คา ร์ ซี ท chicco ดี ไหม

สำหรับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่แล้วไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความปลอดภัยของลูก และหากคุณต้องนำลูก ๆ เดินทางด้วยรถยนต์ครอบครัว แน่นอนคุณไม่สามารถอุ้มลูกไว้ได้ตลอดเวลาเพราะผลที่ตามมานั้นคุณอาจจะเกิดอาการปวดเมื่อย และเสี่ยงต่อความปลอดภัยของลูก ๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน อีกทั้งยังทำให้การเดินทางนั้นเต็มไปด้วยความกังวล

คาร์ซีท คืออะไร ?

คาร์ซีท (Car Seat) คือ ที่นั่ง/เบาะรองนั่งในรถยนต์สำหรับเด็กซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยสำหรับเด็กเนื่องจากเด็กจะมีความสูงไม่เพียงพอสำหรับใช้งานเข็มขัดนิรภัยที่ติดมากับรถยนต์ โดยคาร์ซีทส่วนใหญ่จะมีเข็มขัดนิรภัยมาให้ปรับใช้ตามขนาดตัวและความสูงของเด็ก และจะต้องได้รับการติดตั้งบนที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังด้วยการผูกยึดด้วยเข็มขัดนิรภัยรถยนต์(Seat Belt) หรือระบบ ISOFIX

หาก Seat Belt เข็มขัดนิรภัย จำเป็นสำหรับผู้ใหญ่อย่างเราแล้ว คาร์ซีท (Car Seat) ก็จำเป็นสำหรับเด็กเล็ก เช่นกันค่ะ

ความสำคัญของคาร์ซีท

อย่างที่เรารู้ค่ะจะให้เด็กนั่งนิ่ง ๆ นาน ๆ คงเป็นไปไม่ได้เลย (ยกเว้นตอนพวกเขากำลังนอนหลับ) แม้ว่าคุณจะหยิบยื่นสมาร์ทโฟน หรือ iPad ให้เค้ากดเล่นแต่ก็ไม่นานเขาก็เริ่มรู้สึกเบื่ออยากเคลื่อนไหว ย้ายที่นั่งบ้าง นอนบ้าง หรือแม้กระทั่งกระโดดในรถขณะที่เราขับทำให้เราต้องขับรถไปกังวลไป และหากจำเป็นต้องเหยียบเบรคแรง ๆ ในขณะที่ลูกกำลังยืนอยู่อาจส่งผลให้ลูกล้มลงบาดเจ็บได้ และเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างเช่น อุบัติเหตุ การให้ลูกนั่งคาร์ซีทสามารถเพิ่มความปลอดภัยให้ลูกได้ค่ะ

แม้ว่าเราจะใส่เข็มขัดนิรภัยที่มากับรถยนต์ (Seat Belt) ให้ลูกเราแล้วก็ตามแต่วิธีนี้นี่ถือว่าอันตรายมากเลยนะคะหากเด็ก ๆ ยังมีความสูงไม่เพียงพอ เพราะเข็มขัดนิรภัยจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อมันถูกคาดไว้ที่ตำแหน่งหน้าอกไปจนถึงหัวไหล่ค่ะ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดจึงทำให้คาร์ซีทกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก มากขนาดที่ต้องกำหนดเป็นข้อกฎหมายในประเทศที่พัฒนาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หรือญี่ปุ่น โดยเด็ก ๆ ที่นั่นต้องเริ่มนั่งคาร์ซีทตั้งแต่วันแรกที่นั่งรถออกจากโรงพยาบาลกันเลยค่ะ

นอกจากประโยชน์ในแง่ของความปลอดภัยกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น อุบัติเหตุที่คาร์ซีทจะสามารถลดระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุได้แล้ว คาร์ซีท (Car seat) ที่ดีจะทำให้เด็กนั่งหรือนอนบนรถได้อย่างสบายด้วยอีกด้วย เค้าก็จะนั่งอย่างชิว ๆ สามารถมองวิวทิวทัศน์รอบ ๆ ขณะที่รถขับผ่านได้อย่างสะดวก หากจะนอนหลับก็หลับสบายเพราะส่วนใหญ่จะมีที่รองคอไว้ให้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เค้าอารมณ์เสีย หงุดหงิด ร้อง หรืออาละวาด เราก็ไม่ต้องกังวลว่าเค้าจากเผลอกระโดดมาหาเราขณะที่กำลังขับรถอยู่ หรือไม่ต้องเกรงว่าเค้าจะแอบท้าทายเปิดประตูรถ แต่ที่สำคัญ *** ก่อนเดินทางเราต้องเช็กเข็มขัดนิรภัยของคาร์ซีทให้ดี ๆ รวมไปถึงประตูรถในตำแหน่งที่ติดตั้งคาร์ซีทควรเปลี่ยนเป็นระบบ Child Lock (เปิดได้จากด้านนอกอย่างเดียวเท่านั้น) ก่อนนะคะ คราวนี้คุณพ่อคุณแม่จะแอบหนีไปเที่ยว หรือไปช้อปปิ้งกับลูกสองต่อสองก็ทำได้อย่างง่ายดายขึ้นค่ะ

ประเภทของคาร์ซีท (Car Seat) – ซื้อแบบไหนดี

นี่น่าจะเป็นคำถามยอดฮิตสำหรับคุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ทุก ๆ คนเพราะเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเข้าเว็บหรือแอปฯ ซื้อของออนไลน์หรือไปเดินดูคาร์ซีทในห้างร้านกันมาบ้างแล้ว มันมีคาร์ซีทหลายแบบให้เลือกเลยใช่ไหมละคะ? วันนี้อิชั้นจะมาเล่าให้ฟังจากประสบการณ์ลูก 3 คนว่าเราควรเลือกแบบไหนดีค่ะ ก่อนอื่นไปทำความเข้าใจในเรื่องประเภทของคาร์ซีทกันก่อนค่ะ โดยประเภทของคาร์ซีทจะถูกแบ่งตามช่วงอายุของเด็ก ๆ ที่ใช้งานค่ะ โดยหลัก ๆ จะมี 3 ประเภท ดังนี้

1. คาร์ซีทแบบกระเช้า สำหรับเด็กทารก (Group 0+)

คาร์ซีทประเภทนี้จะมีลักษณะเหมือนตะกร้าหรือกระเช้า โดยจะเหมาะสำหรับเด็กทารกแรกเกิดแบบเพิ่งร้อง อุแว้ อุแว้ ออกมาจากโรงพยาบาลจนถึงน้ำหนักตัวประมาณ 15 กิโลกรัม จะมีการติดตั้งโดยการหันหน้าเข้าเบาะค่ะ และควรจะเป็นเบาะที่นั่งผู้โดยสาร(ด้านหลัง)

ข้อดีของคาร์ซีทแบบกระเช้าคือ เราจะสามารถเคลื่อนย้ายเด็กได้ง่าย โดยเฉพาะทารกที่เค้าจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการนอนอยู่แล้วด้วยยิ่งสบายเลยค่ะ ด้วยการออกแบบแบบกระเช้าจะทำให้เด็กนอนสบายแถมยังสามารถถอดออกมาโยกในเด็ก ๆ หลับต่อนอกรถได้อีกด้วยค่ะ

