การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก (External Environment Analysis) ผู้บริหารองค์การธุรกิจคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าทุกองค์การต่างทำธุรกิจเพื่อหวังผลกำไร ความมั่นคงและการเจริญเติบโตในอนาคตโดยเฉพาะในปัจจุบันที่หลายธุรกิจให้ความสนใจกับการสร้างความเข้มแข็งและการเจริญเติบโตในอนาคตมากกว่าการทำกำไรในระยะเวลาสั้น เพราะการขยายตัวทางธุรกิจสามารถเอื้ออำนวยให้องค์การมีต้นทุนต่ำลงและใช้ศักยภาพได้เต็มประสิทธิภาพซึ่งส่งผลให้องค์การมีรายได้และกำไรสูงขึ้น โดยที่ผู้บริหารของกิจการที่ต้องการอยู่รอดและมีพัฒนาการที่ยั่งยืนต้องยอมรับต่อ“ การเปลี่ยนแปลง” หลายครั้งที่ธุรกิจที่มีกำไรในช่วงเริ่มต้นกลับประสบความล้มเหลวในเวลาต่อมา เพราะผู้บริหารไม่ได้เตรียมพร้อมหรือไม่ให้ความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมภายนอกเป็นต้นกำเนิดที่สำคัญของโอกาส (Opportunity) และอุปสรรค (Threat) ที่สำคัญ สภาพแวดล้อมภายนอกประกอบด้วยปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมขององค์การ และการเปลี่ยนแปลงสามารถสร้าง “อุปสรรค” ต่อองค์การหรืออุตสาหกรรมหนึ่งและ หรือเป็น“ โอกาส” ต่ออีกองค์การหนึ่งหรืออุตสาหกรรมอื่นการซัดสินใจเลือกกลยุทธ์จะเป็นเครื่องมือนำไปสู่การตัดสินใจในกิจกรรมเชิงกลยุทธ์อื่นขององค์การว่าองค์การจะมีการตอบสนอง (React) ต่อสภาพแวดล้อมอย่างไร หรือคาดการณ์ล่วงหน้าต่อโอกาสและอุปสรรคที่เผชิญ นอกจากนี้ผู้บริหารอาจมีการรับรู้ต่อสภาพแวดล้อมต่างกันเพราะลักษณะของวัตถุประสงค์ขององค์การหรือความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่ได้วางไว้ ทำให้การตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมที่ทิศทางและรูปแบบที่ต่างกัน Show การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมภายนอกมีผลกระทบต่อการดำเนินงานขององค์การและเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้บริหารต้องตระหนัก เนื่องจากสภาพแวดล้อมภายนอกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีความสัมพันธ์กันอย่างชับซ้อน ประการสำคัญเป็นการยากที่ธุรกิจจะสามารถควบคุมเพื่อกำหนดทิศทางของการพลวัตได้ ดังนั้นการทราบและเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นจะช่วยให้ผู้บริหารสามารถวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม นักกลยุทธ์จึงต้องศึกษาข้อมูลของสภาพแวดล้อมอย่างรอบคอบ ซึ่งสามารถจำแนกขั้นตอนการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมจะช่วยให้ผู้บริหารตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม และสามารถนำข้อมูลใช้เป็นประโยชน์ในการวางแผนกลยุทธ์ขององค์การได้อย่างเหมาะสม แต่สภาพแวดล้อมภายนอกจะมีขอบเขตและระดับความสัมพันธ์กับธุรกิจในมิติและความรุนแรงที่ต่างกัน ซึ่งจะต้องแยกการวิเคราะห์ตามระดับและความสำคัญของปัจจัยที่จะมีผลต่อการดำเนินกลยุทธ์ขององค์การ SWOT ���ͷ����ҹ������¡�Ѻ�Ѿ����� ���ͷ� ������ͧ���㹡�û����Թʶҹ��ó����繡������������Ҿ�Ǵ�������������¹ͧ͡���� �����֡����������������ǹ�����ػ���Ƿҧ㹡�ô��Թ�ҹ�������ç��еͺʹͧ��͡�ú����������¢ͧͧ���� �������������Ҿ�ͧͧ�������͡�˹��Ƿҧ㹡�þѲ�Ҩе�ͧ�ա����������š�з�����Դ�ҡ�Ѩ��µ�ҧ � ���� �¢����ŷ�����·���� �Ъ��¼������á�˹��ش����Шش���ҡ��Ҿ�Ǵ�������� �͡������ػ��ä�ҡ��Ҿ�Ǵ������¹͡��ʹ���š�з�������ѡ��Ҿ�ҡ�Ѩ�������ҹ���͡�÷ӧҹ�ͧͧ��� ����������� SWOT �Ѵ���������ͧ�ͧ��èѡ��Ἱ���ط���Ը�˹�觫�觨Ъ������ͧ�������Һ�֧ʶҹ�Ҿ�ͧ����ͧ �ѹ�з��������ö��˹�������������ҧ�١��ͧ��л��ʺ��������� ����������ҡ��Ҿ�Ǵ�������������Ҿ�Ǵ������¹͡�ͧͧ���ù�� � � 4 ����� ��� การวิเคราะห์ SWOT หรือ การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและศักยภาพเป็นเครื่องมือในการประเมินสถานการณ์สำหรับการประกอบธุรกิจ ซึ่งช่วยให้ผู้บริหารรู้ถึงจุดแข็งและจุดอ่อนจากสภาพแวดล้อมภายใน มองเห็นโอกาสและอุปสรรคจากสภาพแวดล้อมภายนอก ตลอดจนผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจทุกประเภท ความหมาย SWOTจุดแข็ง (Strengths) : จุดเด่นหรือจุดแข็ง (ข้อได้เปรียบ) เป็นผลมาจากปัจจัยภายใน เป็นข้อดีที่เกิดจากสภาพแวดล้อมภายในบริษัท เช่น จุดแข็งด้านการเงิน และข้อได้เปรียบด้านการผลิต และด้านทรัพยากรบุคคล โดยบริษัทจะต้องใช้ประโยชน์จากจุดแข็งในการกำหนดกลยุทธ์การตลาด จุดอ่อน (Weaknesses) : จุดด้อยหรือจุดอ่อน ข้อเสียเปรียบเป็นผลมาจากปัจจัยภายใน เป็นปัญหาหรือข้อบกพร่องที่เกิดจากสภาพแวดล้อมภายในต่าง ๆ ของบริษัท เช่น การขาดเงินทุน นโยบายและทิศทาง การบริการที่ไม่แน่นอน หรือบุคลากรที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งบริษัทจะต้องหาวิธีในการปรับปรุงให้ดีขึ้นหรือขจัดให้หมดไปอันจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัท โอกาส (Opportunities) : เกิดจากปัจจัยภายนอก เป็นผลจากการที่สภาพแวดล้อมภายนอกของบริษัทเอื้อประโยชน์ หรือส่งเสริมการดำเนินงานของบริษัท โอกาสแตกต่างจากจุดแข็งตรงที่โอกาสเป็นผลมาจากสภาพแวดล้อมภายนอก แต่จุดแข็งเป็นผลมาจากสภาพแวดล้อมภายใน ผู้ประกอบการที่ดีจะต้องแสวงหาโอกาสอยู่เสมอ โดยการวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมภายนอกที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ตลอดเวลา เช่น เศรษฐกิจ สังคม การเมือง เทคโนโลยีและการแข่งขันในตลาด และใช้ประโยชน์จากโอกาสนั้น อุปสรรค (Threats) : เกิดจากปัจจัยภายนอก เป็นข้อจำกัดที่เกิดจากสภาพแวดล้อมภายนอกที่ส่งผลเสียต่อธุรกิจ เช่น ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น สภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้สอดคล้อง และพยายามขจัดอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ได้ การประเมินสภาพแวดล้อมภายในการวิเคราะห์และพิจารณาทรัพยากรและความสามารถภายในบริษัททุก ๆ ด้านเพื่อที่จะระบุจุดแข็งและจุดอ่อนของธุรกิจ แหล่งที่มาเบื้องต้นของข้อมูลเพื่อการประเมินสภาพแวดล้อมภายใน