Show คำนำ กระทรวงพลังงาน โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้ออกกฎกระทรวงกำหนดประเภทหรือขนาดของอาคาร และมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2552 ตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2550) โดยมีผลบังคับใช้กับอาคารที่จะขออนุญาตก่อสร้างใหม่หรือดัดแปลงให้มีการออกแบบเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย เนื่องจากสถานการณ์วิกฤตพลังงานในปัจจุบัน คณะรัฐมนตรี โดยข้อเสนอปฏิรูปจากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เห็นควรเร่งผลักดันให้มีการบังคับใช้เกณฑ์มาตรฐานอาคารด้านพลังงาน ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมโยธาธิการและผังเมือง และกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน จึงได้พิจารณาร่วมกันหาแนวทางในการแก้ไขร่างกฎกระทรวงเพื่อให้มีผลบังคับใช้ โดยเห็นชอบร่วมกันที่จะให้มีการบังคับใช้กับอาคารที่มีความพร้อมก่อน และทยอยบังคับใช้กับอาคารทั้ง 9 ประเภท ภายใน 3 ปี (พ.ศ. 2563) โดยปีที่ 1 บังคับกับอาคารขนาดใหญ่พิเศษและอาคารสูง ขนาดตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป ปีที่ 2 บังคับกับอาคารทั้ง 9 ประเภท ขนาดตั้งแต่ 5,000 ตารางเมตรขึ้นไป และปีที่ 3 บังคับกับอาคารทั้ง 9 ประเภท ขนาดตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป คู่มือฉบับนี้ได้รับการจัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่แนวทางการตรวจรับรองแบบอาคารอนุรักษ์พลังงาน ตามพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ให้กับหน่วยงานและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถเตรียมความพร้อมในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน 1. เหตุผลและความจำเป็น กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
ได้ออกกฎกระทรวงกำหนดประเภทหรือขนาดของอาคาร และมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2552 ตามมาตรา 19 แห่ง (1) อาคารสำนักงาน ต้องออกแบบให้เป็นไปตามมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์พลังงาน โดยดำเนินการประหยัดพลังงานตั้งแต่เริ่มต้นการออกแบบด้วยการออกแบบอาคารที่สามารถกันความร้อนเข้าสู่อาคาร การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในอนาคตอันใกล้นี้ คาดว่ากฎกระทรวงกำหนดประเภทหรือขนาดของอาคาร และมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ฉบับแก้ไข จะมีผลบังคับใช้เสมือนกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งจะส่งผลให้อาคารที่จะก่อสร้างใหม่หรืออาคารเดิมที่มีการดัดแปลงเพิ่มเติมส่วนของอาคารที่มีขนาดพื้นที่และประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงจะต้องได้รับการออกแบบให้เป็นไปตามมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวงฉบับแก้ไข นอกจากนี้ ในการยื่นคำขอรับใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคาร ต้องมีการยื่นเอกสารที่มีผู้รับรองว่าอาคารที่จะก่อสร้าง ดัดแปลงได้มีการออกแบบเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พร้อมกับแนบหนังสือรับรองของผู้ออกแบบอาคารเพื่อประกอบการพิจารณาของเจ้าพนักงานท้องถิ่นว่า อาคารดังกล่าวได้ออกแบบให้มีการอนุรักษ์พลังงานเป็นไปตามกฎหมาย และเมื่อได้มีการก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารแล้วเสร็จก่อนยื่นขอใบรับรองการก่อสร้าง ดัดแปลงอาคาร ต้องมีการยื่นเอกสารที่มีผู้รับรองว่าอาคารได้มีการออกแบบเพื่อการอนุรักษ์พลังงานอีกครั้งหนึ่งด้วย ความเชื่อมโยงระหว่างพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535
เพื่อให้การตรวจรับรองแบบอาคารที่จะก่อสร้างใหม่หรือดัดแปลงอาคารตามที่กฎหมายกำหนดสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่ต้องกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมายในเรื่องดังกล่าว จึงได้จัดทำเอกสารฉบับนี้ขึ้น เพื่อใช้ในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการตรวจรับรองแบบอาคารอนุรักษ์พลังงานตามกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการอนุรักษ์พลังงานที่เป็นไปตามเป้าหมายของกระทรวงพลังงานต่อไป 2. มาตรฐานและหลักเกณฑ์ในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานตามกฎหมาย กฎกระทรวงกำหนดประเภทหรือขนาดของอาคาร และมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2552 กำหนดหลักเกณฑ์และสาระสำคัญไว้ดังนี้ มาตรฐานและหลักเกณฑ์ในการออกแบบอาคาร ประกอบด้วย 6 ส่วน ได้แก่
