ข้อใดให้ความหมายของอีเมล์ได้ถูกต้อง

1. ความหมายของ Internet ที่ถูกต้องที่สุดคืออะไร 1. ระบบ LAN 2. ระบบ WAN 3. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ 4. Tocken Ring 2. การใช้ Internet ควรเปิดจากไอคอนใด 1.2.
ข้อใดให้ความหมายของอีเมล์ได้ถูกต้อง
3.
ข้อใดให้ความหมายของอีเมล์ได้ถูกต้อง
4.
ข้อใดให้ความหมายของอีเมล์ได้ถูกต้อง
3. เมื่อพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการในช่อง Address แล้วควรกดปุ่มใดเพื่อที่เข้าสู่หน้าเว็บ 1. Search 2. Enter 3. Insert 4. Ctrl
4. แถบชื่อโปรแกรม (Title bar) ทำหน้าที่อะไร 1. แสดงตำแหน่งและขนาดของหน้าต่าง 2. แสดงสถานการณ์ใช้งานโปรแกรมปัจจุบัน 3. แสดงแถบเครื่องมือที่ใช้เลือกคำสั่งต่าง 4. แสดงชื่อของโปรแกรมที่กำลังเรียกใช้งาน 5. ข้อใดคือวิธีการส่งอีเมล์ 1. เขียนจดหมาย -> พิมพ์ชื่ออีเมล์ผู้รับ -> ส่งข้อความ 2. พิมพ์ชื่ออีเมล์ผู้รับ -> หัวข้อ -> ข้อความ -> ส่งข้อความ 3. เปิดกล่องจดหมายเข้า -> หัวข้อ -> ข้อความ -> ส่งข้อความ 4. เปิดกล่องจดหมายเข้า -> ข้อความ -> ส่งข้อความ 6. ข้อใดจำเป็นที่สุดในการส่งอีเมล์ 1. หัวข้อ 2. ชื่อผู้ส่ง 3. ข้อความ 4. อีเมล์ผู้รับ 7. การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หมายถึงอะไร 1. E-Book 2. E-Commerce 3. E-Mail 4. E-Learning 8. ข้อใดอธิบายความหมายของ เวิล์ด ไวด์ เว็บ ได้ถูกต้องที่สุด 1. การบริการข้อมูลที่เชื่อมต่อด้วยไฮเปอร์ลิงก์ 2. การบริการข้อมูลด้วยข้อความ ภาพ เสียง ผ่านคอมพิวเตอร์ 3. การบริการข้อมูลผ่านอีเมล์ 4. การบริการข้อมูลผ่านกระดานข่าว 9. เว็บเพ็จ (Web Page) เปรียบเทียบได้กับอะไร 1. ปกหนังสือ 2. โต๊ะเขียนหนังสือ 3. กระดานไวท์บอร์ด 4. หน้าแต่ละหน้าของหนังสือ 10. ถ้าต้องการเก็บเว็บไซต์ที่น่าสนใจไว้ใช้งานครั้งต่อไปอย่างรวดเร็ว จะปฏิบัติอย่างไร 1. เก็บเว็บไซต์ไว้ใน History 2. เก็บเว็บไซต์ไว้ใน Search 3. เก็บเว็บไซต์ไว้ใน Favorites 4. เก็บเว็บไซต์ไว้ใน Refresh

E-mail ถือเป็นสิ่งพื้นฐานที่ใช้ในการสื่อสารทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ อีกทั้งยังเป็นการสื่อสารไร้พรมแดนที่ไม่เคยจางหายไปกับโลกเทคโนโลยีสมัยใหม่อีกด้วย เพราะไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคสมัย E-mail ก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในการติดต่อสื่อสารอยู่ดี

E-mail คืออะไร?