คาร์ซีทแบบกระเช้า สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก

อิชั้นเองก็เคยใช้แบบนี้ค่ะเวลาจะไปร้านอาหารก็หิ้วกระเช้าพร้อมลูกน้อยเข้าไปได้เลยกินอิ่มแล้วก็หิ้วขึ้นรถกลับบ้าน สะดวกสบายและปลอดภัยดี แต่ต้องหลบสายตาคนมองให้ได้นะคะเพราะถือว่าค่อนข้างแปลกใหม่ในบ้านเรา อิอิ

บางยี่ห้อขายคาร์ซีทแบบกระเช้าคู่กับรถเข็นเด็กเลยนะคะทำให้ถอดคาร์ซีทนอกจากรถแล้วเอาลงรถเข็นได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

คาร์ซีทแบบกระเช้า ที่สามารถซื้อคู่กับรถเข็นเด็กเพื่อให้สามารถใช้งานได้สะดวก

แม้ว่าคาร์ซีทแบบนี้จะสามารถใช้งานได้จนเด็กน้ำหนักตัวประมาณ 15 กิโลกรัม แต่ความจริงแล้วเมื่อเด็กเริ่มนั่งได้และเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วจากประสบการณ์ก็ประมาณ 7 – 9 เดือน น้ำหนักตัวประมาณ 9 กิโลกรัมขึ้นไป พวกเค้าก็เริ่มรู้สึกอึดอัด เบื่อและไม่อยากนอนเฉย ๆ แล้วละค่ะ คราวนี้คุณพ่อคุณแม่ก็จะเริ่มได้ยินเสียงกรีดร้อง ก็ถือว่าเป็นฤกษ์ดีที่เรากำลังจะได้เสียเงินเปลี่ยนคาร์ซีทตัวใหม่เป็นให้พวกเขาแล้วค่ะ

2. คาร์ซีทแบบนั่ง สำหรับเด็กที่มีอายุไม่เกิน 4 ขวบ (Group 0+ , Group 1)

คาร์ซีทแบบนี้ในตลาดก็จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ

  • สำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงน้ำหนัก 18 กิโลกรัม หรือประมาณ 4 ขวบ (Group 0+ , Group 1)คาร์ซีทแบบนี้จะมีความสามารถในการติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะและติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะได้ด้วย ส่วนใหญ่จะสามารถปรับระดับการนอนให้ลูกเราได้ ราคาแอบแรงอยู่นะคะ แต่ซื้อแล้วใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดถึงเข้าอนุบาลเลย แนะนำสำหรับใครที่ไม่อยากซื้อแบบกระเช้าซื้อแบบนี้ทีเดียวไปเลยก็ถือว่าเป็นความคิดที่ดีค่ะ หลังลูก 4 ขวบ หรือเริ่มตัวโตเกินคาร์ซีทก็เปลี่ยนไปใช้ค่ะ
  • สำหรับเด็กแรกน้ำหนัก 9 กิโลกรัมจนถึงน้ำหนัก 18 กิโลกรัม หรือประมาณ 4 ขวบ (Group 1) คาร์ซีทแบบนนี้จะติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะรถได้เพียงอย่างเดียวค่ะ ใครที่ซื้อมาก่อนแนะนำซื้อให้ตัวนี้ต่อเลยค่ะ
คาร์ซีทที่เหมาะสำหรับเด็ก 9 เดือน ถึง 4 ขวบ ออกแบบมาให้เด็กนั่งสบาย

3. บูทเตอร์ซีท (Booster Seats) หรือ คาร์ซีทสำหรับเด็กโต

บูทเตอร์ซีทจะเหมาะสำหรับเด็กที่มีน้ำหนัก 15 – 36 กิโลกรัม หรือมีอายุประมาณ 3 ขวบครึ่ง ถึง 11 ขวบ จุดประสงค์หลัก ๆ ก็เพื่อยกระดับความสูงของเด็กให้สามารถคาดเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ทั่วไปถึง เพราะเข็มขัดนิรภัยควรพาดผ่านกระดูกบริเวณหน้าอกและเชิงกรานซึ่งเป็นส่วนที่แข็งแรงกว่าช่วงท้องและลำคอซึ่งอาจสร้างความเสียหายร้ายแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุค่ะ

โดยบูทเตอร์ซีทจะมีให้เลือกซื้อ 2 ประเภท

บูสเตอร์ซีทหลังสูง (High-back boosters)

บูสเตอร์ซีทหลังสูง เด็ก ๆ จะนั่งสบายเพราะออกแบบมาให้เข้ากับสรีระของเด็ก

นั่ง 4 ขวบ กำลังนั่งบูสเตอร์ซีทหลังสูง

บูสเตอร์แบบไม่มีหลัง (Backless Boosters)

บูสเตอร์แบบไม่มีหลัง จะมีลักษณะเหมือนฐานรองนั่งเพื่อยกระดับความสูงของเด็กให้สามารถคาดเข็มขัดนิรภัยในรถได้อย่างปลอดภัย

เด็ก 8 ขวบ กำลังนั่งบูสเตอร์แบบไม่มีหลัง

สิ่งสำหรับที่สุดในการเลือกซื้อคาร์ซีทแต่ละประเภทคือ เราควรเลือกคาร์ซีทที่มีฉลากระบุว่าเป็นไปตามมาตรฐานสากลด้วยนะคะ

ISOFIX สำคัญอย่างไรต่อคาร์ซีท ?

ISOFIX เป็นระบบการติดตั้งคาร์ซีทแบบใหม่ที่ได้รับมาตรฐานจากสากล และมีใช้อยู่ทั่วโลกทั้งในเอเชียและยุโรปซึ่งเป็นระบบการติดตั้งคาร์ซีทสำหรับเด็กที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกน้อยได้อย่างมาก โดยไม่ต้องใช้เข็มขัดนิรภัย เพราะระบบการติดตั้ง ISOFIX นั้นเป็นการยึดติดคาร์ซีทด้วยตัวยึดที่มีความแข็งแรง แน่นหนาตามมาตรฐานสากล ระบบ ISOFIX ยังช่วยเพิ่มความสะดวกในการติดตั้งคาร์ซีทให้กับคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย เนื่องจากปกติแล้วการติดตั้งคาร์ซีทจะมี 2 ระบบด้วยกัน คือ ระบบติดตั้งแบบเข็มขัดนิรภัย ซึ่งจะใช้เวลาในการติดตั้งคาร์ซีทประมาณ 2–3 นาที แต่ระบบ ISOFIX จะช่วยย่นระยะเวลาในการติดตั้งคาร์ซีทให้เหลือเพียงไม่ถึงนาที

ฉะนั้นก่อนเลือกซื้อคาร์ซีทที่ติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX แนะนำให้เช็กรถของเราก่อนนะคะ

ฝึกให้เด็ก ๆ นั่งคาร์ซีท เพื่อความปลอดภัย

เรามาดูกันว่าคาร์ซีทยี่ห้อไหนที่สามารถให้ความปลอดภัยสูงสุด และเหมาะกับลูกน้อยของคุณในขณะที่ต้องเดินทางด้วยรถยนต์ โดยคุณสามารถพิจารณาได้โดยข้อมูลต่าง ๆ ดังนี้

