ผลงานทัศนศิลป์ของศิลปินไทยมีใครบ้าง

หากพูดถึงงานศิลปะที่มีชื่อเสียงโด่งดังของต่างประเทศ เพื่อนๆ คงบอกชื่อผลงานได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่ถ้าเป็นผลงานศิลปะของไทยที่มีคุณค่าและความสวยงามไม่แพ้กันล่ะก็ เพื่อนๆอาจจะนึกออกยากเสียหน่อย เพราะฉะนั้นในวันนี้เราจึงไปรวบรวมผลงานศิลปะของสุดยอดศิลปินไทย มาฝากเพื่อนๆให้อ่านประดับเป็นความรู้กันค่ะ

รวบรวมผลงานศิลปะของสุดยอดศิลปินไทย

ชื่อภาพ มารผจญ 1 และ มารผจญ 2 ศิลปิน อ.ถวัลย์ ดัชนี

ภาพนี้เป็นภาพยาวขนาด 3 เมตร จัดแสดงไว้ ณ บริเวณอาคารส่วนหน้าของ บ้านดำ จังหวัดเชียงราย โดยภาพนี้เป็นภาพ ซึ่งคงลายเส้นที่เป็นฉบับ อ.ถวัลย์ รวมทั้งการเล่นเงาอันทรงพลัง ภาพนี้ใช้โทนสีแดงกับสีเหลือง เพื่อสร้างความสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น โดยผลงานของ อ.ถวัลย์ หลายๆชิ้น รวมถึงชิ้นนี้ได้รับแนวคิดมาจากปรัชญาทางพุทธศาสนาทั้งหมด ในการสร้างสรรค์งานแต่ละชิ้นท่านก็ได้นำแนวปรัชญาพุทธศิลป์ มาสร้างออกมาเป็นงานศิลปะไทยแบบร่วมสมัย ซึ่งเพียงแค่มองก็สัมผัสได้ถึงพลัง เมื่อจ้องนานๆจะเกิดความรู้สึกแบบลุ่มลึก และแกร่งกร้าว เป็นงานศิลปะที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาสาระ รวมทั้งใส่จิตวิญญาณของความเป็นไทยเข้าไปผสมผสานระหว่างแนวปรัชญาตะวันออกและตะวันตก จนยากที่ใครจะเลียนแบบ

ชื่อภาพ เทพเชื้อเชิญ ศิลปิน อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์

ภาพนี้เป็นภาพของรุกขเทวดาผายมือ ให้กับคนที่กำลังจะเดินเข้ามาในธนาคาร ทำให้ผู้ที่กำลังจะก้าวขาเข้าไปมีความรู้สึกว่ามีเทพคอยปกปักษ์คุ้มครองดูแลรักษาอยู่ ให้ความรู้สึกสบายใจ ในภาพนี้มีดอกบัวและพญาครุฑ ความหมายคือ การคุ้มครองจากพระมหากษัตริย์ ส่วนรูปดอกไม้ซึ่งกระจายอยู่ทั่วภาพนั้น สื่อถึงการแซ่ซ้องสรรเสริญจากสวรรค์ ส่วนกรอบประตูในภาพนั้นหมายถึง การอยู่ในกรอบของธรรมะ

อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ท่านเป็นผู้มีความสำคัญอีกคนหนึ่งของวงการศิลปะไทย ท่านเป็นผู้สร้างสรรค์ออกแบบวัดร่องขุน ที่มีความสวยงามวิจิตร โดยผลงานของท่านจะเน้นไปภาพสวรรค์ เทวดา นางฟ้า ต่างๆ ภาพของท่านมีความแตกต่างจากของ อ.ถวัลย์ ถ้าของ อ.ถวัลย์ คือความดุดัน ผลงานของ อ.เฉลิมชัย ก็ต้องเป็นความอ่อนโยน พลิ้วไหว อ่อนช้อย งดงาม ให้ความรู้สึกช่ำเย็นทุกครั้งที่ได้ดู

ชื่อภาพ รัฐธรรมนูญ อ.ประเทือง เอมเจริญ

ในปี พ.ศ. 2541 อ.ประเทือง เอมเจริญ ได้สร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรม ภายใต้ชื่อผลงานว่า รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นภาพของริ้วธงชาติไทยพาดอยู่บนพานรัฐธรรมนูญ ส่วนครึ่งล่างของภาพก็ได้ปรากฏธงชาติไทยอันขมุกขมัว แถมมีรูพรุนทั่วทั้งผืน โดยผลงานชิ้นนี้สะท้อนถึง การถือกำเกิดของรัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ. 2540 ซึ่งต้องผ่านความยากลำบากในการต่อสู้ พร้อมสูญเสียสิ่งต่าง ๆ ไปมากมายกว่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว

อ. ประเทือง เอมเจริญ เป็นศิลปินที่ศึกษาศิลปะด้วยตนเองอย่างไม่ย่อท้อ ท่านได้ศึกษาปรัชญาชีวิต ของอินเดีย จีน รวมทั้งทำการศึกษาธรรมชาติ โดยเฉพาะในเรื่องของดวงอาทิตย์

โอกาสที่จะได้ชมผลงานศิลปะชิ้นเยี่ยมฝีมือศิลปินระดับปรมาจารย์หลายๆ ท่านภายในสถานที่แห่งเดียวไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง  

แต่ศูนย์การค้าแนวใหม่ที่เน้นรวมงานศิลปะและของสะสมล้ำค่าแห่งเอเชีย ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก จัดให้แล้ว โดยประสานงานกับ สำนักพิมพ์สยาม เรเนซองส์ นำมาจัดแสดงให้คนทั่วไปได้มีโอกาสรับชมและเป็นเจ้าของกันได้ในรอบหลายสิบปี ณ G111 Gallery Antiques & Collectibles บนชั้น 4 ของ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก

ที่ทำเช่นนี้ได้ เนื่องจาก “สำนักพิมพ์สยาม เรเนซองส์” เป็นผู้ผลิตเนื้อหาด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ และของสะสม ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี และยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ภาพถ่ายและของสะสมล้ำค่า โดยเฉพาะ “งานศิลปะ” ของศิลปินผู้มีชื่อเสียง

ผลงานทัศนศิลป์ของศิลปินไทยมีใครบ้าง

ผลงานศิลปะของศิลปินระดับตำนาน อ.เฉลิม นาคีรักษ์

ผลงานทัศนศิลป์ของศิลปินไทยมีใครบ้าง

ลายเส้นภาพสีน้ำมัน "แห่เทียนพรรษา"

ผลงานศิลปะที่นำมาจัดแสดงมีของ  อ.เฉลิม นาคีรักษ์ ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2531 สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ศิลปินอาวุโสผู้ได้รับการนับถือในความสามารถจากวงการศิลปะ ผลงานส่วนใหญ่เกี่ยวกับชีวิตและประเพณีไทยมีความยึดมั่นและศรัทธาในศิลปะ ได้สร้างสรรค์ผลงานต่อเนื่องกันมาเป็นเวลายาวนาน

ยกตัวอย่างเช่นภาพสีน้ำมัน แห่เทียนพรรษา และ ภาพหญิงกำลังปันด้ายกรอไหมพร้อมกับชายกำลังเป่าแคน แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ความงดงามของความเป็นไทย และยังมีภาพทิวทัศน์ของสถานที่ต่างๆ อีกด้วย

นอกจากเทคนิคสีน้ำมันที่เป็นเลิศแล้ว ยังมีภาพสีน้ำฝีแปรงของ อ.เฉลิม ซึ่งเคยได้รับคัดเลือกให้เป็นปกวารสารสมาคมศิษย์เก่าเพาะช่าง เนื่องในนิทรรศการ “วันเฉลิม นาคีรักษ์” อีกด้วย

ผลงานทัศนศิลป์ของศิลปินไทยมีใครบ้าง

“ศาสนา ธรรมชาติ ศิลปะ เป็นบ่อเกิดของสุนทรียะในจิตใจ”  อ.พิชัย นิรันต์ 

ผลงานของศิลปินท่านต่อมา อ.พิชัย นิรันต์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปีพุทธศักราช 2546 บุคคลสำคัญท่านหนึ่งในแวดวงจิตรกรรมร่วมสมัยของไทย

ที่ผ่านมา ผลงานของ อ.พิชัย นิรันต์ ได้รับการจัดแสดงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ผลงานของท่านเป็นที่ยอมรับ และยังได้รับโอกาสในการวาดภาพประกอบ หนังสือพระมหาชนก พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ผลงานส่วนใหญ่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการศึกษาคำสอนทางพระพุทธศาสนา ประกอบกับจิตวิญญาณแห่งศิลปินที่ไม่ใช่เพียงสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ แต่ยังคอยให้ความรู้แก่เยาวชนทั่วไป 

ผลงานของ อ.พิชัย นิรันต์ สะท้อนให้เห็นถึงสัจธรรมตามหลักพระพุทธศาสนา ผ่านการวาดภาพที่เกี่ยวกับ บัว และ ดอกไม้ โดยสร้างสรรค์ภาพวาดบัวที่เกิดในโคลนตม บัวตูม และบัวบานเต็มที่ สื่อความหมายที่ลึกซึ้งและจรรโลงใจ ตามความเชื่อที่ว่า “ศาสนา ธรรมชาติ ศิลปะ เป็นบ่อเกิดของสุนทรียะในจิตใจ”

