มาตรฐานที่ใช้ในการเชื่อมต่อ Internet คืออะไร

ในบรรดาเครือข่ายต่างๆ ของโลกเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) นับว่าเป็นเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดเนื่องจากมีคอมพิวเตอร์หลายสิบล้านเครื่องจากทุกประเทศทั่วโลกเชื่อมต่อเข้าด้วยกับเครือข่ายนี้
ภาพด้านล่างแสดงภาพจำลองการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ในระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อโยงใยคอมพิวเตอร์เข้าหากัน เพื่อสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ทั่วโลก

จะพบว่าในภาพมีคอมพิวเตอร์หลาย ๆ ประเภทติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน คอมพิวเตอร์เหล่านั้นจึงจะต้องมีมาตรฐานในการสื่อสาร เพื่อให้สามารถสื่อสารกันได้บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

มาตรฐานในการสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเรียกว่า ทีซีพี/ไอพี (TCP/IP) ซึ่งย่อมาจาก Transmission Control Protocol / Internet Protocol

Windows 7 สามารถช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เนื่องจากมีความสามารถในการใช้มาตรฐานสื่อสาร TCP / IP ซึ่งเป็นมาตรฐานที่จำเป็นสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ต้องการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต

ถ้าหากว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ได้เชื่อมต่อเครือข่ายกับเครื่องใด เราเรียกเครื่องคอมพิวเตอร์ประเภทนี้ว่า “ Stand Alone PC ” คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่โดดเดี่ยวเครื่องเดียว ไม่สามารถติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นได้ หากต้องการนำข้อมูลจากเครื่องนี้ไปใช้ที่เครื่องอื่นก็จะต้องบันทึกข้อมูลลงในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล เช่น แผ่นซีดี หรือ แผ่นดิสก์เก็ตแล้วจึงค่อยนำข้อมูลไปใช้อีกเครื่อง แต่ถ้าหากเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ห่างไกลกันมากๆ การทำวิธีนี้ย่อมไม่สะดวกอย่างมาก ดังนั้นเพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้อย่างรวดเร็ว เราจึงนำคอมพิวเตอร์ที่ต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันมาเชื่อมต่อผ่านสายสื่อสาร เราเรียกการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันนี้ว่า “ เครือข่าย ” (Network)

ดังนั้น ระบบเครือข่าย (Network System) คือการนำคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกันทำให้ใช้ไฟล์หรืออุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกัน
ถ้าเชื่อมต่อกันใกล้ๆ ในพื้นที่เดี่ยวกัน เรียกว่า แลน (LAN : Local Area Network)
ถ้าเชื่อมต่อกันไกลๆ เช่น ข้ามจังหวัด ข้ามประเทศ เรียกว่า แวน (WAN : Wide Area Network )

อินเตอร์เน็ต (Internet) คือเครือข่ายคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง แต่เนื่องจากมีขนาดใหญ่มีผู้ใช้งานหลายสิบล้านคนกระจายทั่วโลก จึงมีข้อมูลมากมายมหาศาลแลกเปลี่ยนกันในเครือข่าย ยกตัวอย่าง เช่น ถ้ามีข้อมูลเกี่ยวกับการนำเสนอสินค้าตัวอย่างของบริษัทและต้องการให้คนทั่วโลกได้รับรู้ข้อมูลนี้ ก็เพียงแค่ใส่ข้อมูลลงไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งเชื่อมต่ออยู่กับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตก็จะทำให้คนทั่วโลกที่ใช้เครือข่ายนี้ทราบข้อมูลของเราทันที

เอกสารที่อ่านจากอินเตอร์เน็ตจะแสดงในโปรแกรมประเภทบราวเซอร์ ซึ่งผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 คือ โปรแกรม Internet Explorer 8 ซึ่งจัดเป็น Browser ตัวหนึ่งในการใช้งานอินเตอร์เน็ต และการที่จะใช้งานอินเตอร์เน็ตได้นั้น จะต้องสมัครสมาชิกอินเตอร์เน็ตซึ่งมีผู้ให้บริการหลายรายในปัจจุบัน

