2.ภาษาแอสเซมบลี (Assembly Language) เป็นภาษาที่มีการใช้ตัวอีกษรในภาษาอังกฤษมาแทนคำสั่งที่เป็นเลขฐานสอง (0,1) และเรียกอักษรสัญลักษณ์ที่เป็นคำสั่งนี้ว่า สัญลักษณ์ข้อความ (mnemonic codes) เพื่อให้ง่ายต่อการเขียนและการจดจำมากกว่าภาษาเครื่อง ภาษาแอสเซมบลียังจัดเป็นภาษาระดับต่ำ (Low-level Language) มีการใช้สัญลักษณ์มาใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น Show สัญลักษณ์เหล่านี้จะไม่ใช่คำที่มีความหมายในภาษาอังกฤษ แต่สามารถทำให้นักเขียนโปรแกรมสามารถเขียนโปรแกรมได้สะดวกสะบายมากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องจดจำเลข 0 และ 1 ของเลขฐานสองอีกนอกจากนี้ภาษาแอสเซมบลี ยังให้ผู้เขียนใช้ตัวแปรที่ตั้งขึ้นมาเพื่อการเก็บค่าข้อมูลใดๆ เช่น X, Y, RATE หรือ TOTAL แทนการอ้างถึงตำแหน่งที่เก็บข้อมูลจริงๆ ภายในหน่วยความจำด้วย การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาแอสเซมบลีนั้น เมื่อนำมาใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถที่จะเข้าใจภาษาแอสเซมบลีได้ ขึงต้องมีการแปลภาษาแอสเซมบลีนั้นให้กลายเป็นภาษาเครื่องก่อน โดยใช้ตัวแปลภาษาแอสเซมบลีที่เรียกว่า แอสเซมเบลอร์ (Assembler) เป็นตัวแปล นอกจากนี้ผู้ที่จะเขียนโปรแกรมภาษาแอสเซมบลีได้จะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของฮาร์ดแวร์เป้นอย่างดีเนื่องจากจะต้องควบคุมการทำงานของหน่วยความจำ หรืออุปกรณ์ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ ดังนั้นภาษาแอสเซมบลีจึงเหมาะที่จะใช้เขียนงานที่ต้องการความเร็วในการทำงานสูง เช่น งานทางด้านกราฟิก หรือ งานพัฒนาซอฟต์แวร์ ระบบต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ภาษาแอสเซมบลีจะเป็นภาษาที่ง่ายกว่าการเขียนด้วยภาษาเครื่อง แต่ก็ยังถือว่าเป็นภาษาระดับต่ำที่ยากต่อการเขียนของนักพัฒนาโปรแกรมมาก จึงไม่เป็นที่นิยมในการนำมาพัฒนาโปรแกรมมากนัก โดยที่ภาษาแอสเซมบลีใช้รหัสเป็นคำแทนคำสั่งภาษาเครื่อง ทำให้นักเขียนโปรแกรมสามารถเขียนโปรแกรมได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าการเขียนโปรแกรมจะยังไม่สะดวกเท่ากับการเขียนโปรแกรมภาษาอื่น ๆ ในสมัยนี้ แต่ถ้าเปรียบเทียบในสมัยนั้นก็ถือว่าเป็นการพัฒนาไปสู่ยุคของการเขียนโปรแกรมแบบใหม่ คือใช้สัญลักษณ์แทนเลข 0 และ 1 ของภาษาเครื่อง ซึ่งสัญลักษณ์ที่ใช้จะเป็นคำสั่งสั้น ๆ ที่จะได้ง่าย เรียกว่า นิมอนิกโคด (mnemonic code) ภาษาแอสแซมบลี (Assembly Language) |