คาร์ซีทแบบกระเช้า/ตะกร้า สำหรับเด็กแรกเกิด

Baby Car Seat คาร์ซีทสำหรับเด็ก ผ่านมาตรฐานการรับรอง CE

รูปภาพจาก shopee.co.th

ราคา 699 บาท*

อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้นค่ะว่าคาร์ซีทแบบกระเช้ามักจะมาพร้อมกับรถเข็นเด็ก ซึ่งสำหรับรุ่นนี้ที่เราเลือกมาก็เป็นเช่นนั้นเลยค่ะ คือนอกจากจะได้คาร์ซีทแล้วก็ยังได้รถเข็นที่สามารถพับเก็บได้ด้วยค่ะ คราวนี้คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องกระเตงลูกใส่ตะกร้าแล้วนะคะ ลงรถปุ๊บก็สามารถติดตั้งกับรถเข็นได้ทันที ตัวรถเข็นนั้นมีน้ำหนักเบาพกพาสะดวก แถมยังพับเก็บง่ายด้วยขนาดที่กะทัดรัด ล้อโฟมยึดเกาะพื้นผิวได้ดีไม่ลื่น และตัวโครงเหล็กที่นำมาผลิตก็แข็งแรงมากค่ะ สามารถที่จะรับน้ำหนักได้มากถึง 40 กก.เลยทีเดียว

และสำหรับในส่วนของตัวคาร์ซีทเองคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถไว้ใจได้ในเรื่องของการทำงานที่ได้ประสิทธิภาพ เพราะว่าได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล จึงสามารถช่วยดูแลลูกน้อยตั้งแต่วัยแรกเกิดไปจนถึงช่วงอายุ 15 เดือนได้อย่างปลอดภัย หายห่วงเลยค่ะ

ขนาดไม่ระบุน้ำหนัก3.9 kgเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด - 15 เดือน หรือน้ำหนักประมาณ 13 กิโลกรัม (Group 0+)การติดตั้งติดตั้งหันหน้าเข้าเบาะรถยนต์รองรับระบบ ISOFIX

ดูได้ที่ Shopee

Chuchob คาร์ซีทกระเช้าหิ้ว

รูปภาพจาก shopee.co.th

ราคา 1,150 บาท*

Chuchop แบรนด์ที่ผลิตคาร์ซีทออกมาในราคาที่คนไทยทั่วไปสามารถซื้อเป็นเจ้าของได้ คุณสามารถติดตั้งใช้งานด้วยเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ ด้ามจับสามารถปรับได้ 4 ระดับ นอกจากนั้นยังสามารถใช้เป็นเปกโยกโดยวางในตำแหน่งที่ปลอดภัยภายในบ้านได้อีกด้วยน้ำหนัก2.75 kgเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด - 13 kg (Group 0+)การติดตั้งติดตั้งหันหน้าเข้าเบาะรถยนต์รองรับระบบ ISOFIX✘

ดูได้ที่ Shopee

CAMERA คาร์ซีทแบบกระเช้า รุ่น Zion3

รูปภาพจาก camera.co.th

ราคา 2,290 บาท*

คาร์ซีทจาก CAMERA รุ่น Zion3 เป็นคาร์ซีทที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานกับเด็กทารกโดยเฉพาะ ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยในระดับสากล มีสายรัดนิรภัย 2 ช่องและตัวล็อก 3 จุดเพื่อให้ล็อกทารกให้อยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัยและสบายตัวที่สุด โดยจะจัดท่าให้เด็ก ๆ อยู่ในลักษณะเอนประมาณ 145 องศา เบาะนั่งหนาให้สัมผัสที่นุ่มละมุน ผ้าที่ใช้บุก็สามารถระบายอากาศได้ดี ไม่ดูดซับความร้อนและไม่ก่อให้เกิดอาการคันระคายเคืองผิว นอกจากนี้แล้วเบาะที่หุ้มด้านในก็ยังหนาพอที่จะช่วยป้องกันการกระแทกทำให้ลูกน้อยของคุณปลอดภัยมากเป็นพิเศษ รุ่นนี้มีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบาค่ะ จึงทำให้การพกพาไปไหนมาไหนสะดวกมาก ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้รถเข็นช่วยแม่ ๆ ก็เอาอยู่ค่ะ

ขนาด22.5 x 43 x 72 cmน้ำหนัก2.5 kgเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด - 13 kg (Group 0+)การติดตั้งติดตั้งหันหน้าเข้าเบาะรถยนต์รองรับระบบ ISOFIX

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

ดูได้ที่ Central

JOIE ตะกร้าหิ้วเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก รุ่น Gemm

ราคา 3,790 บาท*

ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี แข็งแรง ทนทานใช้ได้นาน สามารถถอดซักทำความสะอาดได้ง่าย มีสายคาดนิรภัยตามาตรฐานสากล ติดตั้งได้ทั้ง 2 แบบ คือแบบใช้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ (Seat Belt) และแบบระบบ ISOFIX ด้วยฐานเสริมรุ่น I Base ที่คุณต้องซื้อเพิ่มหากต้องการ รองการใช้กับรถเข็นของ JOIE รุ่น chrome / litetra 4 / mirusขนาด66 x 43.5 x 58.5 cmน้ำหนัก4.62 kgเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด - 13 kg (Group 0+)การติดตั้งติดตั้งหันหน้าเข้าเบาะรถยนต์รองรับระบบ ISOFIX✔ (ด้วยฐานเสริม Car Seat รุ่น I Base ขายแยก)

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

GOOD BABY คาร์ซีท Artio แบบกระเช้า สีฟ้า

รูปภาพจาก central.co.th

ราคา 7,290 บาท*

คาร์ซีทแบบกระเช้าหรือตะกร้าของแบรนด์ Good Baby ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถถ่ายเทแรงกระแทกได้อย่างดีกรณีเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน สามารถเลื่อนระดับช่วงบนของคาร์ซีทได้ถึง 8 ระดับ เพื่อทำให้รับน้ำหนักส่วนหัวและคอของลูกน้อยตามสรีระและความสูง จึงทำให้ลูกรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง ใช้งานได้จนน้ำหนักตัว 13 กิโลกรัม ติดตั้งง่ายได้ทั้งแบบใช้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ (Seat Belt) และแบบระบบ ISOFIXขนาด32 cm. x 20 cm. x 38 cmเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด - 13 kg (Group 0+)การติดตั้งติดตั้งหันหน้าเข้าเบาะรถยนต์รองรับระบบ ISOFIX✔

ดูได้ที่ Central

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

คาร์ซีทแบบนั่ง สำหรับเด็ก 9 เดือน – 4 ปี

Fico คาร์ซีท รุ่น HB902 Plus

รูปภาพจาก shopee.co.th

ราคา 1,990 บาท*

ออกแบบให้มีรูปทรงสวยงามมีหลายสีให้เลือกหลากหลาย ติดตั้งได้ด้วยระบบล็อคเข็มขัดนิรภัย 5 จุด สามารถยังปรับใช้ได้กับเด็ก 2 ช่วงอายุ คือ Group 0+ ติดตั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะรถ และ Group 1 ติดตั้งคาร์ซีทแบบหันหน้าออกจากเบาะรถ นอกจากสามารถปรับเบาะได้ 4 ระดับแล้ว ตรงขอบข้างของคาร์ซีทยังสูงและใหญ่พอที่จะป้องการกระแทกของลูกน้อยหากเกิดอุบัติเหตุ ด้านความปลอดภัยผ่านมาตรฐานของยุโรป ECE R44/04 สามารถถอดซักทำความสะอาดได้ง่าย ด้วยราคานี้และสามารถใช้ได้ยาวจนลูกเข้าอนุบาลส่วนตัวแล้วถือว่าคุ้มค่าแม้ว่าจะไม่รองรับระบบ ISOFIX ก็ตาม  ขนาด50 × 50 x 67 cmน้ำหนักคาร์ซีท5.8 kgเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด ถึง 4 ขวบ (0-18 kg)การติดตั้งติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะ และ ติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะรองรับระบบ ISOFIX✘