เครือข่ายอินเตอร์เน็ตถูกสร้างขึ้นมาโดยกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2512 โดยในขณะนั้นยังใช้ชื่อเครือข่ายว่า “ อาร์ปาเน็ต ” (ARPAnet) ซึ่งย่อมาจาก (Advanced Research Projects Agency Network)

อาร์ปาเน็ต ถูกออกแบบขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่สามารถทนทานต่อความเสียหาย ในกรณีที่สายสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์จุดใดจุดหนึ่งเสียหายก็ยังสามารถใช้เครือข่ายได้ต่อไป โดยระบบจะสามารถเลือกเส้นทางอื่นในการสื่อสารได้ด้วยตนเอง

ข้อดีอีกข้อของการสื่อสารในแบบของอาร์ปาเน็ต คือ สามารถใช้ประโยชน์ของสายสื่อสารได้อย่างสูงสุด โดยการแบ่งข้อมูลเป็นชิ้นเล็ก ๆ (Packet) แล้วปล่อยเดินไปหลาย ๆ เส้นทางและรวมเข้าชุดข้อมูลเดียวกันที่ปลายทาง ทำให้สามารถส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น

จนเมื่อปี 2516 เครือข่ายอาร์ปาเน็ตได้เติบโตขึ้นอย่างมากมาย เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้แต่แรกจึงมีการได้เปลี่ยนมาตรฐานการสื่อสารที่เรียกว่า โปรโตคอล (Protocol) จากโปรโตคอลดาร์พา (DARPA) นำมาปรับปรุงเป็นโปรโตคอล TCP / IP (Transmission Control Protocol / Internet Protocol) ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่ใช้อยู่ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน

อินเตอร์เน็ตในปัจจุบันเติบโตอย่างรวดเร็วในอัตราเกือบสองเท่าทุก ๆ ปี จากเครื่องคอมพิวเตอร์หลักเพียง 4 เครื่องเมื่อปี 2516 กลายเป็นหลายล้านเครื่องในปัจจุบัน

สาเหตุที่อินเตอร์เน็ตเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างมากในช่วงไม่กี่ปี เนื่องจากข้อมูลในอินเตอร์เน็ตมีประโยชน์ต่อผู้คนเป็นอย่างมาก และที่สำคัญคือข้อมูลนั้นถูกแสดงไว้อย่างสวยงามและง่ายต่อการค้นหาด้วยระบบที่เรียกว่า WWW (World Wide Web)

ข้อมูลใน WWW ถูกจัดแสดงไว้เป็นหน้า ๆ โดยบนหน้านั้นจะมีตัวอักษรและภาพ เราเรียกหน้าเอกสารอินเตอร์เน็ตนี้ว่า เว็บเพจ (Webpage) และหากเจอคำศัพท์ใดที่น่าสนใจในเว็บเพจก็สามารถคลิกที่ตัวอักษรหรือภาพนั้น เพื่อให้ WWW นำเราไปยังเว็บเพจหน้าอื่นต่อไปเรื่อย ๆ

รูปการเชื่อมโยงกันของหน้าเว็บเพจ

เทคโนโลยีมัลติมีเดียในปัจจุบันได้ถูกนำไปใช้ในอินเตอร์เน็ตด้วยเช่นกัน คุณจึงสามารถโต้ตอบกับคอมพิวเตอร์ เล่นเกม รับฟังเสียง และชมภาพยนตร์สั้น ๆ ผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้อีกด้วย

ข้อมูลที่อยู่ในอินเตอร์เน็ตในขณะนี้มีปริมาณมากที่สุดในบรรดาสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ รวมกันอาจยังไม่มากมายเท่ากับข้อมูลที่บรรจุอยู่ในอินเตอร์เน็ตเป็นวิธีการเผยแพร่ข้อมูลระดับโลกที่มีราคาถูกที่สุด ดังนั้นการที่คุณใช้อินเตอร์เน็ตจึงเป็นการเปิดประตูไปสู่โลกแห่งความรู้และวิทยาการอย่างแท้จริง

