รู้ได้อย่างไรว่าเป็นก้อนที่ต่อมไทรอยด์ ไทรอยด์เป็นพิษ และไม่เป็นพิษ ก้อนที่ไทรอยด์ เป็นโรคอะไรได้บ้าง ผู้ป่วยที่มี ก้อนที่ต่อมไทรอยด์เพียงก้อนเดียว อาจเป็นโรคต่างๆ ได้ดังนี้
หากก้อนที่ต่อมไทรอยด์ เป็นมะเร็งจะมีอาการอย่างไร การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ ข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ 1. เนื้องอกของต่อมไทรอยด์(nodules)ที่สงสัยว่าจะเป็นมะเร็ง
การรักษาด้วยการผ่าตัด สามารถทำได้ 2 วิธีคือ 1. การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ด้วยวิธีปกติ วิธีนี้ แพทย์จะลงแผลตามแนวนอนบริเวณกลางลำคอ และเข้าไปตัดต่อมไทรอยด์ในข้างที่มีก้อนออก หรืออาจตัดออกทั้ง 2 ข้าง ในกรณีพิสูจน์ได้อย่างแน่ชัดว่าเป็นมะเร็ง
รูปแผลเป็นจากการผ่าตัดต่อมไทรอยด์แบบเปิด 2. การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ด้วยกล้อง โดยการลงแผลขนาดเล็กบริเวณรักแร้ หรือบริเวณแผ่นอก แล้วสอดกล้องและเครื่องมือ เพื่อเข้าไปผ่าตัดต่อมไทรอยด์ข้างที่มีก้อนออก วิธีนี้มีข้อดีคือ สามารถซ่อนบาดแผลไว้ในบริเวณใต้ร่มผ้า แต่มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถทำในผู้ที่มีก้อนใหญ่มากๆ หรือจะไม่พิจารณาการผ่าตัดผ่านกล้องในกรณีที่สงสัยว่าเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์
รูปแผลเป็นจากการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ผ่านกล้องจะมีแผลเป็นแค่บริเวณรักแร้
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการผ่าตัดไทรอยด์ ข้อดีของการผ่าตัดส่องกล้องเมื่อเทียบกับแบบเปิดที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ จะไม่มีแผลเป็นที่คอ ทั้งนี้ลงแผลผ่าตัดที่ไหนก็จะมีแผลเป็นที่นั่น เช่น ผ่าตัดส่องกล้องผ่านทางรักแร้ ก็จะมีแผลเป็นที่แนวพับของรักแร้เป็นต้น ผ่าตัดส่องกล้องผ่านทางหัวนม ก็จะมีแผลเป็นตรงรอยต่อระหว่างหัวนมกับผิวหนัง และผ่าตัดส่องกล้องผ่านทางปาก แผลจะถูกซ่อนไว้ในร่องระหวางฟันล่างกับริมฝีปากล่าง ทำให้ไม่มีแผลเป็น 100% ที่ผิวหนังนั่นเอง นอกจากนั้น การผ่าตัดส่องกล้องจะฟื้นตัวเร็วกว่าและเจ็บน้อยกว่าผ่าตัดแบบเปิด 3. ผ่าตัดไทรอยด์เสร็จแล้วมีอาการชา และต้องกินแคลเซียม?ต่อมพาราไทรอยด์ ทำหน้าที่ผลิตพาราไทรอยด์ฮอร์โมน ซึ่งมีผลต่อระดับแคมเซียมในกระแสเลือด ต่อมพาราไทรอยด์วางอยู่ชิดกับต่อมไทรอยด์ ข้างละ 2 ต่อม ทั้ง 2 ข้าง ในการผ่าตัดไทรอยด์ข้างใดข้างหนึ่งมักจะไม่เกิดปัญหานี้เนื่องจากอีกข้างยังมีต่อมพาราไทรอยด์อยู่นั่นเอง ปัญหามักจะเกิดกับคนที่จะต้องได้รับการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ทั้ง 2 ข้างออกไป ซึ่งอาจจะตัดเอาพาราไทรอยด์ออกไปด้วยก็ได้ ทำให้แคลเซียมในกระแสเลือดต่ำ เกิดอาการชาตามมา ศัลยแพทย์ที่ผ่าตัดจะพยายามเก็บรักษาต่อมพาราไทรอยด์ทั้ง 4 ต่อมไว้ อีกกรณีหนึ่งคือ เก็บต่อมพาราไทรอยด์ไว้ได้ แต่เนื่องจากขณะผ่าตัดทำการเลาะเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงต่อมพาราไทรอยด์ อาจเกิดการขาดเลือดชั่วคราว ทำให้ต่อมทำงานได้ไม่เต็มที่ชั่วคราว เมื่อระยะเวลาผ่านไปก็กลับมาทำงานปกติ 4. ผ่าตัดไทรอยด์ออกไปแล้วต้องทานยาต่อหรือไม่? ถ้าผ่าตัดเพียงแค่ข้างเดียวออกไป ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาฮอร์โมนต่อ เนื่องจากเหลือต่อมไทรอยด์ไว้เพียงแค่ข้างเดียวก็สามารถทำงานได้ปกติ (จริงๆเหลือปริมาณไทรอยด์แค่ 4 กรัม ก็สามารถทำงานได้) แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องตัดออกหมดทั้งสองข้าง คนไข้จำเป็นต้องรับประทานไทรอยด์ฮอร์โมนเม็ดเล็กๆสีขาว ตลอดไป 5. ก้อนไทรอยด์ที่คอใหญ่ขนาดไหนถึงจะผ่าตัดส่องกล้องไม่ได้ ? สำหรับการผ่าตัดส่องกล้องทางรักแร้ ขนาดไทรอยด์ที่เหมาะสมจะอยู่ที่ไม่เกิน 6-7 ซม. และทำได้เพียงข้างเดียว ถ้ามีก้อน 2 ข้าง ก็ต้องเข้าทางรักแร้ทั้งสองข้าง และผ่าตัดได้ทั้งสองข้าง พึงระลึกไว้เสมอว่า ยิ่งขนาดใหญ่มากเท่าใด การผ่าตัดก็จะยาก
และโอกาสผ่าตัดส่องกล้องสำเร็จก็จะน้อยตามไปด้วย สำหรับโรคไทรอยด์เป็นพิษ ปัจจุบันแนะนำให้เริ่มรักษาจากการรับประทานยาไปก่อนเป็นเวลา 2 ปี จะพิจารณาผ่าตัดก็ต่อเมื่อ -รับประทานยาไปแล้วมากกว่า 2 ปี ระดับฮอร์โมนยังสูงอยู่ -มีภาวะตาโปนหรือภาวะแทรกซ้อนอื่นที่เกิดจากภาวะไทรอยด์เป็นพิษ -แพ้ยาหรือไม่สามารถทนต่อการทานยาที่รักษาได้ เป็นต้น 7. ผ่าตัดไทรอยด์แล้วกลับบ้านได้เลยหรือไม่ และมีค่าใช้จ่ายในการรักษาเท่าไหร่? หลังผ่าตัด ไทรอยผ่านกล้องเสร็จรียบร้อยจะนอนพักฟื้นใน รพ.ประมาณ 3 วัน จึงจะให้กลับบ้าน ค่าใช้จ่าย ในการผ่าตัดไทรอยด์ผ่านกล้องประมาณ 200,000 บาท
แผลผ่าตัดไทรอยด์ผ่านกล้องผ่านทางรักแร้ 8. ก่อนและหลังผ่าตัดต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง? ก่อนผ่าตัดไทรอยด์ผ่านกล้อง สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ ไม่มีอาหารที่ต้องงดแต่อย่างใด ยกเว้น งดรับประทานยาละลายลิ่มเลือดและอาหารเสริมจำพวกน้ำมันปลา .เนื่องจากมักจะทำให้เลือดออกง่าย ก่อนการผ่าตัดพยายามหลีกเลี่ยงที่ชุมชนที่เสี่ยงต่อการติดหวัดเนื่องจากจะไม่สามารถดมยาสลบได้ หลังผ่าตัดในช่วง 24 ชั่วโมงแรก พยายามอย่าขากเสลดแรง หรือไอแรงๆ หรือตะโกนเสียงดัง เนื่องจากเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกได้ง่าย ส่วนการปฏิบัติตัวอื่นสามารถทำได้ตามปกติ เนื่องจากมักจะทำให้เลือดออกง่าย ก่อนการผ่าตัดพยายามอย่าเป็นหวัดเนื่องจากจะไม่สามารถดมยาสลบได้ หลังผ่าตัดในช่วง 24 ชั่วโมงแรก พยายามอย่าขากเสลดแรง หรือไอแรงๆ หรือตะโกนเสียงดัง เนื่องจากเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกได้ง่าย ส่วนการปฏิบัติตัวอื่นสามารถทำได้ตามปกติพว.วนิดา วิปุลานุสาสน์ |