ดูได้ที่ Shopee

FIN BABIESPLUS คาร์ซีท รุ่น HB01

รูปภาพจาก lazada.co.th

ราคา 2,750 บาท*

คาร์ซีท FIN รุ่น HB01 ถือว่าเป็นคาร์ซีทแบบ all in one ที่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่ช่วงแรกเกิดไปจนถึง 4 ขวบ รองรับการนั่งทั้ง 2 แบบ แล้วก็ยังจะสามารถติดตั้งได้กับรถแทบทุกรุ่นด้วยค่ะเพราะว่ามันใช้การติดตั้งกับระบบเข็มขัดนิรภัยที่สามารถยึดเกาะได้แน่น พนักพิงและฟองน้ำช่วยประคองศีรษะให้ตั้งตรงและสบายตัวมากขึ้น ผลิตจากมากฟองน้ำที่หนา ไม่แข็งและไม่นุ่มเกินไปเพื่อให้สามารถช่วยซับแรงกระแทกที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างที่รถเคลื่อนที่ได้ดีด้วยค่ะ เบาะนั่งสามารถปรับเอนนอนได้ 3 ระดับช่วยให้เด็ก ๆ รู้สึกนั่งสบายในตำแหน่งที่ต่างกันค่ะ คาร์ซีทจาก FIN รุ่นนี้ก็มาในสีที่ออกใหม่ ผลิตออกมาเพื่อให้คาร์ซีทสวยงามและดูหรูหราเกินราคา แถมยังดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายคลาสสิคเพื่อให้เข้ากับภายในของรถทุก ๆ สไตล์ค่ะ

ขนาดไม่ระบุน้ำหนักไม่ระบุเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด - 4 ปีการติดตั้งติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะ และ ติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะรองรับระบบ ISOFIX

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

Embix คาร์ซีท รุ่น Moon

รูปภาพจาก embixbaby.com

ราคา 7,390 บาท*

สำหรับบ้านไหนที่ไม่อยากเสียน้ำตาที่จะต้องควักเงินจ่ายค่าเปลี่ยนคาร์ซีทบ่อย ๆ อิชั้นขอแนะนำเป็นคาร์ซีทจาก Embix คาร์ซีท รุ่น Moon ตัวนี้เลยค่ะ เจ็บแต่จบ...คือคุณพ่อคุณแม่จ่ายเงินครั้งเดียวแต่ใช้งานได้ยาว ๆ จนถึงน้องโตจนอายุ 12 ปี คาร์ซีทรุ่น Moon ราคาสูงหน่อยแต่เรื่องความปลอดภัยนั่นยอดเยี่ยมและแน่นอนค่ะว่ายังได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากลด้วยเช่นกัน

โครงสร้างคาร์ซีทมีความแข็งแรงทนทานผลิตจากวัสดุคุณภาพได้มาตรฐาน รองรับน้ำหนักได้มากถึง 36 กก. ตัวเบาะหนานุ่ม หุ้มด้วยผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่กักเก็บความร้อนและไม่ทำให้เกิดการคันระคายเคือง ตัวล็อกแน่นกระชับติดตั้งมาให้ 5 จุด ส่วนเบาะสามารถที่จะปรับได้ 3 ระดับ คือนั่ง เอน และนอน ชิ้นส่วนสามารถถอดแยกได้เพื่อปรับให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ช่วงวัยค่ะ และความโดดเด่นอีกอย่างก็คือมันสามารถหมุนได้ 360 องศาได้อย่างสมูท ทำให้การใช้งานสำหรับผู้ปกครองเป็นไปด้วยสะดวกและง่ายดายมากยิ่งขึ้นค่ะ

ขนาด47 x 42 x 60 cmน้ำหนักไม่ระบุเหมาะสำหรับ0 - 12 ปี (Group 0+ ,1,2,3)การติดตั้งติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะ และ ติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะ (หมุนได้)รองรับระบบ ISOFIX

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

ดูได้ที่ Central

Joie คาร์ซีท รุ่น Stages

รูปภาพจาก joiebaby.com

ราคา 7,900 บาท*

Joie แบรนด์คาร์ซีทคุณภาพดีจากประเทศอังกฤษที่คุณพ่อคุณแม่ต่างไว้ใจ ออกแบบมาให้มีตัวล็อกที่กระชับแน่น 5 จุดเป็นไปตามมาตรฐานในระดับสากล การใช้งานของรุ่นนี้ถือว่าครอบคลุมทุกช่วงวัยค่ะเพราะสามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 3 แบบ ได้แก่ นั่งหันหน้าเข้าหาเบาะสำหรับเด็กทารก, นั่งหันหน้าออก หรือจะใช้เป็นบูสเตอร์ซีทสำหรับเด็กโตก็ทำได้เช่นเดียวกันค่ะ สำหรับเด็กเล็กที่คอยังไม่แข็งก็มีเบาะที่ช่วยประคองในส่วนคอเอาไว้ และสำหรับเด็กที่โตขึ้นก็มาหน่อยก็สามารถปรับพนักพิงศีรษะและสายรัดเพื่อปรับความสูงและความกระชับให้พอดีกับขนาดตัวได้

โครงเหล็กพิเศษแบบ Baby Armor ช่วยให้คาร์ซีทแข็งแรงป้องกันการกระแทกทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังได้ดี แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานได้นานเป็น 10 ปี แค่นี้ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วล่ะค่ะ และนอกจากนี้ตัวโครงสร้างยังช่วยเพิ่มน้ำหนักทำให้เบาะนั่งแน่นและมีความมั่นคง ช่วยป้องกันการเคลื่อนไหวได้ดี การติดตั้งคาร์ซีทรุ่นนี้ง่ายดายไม่ยุ่งยากเพราะใช้การติดตั้งติดกับเข็มขัดนิรภัยภายในตัวรถยนต์เองเลยค่ะ

ขนาดไม่ระบุน้ำหนักไม่ระบุเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด - 7 ปีการติดตั้งติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะ และ ติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะรองรับระบบ ISOFIX

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

ดูได้ที่ Central

CHICCO คาร์ซีท Nextfit Zip Baby Car Seat

รูปภาพจาก chiccousa.com

ราคา 15,995 บาท*

คาร์ซีทจากแบรนด์ CHICCO ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์จากประเทศอิตาลีที่มีชื่อเสียงในระบบโลกเลยก็ว่าได้ ถึงแม้จะมีราคาที่สูงสักเล็กน้อยแต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ลองบวกลบกับความคุ้มค่า ระยะเวลาการใช้งาน และความปลอดภัยสำหรับตัวเด็ก ๆ แล้วก็ถือว่าเกินคุ้มจริง ๆ ค่ะ โดยคาร์ซีทรุ่นนี้สามารถใช้งานได้กับเด็กทารกแรกเกิดไปจนถึงเด็กโตที่มีนำหนักตัวไม่เกิน 29.5 กก. เทคโนโลยี SuperCinch® LATCH tightener ช่วยลดการเคลื่อนที่ของเบาะได้อย่างยอดเยี่ยม ติดตั้งได้ง่าย ไม่ต้องใช้แรงมากสำหรับแรงคุณแม่ก็สามารถติดตั้งได้ด้วยตัวเองค่ะ ไม่ว่าจะทั้งแบบหันหน้าเข้าหรือหันหน้าออกก็ทำได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว

เบาะสามารถปรับระดับการเอนนอนได้ 9 ระดับ พร้อมกับมาตรวัดเพื่อให้แน่ใจว่าติดตั้งถูกต้อง ได้องศาการปรับเอนที่พอดี สำหรับการใช้งานกับเด็กทารกก็ทำได้สบาย ๆ เพราะมีตัวล็อกที่ล็อกได้แน่นหนาและมี DuoGuard® side-impact protection ช่วยลดแรงกระแทกทั้งศีรษะและลำตัว และเมื่อเจ้าตัวน้อยเริ่มโตขึ้นคุณก็สามารถถอดเบาะเสริมออกได้และปรับเบาะตรงศีรษะให้สูงขึ้นได้อีก 9 ระดับ และที่น่าจะโดนใจคุณแม่บ้านกันมากก็ต้องยกให้เป็นเรื่องของการทำความสะอาดค่ะ ในรุ่นนี้สามารถถอดออกไปซักได้ง่าย แถมยังประกอบกลับก็ง่ายด้วยการใช้การปิด/เปิดด้วยซิปนั่นเองค่ะ

ขนาด54 x 49 x 69 cmน้ำหนัก14.64 kgเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด - 29.5 kgการติดตั้งติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะ และ ติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะรองรับระบบ ISOFIX

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

ดูได้ที่ Central

CHICCO คาร์ซีท Myfit Zip Air Car Seat แบบ 2 in 1

รูปภาพจาก chiccousa.com

ราคา 16,796 บาท*

พอเด็ก ๆ เริ่มโต คราวนี้คุณพ่อคุณแม่ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนคาร์ซีทแบบใหม่ใช่ไหมล่ะคะ ซึ่งถ้าหากเปลี่ยนแล้วก็ซื้อแบบทีเดียวแล้วใช้งานไปได้ยาว ๆ เลยจะดีกว่านะคะ คาร์ซีทรุ่นนี้ก็ค่อนข้างตอบโจทย์ได้ดีเลยค่ะเพราะการใช้งานรุ่นนี้รองรับตั้งแต่เด็กที่มีน้ำหนัก 11.33 ไปจนถึง 45.35 กก. ทำงานด้วยระบบการล็อก 2 รูปแบบ ทั้งแบบเข็มขัดนิรภัยและแบบ Isofix จึงสะดวกใช้งานได้กับรถทุกรุ่น เบาะนั่งจะทำจากโฟม 2 ชั้นที่หนานุ่มและออกแบบให้มีส่วนโค้งรับการนั่งในตำแหน่งต่าง ๆ ก็ทำให้สบายตัวขึ้นค่ะ ระดับการนั่งปรับเปลี่ยนได้ 4 ระดับและพนักพิงศีรษะปรับได้ 9 ระดับเพื่อให้รองรับศีรษะได้พอดีและปลอดภัยที่สุดสำหรับเด็กในวัยที่กำลังเติบโต

นอกจากความสะดวกสบายของเด็ก ๆ แล้วทาง CHICCO ก็ยังออกแบบให้ตัวเบาะนั้นสามารถถอดออกมาซักทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย และด้วยความที่เป็นเบาะแบบ 3D AirMesh (ตาข่าย) ก็ยิ่งทำให้ซักตากง่าย แห้งไว้ ระบายอากาศได้ดี โดยที่ไม่ก่อให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคและสิ่งสกปรก ให้สัมผัสที่สะอาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับผิวที่บอบบางได้เป็นอย่างดี

ขนาด53 x 72 x 47 cmน้ำหนัก14 kgเหมาะสำหรับเด็กน้ำหนัก 11.33 - 45.35 kgการติดตั้งติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะรองรับระบบ ISOFIX

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

คาร์ซีท Maxi-Cosi AxissFix Plus

ราคา 17,900 บาท*

คาร์ซีทแบรนด์คุณภาพสากลจาก Maxi-Cosi ที่ได้รับความนิยมและเชื่อถือในยุโรป ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้กับลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 4 ขวบ ช่วงน้ำหนัก 0 - 19 กิโลกรัม (Group 0, Group 1) ติดตั้งได้ทั้งแบบการใช้เข็มขัดนิรภัยของรถและแบบระบบ ISOFIX  ความพิเศษอยู่ตรงฐานเบาะที่สามารถปรับได้ 360 องศา สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายลูกขึ้นลงรถ พนักพิงศีรษะสามารถปรับได้ถึง 7 ระดับ ตามความสูงของลูก ๆ นอกจากนี้ตัวเบาะรองนั่งสามารถดึงออกมาทำความสะอาดได้ง่าย ด้านความปลอดภัยได้มารตฐานระดับ 4 สำหรับ AxissFix ในปี 2015 นอกจากนั้นยังผ่านศูนย์ทดสอบภายนอกผ่านตามมาตรฐานล่าสุด i-Size (UN R129) หรือ ECE R44/004ขนาด44.5 x 55x 65 cmเหมาะสำหรับแรกเกิด ถึง 4 ขวบ (0 - 19 kg)การติดตั้งติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะ และ ติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะรองรับระบบ ISOFIX✔

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

Britax คาร์ซีทรุ่น KING II ATS

รูปภาพจาก britaxthailand.com

ราคา 30,900 บาท*

Britax คาร์ซีทรุ่น KING II ATS ได้รับการออกแบบให้ได้ตามมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อช่วยดูแลบุตรหลานของคุณให้ปลอดภัยตลอดการเดินทาง ระบบ Active tensioning system ของทางแบรนด์จะมีสัญญาณเสียงและไฟสีเขียวกะพริบช่วยให้คุณทราบเมื่อคุณตึงสายรัดอย่างถูกต้องและยังคอยช่วยปรับความตึงสายรัดนิรภัยทั้งก่อนและระหว่างการเดินทาง และยังมีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุดทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ จะอยู่ในตำแหน่งปลอดภัยไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามค่ะ คาร์ซีทรุ่นนี้ยังได้รับการรับรองระดับสากลว่าสามารถใช้ในรถยนต์ทุกแบบ เนื่องจากใช้การติดตั้งร่วมกันกับเข็มขัดนิรภัย ทำให้ใช้งานได้หลากหลายและยังติดตั้งง่าย เมื่อติดตั้งแล้วเบาะนั่งจะดึงเข็มขัดนิรภัยโดยอัตโนมัติเพื่อความกระชับพอดี ไม่ทำให้คาร์ซีทเคลื่อนตัวได้ สำหรับเบาะนั่งเองก็ยังสบายค่ะ หนาและนุ่ม ช่วยป้องกันแรงกระแทกได้ดี และสามารถปรับเอนสร้างความสบายตัวให้กับเด็ก ๆ ได้ด้วย

ขนาด45 x 54 x 67 cmน้ำหนักไม่ระบุเหมาะสำหรับ9 เดือน - 4 ขวบการติดตั้งติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะรองรับระบบ ISOFIX

