ต้องยอมรับว่ารถเข็นเด็กเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่สำคัญและจำเป็นมากสำหรับคุณพ่อคุณแม่ในยุคนี้เพราะเวลาออกนอกบ้านถ้าไม่มีรถเข็นเด็กคิดสภาพไม่ออกเลยว่าจะเหนื่อยและพะรุงพะรังแค่ไหน ถึงแม้จะช่วยกันหอบหิ้วทั้งคนและสัมภาระกันสองคนก็เหอะ แล้วถ้าบางวันคุณแม่จำเป็นที่จะต้องออกไปข้างนอกตามลำพังกับลูกสองคนล่ะ นั่นยิ่งหนักไปอีก จริงมั๊ย วันนี้เราก็เลยอยากจะมาแนะนำ 12 รถเข็นเด็กที่ต้องห้ามพลาด มาดูกันเลยว่ามีแบบไหนดี แบบไหนเด็ดกันบ้าง
1. รถเข็นเด็ก Babyzen YOYO2 คุ้มค่าคุ้มราคา ขึ้นเครื่องได้ เหมาะกับการท่องเที่ยวและเดินทาง พับ-กางภายในพริบตาเดียว
BABYZEN แบรนด์อันดับ 1 จากฝรั่งเศส เป็นรถเข็นเด็กที่เน้นในเรื่องการพกพา พับเล็ก เก็บสะดวก ที่มาพร้อมกับการออกแบบที่สวยงามและดูทันสมัย แถมยังมีขนาดเล็กน้ำหนักเบาเพียง 6.2 กก. เท่านั้น รถเข็นเด็ก Babyzen YOYO² นี้ สามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงโตเลยถือว่าคุ้มมาก ส่วนข้อดีที่สำคัญของเขาคือสามารถพกพาขึ้นเครื่องได้ พกติดไว้ในรถก็ดีไม่เปลืองเนื้อที่เก็บ มีด้ามเข็นที่หุ้มด้วยหนังเกรดพรีเมี่ยม มีสายรัดข้อมือคนเข็น แถมยังมีตัวล็อคระบบนิรภัย 5 จุดเเละปรับเอนนอนได้ถึง 145 องศา ทั้งนี้ BABYZEN เขายังเข็นลื่นที่สุดในโลกด้วยระบบ “Soft Drive” รถเข็นเด็ก BABYZEN YOYO² จึงถือเป็นหนึ่งในรถเข็นเด็กที่เป็นที่นิยมมากเพราะมีผู้ใช้งานกว่า 83+ ประเทศทั่วโลก เหมาะกับการท่องเที่ยวเป็นที่สุด สำหรับบ้านไหนที่มีใจรักในการเดินทางต้องห้ามพลาดเชียวนะคะ
ดูเพิ่มเติม
2. รถเข็นเด็กรุ่น GB Pockit+ All-City เพื่อการท่องเที่ยว พับเล็ก พกขึ้นเครื่องได้ แบรนด์จากเยอรมัน
รถเข็นเด็กเพื่อการท่องเที่ยวอย่างแท้จริงต้องยกให้เขา GB Pockit+ All-City สินค้าเด็กแบรนด์ GB เป็นแบรนด์จากเยอรมันที่มีโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแบรนด์ที่มีทีมวิจัยและพัฒนาอยู่ทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี รัสเซีย ออสเตรีย เยอรมันและอเมริกา เป็นต้น แถมยังมีตัวแทนกระจายสินค้าอยู่ 67+ ประเทศทั่วโลกอีกด้วย ซึ่งรถเข็นเด็ก GB Pockit+ All-City เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดเพราะพับเล็กที่สุด พกขึ้นเครื่องได้หรือจะติดรถไว้ก็ไม่เปลืองพื้นที่ เป็นรถเข็นเด็กที่มีน้ำหนักเบาแต่โครงสร้างแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นสูงมาก รับน้ำหนักได้ถึง 50 kg. แถมยังสามารถถอดซักได้ทั้งคัน มีล้อเข็นที่ลื่นเลี้ยวง่าย เรียกได้ว่าจะออกไปไหนก็ไม่ต้องเปลืองแรงอีกต่อไปเพียงแค่มีรถเข็นเด็ก GB Pockit+ All-City ไว้สักคัน
ดูเพิ่มเติม
3. Cooper รถเข็นเด็กพับได้ รุ่น Classic รถเด็กนั่งพกพาสะดวก
สวยสะดุดไม่ซ้ำใครในราคาหลักพันกลางๆ จุดเด่นของรุ่นนี้คือเขาเอาข้อด้อยของรุ่นก่อนๆมาปรับปรุง พัฒนาเพิ่ม เช่น เพิ่มความยาวเบาะ ที่ปรับพนักพิงแบบไหม่ ที่ลากแบบไหม่ ที่ปรับขาสามารถปรับได้มากกว่าเดิมแถมล๊อคง่าย พอรวมกับคุณสมบัติเดิมที่ดีอยู่แล้วจึงทำให้รถเข็นเด็กรุ่นนี้ถูกใจคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายแบบไม่ต้องสงสัย
ดูเพิ่มเติม
4. Chicco รถเข็นเด็กเซ็ท Bravo Travel System W Tray-Indigo
รถเข็นนี้บอกเลยว่าราคาแอบแรงแต่ข้อมีของเขาคือมาทีเดียวเป็นเซ็ท ได้ทั้งรถเข็นและคาร์ซีท ซึ่งเป็นอุปกรณ์จำเป็นทั้งคู่ ถ้าหากว่าคุณพ่อคุณแม่เชื่อมั่นในแบรนด์และคุณภาพว่ายี่ห้อนี้ดีจริงก็แทบไม่ต้องลังเลเลยนะคะ ตรงกันข้ามเลยคือสะดวกซื้อทีเดียว 2 ชิ้น ไม่ต้องเสียเวลาช้อปปิ้งหลายรอบ
ดูเพิ่มเติม
5. Fico รถเข็นเด็ก รุ่น Apollo
Fico ก็ไม่น้อยหน้า จัดเซ็ทรถเข็นพร้อมคาร์ซีทแบบกระเช้าในราคาหลักพันปลายๆ ถ้าหากว่างบเรามีจำกัดก็อาจจะลดสเปคจากยี่ห้อ Chicco มาเป็น Fico ก็ได้ ซึ่งประหยัดไปได้เท่าตัวกันเลยทีเดียวเพราะโดยรวมแล้วคุณสมบัติอื่นๆก็ใกล้เคียงกัน
ดูเพิ่มเติม
6. รถเข็นเด็ก Oyster 2 – สี City Bronze special edition
จุดเด่น “รถเข็น ที่เน้นดีไซน์สวยหรูคลาสสิค แตกต่างไม่เหมือนใคร” เป็นรถเข็นเด็กที่มีสีสันกลางๆสามารถใช้ได้ทั้งลูกสาวและลูกชาย มีความแข็งแรง ทนทาน สะดวก พับเก็บง่าย รองรับ travel system ฐานล้อรองรับการกระแทก ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด รถเข็นเด็กรุ่นนี้เหมาะกับคุณพ่อคุณแม่ที่ชื่นชอบความสวยแบบคลาสสิคเป็นที่สุด
ดูเพิ่มเติม
7. รถเข็นเด็ก Belecoo รุ่น A8 เข็นได้ 2 ทาง พับเล็กได้ น้ำหนักเบา
จุดเด่นของรถเข็นเด็กรุ่นนี้คือสามารถพับให้มีขนาดเล็กได้ เหมาะสำหรับคุณแม่ที่พาลูกออกไปไหนมาไหนคนเดียวเพราะอีกมือนึงอุ้มลูกและอีกมือนึงก็ยังสามารถหิ้วรถเข็นนี้ได้ ด้วยความที่รถเข็นพับย่อขนาดได้และมีน้ำหนักเบา ที่สำคัญคือราคาสบายกระเป๋าสุดๆที่หลักพันต้นๆ เห็นทีคุณแม่จะต้องรีบสอยไว้ใช้งานแล้วแหละค่ะ
ดูเพิ่มเติม
8. Maclaren รถเข็นเด็ก รุ่น Mark II Style Set
ถ้าดูแค่ภาพเผินๆคุณอาจจะคิดว่ารถเข็นเด็กรุ่นนี้ราคาคงไม่แพง แต่นั่นเป็นเพราะภาพที่เห็นเท่านั้นค่ะ จริงๆแล้วรถเข็นคันนี้ก็เหยียบหมื่นเชียวนะคะ นั่นเป็นเพราะคุณสมบัติที่จัดเต็มของเขาต่างหาก จุดเด่นของเขาคือเป็นรถเข็นที่น้ำหนักเบาที่สุดและโครงสร้างรถเข็นผลิตจากอะลูมิเนียม มีน้ำหนักเบา ทนทาน และแข็งแรง สามารถใช้งานได้ยาวนาน จึงเป็นเหตุผลและที่มาว่าทำไมเขาถึงแพง
ดูเพิ่มเติม
9. รถเข็นเด็ก พับอัตโนมัติ PALI รุ่น Magic2
รถเข็น”พับอัตโนมัติ”แบรนด์ดังจากประเทศอิตาลี ที่สามารถพับให้มีขนาดกระทัดรัด สามารถวางตั้งตรงได้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินทาง คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องพาลูกเดินทางด้วยบ่อยๆน่าจะชอบสิ่งนี้เพราะไม่ว่าจะรถไฟฟ้า เครื่องบิน เรือ บอกเลยว่าจอบโจทย์สุดๆเพราะพอเราพับรถเข็นแล้วก็สามารถถือหรือหิ้วได้แบบไม่เกะกะเลย
ดูเพิ่มเติม
10. GD Baby รถเข็นเด็ก ( เข็นหน้า-หลัง ) ใช้ได้ตั้งเเต่เเรกเกิด ปรับ 3 ระดับ
รถเข็นเด็กหลักร้อยก็มีนะคะ สำหรับครอบครัวที่คิดว่ารถเข็นอาจจะไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ ถ้าซื้อของแพงมาใช้แล้วกลัวไม่คุ้มก็ลองเลือกแบบนี้ดูก็ได้นะคะ เพราะถึงแม้ว่าราคาเขาจะไม่น่าดึงดูดสักเท่าไหร่แต่ถ้าเข้าไปอ่านรีวิวจากคนที่ซื้อไปใช้จริงแล้วก็ไม่เลวนะคะ
ดูเพิ่มเติม
11. รถเข็นเด็ก TR18 พับได้ ขึ้นเครื่องบินได้ น้ำหนักเบา แข็งแรง ทนทาน
รถเข็นเด็กในราคาย่อมเยาหลักพันต้นๆที่มาพร้อมกับจุดเด่นคือมีขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก สามารถพับเก็บใส่กระเป๋าเดินทางหรือนำขึ้นเครื่องบินได้ไม่เปลืองพื้นที่ นอกจากนี้ร้านยังมีของแถมให้อีกตั้งหลายรายการ ถ้าสนใจก็ลองเลือกชมกันดูนะคะ
ดูเพิ่มเติม
12. รถเข็นเด็กพกพา V.5 Stroller พับ กาง พกพาง่าย ฟังก์ชั่นเพียบในราคาเบาๆ
รถเข็นเด็กรุ่นนี้เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่ชอบอะไรเยอะ เน้นความคล่องตัวเป็นหลักเพราะรถเข็นคือใช้สำหรับเข็นลูกอย่างเดียวจริงๆ ของใช้หรืออุปกรณ์อื่นๆที่ต้องพกพาไปด้วยคือใส่กระเป๋าสะพายของคุณพ่อคุณแม่ประมาณนี้ ด้วยราคาเบาๆหลักพันต้นๆก็เหมาะที่จะสอยไว้ใช้ในนาทีเร่งรีบนะคะ
ดูเพิ่มเติม
เราจะสังเกตได้ว่า 12 รถเข็นเด็กที่ต้องห้ามพลาดที่เอามาแนะนำนั้นมีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น มีหลายปัจจัยที่ทำให้ราคานั้นต่างกันไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ วัสดุที่ใช้ รวมถึงคุณสมบัติของรถเข็นเด็กในแต่ละรุ่น ทั้งนี้ยังมีปัจจัยอื่นสำคัญที่เราควรคำนึงคือความคุ้มค่า คุ้มราคา คุณต้องลองชั่งน้ำหนักดูว่าถ้าซื้อรถเข็นนั้นๆแล้วมาระดับความคุ้มจะอยู่ประมาณไหน ต้องราคาเท่าไหร่ที่ซื้อมาแล้วจะไม่เสียดายเงินเพราะคุณอย่าลืมว่าเราใช้รถเข็นนี้กับลูกแค่ช่วงแรก ไม่กี่ปีเท่านั้นเอง ถึงอย่างไรก็ตามก็ขอให้ผู้อ่านเจอรถเข็นที่ใช่ หรือถ้าจะซื้อให้เป็นของขวัญ ของฝากก็ขอให้ถูกใจผู้รับกันนะคะ