คือระบบข้อมูลเพื่อการบริหารที่ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งในด้านโครงสร้างระบบ ระเบียบ วิธีปฏิบัติงาน บรรยากาศในการทำงานและทรัพยากรในการบริหาร (คน เงิน วัสดุ การจัดการ) รวมถึงการพิจารณาผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของบริษัทเพื่อที่จะเข้าใจสถานการณ์และผลกลยุทธ์ก่อนหน้านี้ด้วย การประเมินสภาพแวดล้อมภายนอกภายใต้การประเมินสภาพแวดล้อมภายนอกของบริษัท ทำให้สามารถค้นหาโอกาสและอุปสรรค การดำเนินงานของบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัท เช่น อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ นโยบาย การเงิน การงบประมาณ สภาพแวดล้อมทางสังคม เช่น ระดับการศึกษา การตั้งถิ่นฐานและการอพยพของประชาชน ลักษณะชุมชน ขนบธรรมเนียมประเพณี ค่านิยม ความเชื่อและวัฒนธรรม สภาพแวดล้อมทางการเมือง เช่น บทบัญญัติกฎหมายต่าง ๆ มติคณะรัฐมนตรี และสภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยี หมายถึงกรรมวิธีใหม่ ๆ และพัฒนาการทางด้านเครื่องมืออุปกรณ์ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและการบริการ การวิเคราะห์สถานการณ์ (SWOT Analysis) การประกอบธุรกิจในฟินแลนด์จุดแข็ง1. การจัดตั้งบริษัทง่ายและกฎระเบียบไม่ซับซ้อน 2. รัฐมีระบบการสนับสนุนด้านเงินทุนสำหรับการเริ่มประกอบธุรกิจ 3. การประกอบธุรกิจมีความชัดเจน โปร่งใส และตรวจสอบได้ จุดอ่อน1. ผู้ประกอบการควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาษา และพฤติกรรมการบริโภคของชาวฟินแลนด์ 2. ผู้ประกอบการจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในกฎหมายแรงงานของฟินแลนด์ 3. มีกฎหมายคุ้มครองลูกจ้างที่นายจ้างจำเป็นต้องปฏิบัติตาม เช่น การทำประกันสังคมและ ประกันสุขภาพ รวมถึงประกันอุบัติเหตุจากการจ้างงานซึ่งทำให้มีต้นทุนสูงในการประกอบธุรกิจ โอกาส1. การประกอบธุรกิจที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยจะดึงดูดลูกค้าได้มากกว่า เนื่องจากชาวฟินแลนด์ให้ความสนใจประเทศไทยเป็นอย่างมาก 2. ธุรกิจสามารถเติบโต สร้างความมั่นคง และสร้างเงินหมุนเวียนได้ 3. ชาวฟินแลนด์มีรายได้ดี และกำลังซื้อสูง 4. การเลือกประกอบธุรกิจในทำเลที่ดีจะสามารถสร้างเงินหมุนเวียนได้สูงและมีลูกค้าประจำ อุปสรรค1. ชาวฟินแลนด์มีความรอบคอบในการเลือกที่จะบริโภคสินค้าราคาถูกที่มีปริมาณมาก 2. ชาวฟินแลนด์ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย การประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยในการดำรงชีวิต เช่น อาหาร เครื่องนุ่งห่ม การสื่อสาร เป็นสิ่งที่ชาวฟินแลนด์ให้ความสนใจมากกว่า 3. พื้นที่เช่าในทำเลย่านธุรกิจมีการแข่งขันสูงทำให้หาพื้นที่ทีมีศักยภาพดียากขึ้น หรืออาจหาได้ในราคาที่สูงเกินไป 4. ผู้ประกอบการควรต้องรู้ภาษาท้องถิ่น แม้ว่าชาวฟินแลนด์มากกว่าร้อยละ 85 สามารถ สื่อสารภาษาอังกฤษได้ แต่ก็คาดหวังที่จะได้รับการบริการและการสื่อสารในภาษาท้องถิ่น |