อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน คิดยังไง

การจะขอสินเชื่อทั้งที แน่นอนว่าเราต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง เพราะฉะนั้น เป็นเรื่องปกติมากที่เราจะต้องหาข้อมูลสินเชื่อหลายๆเจ้าเพื่อนำมาเปรียบเทียบกันว่า กู้กับที่ไหนดีทีุ่ด ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้ามคือ วิธีการเช็คเครดิตบูโร วิธีคิดอัตราดอกเบี้ย เพราะ ดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารของแต่ละเจ้าก็มีวิธีเก็บต่างกัน อัตราดอกเบี้ยก็ไม่เท่ากันดังนั้นเราจึงควรจะรู้วิธีคิดดอกเบี้ยต่อเดือน เพื่อนำมาตัดสินใจได้ว่าธนาคารไหนดอกเบี้ยเยอะสุด ธนาคารไหนดอกเบี้ยถูกสุดนั่นเอง

Show

อัตราดอกเบี้ยคืออะไร ทำไมต้องคำนวณดอกเบี้ยต่อเดือน

ดอกเบี้ยเงินกู้ พูดง่ายๆ คือ ค่าตอบแทนที่ผู้ให้กู้เงินด่วนออนไลน์ เรียกเก็บจากผู้กู้ ตามอัตราที่ตกลงกัน หรือ คือเงินที่เราต้องจ่ายให้ผู้กู้เพิ่มจากเงินต้นที่เรากุ้ยืมมานั่นเอง โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สามารถแบ่งออกได้ใหญ่ๆ เป็น 2 ประเภท ซึ่งมีวิธีคิดดอกเบี้ยต่อเดือนแตกต่างกัน ได้แก่

  1. อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ หรือ Fixed Rate คือ อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ตายตัว ไม่มีการปรับขึ้นลงตลอดอายุสัญญา 
  2. อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว หรือ Floating Rate คือ อัตราดอกเบี้ยที่มีการันผวนไปตามต้นทุนและผลกำไรของธนาคาร โดยจะแบ่งย่อยได้เป็น 3 แบบ คือ
  • MLR คือ อัตราดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ มักใช้กับ สินเชื่อระยะยาวหรือสินเชื่อที่มีระยะเวลาในการผ่อนชำระแน่นอนและตายตัว
  • MOR  คือ อัตราดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีที่ขอกู้วงเงินเกินบัญชี
  • MRR คือ อัตราดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินเรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี

วิธีคิดดอกเบี้ย ดอกเบี้ยต่อปีคิดยังไง วิธีคิดดอกเบี้ยต่อปีเป็นต่อเดือน ทำอย่างไร

สูตรคำนวณดอกเบี้ยแบบนี้ มักใช้กับสินเชื่อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ โดยจะคำนวณจากเงินก้อนทั้งก้อนตลอดอายุสัญญา โดยถึงแม้จะทำการปิดเงินก้อนก่อนระยะเวลา ก็จะต้องจ่ายดอกเบี้ยเท่าเดิม โดยมีสูตรวิธีคิดดอกเบี้ยต่อปีเป็นต่อเดือน คือ

  • ดอกเบี้ยที่ต้องชำระทั้งหมด = เงินต้น x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x ระยะเวลา (ปี)
  • จำนวนเงินที่ต้องชำระแต่ละงวด = เงินต้น + ดอกเบี้ยที่ต้องชำระทั้งหมด/จำนวนงวดที่ต้อง่อน
  • วิธีคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก

มักใช้กับสินเชื่อส่วนใหญ่เกือบทุกประเภท โดยจะสามารถปิดการกู้เงินด่วนธนาคารก่อนกำหนดเพื่อลดดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายได้ แต่อาจจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการปิดบัญชีก่อนกำหนดอีกทีหนึ่ง โดยมีสูตรวิธีการคำนวณดอกเบี้ยต่อ คือ

  • ดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย = เงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันในงวด / จำนวนวันใน 1 ปี (ตามที่ธนาคารกำหนด)
  • เงินต้นที่ลดลง = จำนวนเงินที่ต้องจ่ายในงวดนั้น – ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในงวดนั้น
  • เงินต้นคงเหลือ = เงินต้นคงเหลือจากงวดก่อน – เงินต้นลดลง

