่อเป็นชื่อจริงอาจจะโทรออกยากเพราะ Google ไม่สามารถอ่านชื่อจริงได้ถูกต้อง แต่ถ้าต้องการโทรหาเบอร์ทั่วไปสามารถใช้คำว่า “โทรออก” แล้วพูดหมายเลขเพื่อโทรออกได้ด้วย

แปลคำศัพท์ได้ง่ายๆ

เราสามารถใช้ Google Assistant ในการแปลภาษาทั่วโลกแค่เพียงพูดขึ้นมาเท่านั้นเองครับ วิธีการก็แค่บอกว่าต้องการแปลคำว่าอะไรเป็นอะไร เช่น “แปลคำว่า Mobile phone เป็นไทย” ตัวแอปฯ เองก็จะช่วยแปลคำง่ายๆ ให้เราได้ แต่ไม่สามารถแปลเป็นประโยคยาวๆ หรือคำพูดเป็นประโยคได้นะครับ คงต้องรอการพัฒนาต่อไป อย่างน้อยถ้าเราพูดเสียงถูก เราก็สามารถทราบความหมายของคำนั้นๆ ได้ทันที วิธีการนี้สามารถใช้กับภาษาอื่นๆ ได้ด้วย แต่ต้องมั่นใจว่าเราอ่านออกด้วย

ตัวอย่างการแปลคำศัพท์ผ่านการพูด

หาเส้นทางให้เรา

ในการเดินทางนั้นเราสามารถใช้เสียงพูดเพื่อบอกว่าเราอยากจะเดินทางไปที่ไหนได้บ้าง เช่น การเดินทางไปโรงเรียน ห้าง ถนน ซอย หมู่บ้าน สามารถพูดเข้าไปได้โดยการใช้คำง่ายๆ เช่น เส้นทาง เดินทาง ระยะทาง ไปยังสถานที่ที่เราต้องการ แต่ถ้าไม่เจอให้ใช้คำที่เฉพาะลงไป เช่น ชื่อวัด ขื่อสถานที่ราชการ สถานที่ท่องเที่ยว เพราะถ้าเราใช้คำง่ายๆ เช่น ตลาดโต้รุ่ง ศาลากลาง หรืออะไรพวกนี้เราจะหาสถานที่ไม่เจอ แต่ถ้าระบุชื่อวัด ชื่อโรงเรียน รับรองว่าพูดครั้งเดียวก็สามารถไปยังสถานที่นั้นๆ ได้ทันที

ใช้คำพูดง่ายๆ ในการหาเส้นทางตามที่เราต้องการ

ทิ้งไว้ 20 วินาที จะเปิดหน้าแผนที่พร้อมกับการเดินทางให้เรา (ต้องมี Google Maps)

เปลี่ยนคำพูดหลายๆ แบบตามที่เราต้องการ

ค้นหารูปภาพ และวิดีโอ

การค้นหารูปภาพ เสียง วิดีโอ ทำได้ง่าย เพียงแค่พูดไปเลยว่า รูปภาพของอะไร วิดีโอรายการอะไร หรือว่าอยากฟังเพลงอะไร ทั้งนี้การฟังเพลงเราต้องผูกบัญชีกับแอปฯ Spotify Premium เสียก่อนถึงจะสามารถใช้งานเปิดเพลงตามคำพูดของเราได้ หรืออาจจะฮัมเพลงให้พอเข้าใจ แอปฯ ก็จัดการเปิดเพลงนั้นให้เราได้ทันที

ถามคำถามทั่วไป

นอกจากการถามเรื่องที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันแล้วเรายังสามารถถามเรื่องทั่วไป ถามถึงใคร ทำอะไร ที่ไหน ร้านอะไร ส่วนสูง น้ำหนัก ประวัติของคนมีชื่อเสียงได้ทันทีโดยไม่ต้องไปเสี่ยงว่าจะโดนด่า วิธีการใช้ภาษาธรรมชาติของเราได้เลยว่าอยากได้ข้อมูลอะไร ของใคร ระบุไปสั้นๆ ก็จะได้ข้อมูลนั้นๆ ให้เราทราบทันที

ทั้งหมดนี้เป็นการใช้งาน Google Assistant ที่ดูแล้วอะไรก็ง่ายไปหมด หาข้อมูลอะไรก็ง่าย แต่ระบบ AI ในการสั่งงานด้วยเสียงยังไม่จบแค่นี้ เพราะนี่เป็นแค่การเริ่มต้นเก็บข้อมูลว่ามนุษย์ชอบถามอะไร สำเนียงแบบไหน ต้องการคำตอบแบบไหน เพื่อเอาไปปรับปรุงการให้คำตอบของตัวเอง และเอาไปต่อยอดเป็นการพัฒนาการสั่งงานด้วยเสียงไปยังอุปกรณ์ในบ้านอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น หมายความว่าถ้าระบบสามารถใช้งานได้ 100% ต่อไปเราก็ไม่ต้องพิมพ์งาน ไม่ต้องนั่งทำซับไตเติ้ลหนัง ระบบจับเสียงแล้วแปลเป็นภาษาที่เราเข้าใจได้ทันที ทุกอุปกรณ์จะรับฟังเราอยู่ตลอดเวลา พร้อมที่จะทำงานต่อเมื่อเราต้องการคำตอบ ในอนาคตเราอาจจะเห็นร้านอาหารต่างๆ ที่สั่งงานได้ด้วยเสียง แค่พูดชื่อเมนู หรืออาหารที่เราต้องการก็พอ ระบบจะจัดส่งออเดอร์ได้เลย รถไร้คนขับที่แค่พูดสถานที่แล้วระบบจะบอกค่าเดินทางให้เราทราบ การโทรไปแจ้งยอดค่าบริการ ทวงถามหนี้ ขายสินค้า ที่สามารถโต้ตอบได้ว่าเราอยากได้อะไร ขายอะไรให้ ทำให้โลกนี้ทำงานได้สะดวกมากขึ้นทันที