การปฏิวัติอุตสาหกรรมเมื่อ พุธ, 25/08/2010 - 09:01 | แก้ไขล่าสุด พุธ, 25/08/2010 - 09:01| โดย nsspramote Show
1.ความหมายของการปฏิวัติอุตสาหกรรมและเกิดขึ้นที่ประเทศใด 2.ทำไมการปฏิวัติอุตสาหกรรมในระยะแรกจึงเรียกว่า "สมัยแห่งพลังไอน้ำ" 3.ทำไมการปฏิวัติอุตสาหกรรมในระยะที่2จึงเรียกว่า "การปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคเหล็กกล้า" 4.ให้อธิบายแสดงความก้าวหน้าและการขยายตัวของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 5.ให้อธิบายผลของการปฏิวัติอุตสาหกรรม ........................ครูเชื่อว่าเราทำได้แล้วจะรอตรวจนะครับ.......กำหนดถึงก่อนสอบปลายภาค.......................... Highlight
การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา อยู่ที่ว่าเราจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนั้นอย่างไร โดยเฉพาะการปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) ที่แต่ละครั้งพลิกโฉมโลกไปอย่างสิ้นเชิง เปลี่ยนทั้งวิถีชีวิต ความคิด และกระบวนการทำงาน ซึ่งปัจจุบันเราเข้าสู่ยุค ปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 หรือ The Fourth Industrial Revolution (4IR) แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นใคร ทำงานอะไร หรืออยู่ตำแหน่งไหน หนีไม่พ้นการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้ ทุกคนจึงต้องตื่นตัวและก้าวทันโลกใบใหม่อยู่เสมอ เพื่อเอาตัวรอด และคว้าโอกาสท่ามกลางการปฏิวัติที่เกิดขึ้น Contents
ย้อนประวัติศาสตร์ปฏิวัติอุตสาหกรรม ที่ผ่านมามียุคอะไรบ้างการปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) คือ การเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและระบบการผลิตให้แตกต่างไปจากเดิม ตั้งแต่จากครัวเรือนเล็ก ๆ ไปจนถึงระบบอุตสาหกรรมโรงงาน หรือจากการใช้แรงงานคนและสัตว์ ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งที่ผ่านมาโลกได้ผ่านการปฏิวัติอุตสาหกรรมมาแล้ว 3 ครั้ง ได้แก่ การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 1 (The First Industrial Revolution)เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศอังกฤษ ปี 1784 จากเดิมที่ใช้แรงงานคนและสัตว์เป็นหลัก เปลี่ยนมาเป็นการใช้ เครื่องจักร เป็นตัวทุ่นแรง ตัวการสำคัญก็คือการเกิดขึ้นของเครื่องจักรไอน้ำโดยนักประดิษฐ์ชื่อดัง เจมส์ วัตต์ (James Watt) ที่พัฒนามาจากตัวต้นแบบของ โทมัส นิวโคเมน (Thomas Newcomen) นับเป็นจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมโรงงานที่เข้ามาแทนระบบเกษตรกรรมแบบเดิม โดยเฉพาะการบุกเบิกเครื่องทอผ้าในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ทำให้เกิดการขยายตัวครั้งมโหฬารของการผลิตด้วยเครื่องจักรในทุกอุตสาหกรรม การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 (The Second Industrial Revolution)การปฏิวัติครั้งนี้เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 1870 เป็นการเปลี่ยนจากพลังงานถ่านหินมาสู่การใช้พลังงานไฟฟ้า ก๊าซ และน้ำมัน รวมไปถึงการเกิดขึ้นของ ระบบสายพาน จาก เฮนรี ฟอร์ด (Henry Ford) ที่เร่งประสิทธิภาพการผลิตรถยนต์ให้สูงขึ้น ทั้งรวดเร็วและลดต้นทุน จนทุก ๆ อุตสาหกรรมหันมาใช้ตาม เกิดเป็นยุคการผลิตที่สินค้าหน้าตาเหมือนกันจำนวนมากหรือ Mass Production อย่างที่เรารู้จัก การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 3 (The Third Industrial Revolution)การเกิดขึ้นของไฟฟ้านำมาสู่การพัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และจุดเปลี่ยนสำคัญของยุคนี้ก็คือ คอมพิวเตอร์ นั่นเอง คอมพิวเตอร์เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1946 และเริ่มนำมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมเมื่อปี 1969 ทำให้เกิดการผลิตแบบอัตโนมัติ สามารถผลิตสินค้าที่มีความซับซ้อนได้ ส่งผลให้กระบวนการผลิตยิ่งมีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานมากขึ้น ปัจจุบันแทบไม่มีอุตสาหกรรมไหนที่ไม่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการทำงานแล้ว เพราะมันได้กลายเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่ทุกคนเข้าถึงได้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเรากำลังเข้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 นับการปฏิวัติที่มีพื้นฐานมาจากเทคโนโลยียุคนี้ การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 คืออะไรการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (The Fourth Industrial Revolution – 4IR) มีอีกชื่อหนึ่งว่า อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) คือ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาผสมกับโลกการผลิตเชื่อมโยงเครื่องข่ายในรูปแบบอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things – IoT) รวมไปถึงการใช้งานระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) และจักรกลเรียนรู้ (Machine Learning – ML) ทำให้เกิดการผลิตระบบอัติโนมัติที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เครื่องจักรสามารถวิเคราะห์ปัญหาและแก้ไขปัญหาเองได้ โดยปราศจากการแทรกแซงจากมนุษย์ ความแตกต่างจากการปฏิวัติครั้งที่ 3 ก็คือ จากเดิมเป็นการผลิตแบบเดียวจำนวนมากในเวลาไม่นาน แต่ยุค 4.0 จะผลิตสินค้าได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการของผู้บริโภคแต่ละคน ทำให้เกิดความพึงพอใจที่ต่างแตกกันไป ตัวอย่างเทคโนโลยี Industry 4.0 มีอะไรบ้าง
การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ส่งผลกระทบอะไรกับ HRย้อนกลับไปในปี 2016 มีการพูดคุยถึงผลกระทบจาก 4IR ว่าจะส่งผลอะไรต่อมนุษยชาติบ้าง ซึ่งในกรณีของฝ่ายทรัพยากรบุคคล หรือ ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (Human Resources : HR) มีข้อมูลว่าที่น่าสนใจว่า 65% ของเด็กเล็กที่เพิ่งสมัครเรียนในปีนั้น อนาคตจะจบมาทำงานใหม่ที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นในตอนนี้ด้วยซ้ำ สอดคล้องกับข้อมูลจาก World Economic Forum ที่คาดการณ์ว่า ในปี 2025 งานต่าง ๆ ของมนุษย์จะถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรคอมพิวเตอร์กว่า 50% ขณะเดียวก็จะสร้างงานใหม่ ๆ มากกว่า 133 ล้านงานทั่วโลก นั่นแปลว่า HR จะมีงานใหม่จำนวนมหาศาล ที่รอให้คุณไปทำความรู้จักและเรียนรู้มัน ราวิน เจสุธาสาน (Ravin Jesuthasan) Managing Director จาก Willis Towers Watson ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอนาคตของการทำงาน เคยแสดงความคิดเห็นถึงผลกระทบของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นกำลังมอบโอกาสพิเศษให้กับ HR ในการกำหนดภารกิจใหม่และพัฒนาหน้าที่การงานตัวเอง HR จะประสบความสำเร็จได้โดยการเกี่ยวข้องกับ ‘งาน’ ทั้งองค์กร ไม่ใช่การจ้างพนักงานอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการการันตีคุณภาพของพนักงาน การสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ และการประเมินทักษะด้วย” ความท้าทายของ HR ในยุคปฏิวัติอุสาหกรรม 4.0การเปลี่ยนแปลงนำมาซึ่งความท้าทายเสมอ โดยความท้าทายแรกของ HR ก็คือ การสรรหาพนักงานให้มีคุณสมบัติตรงกับตำแหน่งงานใหม่ที่จะเกิดขึ้น บทบาทการทำงาน HR จะมากขึ้นโดยเฉพาะการต้องมีทักษะวิเคราะห์และความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อจะได้สรรหาบุคคลากรให้เหมาะกับตำแหน่งใหม่นั้น ๆ ต่อมาคือความท้าทายในการสร้างการรักษาพนักงานมืออาชีพให้อยู่กับเรา เพราะอนาคตผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจะเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน การแข่งขันแย่งตัวพนักงานจะยิ่งรุนแรงขึ้น สุดท้ายก็คือความท้าทายในการสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นให้พนักงานอยากเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ เพิ่มเติม เพื่อพร้อมปรับตัวเข้าสู่ Digital Transformation นั่นเอง เพราะฉะนั้น ถ้าอุตสาหกรรมยังเป็นอุตสาหกรรม 4.0 ได้ ถึงเวลาแล้วล่ะ ที่ HR เองก็จะต้องปรับตัวเข้าสู่การเป็น HR 4.0 เช่นกัน บทบาทของ HR ในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้บทบาท HR ต้องเปลี่ยนไป ซึ่งเว็บไซต์ Lifexchangesolutions กล่าวถึงบทบาทของฝ่ายทรัพยากรบุคคลในยุค 4IR ไว้ 4 ประการดังนี้
