Show
ซึ่งกิจการจะใช้บุคลากรในบริษัท หรือจะเป็นผู้รับจ้างทำบัญชีสำนักงานอิสระ ก็ได้ แต่มีข้อกำหนดต่าง ๆ ในการได้มาซึ่งการเป็นผู้ทำบัญชีที่ต้องมีคุณสมบัติ มีความรับผิดชอบ จรรยาบรรณและการอบรมตามที่กฎหมายกำหนดสำหรับการผู้ทำบัญชี จะมีข้อกำหนดใดบ้างรวมถึงขั้นตอนต่าง ๆ ในการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชี เรามาทำความรู้จักกับการเป็นผู้ทำบัญชีการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีและความสำคัญของการเป็นผู้ทำบัญชีสารบัญ1.ทำความรู้จักกับผู้ทำบัญชี2.หน้าที่ของการเป็นผู้ทำบัญชี3.คุณสมบัติของ ผู้ทำบัญชี3.1 ขั้นตอนต่าง ๆ ในการขึ้นทะเบียนผู้ทำบัญชี3.2 หลังจากขึ้นทะเบียนผู้ทำบัญชีต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดดังนี้3.3 ดำเนินการเก็บชั่วโมง CPD4.สรุปทำความรู้จักกับผู้ทำบัญชีผู้ประกอบการหลายท่านมีความสงสัยเกี่ยวกับบทบาทความสำคัญของผู้ทำบัญชี แล้วผู้ทำบัญชีที่ว่านี้คือใครกันถ้าให้แปลตามที่พระราชบัญญัติกำหนด แปลว่าผู้รับผิดชอบในการทำบัญชีของผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี ไม่ว่าจะได้กระทำในฐานะเป็นลูกจ้างของผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีหรือไม่ก็ตาม (มาตรา ๔)ในความหมายตามบทบาทที่เข้าใจง่ายที่สุดผู้ทำบัญชี แปลว่าผู้ได้รับมอบหมายจากผู้ประกอบการธุรกิจให้เป็นผู้รับผิดชอบในการทำบัญชีของกิจการแห่งหนึ่ง ที่จดทะเบียนตามที่กฎหมายกำหนดให้กิจการหนึ่งแห่งจะต้องมีผู้ทำบัญชี 1 คนซึ่งอาจเป็นผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี สมุห์บัญชี หัวหน้าแผนกบัญชีหรือผู้รับจ้างทำบัญชีอิสระ ก็ได้ โดยผู้จัดทำบัญชีคนดังกล่าว คือบุคคลที่จบการศึกษาทางด้านบัญชีไม่ว่าจะเป็น ปวส.หรือปริญญาตรี ที่จบใหม่ หรือพนักงานบัญชีทั่วไป ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้จัดทำบัญชีโดยจะทำในตำแหน่งหน้าที่ดูแลบัญชีในบริษัทของเจ้าของกิจการโดยตรงหรือเป็นฟรีแลนด์ที่เปิดสำนักงานบัญชี ผู้รับจ้างทำบัญชีอิสระก็ตามและวุฒิทั้งสองมีคุณสมบัติในการดำเนินงานในขอบเขตความรับผิดชอบที่เหมือนกันเพียงแต่มีข้อกำหนดต่าง ๆ ที่ต่างกันเพียงเล็กน้อยทั้งนี้ผู้ทำบัญชีหนึ่งคนจะรับทำบัญชีได้ไม่เกินปีละ 100 แห่งผู้ประกอบกิจการใดบ้างที่ต้องมีผู้ทำบัญชี1.ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล2.บริษัทจำกัด3.บริษัทมหาชน4.กิจการร่วมค้านิติบุคคลที่จดทะเบียนในต่างประเทศแต่ว่ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย5.กิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากรหน้าที่ของการเป็นผู้ทำบัญชีผู้จัดทำบัญชี มีความสำคัญตามข้อกฎหมายกำหนดที่ต้องเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดทำบัญชีให้เป็นไปอย่างถูกต้อง โดยกิจการต่าง ๆที่กล่าวมาข้างต้นจำเป็นต้องใช้ผู้ทำบัญชีในการดำเนินการต่างๆ หน้าที่หลักสำคัญมีดังนี้1.