ข้อใดคือขั้นตอนแรกในการติดตั้งซีพียู

ประสิทธิภาพของ CPU กล่าวคือ “สมอง” ของพีซี มีผลอย่างมากต่อความเร็วที่โปรแกรมจะโหลดขึ้นและจะทำงานได้ราบรื่นเพียงใด อย่างไรก็ดี มีหลายวิธีที่สามารถวัดประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ได้ ความเร็วสัญญาณนาฬิกา (หรือ "อัตราความเร็วนาฬิกา"หรือ "ความถี่") เป็นหนึ่งในสิ่งที่มีความสำคัญที่สุด

หากคุณกำลังสงสัยเกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบความเร็วสัญญาณนาฬิกาของคุณ คลิกที่เมนู เริ่ม (หรือคลิกคีย์ Windows*) และพิมพ์คำว่า “System Information" ชื่อรุ่นของ CPU ของคุณและความเร็วสัญญาณนาฬิกาของคุณจะระบุอยู่ใต้ "โปรเซสเซอร์"

ความเร็วสัญญาณนาฬิกาคืออะไร

โดยทั่วไปแล้ว ความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่สูงขึ้นหมายถึง CPU ที่รวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ดี มีอีกหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

CPU ของคุณประมวลผลคำสั่งจำนวนมาก (การคำนวณระดับต่ำ เช่น คณิตศาสตร์) จากหลายโปรแกรมในทุกวินาที ความเร็วสัญญาณนาฬิกาวัดจำนวนรอบการทำงานของ CPU ต่อวินาทีโดยทำการวัดในหน่วย GHz (กิกะเฮิร์ตซ์)

“รอบ” ในทางเทคนิค คือ สัญญาณพัลส์ที่ซิงโครไนซ์โดยวงจรกำเนิดสัญญาณนาฬิกาภายใน แต่ในที่นี้เราจะอธิบายสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นหน่วยพื้นฐานที่ช่วยให้เข้าใจความเร็วของ CPU มากขึ้น ในแต่ละรอบ หลายพันล้านทรานซิสเตอร์ในโปรเซสเซอร์เปิดและปิด

ความถี่เป็นเรื่องของการทำงานภายในระยะเวลาที่กำหนดตามที่แสดงข้างต้น

CPU ที่มีความเร็วสัญญาณนาฬิกา 3.2 GHz ทำงาน 3.2 พันล้านรอบต่อวินาที (CPU รุ่นเก่าได้รับการความเร็วในหน่วยเมกะเฮิร์ตซ์ หรือล้านรอบต่อวินาที)

บางครั้ง คำสั่งหลายคำสั่งก็ได้รับการดำเนินการเสร็จสิ้นภายในรอบสัญญาณนาฬิการอบเดียว แต่ในบางกรณี คำสั่งเดียวอาจต้องใช้รอบสัญญาณนาฬิกาหลายรอบในการดำเนินการ เนื่องจาก CPU รุ่นต่างๆ มีการจัดการคำสั่งในรูปแบบที่แตกต่างกัน เราขอแนะนำให้เปรียบเทียบความเร็วสัญญาณนาฬิกาภายในแบรนด์และรุ่น CPU เดียวกันจะดีที่สุด

เช่น CPU ที่มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาสูงเมื่อ 5 ปีที่แล้วอาจทำงานได้ไม่ดีเท่ากับ CPU รุ่นใหม่ที่มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาต่ำกว่า เนื่องจากสถาปัตยกรรมที่ใหม่กว่าจะสามารถจัดการคำสั่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า โปรเซสเซอร์ Intel® X-ซีรีส์ อาจทำงานได้ดีกว่าโปรเซสเซอร์ K-ซีรีส์ ที่มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาสูงกว่า เนื่องจากสามารถแยกงานระหว่างคอร์ได้มากกว่าและมีแคช CPU ที่ใหญ่กว่า แต่ใน CPU รุ่นเดียวกัน โปรเซสเซอร์ที่มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาสูงกว่ามักจะทำงานในหลายแอพพลิเคชันได้ดีกว่าโปรเซสเซอร์ที่มีความเร็วนาฬิกาต่ำกว่า นั่นคือเหตุผลที่สำคัญที่ต้องเปรียบเทียบโปรเซสเซอร์ในแบรนด์และรุ่นเดียวกัน