ต่อกันด้วย อ.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติปี 2540 สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรมและสื่อผสม) และประธานสภาศิลปกรรมไทยแห่งสหรัฐอเมริกา นับได้ว่าเป็นศิลปินไทยอีกท่านหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงในฟากโลกตะวันตกได้อย่างที่ไม่มีใครเหมือน

อ.กมล ทัศนาญชลี ถือเป็นศิลปินไทยเพียงไม่กี่ท่านที่ได้ทุนเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเรียนรู้งานศิลปะ ประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ ได้ฉายานาม ศิลปินสองซีกโลก โดยผลงาน Buddha’s Footprint ได้รับเลือกให้บันทึกไว้ใน หนังสือประวัติศาสตร์ศิลป์โลก (Gardner's Art Through The Ages) เป็นศิลปินไทยเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับเกียรตินี้

หนังสือดังกล่าว เป็นหนังสือตำราเรียนประวัติศาสตร์ศิลปะของอเมริกา ที่รวบรวมผลงานของศิลปินเอกของโลกนับจากอดีตถึงปัจจุบัน

หลายท่านคงรู้จัก ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ ในฐานะศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์) ประจำปี พุทธศักราช 2532 รวมทั้งนักกวีและศิลปินผู้โด่งดัง ผ่านการศึกษาวรรณศิลป์จากกวีโบราณ เพื่อเข้าใจแก่นแท้ของสุนทรียะทั้งด้านความงามและความคิด ผลงานบทกวี อาทิ ปณิธานของกวี, เสียเจ้า, รักอักษรไทย, ดูถูกศิลปะ, โลก, แล้งวรรณคดี

 ดูถูกศิลปะ 

“ใครดูถูกดูหมิ่นศิลปะ

อนารยะสถุลสกุลสัตว์

ราวลิงค่างเสือสางกลางป่าชัฏ

ใจมืดจัดกว่าน้ำหมึกดำ

เพียงกินนอนสืบพันธุ์นั้นฤๅ

ชื่อว่าสิ่งประเสริฐเลิศล้ำ

หยาบยโสกักขฬะอธรรม

เหยียบย่ำทุกหย่อมหญ้าสาธารณ์

ภพหน้าอย่ามีรูปมนุษย์

จงผุดเกิดในร่างดิรัจฉาน

หน้าติดดินกินขี้เลื้อยคลาน

ทรมานทุกข์ร้อนนิรันดร์เอยฯ”

ผลงานทัศนศิลป์ของศิลปินไทยมีใครบ้าง

แต่ “ท่านอังคาร” ยังสร้างสรรค์ผลงานศิลปะด้วยใจรักผ่านการ สเกตช์ภาพด้วยปากกา และ เกรยองสีดำ  ตวัดลายเส้นจิตรกรรมที่ไม่เหมือนใคร แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ ความรู้สึก จินตนาการ และความงดงามของศิลปะ

ต่อกันด้วย ศาสตราจารย์ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2552 สาขาทัศนศิลป์ ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่มีจุดเด่นของรูปทรง ลวดลาย วัตถุ แสงและเงา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการศึกษาธรรมชาติ และพบว่า แสงเงาและวัฒนธรรมไทย เป็นจุดเด่นที่สามารถนำมาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้

อ.ปรีชา เถาทอง ยังคงเสนอผลงานศิลปะที่บอกเล่าถึง วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของไทย สะท้อนให้เห็นถึงสาระที่สอดแทรกอยู่ในผลงานผ่านผลงานที่นำมาจัดแสดงครั้งนี้

ผลงานทัศนศิลป์ของศิลปินไทยมีใครบ้าง

ประติมากรรม "ขี่ม้าส่งเมือง"

ภายใน G111 Gallery Antiques & Collectibles ยังจัดแสดงงานประติมากรรมอันเลื่องชื่อ ขี่ม้าส่งเมือง ของ อ.เขียน ยิ้มศิริ ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินชั้นเยี่ยม ปี พ.ศ.2496 สาขาประติมากรรม ผลงานส่วนใหญ่มีลักษณะตรงตาม อุดมคติแนวไทยประเพณี สิ่งที่นำมาแสดงออกคือ การใช้เส้นที่ดูอ่อนช้อย

หนังสือนำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป กล่าวถึงประติมากรรม "ขี่ม้าส่งเมือง" ไว้ว่า เป็นประติมากรรมแบบอุดมคติที่จับเอาลักษณะความรู้สึกที่อ่อนหวานของเส้นในศิลปะแบบประเพณี ผสานกับรุปทรงที่ตัดทอน ปราศจากโครงสร้างของกล้ามเนื้อและลักษณะพื้นผิวของงานที่เกลี้ยงเกลา ทำให้เกิดความผสมกลมกลืนของเส้นและรูปทรง สร้างความรู้สึกให้แลดูอ่อนพลิ้ว มีความเคลื่อนไหว