Electronic-Mail หรือที่หลายคนรู้จักกันในเชื่อ E-Mail คือ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้ในการรับ-ส่ง สื่อสารกันระหว่างบุคคล ซึ่งจะทำการรับ-ส่งผ่านเครือข่ายกลาง นั่นก็คือ อินเตอร์เน็ต (Internet) โดยการใช้งานเหมือนกับการส่งจดหมายผ่านไปรษณีย์ปกติ คือต้องทำการเขียนข้อความภายใน โดยมีชื่อของผู้ส่ง ชื่อของผู้รับ จากนั้นคลิกคำสั่งเพื่อส่งข้อความออกไปหาผู้รับ โดยทั้งชื่อผู้ส่ง และชื่อผู้รับจะต้องผ่านการลงทะเบียน ที่เรียกกันว่า E-mail Address หากกรณีเป็นข้อความที่ผู้รับไม่ได้อนุญาต ข้อความนั้นจะถูกเรียกว่า Spam

รูปแบบของอีเมล

เมื่อคลิกไปที่ตัวเลือกเพื่อเขียนอีเมลจะพบว่ามีส่วนประกอบ 2 ส่วนแยกกันไว้อย่างชัดเจน คือ

1. ส่วนหัว หรือ Header มีลักษณะเป็นช่องว่าง ให้กรอกรายละเอียดลงไป โดยข้อมูลที่ต้องกรอกคล้ายกับการจ่าหน้าซองจดหมาย จะประกอบไปด้วย

  • ที่อยู่อีเมลของผู้ส่ง ซึ่งในปัจจุบันอาจไม่ปรากฏให้เห็น
  • ที่อยู่อีเมลผู้รับ
  • หัวข้อเนื้อหาภายใน เพื่อให้ผู้รับสามารถเข้าใจคร่าวๆ ถึงหัวข้อเรื่องของการสื่อสารครั้งนี้

2. ส่วนเนื้อความ หรือ Body เป็นส่วนของเนื้อหาที่สามารถพิมพ์ข้อความลงไปได้ เหมือนการพิมพ์ใน Word อีกทั้งยังสามารถแนบไฟล์เอกสาร รูปภาพ วีดีโอ หรือลิงค์ข้อมูลต่างๆ ไปกับอีเมลเพื่อส่งถึงผู้รับได้

รูปแบบการใช้งานอีเมล

  1. การใช้งานแบบปิด หรือ Offline ซึ่งเป็นการใช้งานโดยที่ไม่ต้องทำผ่านเครือข่ายกลาง (อินเตอร์เน็ต) ซึ่งสามารถทำได้โดยการดาวน์โหลดดึงข้อมูลในอีเมลมาเก็บไว้ในโปรแกรม หรือภายในคอมพิวเตอร์ก่อน เมื่อมีข้อความเข้ามาในอีเมล ทำให้สามารถเปิดดูข้อมูลอีเมลบนเครื่องได้ตลอดเวลา ถึงแม้จะไม่มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายกลางก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามการใช้งานแบบปิดก็ยังมีข้อเสียอยู่ นั่นก็คือเมื่อไม่มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายกลาง หากมีข้อความหรืออีเมลใหม่เข้ามาก็จะไม่มีทางทราบข้อมูลได้
  2. การใช้งานแบบเปิด หรือ Online เป็นการใช้งานแบบปกติที่ใช้กัน นั่นคือทั้งผู้รับและผู้ส่ง มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายกลางไว้อยู่ ทำให้สามารถรับหรือส่งอีเมลได้เลยทันที ส่วนข้อเสียของการใช้งานแบบนี้ ขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่อกับเครือข่ายกลาง หากการเชื่อมต่อเกิดปัญหา ก็จะทำให้การรับและส่งอีเมลมีปัญหาตามไปด้วย
  3. การใช้งานแบบ ยกเลิกการเชื่อมต่อ หรือ Disconnected เป็นการผสมกันระหว่างการใช้งานแบบปิดและแบบเปิด โดยจะอาศัยการเก็บข้อมูลหรืออีเมลเข้ามาในโปรแกรมก่อน ให้ผู้รับสามารถใช้งานแบบปิดเพื่อลดภาระของการเชื่อมต่อ และการทำงานของคอมพิวเตอร์ จากนั้นเมื่อผู้รับต้องการที่จะแก้ไขข้อความ หรือส่งอีเมลเพื่อตอบกลับผู้ส่ง ก็จะมีการสลับการใช้งานเป็นแบบเปิดให้มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายกลาง เพื่อสามารถส่งอีเมลตอบกลับหาผู้ส่งได้