ความเร็วสัญญาณนาฬิกาส่งผลกระทบต่อการเล่นเกมอย่างไร

ก่อนที่ CPU หลายคอร์จะได้รับการคิดค้นขึ้น ความเร็วสัญญาณนาฬิกาถูกมองว่าเป็นข้อกำหนดทางเทคนิคที่สำคัญในการเปรียบเทียบโปรเซสเซอร์คอร์เดี่ยว ในปัจจุบันนี้ เราจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น จำนวนคอร์ แคช CPU และการใช้พลังงาน

ผลกระทบของความเร็วสัญญาณนาฬิกาต่อเกมใดเกมหนึ่งจะนอยู่กับเอ็นจินของเกม และเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างเกม เว็บไซต์ในการเปรียบเทียบประสิทธิภาพ เช่น Tom’s Hardware พบว่า เอ็นจินเกมบางตัวอย่าง Far Cry: Primal’s Dunia ได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพของเธรดเดียวที่ทรงพลังมากกว่าการใช้งานหลายเธรด2 ในทางตรงกันข้าม เกม AAA รุ่นใหม่จำนวนมาก โดยเฉพาะเกมที่ใช้เอ็นจินที่รองรับหลายเธรด เช่น Unreal Engine 4 จะได้รับประโยชนจากคอร์และสัญญาณนาฬิกาที่เพิ่มขึ้น3

มาตรฐานการเปรียบเทียบที่เฉพาะเจาะจงเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการประเมินประสิทธิภาพของ CPU กับเอ็นจินเกมบางตัว แต่ความเร็วสัญญาณนาฬิกาก็มักจะเป็นสิ่งที่มีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ภายในกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างมาก

ความถี่เทอร์โบหมายถึงอะไร

ข้อกำหนดทางเทคนิคของ Intel CPU จะระบุข้อมูลความถี่เทอร์โบสูงสุด และความถี่พื้นฐานของโปรเซสเซอร์ ความถี่พื้นฐานของโปรเซสเซอร์ คือ จุดทำงานปกติของ CPU ขณะที่ความถี่เทอร์โบสูงสุด คือ ความเร็วสูงสุดที่โปรเซสเซอร์สามารถทำได้โดยใช้เทคโนโลยี Intel® Turbo Boost

เทคโนโลยี Intel® Turbo Boost เป็นเครื่องมือที่จะช่วยยกระดับความเร็วสัญญาณนาฬิกาอย่างต่อเนื่องเพื่อจัดการกับภาระงานที่หนัก ซึ่งจะทำงานโดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นดำเนินการติดตั้งหรือกำหนดค่าใดๆ เทคโนโลยีจะดำเนินการวิเคราะห์ศักยภาพในการรองรับความร้อนของโปรเซสเซอร์ และจำนวนคอร์ที่ใช้งานอยู่ แล้วจึงเพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาไปถึงระดับที่มีความปลอดภัยสูงสุด อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีได้ที่นี่

ค่าใดที่มีความสำคัญต่อการเล่นเกมมากกว่า ความถี่เทอร์โบ นี่คือความเร็วที่ CPU ของคุณจะทำงาน ในขณะที่จัดการกับภาระงานที่หนักหน่วง (เช่น การเดินทางผ่านเมือง หรือการคำนวณพฤติกรรม AI ของศัตรูในเกมแนวกลยุทธ์) ของเกมที่ต้องใช้ศักยภาพด้าน CPU สูงสุด ในกรณีที่มีการระบายความร้อนที่เพียงพอ

คุณจะปรับความเร็วสัญญาณนาฬิกา CPU ของคุณได้อย่างไร

คำว่า “การทำโอเวอร์คล็อก”4 คือ การเพิ่มความเร็วของสัญญาณนาฬิกา CPU เพื่อเพิ่มกำลังการประมวลผลมากขึ้น CPU ของ Intel ที่มีรหัสอักษร “K” ระบุอยู่จะมี “ตัวคูณ” ที่ได้รับการปลดล็อกเพื่อการทำโอเวอร์คล็อก ขณะจับคู่กับชิปเซ็ตของเมนบอร์ดที่รองรับการทำโอเวอร์คล็อกได้อย่างง่ายดาย

การทำโอเวอร์คล็อกอาจช่วยให้มีค่า FPS ที่สูงขึ้น5 แม้กระทั่งสำหรับ CPU รุ่นที่ดีที่สุด อย่างโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i9 ล่าสุด เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการค้นหาชุดค่าโอเวอร์คล็อกที่มความเสถียร และใช้ประโยชน์สูงสุดจากฮาร์ดแวร์ที่คุณมีอยู่ได้ที่นี่