ผลงานทัศนศิลป์ของศิลปินไทยมีใครบ้าง

ประติมากรรม The Hero ม้าที่ประกอบด้วยลักษณะของ “หูลา ขาไก่ ไข่หมา หางปลากัด ผิวปลากราย ลายสีสวาด ชาติอาชา”

หากเอ่ยชื่อ อ.เริงศักดิ์ บุณยวาณิชย์กุล ผู้ซึ่งรู้ว่าชอบวาดรูปตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และเริ่มวาดรูปจริงจังตอนอายุ 15 ปี อ.เริงศักดิ์ไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักในวงการศิลปะไทย แต่ยังโด่งดังไกลถึงสิงคโปร์ มีชื่อเสียงจากการสร้างสรรค์งานประติมากรรมความคิดในเชิงอุดมคติ (Idealism) ดังเช่นผลงาน The Hero ประติมากรรมม้าที่งดงามและสง่างามด้วยชฎา ดูน่าเกรงขาม แต่มีท่วงทาที่ดูกระเสือกกระสนกับอะไรบางอย่าง ซึ่งก็คล้ายกับมนุษย์ที่ต่างดิ้นรนค้นหาสิ่งต่างๆ ให้กับชีวิต

อ.เริงศักดิ์นำเอกลักษณ์ของความเป็นไทยผสานกับแนวคิดเชิงอุดมคติผ่าน ชฎา ที่สวมใส่อยู่บนหัวของม้า และบนผิวก็ยังมี ลวดลายไทย ปรากฏอยู่ มิหนำซ้ำยังนำ ‘ลักษณะเฉพาะ’ ของสัตว์พื้นบ้านไทยอีกหลายชนิดมาประกอบขึ้นเป็น The Hero ประติมากรรมม้าอันลือลั่น นั่นก็คือ

“หูลา ขาไก่ ไข่หมา หางปลากัด ผิวปลากราย ลายสีสวาด ชาติอาชา”

บ่งบอกถึงลักษณะเด่นของผลงานชิ้นนี้ได้เป็นอย่างดี นับเป็นผลงานที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ และเอกลักษณ์ของความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน

อ.เริงศักดิ์ มิใช่เพียงรังสรรค์แต่ผลงานประติมากรรม แต่ยังคงทำสิ่งที่รักตั้งแต่วัยเด็กคือการวาดรูปควบคู่ไปด้วย ความสามารถของอาจารย์เป็นที่ต้องตาของนักธุรกิจใหญ่ในสิงคโปร์และอินโดนีเซีย ที่สนับสนุนการทำงานจากการนำผลงานของท่านไปเป็นของที่ระลึกให้แก่นักธุรกิจคนอื่น ๆ จนเป็นที่รู้จักไปทั่วภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก

ผลงานทัศนศิลป์ของศิลปินไทยมีใครบ้าง

งานชุดประติมากรรมพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๙

อีกหนึ่งผลงานงานประติมากรรมที่น่าชมในนิทรรศการครั้งนี้ คือ งานชุดประติมากรรมพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๙ จากฝีมือการรังสรรค์ของประติมากรแถวหน้าของของเมืองไทย  ปัทม์ บุณยรังค ศิลปินผู้รังสรรค์ผลงานด้วยการเป็น "ช่างหล่อ" ผู้นำเสนอเทคนิคและวิธีการจากต่างประเทศ ผสานเข้ากับแนวคิดและองค์ความรู้ที่ตกทอดเป็นมรดกของสยามเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นชิ้นงานที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ใน G111 Gallery ยังมีผลงานของศิลปินผู้มีชื่อเสียงอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึงข้างต้น อาทิ หทัย บุนนา, สมภพ บุตราช, ชัชวาลย์ รอดคลองตัน, วราวุธ ชูแสงทอง, สมพงษ์ จันท้วม, พิริยะ ไกรฤกษ์, นิรันดร์ ไกรสรรัตน์, สุชาติ วงศ์ทอง, สงัด ปุยอ๊อก และ สมยศ คำแสง

ผลงานศิลปะเกือบ 30 ภาพ พร้อมกับงานประติมากรรมหลากหลายชิ้น ได้รับการจัดเรียงออกมาให้เสมือนเป็นมุมหนึ่งของบ้าน ทำให้เป็นความแตกต่างที่น่าเยี่ยมชม

นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ศิลปินไทยยังคงสร้างจินตนาการและจรรโลงจิตใจมนุษย์ผ่านผลงานศิลปะและงานประติมากรรมที่เลื่องชื่อ สอดแทรกด้วยแนวคิดและค่านิยมของคนในสังคม