ผู้จัดการบัญชี2.การทำบัญชี3.เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการงานบัญชี4.ปิดบัญชี5.งบการเงิน6.เก็บรักษาบัญชีและเอกสารหน้าที่หลักสำคัญนี้เป็นสิ่งที่กฎหมายกำหนดโดยผู้ที่จะเป็นผู้ทำบัญชีได้ต้องผ่านหลักเกณฑ์ข้อบังคับต่าง ๆกว่าจะได้มาซึ่งการเป็นผู้ทำบัญชีคุณสมบัติของ ผู้ทำบัญชีโดยท่านที่ต้องการเป็นผู้ทำบัญชีต้องมีคุณสมบัติต่าง ๆ ดังนี้1.มีภูมิลำเนาหรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศ2.มีความรู้ภาษาไทยเพียงพอที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ทำบัญชีได้3.มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามที่จะประกอบวิชาชีพเป็นผู้ทำบัญชีตามกฎหมาย ว่าด้วยวิชาชีพบัญชี4.ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเนื่องจากกระทำความผิดตามฐานความผิดในมาตรา 39 (3) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 25475.คุณวุฒิการศึกษา ที่สามารถเป็นผู่ทำบัญชีได้ดังนี้5.1 วุฒิไม่ต่ำกว่าอนุปริญญา (ปวส.)ทางการบัญชีสามารถเป็นผู้ทำ บัญชีของกิจการดังนี้ได้- ห้างหุ้นส่วน,- บริษัทจำกัดที่มีสินทรัพย์รวมและรายได้รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท และมีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5ล้านบาท5.2 วุฒิปริญญาตรี ทางการบัญชีหรือเทียบเท่าทางการบัญชีสามารถเป็นผู้ทำ บัญชีของกิจการดังนี้ได้- ห้างหุ้นส่วนที่มีสินทรัพย์รวมและรายได้รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท มีทุนจดทะเบียนไม่ 5 ล้านบาท- บริษัทมหาชนจำกัด- นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศและประกอบธุรกิจในประเทศไทยขั้นตอน ในการขึ้นทะเบียนผู้ทำบัญชีหลังจากที่คุณสมบัติข้างต้นในการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีเตรียมความพร้อมหมดแล้ว เรามาเข้าสู่ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีโดยสามารถดำเนินขั้นตอนต่าง ๆได้ทางออนไลน์ให้เข้ากับยุคสมัยการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีมีขั้นตอนดังนี้1.เข้าเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th2.จากนั้นเลือก หัวข้อบริการออนไลน์เลือกเมนูผู้ทำบัญชี เลือกสมัครสมาชิกใหม่(สำหรับสมาชิกใหม่ให้แจ้งเป็นผู้ทำบัญชีครั้งแรก)3.กรอกข้อมูลกรอกข้อมูลรายละเอียดและเอกสารต่าง ๆให้ครบถ้วนตามหน้าเว็บที่แจ้ง4.เลือกธนาคารที่ชำระเงิน5.เอกสารที่ต้องยื่นอัพโหลดไฟล์ มีดังนี้-บัตรประชาชน-ทะเบียนบ้าน-วุฒิการศึกษา-Paymentจากธนาคาร-รูปถ่ายหน้าตรงแบบติดบัตรขนาด 1 นิ้ว จำนวน 1รูป-(ถ้ามี) ใบเปลี่ยนชื่อและนามสกุล6.