อินเตอร์เน็ต เปรียบเสมือนสังคมขนาดใหญ่ที่มีผู้เข้ามาใช้ร่วมกันมากมาย ในระบบจึงจัดเตรียมบริการต่างๆ ไว้ให้ เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาใช้งานต่างๆตามความต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web หรือ WWW) เป็นบริการข้อมูลข่าวสารในแบบสื่อผสมหรือมัลติมีเดีย (Multimedia) กล่าวคือ ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นข้อมูลที่มีทั้งข้อความ ภาพและเสียงประกอบกัน แทนที่จะมีเพียงอักษรละลานตาเพียงอย่างเดียว จึงสามารถเรียกร้องความสนใจของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้ข้อมูลประเภทนี้สามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวในแบบของภาพยนต์ และแสดงเสียงได้คุณภาพเดียวกับแผ่นซีดีเลยที่เดียว

ข้อมูลเหล่านี้ จะถูกแบ่งเป็นหน้า ๆ แต่ละหน้าสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ที่หน้าเดียวกัน ดังนั้น ข้อมูลจากทั่วทุกมุมโลกจึงถูกโยงใยมาถึงกันได้ราวกับใยแมงมุม จึงเรียกว่า เวิลด์ไวด์เว็บ หรือ เครือข่ายใยแมงมุม

ปัจจุบันผู้ใช้อินเตอร์เน็ตแทบทุกราย จะเข้ามาใช้บริการข้อมูลมัลติมีเดียนี้ เนื่องจากได้ข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์ และสีสันสดใส

อี - เมล (E-mail) มาจากคำว่า Electronic Mail จึงมักแปลกันตามตรงว่า จดหมายอิเลคทรอนิกส์ ซึ่งเป็นการจำลองการรับ – ส่งจดหมายที่เราคุ้นเคยกัน มาทำการส่งผ่านจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งโดยผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแทน การส่งจดหมายด้วยอี-เมลนี้ จะถึงผู้รับได้อย่างรวดเร็วภายในเพียงไม่กี่วินาที ไม่ว่าผู้รับจะอยู่ที่ใดในโลก

อี - เมล เป็นบริการที่มีผู้นิยมใช้มากที่สุดนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะความเป็นจดหมายด่วนผ่านสายที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี และมีความรวดเร็วนั่นเอง

FTP มาจากคำว่า (File Transfer Protocol) ซึ่งเป็นบริการที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยในการคัดลอกไฟล์ โดยทำการส่งผ่านไฟล์จากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งในระบบเครือข่าย การส่งผ่านไฟล์นี้อาจเป็นการส่งผ่านจากเครื่องใดๆในระบบเครือข่ายมาไว้ยังเครื่องของเรา ซึ่งเรียกว่า “ การดาวน์โหลด ”
(Download) หรือ ส่งผ่านจากเครื่องของเราไปไว้ในระบบเครือข่าย ซึ่งเรียกว่า “ การอัพโหลด ” (Upload)

การที่เราสามารถดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ ที่อยู่ในระบบได้ ทำให้หาซอฟท์แวร์รุ่นใหม่ๆ มาทดลองใช้ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ซึ่งบริษัทผู้ผลิตซอฟท์แวร์ต่าง ๆ ก็เห็นดีเห็นงามด้วย โดยจะเห็นได้จากการจัดตั้งเครื่องไว้เก็บซอฟท์แวร์ยอดนิยม เพื่อให้ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดไปทดลองใช้ได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

Telnet เป็นบริการที่ช่วยเราสามารถติดต่อเข้าใช้งานเครื่องบริการที่อยู่ไกลๆได้ โดยเราสามารถใช้เครื่องบริการนี้เป็นเครื่องควบคุมในการสื่อสาร พูดคุย กับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆที่เชื่อมต่ออยู่ในระบบได้

เนื่องจากเครือข่ายอินเตอร์เน็ตมีขนาดใหญ่และมีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก การพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ในการสร้างระบบเครือข่ายจึงมุ่งเน้นสนับสนุนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตแทบทั้งสิ้น ส่งผลให้เทคโนโลยีในการสร้างเครือข่ายอินเตอร์เน็ตก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว

องค์กรขนาดใหญ่บางองค์กรได้นำอุปกรณ์และโปรแกรมที่ใช้สร้างเครือข่ายอินเตอร์เน็ตมาติดตั้งเองในองค์กร แต่ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตจริง เราเรียกเครือข่ายนี้ว่า อินทราเน็ต ซึ่งหมายถึงภายในองค์กร