ไม่แน่ใจคำนวณดอกเบี้ยอย่างไร ให้โปรแกรมคำนวณดอกเบี้ยช่วย 2565

หากคุณศึกษาวิธีคิดดอกเบี้ยต่อเดือนแล้วแต่ยังไม่แน่ใจหรือกลัวจะคำนวณผิดพลาดไป สามารถโหลดโปรแกรมคำนวณดอกเบี้ยมาใช้งานได้ โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ของ ศคง ที่ 1213.or.th จากนั้นให้เลือกไปที่เมนู สื่อและโปรแกรมคำนวณ > โปรแกรมคำนวณ > โปรแกรมคำนวณเงินกู้ จากนั้นคุณก็จะสามารถคํานวณดอกเบี้ยต่อเดือนได้เลย ไม่ว่าจะวิธีคิดดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อเดือน หรือ วิธีคิดดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ก็สามารถเลือกได้ง่ายๆ สะดวก รวดเร็ว แถมประหยัดเวลาอีกด้วย เมื่อรู้วิธีคิดดอกเบี้ยต่อเดือนแล้ว อย่าลืมนำไปใช้ประกอบการพิจารณากู้เงินด้วยนะ

          มาถึงตรงนี้คงพอได้คำตอบแล้วว่า ควรเลือกดอกเบี้ยแบบไหนดี ซึ่งถ้าเราคิดว่าในอนาคตจะมีเงินก้อนมาปิดหนี้ การเลือกแบบลดต้นลดดอกก็จะช่วยประหยัดดอกเบี้ยและเคลียร์หนี้ได้เร็วกว่า แต่ถ้าต้องการผ่อนไปเรื่อย ๆ ไม่มีเงินมาปิดหนี้ทั้งหมด น่าจะเหมาะกับดอกเบี้ยแบบคงที่มากกว่า อย่างไรก็ตาม การกู้เงินก้อนใหญ่นั้นนำมาซึ่งภาระหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบเป็นเวลานานหลายปี ผู้กู้จึงควรพิจารณาความพร้อมทางด้านการเงินของตัวเองให้ดีก่อนตัดสินใจกู้ด้วยนะครับ

โดยปกติแล้วเมื่อพูดถึงสินเชื่อต่างๆ เรามักจะไม่ได้ใส่ใจต่อประเภทสินเชื่อต่างๆ หรือการคิดดอกเบี้ยเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่จ่ายไปตามยอดที่กำหนดมาให้จากสถาบันการเงิน

แต่ในบทความนี้เงินติดล้อจะขอแนะนำพี่น้องให้มารู้จักกับสินเชื่อที่มีการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก สินเชื่อประเภทนี้คืออะไร และมีดีขนาดไหน เงินติดล้อจะมาชี้แจงแถลงไขให้คุณฟังเองครับ

ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกคืออะไร

ก่อนอื่นต้องแนะนำให้รู้จักก่อนว่า การคิดดอกเบี้ยของสถาบันการเงินนั้นจะมีด้วยกันอยู่ 2 รูปแบบ ได้แก่ ดอกเบี้ยแบบคงที่ และดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ซึ่งทั้ง 2 รูปแบบนั้นจะมีข้อแตกต่างกัน ดังนี้เลยครับ

  • ดอกเบี้ยแบบคงที่

    อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่นั้นหมายถึง สินเชื่อที่จะทำการคำนวณอัตราดอกเบี้ยมาให้อย่างเสร็จสรรพตั้งแต่วันที่เริ่มเซ็นสัญญา และจะนำไปเฉลี่ยในค่างวดที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน

  • ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก

    อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกนั้น หากจะให้อธิบายง่ายๆ ก็คือ สินเชื่อในรูปแบบที่เมื่อเงินต้นลดลง อัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็จะลดลงไปตาม ซึ่งในการผ่อนชำระค่างวดแต่ละครั้งก็จะมีการคิดค่างวดที่แตกต่างกันออกไปตามจำนวนของเงินต้นที่เหลืออยู่

อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน คิดยังไง

ตัวอย่างการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก

สำหรับการคิดดอกเบี้ยประเภทลดต้นลดดอก เงินติดล้อจะขอยกตัวอย่าง นาย A กู้เงินจากสถาบันทางการเงินแห่งหนึ่งเป็นจำนวน 20,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ย 24% ต่อปี มีกำหนดระยะเวลาการผ่อนชำระอยู่ที่ 12 เดือน โดยมีการผ่อนชำระรายเดือนเป็นจำนวน 1,893 บาทเท่าๆ กันทุกเดือน

โดยจำนวนการผ่อนชำระรายเดือนนั้น หากคำนวณผ่านสูตรทางคณิตศาสตร์ตามปกติจะมีความยากค่อนข้างมาก หากคุณต้องการคำนวณว่ายอดผ่อนชำระรายเดือนของตัวเองจะมีจำนวนเท่าไรนั้น แนะนำให้สอบถามกับทางสถาบันการเงินที่ต้องการยื่นกู้ หรือใช้โปรแกรมคำนวณสินเชื่อลดต้นลดดอกจากสหกรณ์ออมทรัพย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ซึ่งจำนวน 1,893 บาทที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนนั้น จะถูกนำไปหักในส่วนของเงินต้นและอัตราดอกเบี้ย โดยสามารถคำนวณจำนวนที่นำไปหักในส่วนของดอกเบี้ยได้ ดังนี้

  • สูตรคำนวณดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก

    คำนวณหาดอกเบี้ยในแต่ละงวด: (จำนวนเงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ย) ÷ 365 x 31 = จำนวนที่นำไปหักดอกเบี้ยในแต่ละเดือน (31= คิดอัตราดอกเบี้ยเป็นรายวัน)

    แทนค่า: ( 20,000 x 24% ) ÷ 365 x 31 = 408

    เท่ากับว่าค่างวด 1,893 บาทที่จ่ายไปเป็นงวดแรก จะแบ่งออกเป็นดอกเบี้ย 408 บาท และเงินต้น 1,485 บาท โดยในงวดถัดๆ ไปก็แทนค่าด้วยสูตรคำนวณเดียวกัน แต่เปลี่ยนเฉพาะจำนวนเงินต้นคงเหลือ

    หมายความว่าหลังจากจ่ายงวดแรกไปแล้ว จะเหลือเงินต้นเป็นจำนวน 18,515 บาท แม้เดือนถัดไปจะจ่ายค่างวดเป็นจำนวน 1,893 บาทเท่าเดิม แต่เงินจำนวนนี้จะถูกแบ่งเป็นเงินต้น 1,528 บาท และดอกเบี้ย 365 บาท (คิดดอกเบี้ยรายวัน) เนื่องจากเงินต้นในงวดแรกได้ทำให้อัตราดอกเบี้ยถูกลดลงไปอีก

    เพื่อให้เข้าใจตรงกันมากขึ้น ตลอดทั้ง 12 เดือนนั้น ค่างวดของนาย A จะถูกแบ่งไปหักลบเงินต้นและดอกเบี้ย ดังตารางนี้

    อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน คิดยังไง

    จะเห็นได้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายนั้นจะลดลงเรื่อยๆ ตามเงินต้นที่ได้จ่ายไป เมื่อครบ 12 งวด เท่ากับว่านาย A จ่ายดอกเบี้ยรวมทั้งหมด 2,706 บาทเท่านั้น

  • ยิ่งโปะมากเท่าไหร่ หนี้ยิ่งหมดไวมากเท่านั้น

    นอกจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงตามการจ่ายค่างวดแล้ว อีกหนึ่งข้อดีของการคิดดอกเบี้ยประเภทนี้ก็คือ สามารถโปะเงินเพิ่มเพื่อให้หนี้หมดเร็วขึ้นได้

    จากตัวอย่างเดิมของนาย A หากในงวดที่ 2 เขามีเงินเหลือเพียงพอ และจ่ายเพิ่มจากค่างวดปกติ 2,000 บาท เงินจำนวนนั้นจะถูกนำไปจ่ายในส่วนของเงินต้น ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายหลังจากนั้นลดลงไปอีก ดังตารางนี้

    อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน คิดยังไง
    อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน คิดยังไง

    จากกรณีดังกล่าว เมื่อครบกำหนดชำระ จำนวนดอกเบี้ยที่นาย A จ่ายไปรวมทั้งหมดจะเหลือเพียง 2,279 บาทเท่านั้น ลดลงจากปกติถึง 427 บาทเลยทีเดียว นอกจากนี้จำนวนงวดที่ต้องจ่ายก็ลดลงเหลือเพียง 11 งวดเท่านั้น

  • เปรียบเทียบ! คำนวณลดต้นลดดอก vs คำนวณแบบดอกเบี้ยคงที่

    อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าดอกเบี้ยจากการขอสินเชื่อนั้นยังมีอยู่อีกประเภทหนึ่ง นั่นก็คือสินเชื่อแบบดอกเบี้ยคงที่

    ทีนี้เราจะมาดูกันว่า หากเราขอสินเชื่อรูปแบบคงที่ในอัตราดอกเบี้ย 24% ต่อปีเท่ากัน จะสามารถคำนวณอัตราดอกเบี้ย และจำนวนที่ต้องผ่อนชำระออกมาได้ ดังนี้

    สูตรการคำนวณอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่: เงินต้น + [ (เงินต้น x อัตราดอกเบี้ย) x จำนวนปีที่ผ่อนชำระ ] ÷ จำนวนงวดที่ผ่อน = จำนวนที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือน

    แทนค่าด้วยตัวเลข: 20,000 + [ (20,000 x 24%) x 1 = 11,200 ] ÷ 12 = 2,066

    จะเห็นได้ว่าจำนวนดอกเบี้ยจากสินเชื่อแบบคงที่นั้นมีจำนวนมากถึง 4,800 บาท และต้องจ่ายค่างวดผ่อนชำระถึงเดือนละ 2,066 บาทเลยทีเดียว

จากตัวอย่างที่ยกมา เมื่อนำสินเชื่อทั้ง 2 อัตราดอกเบี้ย และระยะเวลาการผ่อนชำระที่เท่ากันมาเปรียบเทียบกันจะเห็นได้ว่า

  • การคำนวณแบบลดต้นลดดอก มีจำนวนดอกเบี้ยตลอดการผ่อนชำระเพียง 2,706 เท่านั้น
  • แต่การคำนวณแบบคงที่ มีจำนวนดอกเบี้ยตลอดการผ่อนชำระถึง 4,800 บาทเลยทีเดียว

เพราะฉะนั้น หากเป็นการขอสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาเท่ากัน เลือกการคำนวณแบบลดต้นลดดอกจะมีความคุ้มค่ายิ่งกว่าแน่นอนครับ

อย่าประมาท! แม้กู้ดอกเบี้ยลดต้นลดดอกก็ต้องระวัง

แม้ว่าการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกจะมีดีกว่าดอกเบี้ยประเภทอื่นๆ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นสินเชื่อ ยังไงก็ต้องมีข้อควรระวังเอาไว้!

เพราะถ้าหากคุณผิดนัดชำระ หรือจ่ายล่าช้า ดอกเบี้ยก็จะถูกคิดจากยอดเงินต้นคงเหลือไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะทำให้คุณต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยที่มากขึ้นกว่าเดิมจากแผนการผ่อนชำระที่กำหนดไว้

อีกทั้งถ้าผิดนัดชำระหนี้เป็นเวลานาน อาจมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาอีก เช่น ค่าติดตามทวงถาม หรืออาจจะต้องผ่อนชำระยาวขึ้นกว่าแผนที่กำหนดไว้ เพราะฉะนั้น จึงต้องระวังเอาไว้ให้ดีๆ นะครับ

เงินติดล้อ พร้อมให้บริการคุณด้านสินเชื่อแบบลดต้นลดดอก

อย่างที่เราได้อธิบายไปในข้างต้นเกี่ยวกับสินเชื่อที่มีการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก หากคุณกำลังอยู่ในภาวะฉุกเฉินด้านการเงิน และต้องการสินเชื่อที่สมเหตุสมผล ลองติดต่อมาที่เงินติดล้อสิครับ

เราคือสถาบันการเงินที่ให้บริการด้านสินเชื่อทะเบียนรถโดยคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ตามหลักการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ไม่เกิน 24% ต่อปี จึงมั่นใจได้ว่าเรามีความเป็นธรรมต่อผู้มาใช้บริการทุกท่านอย่างแน่นอน

ถ้าหากคุณยังไม่มั่นใจ ลองดูข้อดีจากการทำสินเชื่อกับเราก่อนสิครับ

  • เราสินเชื่อรถทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ รถกระบะ หรือแม้แต่รถบรรทุก พร้อมให้ราคาประเมินที่สูง
  • อนุมัติเร็วไม่ต้องรอนาน ให้คุณมีเงินสดฉุกเฉินไปใช้ได้ทันใจ
  • พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง ยินดีผ่อนผันและพิจารณาการประนอมหนี้ หากลูกค้าของเราเกิดปัญหา
  • มีแอปพลิเคชันให้ลูกค้าสามารถติดตามยอดเงิน และการชำระสะดวกยิ่งขึ้น พร้อมด้วยสิทธิพิเศษภายในแอปพลิเคชันมากมาย

รับรองว่าคุณจะมีเงินสดฉุกเฉินนำไปใช้ได้ทันใจ ได้ดอกเบี้ยที่สมเหตุสมผล แถมถ้าจ่ายหนี้ก่อนเวลาอัตราดอกเบี้ยก็ลดลงอีกด้วย