หลังจากดำเนินการขั้นต่างๆเสร็จแล้วระบบจะแสดงสถานะว่าให้รอตรวจสอบผลการอนุมัติทางอีเมลของผู้ทำบัญชีเป็นการเสร็จสิ้นการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีหลังจากขึ้นทะเบียนผู้ทำบัญชีต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดดังนี้หลังจากได้รับขึ้นทะเบียนเรียบร้อยแล้วและเริ่มดำเนินงานในการเป็นผู้ทำบัญชี ท่านต้องทำตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้1.ต้องพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพบัญชีไม่น้อยกว่า๑๒ ชั่วโมงต่อปีปฏิทิน โดยเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการบัญชีไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งและเนื้อหาด้านอื่นตามที่สภาวิชาชีพบัญชีประกาศกำหนด2.ภายในวันที่ 30 มกราคม ของปีถัดไปต้องแจ้งการพัฒนาความรู้ทางวิชาชีพบัญชีที่เว็บไซต์ www.dbd.go.th3.ภายในวันที่ 30 มกราคม ของปีถัดไปต้องยืนยันรายชื่อธุรกิจที่รับทำบัญชี และสถานภาพการเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีที่เว็บไซต์www.dbd.go.thดำเนินการเก็บชั่วโมง CPDการเก็บชั่วโมง CBD เป็นหนึ่งข้อกำหนดหลังขึ้นทะเบียนผู้ทำบัญชีตามที่กฎหมายกำหนด ต้องมีการเก็บชั่วโมง CPD เป็นจำนวน 12 ชั่วโมงต่อปีถ้าหากละเลยข้อกำหนดดังกล่าวจะขาดคุณสมบัติการเป็นผู้ทำบัญชีตามกฎหมายจะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาทและกรณีพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพบัญชีไม่ครบตามที่กำหนดต้องพัฒนาความรู้ต่อเนื่อง ให้ครบจำนวนชั่วโมงตามระยะเวลาที่ขาดหายไปกิจกรรมที่สามารถนับชั่วโมง CPD ได้1.การอบรมหรือสัมมนา รวมถึงการอบรมหรือสัมมนาในรูปแบบสื่อทางออนไลน์2.ผู้ดำเนินการสัมมนา ผู้บรรยาย การเป็นวิทยากร3.การเป็นอาจารย์ในสถาบันการศึกษาของรัฐหรือสถาบันการศึกษาของเอกชน ซึ่งมีการสอนไม่ต่ำกว่าระดับอนุปริญญาหรือ ปวส.ทางการบัญชี หรือเทียบเท่า ไม่ว่าจะเป็นการสอนในฐานะอาจารย์ประจำหรืออาจารย์พิเศษ4.การผ่านการศึกษาเฉพาะรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพบัญชีจากสถาบันการศึกษาของรัฐ หรือสถาบันการศึกษาของเอกชนซึ่งมีการสอนไม่ต่ำกว่าระดับอนุปริญญาหรือ ปวส. ทางการบัญชีหรือเทียบเท่า5.จัดทำผลงานทางวิชาการเกี่ยวกับวิชาชีพบัญชีโดยได้เผยแพร่ต่อสาธารณชนผ่านทางที่ประชุมวิชาการวารสารวิชาการ หรือในรูปแบบอื่นตามที่ได้รับความเห็นชอบจากสภาวิชาชีพบัญชี เช่นการเขียนบทความ งานวิจัย หนังสือ หรือตำราทางวิชาการ เป็นต้นสรุปจากที่กล่าวมาทั้งหมดถึงกระบวนการได้มาซึ่งการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีมีกระบวนการทั้งคุณสมบัติ และ ขั้นตอนการดำเนินการต่าง ๆหากท่านต้องการเป็นหนึ่งคนที่ต้องการเป็นผู้ทำบัญชีหวังว่าท่านจะได้รับข้อมูลต่างๆที่ครบถ้วน สำหรับท่านที่สนใจเรื่องด้านบัญชี ภาษี เว็บไซต์เราจะคอยนำเสนอบทความต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ให้สำหรับท่าน
|