กล่าวสรุปก็คือ บทบาทของ HR จะมีความสำคัญมากขึ้นในองค์กร ทุกคนจึงต้องพัฒนาตัวเองและพัฒนาพนักงานผ่านการ Re-Skill, Up-Skill ฉะนั้นทรัพยากรบุคคลจึงเตรียมทักษะใหม่ที่จำเป็นต่อการเติบโตขององค์กรให้พร้อมเสมอ คุณก็เป็น Freelance HR ได้นะ! SourcedOut แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับ Freelance HR สรรหามืออาชีพ ที่จะทำให้คุณทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมการันตีรายได้เสริมสูง! กลยุทธ์การสร้างพนักงานในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4พัฒนาศักยภาพใหม่ของผู้นำสำหรับ 4IRไม่ใช่แค่พัฒนาพนักงาน แต่ HR ต้องพัฒนาศักยภาพผู้นำในองค์กรด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับธุรกิจ, การสร้างวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ ในการขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร และกำหนดกลยุทธ์ในการพัฒนาบุคคล จัดการบูรณาการเทคโนโลยีให้กับพนักงานHR จะต้องการร่วมมือกับผู้บริหารระดับสูง CEO หรือ C-level เพื่อผสมผสานการทำงานระหว่างบุคคลและเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติให้ลงตัว พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจให้ได้ว่า การบูรณาการดังกล่าวจะเกิดผลดีต่อการทำงานในอนาคต ยกระดับประสบการณ์ของพนักงานการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเรียกร้องให้พนักงานเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานจนเกิดเป็นประสบการณ์ใหม่หรือความเชี่ยวชาญใหม่ HR จึงมีบทบาทในการกำหนด ประเมินผล และทำให้ประสบการณ์นั้น ๆ มีคุณค่ามากขึ้น สร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่คล่องตัวและเหมาะสมสำหรับแต่ละคนแน่นอนว่า หน้าที่หลักของ HR คือการสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้อยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม แต่ละตำแหน่งก็มีความต้องการความรู้หรือทักษะใหม่ ๆ ที่แตกต่างกัน หรือทักษะบางอย่างก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป HR จึงต้องเลือกการเรียนรู้ทักษะให้เหมาะสมกับแต่ละคน ผ่านเทคนิค learn, unlearn และ relearn กำหนดตัวชี้วัดเพื่อประเมินคุณค่าของทุนมนุษย์เพราะความสำเร็จประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือตัวพนักงานที่เป็นหนึ่งในสินทรัพย์อันมีค่าขององค์กร HR จึงควรมีหน่วยวัดที่ชัดเจนเพื่อแยกความสำคัญของทุนมนุษย์ และบ่งบอกได้ว่าทุนมนุษย์นี่แหละเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนศักยภาพและประสิทธิภาพขององค์กร ส่งเสริมความหลากหลายและไม่แบ่งแยกกันต่อไปองค์กรจะเต็มไปความหลากหลายทางสังคม ชนชั้น เชื้อชาติ หรือแม้กระทั่งความคิดเห็นทางการเมือง HR จึงมีหน้าที่สร้างความรู้สึกเป็นอันหนึ่งเดียวกันของพนักงาน เพื่อก่อให้เกิดความเท่าเทียมและเคารพซึ่งกันและกัน เพราะความหลากหลายของพนักงานก็สามารถสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรได้ดีทีเดียว HR มีข้อสงสัยหรือคำถามเกี่ยวกับประเด็นนี้Q: HRD professional จะช่วยสนับสนุนคนที่ทำงานอยู่ในสายงานเทคโนโลยี/ความคิดสร้างสรรค์ที่ความรู้ตกยุคไวมากๆ ได้อย่างไร ในบางธุรกิจหรือบางอุตสาหกรรมความรู้ตกยุคเร็วมากครับ อย่างผมเองก็ทำงานเป็น HR ในบริษัทสายไอทีซึ่งต้องบอกว่าพนักงานถูกดึงตัวกันเป็นว่าเล่น แถมเวลาจะหาพนักงานใหม่ซักคนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าพนักงานหมุนตามเทคโนโลยีไม่ทันอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างมากแน่ๆ ครับ A: เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าเป็นความท้าทางของเกือบทุกองค์กร ทุกคนต้องใช้เทคโนโลยีในการขับเคลื่อนองค์กรหรือเป็น Core Business ค่ะ ตอนนี้ IT เป็นบุคลากรที่ขาดแคลนและหายาก เพราะโลกเปลี่ยนไว ความรู้ใหม่เกิดไว คนพัฒนาไม่ทันการเปลี่ยนแปลง เลยอยากขอแชร์เทรนด์เรื่องนี้จากงานวิจัยของต่างประเทศดังนี้ค่ะ,,, (คลิกดูคำตอบทั้งหมด👇)
ตัวอย่างการปรับตัวในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่า แล้วเราจะปรับตัวในช่วง 4IR ยังไงดี เพื่อแสดงให้เห็นมาตรการที่เป็นรูปธรรม เราขอยกตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงจาก 2 องค์กรใหญ่ว่าเขามีการปรับกระบวนทัศน์อย่างไรบ้าง Unilever – บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ ได้ปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงไว้ 3 ข้อ คือ
PwC – บริษัทตรวจสอบบัญชีขนาดใหญ่ มีแนวทางในการรับมือ 4IR ทั้งหมด 3 ข้อ คือ
บทสรุปถึงตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกของเราได้เข้าสู่ยุค 4IR เป็นที่เรียบร้อย เห็นได้จากเทคโนโลยีที่นับวันจะล้ำขึ้นเหมือนหลุดออกมาจากหนัง นี่คือยุคสมัยอันน่าตื่นเต้นของการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมาพร้อมโอกาสมหาศาลที่กำลังรอเราอยู่ อยู่ที่ว่าเราจะเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างไร นับเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 เพราะหลังจากวันนี้ โลกของเราจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป คุณมีปัญหาหรือคำถามที่ต้องการหาคำตอบใช่หรือเปล่า? หากคุณรู้สึกว่าได้รับเทคนิคดี ๆ จากบทความนี้และอยากได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก สามารถตั้งคำถามได้ในชุมชนของเรา ! แล้วคุณจะได้รับคำตอบมืออาชีพจากผู้เชี่ยวชาญ ที่มา
การปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 มีผลกระทบอย่างชัดเจนทางด้านสังคมอย่างไรการปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 มีผลกระทบอย่างชัดเจนทางด้านสังคมอย่างไร มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดช่องวางระหว่างชนชั้นมากขึ้น ชาวชนบทอพยพเข้าสู่ตัวเมืองเพิ่มมากขึ้น
การปฏิวัติอุตสาหกรรมระยะที่สองต่างจากระยะแรกในประเด็นใดการปฏิวัติอุตสาหกรรมแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ การปฏิวัติอุตสาหกรรมระยะแรกใน ระหว่าง ค.ศ 1760-1840 เป็นระยะที่มีการประดิษฐ์เครื่องจักรช่วยในการผลิตและการปรับปรุง โรงงานอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพ และการปฏิวัติอุตสาหกรรมระยะที่ 2 ระหว่าง ค.ศ. 1861- 1865 เป็นการปรับปรุงการคมนาคมสื่อสาร ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จของอุตสาหกรรม ...
การปฏิวัติอุตสาหกรรมมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์อย่างไรการปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์โลก ซึ่งส่งผลกระทบในเกือบทุกแง่มุมของชีวิตประจำวันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือการที่รายได้และจำนวนประชากรโดยเฉลี่ยเริ่มที่จะขยายตัวอย่างยั่งยืนในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้สองร้อยปีหลังจาก ค.ศ. 1800 ค่าเฉลี่ยรายได้ต่อหัวของโลกขยายตัวมากกว่าสิบ ...
การปฏิวัติอุตสาหกรรมหมายถึงการเปลี่ยนแปลงในเรื่องใดการปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) คือ การเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและระบบการผลิตให้แตกต่างไปจากเดิม ตั้งแต่จากครัวเรือนเล็ก ๆ ไปจนถึงระบบอุตสาหกรรมโรงงาน หรือจากการใช้แรงงานคนและสัตว์ ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งที่ผ่านมาโลกได้ผ่านการปฏิวัติอุตสาหกรรมมาแล้ว 3 ครั้ง ได้แก่
|