การสร้างเครือข่ายอินทราเน็ตมุ่งเน้นให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันภายในองค์กรอย่างรวดเร็ว และสะดวกเหมือนการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารในอินเตอร์เน็ต

ISP (Internet Service Provider)

เราเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของเราได้อย่างไร อินเตอร์เน็ตคือเครือข่ายที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก จึงต้องใช้ค่าบำรุงรักษาสายสื่อสารและคอมพิวเตอร์หลักที่อยู่ในระบบเป็นอย่างมาก ดังนั้นถ้าคุณต้องการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตคุณจะต้องขออนุญาตและต้องเสียค่าบริการอินเตอร์เน็ต เช่นเดียวกับการใช้โทรศัพท์ที่ต้องมีการชำระค่าบริการกับผู้ให้บริการโทรศัพท์

ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (Internet Service Provider) หรือที่นิยมเรียกย่อๆ ว่า ISP จะเป็นตัวกลางของคอมพิวเตอร์ของคุณกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทำหน้าที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตแก่บุคคลและองค์กรที่สนใจใช้อินเตอร์เน็ต

เรามักใช้สายโทรศัพท์เป็นสายสื่อสารในการส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ของคุณกับ ISP เนื่องจากว่าสายโทรศัพท์เป็นสายสื่อสารที่มีราคาถูกและมีอยู่ในบ้านแทบทุกหลัง แต่สายโทรศัพท์มิได้ถูกออกแบบมาเพื่อส่งข้อมูลของคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ การสื่อสารโดยใช้สายโทรศัพท์จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ช่วยให้คอมพิวเตอร์ส่งข้อมูลได้ เราเรียกอุปกรณ์นี้ว่า โมเด็ม (Modem)

สายโทรศัพท์เชื่อมโยงระหว่างบ้านกับ ISP

ในปัจจุบันอินเตอร์เน็ตยังถือเป็นช่องทางการกระจายสินค้าหรือตลาดได้อีกแบบหนึ่งโดยการซื้อขายผ่านเว็บเพจและจ่ายเงินโดยอาศัยบัตรเครดิต การซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ตมีการเติบโตรวดเร็วเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการโชว์สินค้าต่ำกว่าวิธีอื่น ๆ แต่ก็อาจมีข้อเสียคือผู้บริโภคไม่สามารถตรวจสอบสินค้าจริงได้

ถึงแม้ว่า ทางการค้าจะยังไม่เติบโตอย่างที่คาดไว้ อินเตอร์เน็ตก็มีผลต่อการศึกษาเป็นอย่างมาก เนื่องจากนักเรียนสามารถเรียนรู้ และโต้ตอบกับครูระยะไกลได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันนี้มีมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่เปิดหลักสูตรปริญญาโทและเอกโดยเรียนผ่านทางอินเตอร์เน็ต
ทางการแพทย์และสาขาอาชีพอื่นๆ ก็ได้รับประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตมากเช่นกัน เนื่องจากอินเตอร์เน็ตช่วยลดความห่างไกลกัน คนสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ง่ายขึ้นเหมือนกับอยู่ที่แห่งเดียวกัน

อินเตอร์เน็ตมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวันของทุกคน และจะมีอิทธิพลอย่างมากในโลกยุคต่อไป เนื่องจากอินเตอร์เน็ตจัดเป็นสื่อชนิดหนึ่ง มันจึงมีอิทธิพลกับทุกๆ คนเหมือนกับวิทยุ โทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ ดังที่คุณอาจจะเห็นได้จากบริษัทและหน่วยงานองค์กรแทบทั้งหมดจะมีโฮมเพจของตนเอง เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลขององค์กรอย่างละเอียด

อินเตอร์เน็ตจะมีผลกระทบกับผู้คนในทุกสาขาอาชีพและเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้เกิดการไหลของกระแสวัฒนธรรมอย่างรวดเร็วในโลกสมัยใหม่ จึงทำให้ผู้ที่มีการศึกษาทุกคนจำเป็นต้องศึกษาอินเตอร์เน็ตเพื่อให้สามารถก้าวทันโลกได้