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

ดูได้ที่ Central

FIN BABIESPLUS รุ่น CAR-JM06

ราคา 54,295 บาท*

FIN BABIESPLUS คาร์ซีท รุ่น CAR-JM06 ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย รองรับการติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX และสามารถใช้งานได้ตั้งแต่แรกเกินจนถึงอายุ 12 ปี (36 kg) ฉะนั้นจึงสามารถติดตั้งได้ทั้งแบบหันหน้าเข้าและหันหลังออกจากเบาะ มีแถบสีเขียว-แดง เพื่อแสดงว่าคาร์ซีทได้ติดตั้งอย่างถูกต้องหรือไม่ การผลิตผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป ECE R44/04 คาร์ซีทรุ่นนี้ยังมีระบบ Adjustable Head Rest ที่รองศีรษะปรับความสูงได้ตามความสูงของเด็ก มีรูปทรงเป็นฐานโค้งแข็งแรงที่ออกแบบให้รับน้ำหนักได้ดี และเบาะของคาร์ซีทสามารถปรับได้ 4 ระดับ มากสูงสุด 170 องศาเพื่อให้ลูกนั่งและนอนได้อย่างสบายขนาด44 x 41x 72 cmน้ำหนักคาร์ซีท6.5 kgเหมาะสำหรับแรกเกิด-12 ขวบ (0-36 kg)การติดตั้งติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะ และ ติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะรองรับระบบ ISOFIX✔

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

บูทเตอร์ซีท / คาร์ซีท สำหรับเด็กโต (4 ปีขึ้นไป)

Welldon บูสเตอร์คาร์ซีทเด็กโต รุ่น Sky Line Series

รูปภาพจาก welldonthailand.com

ราคา 1,990 บาท*

หลังจากที่ได้รีวิวบูสเตอร์แบบไม่มีหลังกันไปแล้ว คราวนี้ก็มาดูแบบที่มีหลังกันบ้างนะคะ แต่รุ่นนี้จะมีพนักพิงหลังที่ไม่ได้สูงมากเท่าไหร่ อยู่ในระดับกลาง ๆ แต่ก็สามารถมอบรู้สึกที่สบายตัวให้กับเด็ก ๆ ได้ดี ตัวเบาะจะหนานุ่ม เข้าทรงสวย ไม่ยุบง่าย ทั้งนี้ก็เพื่อจัดท่านั่งให้เป็นไปตามหลักสรีรศาสตร์และช่วยให้การซัพพอร์ทในทุก ๆ การเคลื่อนไหว เบาะรองหลังสามารถที่จะถอดแยกได้ ใช้การติดตั้งแบบ ISOFIX ที่ทั้งปลอดภัย ได้มาตรฐานที่เป็นสากล แถมยังติดตั้งง่าย สะดวก และรวดเร็วอีกด้วยนะคะ

ขนาดไม่ระบุน้ำหนักไม่ระบุเหมาะสำหรับตั้งแต่ 3 - 12 ปีการติดตั้งติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะรองรับระบบ ISOFIX

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

GLOWY STAR บูสเตอร์ซีท รุ่น Travel Kids Fix

รูปภาพจาก glowystar.com

ราคา 1,995 บาท*

สำหรับน้อง ๆ ที่มีอายุตั้งแต่ 4 ขวบขึ้นไป คุณพ่อคุณแม่ควรเปลี่ยนมาใช้บูสเตอร์ซีทแบบนี้แล้วนะคะ บูสเตอร์ซีทไม่ใช่เพียงแต่จะให้ความสบายอย่างเดียว แต่จะให้ความปลอดภัยไปตลอดการเดินทาง ทำให้คุณพ่อคุณแม่มีสมาธิกับการขับรถมากขึ้นค่ะ เบาะรองนั่ง GLOWY STAR รุ่นนี้ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดและตรวจสอบแล้วว่าสามารถใช้งานได้จริง โดยมีมาตรฐานความปลอดภัยในระดับยุโรปรับรองมาให้ในส่วนนี้ด้วยค่ะ เบาะนั่งมีขนาดใหญ่ บุด้วยฟองน้ำอย่างดี ไม่ยุบง่าย คงรูปและระดับความสูงได้ดี นั่งเล่นชิว ๆ ตลอดการเดินทางได้อย่างสบายตลอดทริปสมกับเป็นรุ่น Travel Kids Fix จริง ๆ เลยค่ะ

ขนาด42 x 40 x 37 CMน้ำหนัก3.8 kgเหมาะสำหรับ4 ปี - 12 ปี (น้ำหนัก 11.33 - 45.35 kg)การติดตั้งติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะรองรับระบบ ISOFIX

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

ดูได้ที่ Central

ARTICLE บูสเตอร์ซีท รุ่น GoFit Backless Booster

รูปภาพจาก chiccousa.com

ราคา 3,196 บาท*

สำหรับบูสเตอร์ซีทแบบนี้ก็จะเป็นแบบไม่มีหลังจะเหมาะสำหรับการใช้งานกับเด็กโต มาพร้อมกับ LATCH ที่สามารถล็อกติดกับ Isofix ที่ติดมากับรถได้อย่างแน่นอนหนาและปลอดภัยมาก ๆ เช่นเดียวกับคาร์ซีทแบบปกติเลยค่ะ ตัวเบาจะถูกหุ้มด้วยโฟม ErgoBoost สองชั้นเพื่อให้นั่งได้สบายและช่วยยกระดับให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ด้านข้างมีที่สำหรับวางแก้วซ้ายขวา สามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน ฐานเบาะเรียบไม่ทำให้เบาะรถเป็นรอยอย่างแน่นอน บูสเตอร์ประเภทนี้จะค่อนข้างสะดวกในการพกพา เนื่องจากมีน้ำหนักเบาและมีขนาดที่กะทัดรัด แต่นั่นแหละค่ะมันอาจจะเหมาะกับเด็กโตหน่อยเพราะการนั่งแบบนี้จะค่อนข้างอิสระ คล่องตัว และเด็ก ๆ บางคนอาจจะชอบเนื่องจากที่นั่งแบบนี้จะไม่ทำให้เค้าดูไร้เดียงสามากเกินไปนั่นเองค่ะ

ขนาด45 × 34 × 46 cmน้ำหนัก4.44 kgเหมาะสำหรับ4 ขวบขึ้นไป (น้ำหนัก 18 - 49.89 กก.)การติดตั้งติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะรองรับระบบ ISOFIX

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

ดูได้ที่ Central

CHICCO Kidfit Car Seat คาร์ซีท เด็กโต 2 In 1 ถอดเป็นเบาะ Booster ได้

รูปภาพจาก chiccousa.com

ราคา 6,396 บาท*

CHICCO เป็นแบรนด์คาร์ซีทที่ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยของสหรัฐอเมริการุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อการใช้งานสำหรับเด็กโต โดยรวบรวม 2 ความพิเศษเข้าด้วยกัน นั่นคือคาร์ซีทแบบนั่งและบูสเตอร์คาร์ซีทเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของเด็ก ๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยหากเป็นการใช้งานเป็นบูสเตอร์ก็จะเป็นแบบไม่มีหลังพิงค่ะ ซึ่งเป็นแบบที่เด็กโตจะชอบมากกว่า

แต่ถ้าหากเป็นการใช้งานคาร์ซีทแบบนั่งก็สามารถปรับพนักพิงได้ 2 ระดับ เบาะนั่งสบายค่ะทำจากโฟมหนานุ่ม 2 ชั้นที่สามารถระบายอากาศได้ดีมาก มีที่ตั้งแขนและช่องใส่ของทั้ง 2 ข้าง ตัวล็อกจะใช้ระบบ ISOFIX ที่สามารถล็อกเข้ากับตัวเบาะได้แนบสนิท ไม่มีการเคลื่อนไหวจึงไม่ทำให้เกิดช่องว่างที่อาจทำให้เด็ก ๆ ไม่สบายตัว หากว่าเด็ก ๆ กำลังอยู่ในช่วงวัยกำลังโตคาร์ซีทแบบนี้ก็ตอบโจทย์ได้ดีนะคะและยังถือว่าใช้ได้นานคุ้มค่า คิดว่าควรค่าแก่การลงทุนดีนะคะ แม่ ๆ ทางบ้านว่าไงกันบ้างเอ่ย...