ข้อใดให้ความหมายของอีเมล์ได้ถูกต้อง

รูปแบบชื่อ Email Address

ในการสมัคร Email Address จะมีการกรอกข้อมูลส่วนตัว ทั้งชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิด และที่อยู่ เพื่อเป็นกายืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน ในส่วนของชื่อจะเป็นตามรูปแบบเดียวกัน คือ [email protected]

  • ส่วนแรก yourname คือ ข้อความหรือชื่อที่สามารถตั้งขึ้นได้ จะสอดคล้องกับชื่อตนเองหรือไม่ก็ได้ แต่ชื่อที่ตั้งขึ้นต้องไม่ซ้ำกับชื่อที่มีอยู่ก่อนแล้ว
  • เครื่องหมาย @ สำหรับกั้นระหว่าง ชื่อ กับ ชื่อเว็บไซต์
  • domain.com คือ ชื่อเว็บไซต์ที่ใช้ในการสมัครเพื่อให้ได้ Email Address มา ยกตัวอย่างเช่น gmail.com, outlook.com, yahoo.com และ hotmail.com เป็นต้น

หากต้องการมีอีเมลแบบพรีเมี่ยม คือใช้ @domain.com เป็นชื่อเว็บไซต์ของคุณเอง บนระบบการทำงานของ Gmail สามารถติดต่อใช้บริการ ระบบ Email สำหรับบริษัท by G-Suite กับทาง 1Belief ได้เลยครับ

คำย่อที่พบได้บ่อยๆ ใน EMAIL

ส่วนมากคำย่อที่ปรากฏภายในอีเมล จะเป็นคำปกติที่ใช้สื่อสารกันในชีวิตประจำวัน คำย่อเหล่านี้ส่วนมากเป็นภาษาอังกฤษ บางคำต้องมีการเรียนรู้เพื่อให้สามารถนำไปใช้อย่างถูกต้อง

  • TBA ย่อมาจาก To be announced หมายถึง จะประกาศให้ทราบภายหลัง
  • TBD ย่อมาจาก To be determined หมายถึง จะกำหนดทีหลัง
  • TBC ย่อมาจาก To be confirmed หมายถึง จะยืนยันกลับมาภายหลัง
  • BTW ย่อมาจากBy the way หมายถึง อย่างไรก็ตาม หรือ อีกอย่างหนึ่ง
  • FYI ย่อมาจาก For you information หมายถึง เรียนให้ทราบ แจ้งให้ทราบ หรือเป็นข้อมูล
  • CC ย่อมาจากCarbon copy หมายถึง ส่งสำเนาถึง เป็นการส่งโดยให้รับทราบไม่จำเป็นต้องตอบกลับ
  • FW ย่อมาจาก Forwarded message หมายถึง การส่งอีเมลที่ได้รับมาแล้วให้คนที่เกี่ยวข้องต่อ
  • RE ย่อมาจาก Reply หมายถึง การตอบกลับอีเมล

ข้อใดให้ความหมายของอีเมล์ได้ถูกต้อง

ประโยชน์ของ E-Mail

ประโยชน์ของการใช้ E-mail คือมีความรวดเร็วและสามารถส่งข้อความไปหาบุคคลใดก็ได้ทั่วโลก สามารรับและส่งได้ทั้ง ข้อความ ไฟล์เอกสาร ไฟล์รูป ไฟล์วีดีโอ หรือลิงค์ข้อมูลต่างๆ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดการใช้กระดาษและวัสดุสิ้นเปลืองได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสามารถสมัครใช้ Email Address ในการทำธุรกรรมต่างๆ บนเครือข่ายกลางได้ เช่น Internet Banking, Social Network เป็นต้น เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนของบุคคลได้อีกด้วย ที่สำคัญผู้ส่งสามารถส่งเอกสารได้ไม่จำกัด ประหยัดเวลาในการส่งเพราะส่งต่ออีเมลกันได้ และสามารถส่งถึงผู้รับได้หลายคนพร้อมกัน

E-Mail นั้นเป็นเทคโนโลยีที่มีการนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะมีทั้งความสะดวก ประหยัดทรัพยากรและยังสามารถใช้ยืนยันตัวตนของผู้ใช้งานได้อีกด้วย จึงถูกนำไปเป็นส่วนหนึ่งในการทำธุรกรรมต่างๆ บนโลกเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และเป็นเทคโนโลยีที่ยังคงอยู่ตลอดกาลอีกด้วย