สิ่งที่ชี้ให้เห็นได้ชัดว่าอินเตอร์เน็ตได้ก้าวเข้ามาในชีวิตของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทุกคน คือในขณะนี้อินเตอร์เน็ตได้ถูกผนวกเข้ากับโปรแกรมประยุกต์ (Application Program) อย่าง ไมโครซอฟต์ออฟฟิต 2007 (Microsoft Office 2007) ซึ่งคุณจะได้ศึกษาในบทต่อไป

หากว่าคุณใช้อินเตอร์เน็ตที่สถานศึกษาหรือที่ทำงาน คุณอาจไม่ต้องจัดเตรียมสิ่งใด ๆ เนื่องจากจะมีคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตเตรียมพร้อมอยู่แล้ว หากคุณต้องการใช้ควรสอบถามจากผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์นั้นโดยตรง

ถ้าคุณใช้อินเตอร์เน็ตที่บ้าน คุณจะต้องจัดหา ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต โมเด็ม และซอฟแวร์สำหรับใช้งานอินเตอร์เน็ตด้วยตนเอง เพื่อนำมาติดตั้งให้สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้

หากคุณต้องการใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อท่องสู่โลกกว้างของอินเตอร์เน็ตด้วยคอมพิวเตอร์ของคุณเองคุณจะต้องเตรียมสิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้

ควรเป็นรุ่นเพนเทียม (Pentium) หรือรุ่นที่สูงกว่านั้นและมีเมโมรีอย่างน้อย 128 Mb แนะนำที่สูงกว่าขึ้นไป ฮาร์ดดิสก์ควรมีอย่างน้อย 1 Gigabyte พร้อมระบบปฏิบัติการ และถ้าให้ดีควรสามารถเล่นมัลติมีเดียได้ด้วย

เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ที่อยู่ห่างไกลให้สามารถส่งข้อมูลถึงกันได้โดยผ่านทางสายโทรศัพท์ อาจเป็นแบบภายใน (Internal) หรือแบบภายนอก (External) ความเร็วไม่ควรต่ำกว่า 56 Kbps หรือ ADSL

บริการโทรศัพท์ที่ใช้กับอินเตอร์เน็ต ก็คือโทรศัพท์ธรรมดาที่ใช้ในบ้านของคุณซึ่งถ้าเลขหมายของคุณเป็นเลขหมายในระบบปัจจุบันจะทำให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานได้สูง

คุณจะต้องจัดหาผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP) ซึ่งหากคุณเป็นนักศึกษาควรสอบถามทางสถาบันว่ามีบริการอินเตอร์เน็ตให้ใช้หรือไม่ เนื่องจากสถาบันการศึกษาส่วนใหญ่มักมีบริการอินเตอร์เน็ตให้ใช้งานฟรีและยังมีบริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตกับบ้านของนักศึกษาอีกด้วย

ถ้าทางบริษัทหรือสถาบันการศึกษาของคุณไม่มีอินเตอร์เน็ต คุณจะต้องติดต่อขอใช้บริการจากบริษัทเอกชนซึ่งจะเก็บค่าบริการอินเตอร์เน็ตเป็นรายชั่วโมงในบางครั้งอาจมีระยะเวลากำหนดการใช้งานด้วย

Windows 7 มีซอฟแวร์ด้านอินเตอร์เน็ตมีประสิทธิภาพสูงแถมมาให้หลายโปรแกรมดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องจัดเตรียมซอฟแวร์เพิ่มเติมสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ถ้าคุณต้องการซอฟแวร์อื่น ที่ Windows 7 ไม่มีมาให้ คุณสามารถนำซอฟแวร์เหล่านั้นมาติดตั้งในเครื่องของคุณให้มีความสามารถในการใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ในภายหลัง

การใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านทางคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง Windows 7 ไว้แล้วเป็นวิธีการที่สะดวกที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจาก Windows 7 มีโปรแกรมอินเตอร์เน็ตที่มีความสามารถสูงในการใช้งานแถมมาให้ และได้มีการพัฒนาโปรแกรมใช้งานอินเตอร์เน็ตให้มีความสามารถมากขึ้นอย่างที่เราจะได้ศึกษากันอย่าง โปรแกรม Internet Explorer 8 หรือ IE 8 หรือโปรแกรมที่ให้เราใช้งานอินเตอร์เน็ตในด้านในรูปแบบอื่น ๆ ด้วย