(1) ระบบกรอบอาคาร: ค่าการถ่ายเทความร้อนรวมของผนังด้านนอกของอาคาร (Overall thermal transfer value, OTTV) และค่าการถ่ายเทความร้อนรวมของหลังคาอาคาร (Roof thermal transfer value, RTTV) ในส่วนที่มีการปรับอากาศในแต่ละประเภทอาคาร ต้องมีค่าไม่เกินที่กฎกระทรวงฯ กำหนด ทั้งนี้ อาคารที่มีการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์เพื่อใช้ในอาคาร สามารถนำค่าพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ไปหักออกจากค่าการใช้พลังงานโดยรวมของอาคาร มาตรฐานและหลักเกณฑ์ในการออกแบบอาคาร เกณฑ์การผ่านการตรวจประเมินแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ให้พิจารณาจากเกณฑ์การออกแบบ โดยแบ่งการผ่านเกณฑ์เป็น 2 ทางเลือก โดยพิจารณาจากทางเลือกที่ 1 คือ การผ่านเกณฑ์ทุกระบบ หากผลการตรวจประเมินผ่านทุกรายระบบ ได้แก่ ระบบกรอบอาคาร ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง และระบบปรับอากาศ ก็จะถือว่าอาคารนี้ผ่านเกณฑ์การออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน แต่ถ้าหากมีบางส่วนไม่ผ่านเกณฑ์รายระบบใดระบบหนึ่ง ให้พิจารณาทางเลือกที่ 2 คือการผ่านเกณฑ์การใช้พลังงานโดยรวมของอาคารต่อปี โดยนำค่าการใช้พลังงานโดยรวมของอาคารที่ออกแบบมาเปรียบเทียบกับค่าการใช้พลังงานโดยรวมของอาคารอ้างอิงตามกฎกระทรวง โดยถ้ามีค่าต่ำกว่าจึงถือว่าเป็นการผ่านเกณฑ์การออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานเช่นกัน ทั้งนี้ ทางเลือกที่ 1 และทางเลือกที่ 2 นั้น หากในอาคารมีการใช้อุปกรณ์ผลิตน้ำร้อน อุปกรณ์ดังกล่าวจะต้องผ่านข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพพลังงานของอุปกรณ์ผลิตน้ำร้อนด้วย การผ่านเกณฑ์การออกแบบอาคารอนุรักษ์พลังงาน แนวทางการปรับแก้ไขเกณฑ์กฎกระทรวงฯ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ได้ทำการศึกษา 1. การบังคับใช้มีแนวโน้มจะทยอยบังคับใช้กับอาคารขนาดใหญ่พิเศษ (มีพื้นที่อาคารตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป) ก่อน แล้วจึงใช้กับอาคารขนาดใหญ่ (มีพื้นที่อาคารตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป) 2. แนวโน้มการปรับปรุงเกณฑ์การอนุรักษ์พลังงานในอาคาร และเหตุผลในการปรับปรุง ดังนี้ 3. ผู้ตรวจรับรองแบบอาคารอนุรักษ์พลังงานตามกฎหมาย กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
ได้เริ่มดำเนินการพัฒนาระบบขึ้นทะเบียนผู้ตรวจรับรองแบบอาคารอนุรักษ์พลังงานตามกฎหมาย รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรและดำเนินการฝึกอบรมให้กับบุคลากรที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา เพื่อให้บุคลากรที่ผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดสามารถทำหน้าที่ การฝึกอบรมหลักสูตรผู้ตรวจรับรองการออกแบบอาคารอนุรักษ์พลังงาน (ร่าง) คุณสมบัติของผู้ตรวจรับรองแบบอาคารอนุรักษ์พลังงาน (รอประกาศใช้) (1) มีสัญชาติไทย 4. ขั้นตอนการตรวจรับรองแบบอาคารอนุรักษ์พลังงาน ผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระบวนการตรวจรับรองแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อขออนุญาตก่อสร้าง/ดัดแปลงอาคาร และเพื่อขออนุญาตใช้อาคารที่ก่อสร้าง/ดัดแปลงแล้วเสร็จมีดังนี้ ผู้ตรวจรับรองแบบอาคารจำเป็นต้องได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการประเมินแบบอาคารตามเกณฑ์กฎกระทรวงฯ ข้อมูลดังกล่าว ได้แก่
ข้อมูลเกี่ยวกับแบบก่อสร้าง
ซึ่งนอกจากเอกสารที่ต้องใช้ยื่นขออนุญาตในการก่อสร้างตามปกติแล้ว ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้ 1) ผลประเมินการใช้พลังงานที่ได้จากโปรแกรม BEC หรือโปรแกรมที่น่าเชื่อถืออื่น ตามรายละเอียดที่ได้ของแบบขออนุญาตก่อสร้างอาคาร/รายละเอียดที่ได้ก่อสร้างอาคารจริง (As-built drawing) ตัวอย่างผลการประเมินแบบอาคารอนุรักษ์พลังงาน โดยใช้โปรแกรม BEC 5. การยื่นคำขอรับใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคาร และการยื่นขอใบรับรองการก่อสร้าง ดัดแปลงอาคาร ในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อกฎกระทรวงกำหนดประเภทหรือขนาดของอาคาร และมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ฉบับแก้ไข จะมีผลบังคับใช้เสมือนกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 จะส่งผลให้อาคารที่จะก่อสร้างใหม่หรืออาคารเดิมที่มีการดัดแปลงเพิ่มเติมส่วนของอาคารที่มีขนาดพื้นที่และประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงจะต้องออกแบบให้เป็นไปตามมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวงฉบับใหม่ ซึ่งขั้นตอนการขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ประกอบด้วยขั้นตอนหลัก 2 ขั้นตอน ได้แก่ (1) ขั้นตอนของการยื่นขออนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารก่อนการเริ่มการก่อสร้างจริง (2) เมื่อการก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารแล้วเสร็จ โดยในการยื่นคำขอรับใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคาร ต้องมีการยื่นเอกสารที่มีผู้ตรวจรับรองแบบอาคารอนุรักษ์พลังงาน เป็นผู้รับรองว่าอาคารที่จะก่อสร้าง ดัดแปลงได้มีการออกแบบเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พร้อมกับแนบหนังสือรับรองของผู้ออกแบบอาคารเพื่อประกอบการพิจารณาของเจ้าพนักงานท้องถิ่นว่า อาคารดังกล่าวได้ออกแบบให้มีการอนุรักษ์พลังงานเป็นไปตามกฎหมาย และเมื่อได้มีการก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารแล้วเสร็จก่อนยื่นขอใบรับรองการก่อสร้าง ดัดแปลงอาคาร ต้องมีการยื่นเอกสารที่มีผู้ตรวจรับรองแบบอาคารอนุรักษ์พลังงาน เป็นผู้รับรองว่าอาคารได้มีการออกแบบเพื่อการอนุรักษ์พลังงานอีกครั้งหนึ่งด้วย ขั้นตอนและกระบวนการในการขออนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคาร เอกสารประกอบการการยื่นขออนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคาร
เอกสารประกอบการยื่นขอใบรับรองการก่อสร้าง ดัดแปลงอาคาร
การอนุรักษ์พลังงานในอาคารมีอะไรบ้างกิจกรรมการอนุรักษ์พลังงานในอาคารตามมาตรา 17 ได้แก่ การดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ 1. การลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่เข้ามาในอาคาร 2. การปรับอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการรักษาอุณหภูมิภายในอาคารที่อยู่ระดับที่เหมาะสม 3. การใช้วัสดุก่อสร้างอาคารที่จะช่วยอนุรักษ์พลังงาน ตลอดจนการแสดงคุณภาพของวัสดุก่อสร้างนั้นๆ
การอนุรักษ์พลังงานใน โรงงาน มี อะไร บ้างการอนุรักษ์พลังงานในโรงงาน. 1. การปรับปรุงประสิทธิภาพของการเผาไหม้เชื้อเพลิง. 2. การป้องกันการสูญเสียพลังงาน. 3. การนำพลังงานที่เหลือจากการใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่. 4. การเปลี่ยนไปใช้พลังงานอีกประเภทหนึ่ง. 5. การปรับปรุงการใช้ไฟฟ้าด้วยวิธีปรับปรุงตัวประกอบกำลังไฟฟ้า การลดความต้องการพลังงานไฟฟ้าสูงสุดในช่วงความต้องการใช้. การอนุรักษ์พลังงาน มีอะไรบ้างมาตรการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม. ปิดสวิตช์ไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดเมื่อเลิกใช้งาน สร้างให้เป็นนิสัยในการดับไฟทุกครั้งที่ออกจากห้อง. ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน. หมั่นทำความสะอาดหลอดไฟจะช่วยเพิ่มแสงสว่าง โดยไม่ต้องใช้พลังงานมากขึ้น ควรทำอย่างน้อย 4 ครั้งต่อปี. กิจกรรมที่ถือว่าเป็นการอนุรักษ์พลังงานในโรงงานตามมาตรา 7 ประกอบด้วยอะไรบ้างมาตรา 7 การอนุรักษ์พลังงานในโรงงานได้แก่การดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ (1) การปรับปรุงประสิทธิภาพของการเผาไหม้เชื้อเพลิง (2) การป้องกันการสูญเสียพลังงาน (3) การนำพลังงานที่เหลือจากการใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่
|