ขนาด54 × 44 × 66 cmน้ำหนัก6 kgเหมาะสำหรับน้ำหนัก 15 - 50 กก.การติดตั้งติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะรองรับระบบ ISOFIX

ดูได้ที่ Lazada

ดูได้ที่ Shopee

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

กฏเหล็กของการฝึกลูกให้นั่งคาร์ซีท (Car Seat) และการใช้งาน

  1. หากเป็นไปได้ต้องให้ลูกเริ่มนั่งตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล
  2. ไม่อนุญาติให้เด็กนั่งรถโดยไม่มีคาร์ซีทโดยเด็ดขาด! ข้อนี้สำคัญมาก ๆๆๆ แบบไม้ยมก ล้านตัวเลยค่ะ เพราะหากเราเผลออนุญาติครั้งเดียวเค้าก็จะคิดว่าสามารถทำได้อีกครั้งต่อไป คุณพ่อคุณแม่ต้องอดทนและอธิบายความจำเป็นให้คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยายให้เข้าใจนะคะ แม้ว่าพวกเขาจะพูดว่าสมัยที่เขาเลี้ยงเรายังไม่จับเราใส่คาร์ซีทเลยก็ต้องต้องหนักแน่นไว้ให้ได้นะคะ (เป็นกำลังใจให้ค่ะ)
  3. เตรียมกระเป๋าคุณแม่ที่บรรจุนม ขวดนม จุกหลอก ยางกัดสำหรับเด็ก ไว้ให้พร้อม รวมทั้งหาของเล่นไว้หลอกล่อเด็ก ๆ ใส่ไว้ในรถเสมอ ไม่ว่าจะเป็น Soft Toy หนังสือผ้า ของเล่นหลากสีอย่างแผ่นกด Pop it หรือกระจกแขวนไว้เลือกแบบที่ปลอดภัยสำหรับเด็กให้เค้านั่งเล่นนั่งคุยกับตัวเอง (ใช่ค่ะตลกดี แต่พวกเค้าชอบจริง ๆ นะคะ) แนะนำให้หาของเล่นที่สามารถผูกไว้กับตัวคาร์ซีทได้นะคะเพราะเมื่อถึงช่วงวัยนึงเค้าจะชอบแกล้งทำของเล่นหล่นให้เราเก็บค่ะ (แสบใช่มั้ยละคะ ?)
  4. ก่อนออกเดินทางเราต้องเช็กความปลอดภัยของเด็ก เข็มขัดนิรภัยของคาร์ซีทให้รอบคอบทุกครั้ง
  5. ประตูรถในตำแหน่งที่ติดตั้งคาร์ซีทควรเปลี่ยนเป็นระบบ Child Lock (เปิดได้จากด้านนอกอย่างเดียวเท่านั้น)
  6. ควรติดตั้งคาร์ซีทตรงตำแหน่งที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังติดประตูด้านใดด้านหนึ่ง(ขวาหรือซ้าย)ของรถยนต์ ที่ไม่ใช่เบาะกลาง
  7. สำหรับเด็กที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่า 15 กิโลกรัมควรติดตั้งคาร์ซีทหันหน้าเข้าเบาะหลังของรถยนต์(ให้เด็กหันหน้าเข้าเบาะ)
ติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะ ในตำแหน่งเบาะโดยสาร

วิธีเลือกซื้อคาร์ซีท เพื่อความปลอดภัยของลูก

หากคุณกำลังเลือกซื้อคาร์ซีท หรือเบาะติดรถยนต์สำหรับลูกน้อย เราอยากแนะนำวิธีการเลือกซื้อให้กับคุณพ่อคุณแม่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและคุ้มค่าในการใช้งานมากที่สุด

  • เข็มขัดนิรภัย ควรพิจารณายี่ห้อที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ที่สามารถล็อกได้มากกว่าสะเอว
  • ความคุ้มค่า ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ใครหลายคนให้ความสำคัญ เพราะมันจะอยู่ไปนานหลายปี หรือแม้กระทั่งคุณคลอดลูกคนที่สองเลยทีเดียว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึงคือความนิ่มของเบาะ และการระบายความร้อน เพราะเขาต้องอยู่บนคาร์ซีทอีกนาน
  • มาตรฐานความปลอดภัย คาร์ซีทที่ดีควรมีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลค่ะ
  • ราคา ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่คุณเลือกซื้อ แม้ราคาจะถูกหรือจะแพงก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสินค้าที่คุณต้องลงทุนเพื่อลูกๆ ของคุณ หากคุณมีงบจำกัดลองมองหาพวกยี่ห้อ Camera, Fico นะคะ สินค้าทนทานแข็งแรงดี
  • ความง่ายในการทำความสะอาด แนะนำให้เลือกซื้อคาร์ซีทที่สามารถถอดชิ้นส่วนที่เป็นตัวผ้าออกมาทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าเด็ก ๆ หยิบจับอะไรได้ก็มักจะเอาเข้าปากก่อนเสมอ ฉะนั้นความสะอาดจึงเป็นสิ่งจำเป็น คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นทำความสะอาดคาร์ซีทอยู่เสมอ

ข้อควรรู้สำหรับคาร์ซีท

เมื่อคุณทราบคุณสมบัติและประโยชน์ความคุ้มค่าของคาร์ซีทแต่ละยี่ห้อไปแล้ว จำเป็นอย่างที่คุณจะต้องคำนึงให้มากๆ ในการใช้งานแต่ละครั้ง เพราะมันจะช่วยคุ้มครองชีวิตของลูกน้อยไปจนเขาเติบโต

  • ปลอดภัยต่อลูกอุ่นใจกับแม่ เพราะความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องปกป้องลูกๆ ของคุณขณะขับรถเพราะหากคุณเลือกซื้อคาร์ซีทที่มีคุณสมบัติความปลอดภัยต่ำ บอกได้เลยว่าคุณประมาทเป็นอย่างมาก
  • ระบบติดตั้งที่ปลอดภัย ก็เป็นอีกประการหนึ่งที่คุณควรพิจารณาในการเลือกซื้อ หากเป็นไปได้เราอยากแนะนำให้คุณเลือกระบบล็อคแบบ IOSFIX เพราะมันจะปลอดภัยมากกว่าการใช้เข็มขัดนิรภัยเพียงอย่างเดียว
  • การออกแบบที่ดี/วัสดุที่ใช้ ที่คุณต้องคำนึงอย่างแน่นอนเพราะบางยี่ห้อไม่เข้ากับสรีระของลูกๆ อาจทำให้เสียเงินเปล่า เช่นเดียวกับเนื้อผ้าและวัสดุที่ใช้ต้องอ่อนโยนกับผิวและสามารถซักทำความสะอาดได้ง่าย
  • การติดตั้ง/พกพา ก็เป็นปัญหาใหญ่ถ้าคาร์ซีทของลูกๆ หนักเกินไปจนต้องออกแรงเยอะ หรือคาร์ซีทที่เบาเกินไปจนทำให้รู้สึกว่าตัวเบาะไม่แข็งแรง

กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีท (Car Seat) ในประเทศไทย

ในปัจจุบันนี้ประเทศไทยของเราเองก็เริ่มเล็งเห็นถึงความปลอดภัยจากอุบัติเหตุบนท้องถนนกันมากขึ้น โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 7  พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ก็ได้มีการแก้ไขข้อกฎหมายจราจรทางบกเกี่ยวกับการใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กที่มีอายุไม่เกิน 6 ขวบ หรือมีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กได้รับบาดเจ็บหากเกิดอุบัติเหตุทางถนน

แน่นอนค่ะว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ได้มีผลบังคับใช้ในทันที แต่จะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 5 กันยายน 2565 เป็นต้น หากฝ่าฝืนกฎจะมีโทษจะปรับไม่เกิน 2,000 บาท

โดยในช่วงแรก ๆ ที่เริ่มใช้กฎหมายข้อนี้จะเป็นเพียงแค่ตักเตือนและแก้ไขก่อน  ไม่ได้มาในรูปแบบจับปรับทันทีค่ะ

ใช้ได้แค่คาร์ซีท (Car Seat) เพียงเดียว ? 

อันที่จริงแล้วในข้อกฎหมายที่ประกาศมาตอนนี้ยังไม่ระบุอย่างชัดเจนว่าจะต้องเป็นคาร์ซีทเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะหากคุณสามารถจัดที่นั่งนิรภัยหรือที่นั่งพิเศษที่สามารถป้องกันเด็กได้จริงก็ถือว่าไม่ผิดกฎหมายค่ะ

แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีข้อสงสัยมากมายว่า เราสามารถให้เด็กนั่งคาดเข็มขัดนิรภัยไปเลยหรือให้เด็กมานั่งบนตักผู้ปกครองและคาดเข็มขัดนิรภัยทั้งตัวเด็กและผู้ใหญ่ในคราวเดียวได้หรือไม่?  ทั้งนี้ก็ต้องรอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่างข้อกำหนดให้เสร็จเสียก่อนว่าเราสามารถใช้วิธีแบบไหนได้บ้าง ซึ่งจะใช้เวลาในการร่างไม่เกินวันที่ 5 กันยายน 2565 แต่หากยังร่างไม่เสร็จก็สามารถยืดออกไปได้อีก 90 วัน หรือประมาณวันที่ 5 ธันวาคม 2565 ดังนั้นต้องรอติดตามความคืบหน้าจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้งนะคะ

รถโดยสาร รถแท็กซี่ รถประจำทาง หรือรถโรงเรียน ต้องใช้คาร์ซีทด้วยหรือไม่ ?

ในกรณีนี้จะต้องรอให้กรมการขนส่งทางบกออกประกาศและลงรายละเอียดอีกครั้ง ว่ารถยนต์ประเภทไหนบ้างที่จะต้องใช้คาร์ซีทด้วย ซึ่งเราจะกลับมาอัปเดทข่าวสารให้ทันทีที่มีการยืนยันข้อมูลเท็จจริงค่ะ

ดังนั้นขอให้พี่น้องประชาชนคลายกังวลเรื่องจับปรับในส่วนนี้ไปก่อน เพราะจะเริ่มใช้กฎหมายจริง ๆ เกือบปลายปี อีกทั้งเราก็ยังต้องรอร่างกฎหมายที่ละเอียดกว่านี้ ว่าจำเป็นต้องใช้คาร์ซีทเพียงเดียวหรือไม่ หรือสามารถใช้วิธีอื่นร่วมด้วยได้หรือเปล่า ? รวมถึงรถโดยสารสาธารณะประเภทไหนบ้างที่ต้องใช้คาร์ซีทสำหรับเด็ก

ทั้งนี้เราอยากให้คุณตระหนักถึงความสำคัญของคาร์ซีทที่เป็นประโยชน์ต่อลูกน้อยมากกว่าการกลัวข้อกฎหมาย หรือกลัวว่าจะโดนจับปรับเสียเงินไปโดยใช่เหตุ เพราะถึงแม้ว่าคาร์ซีทจะทำคุณต้องเสียเงินซื้อ และอาจทำให้ลูกของคุณร้องไห้งอแงไปบ้าง แต่ในฐานะที่เราเป็นพ่อแม่ เราก็จะรู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่อยู่บนท้องถนนว่าลูกของเราจะปลอดภัย สำหรับใครที่กลัวว่าเด็ก ๆ จะไม่ชอบนั่งคาร์ซีท เราแนะนำให้คุณเลือกรุ่นที่มีของเล่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเด็ก ๆ ค่ะ

คาร์ซีทเป็นอุปกรณ์เสริมที่สำคัญมากสำหรับเด็ก เพราะหากไม่มีคาร์ซีทการเดินทางไปไหนมาไหนก็จะมีแต่ความกังวลตลอดเส้นทาง สิ่งที่ผู้ปกครองควรคำนึงเป็นอย่างแรกในการซื้อคาร์ซีท คือระบบความปลอดภัยของตัวสินค้าและควรจะเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับสรีระของลูก เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขอยืนยันค่ะว่าการลงทุนเพื่อลูกครั้งนี้ของคุณจำเป็นมาก ลองเลือกคาร์ซีทหาซื้อที่ถูกใจกันนะคะ

คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ราคาไม่แพง

คาร์ซีท แนะนำ 2566 ราคาไม่แพง หมุนได้ มี ISOFIX.
1. คาร์ซีท AILEBEBE รุ่น Kurutto 6I Premium. ... .
2. Car Seat CAMERA รุ่น HUB. ... .
3. COMBI Car Seat Wego Long รุ่น CB113142. ... .
4. Car Seat FICO HB902 Plus. ... .
5. JOIE คาร์ซีท รุ่น Every Stage FX. ... .
6. GRACO คาร์ซีท Extend2Fit Platinum. ... .
7. คาร์ซีท APRAMO ALL STAGE 360 FIX..

รถเข็น คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี

20 คาร์ซีตยี่ห้อไหนดี 2565/2022.
CAMERA คาร์ซีต รุ่นชายน์ สีแดง - 3,190 บาท ... .
JOIE Elevate Cherry - 5,550 บาท ... .
JOIE Elevate Stage - 11,775 บาท ... .
CAMERA Zion 3 - 2,290 บาท ... .
GLOWY STAR คาร์ซีต รุ่น Rotera 360 สีคาปูชิโน ... .
COZY N SAFE คาร์ซีต รุ่น Augusta Carseat-Isofix - 3,996 บาท.

คาร์ซีท เริ่มใช้ตอนไหน

กฎหมายการบังคับใช้คาร์ซีทเริ่มใช้ตอนไหน ? มีผลบังคับใช้วันที่ 5 กันยายน 2565 หากฝ่าฝืนจะมีค่าปรับ 2,000 บาท โดยในช่วงแรก ๆ ที่เริ่มใช้จะยังไม่ปรับจริง ๆ แต่จะเป็นการว่ากล่าวตักเตือนก่อน

คาร์ซีทหันหน้าออกตอนกี่ขวบ

ควรวาง car seat ไว้เบาะหลัง เพราะเป็นที่นั่งที่ปลอดภัยที่สุด โดยหัน car seat เข้าหาเบาะหลัง นั่นหมายถึงหน้าลูกจะหันไปทางด้านหลังรถ ซึ่งจะช่วยป้องกันในกรณีการเบรครถกะทันหัน ทำให้เด็กไม่พุ่งไปด้านหน้า สำหรับเด็กโตกว่า 2 ขวบขึ้นไป สามารถหัน car seat ไปด้านหน้ารถ ทางเดียวกับการนั่งของพ่อแม่ได้แล้ว

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita