การสื่อสารข้อมูล Show
สื่อกลางการสื่อสารข้อมูล ที่มา: ภาพจากหนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้น ม.4 ของ อจท. 2) สื่อกลางไร้สาย (wireless media) เป็น การเชื่อมต่อที่ไม่ต้องใช้สายสัญญาณเป็นสื่อกลางในการสื่อสารระหว่างผู้รับ และผู้ส่งข้อมูลแต่จะใช้อากาศเป็นสื่อกลาง ตัวอย่างสื่อกลางไร้สาย มีดังนี้ ที่มา: ภาพจากหนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้น ม.4 ของ อจท. 2.1) อินฟราเรด (infrared) เป็นการสื่อสารโดยใช้คลื่นแลงที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
สามารถส่งข้อมูลระยะไม่ไกล การส่งข้อมูลด้วยคลื่นอินฟราเรดต้องส่งในแนวเส้นตรง และไม่สามารถมองทะลุสิ่งกีดขวางที่มีความหนาได้ นิยมใช้ในการถ่ายโอนข้อมูลสำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น โน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์หรือเครื่องพีดีเอไปยังคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เป็นต้น ที่มา: ภาพจากหนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้น ม.4 ของ อจท. วิธีการถ่ายโอนข้อมูล วิธี การถ่ายโอนข้อมูลเป็นวิธีการส่งสัญญาณออกจากอุปกรณ์ส่งข้อมูลและการรับ สัญญาณด้วยอุปกรณ์รับข้อมูล วิธีการถ่ายโอนข้อมูล มี 2 วิธี ดังนี้
ที่มา: ภาพจากหนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้น ม.4 ของ อจท. 1) การ ถ่ายโอนข้อมูลแบบขนาน เป็นการส่งข้อมูลออกทีละ 1 ไบต์ หรือ 8 บิต จากอุปกรณ์ส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์รับข้อมูล ดังนั้น สื่อกลางหรือสายสัญญาณระหว่างอุปกรณ์ส่งข้อมูลและอุปกรณ์รับข้อมูล จึงต้องมีช่องทางให้ข้อมูลเดินทางอย่างน้อย 8 ช่องทางขนานกัน เพื่อให้สัญญาณไฟฟ้าผ่านไปได้ และระยะทางของสายสัญญาณแบบขนานไม่ควรยาวเกิน 100 ฟุต เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาสัญญาณสูญหายไป เนื่องจากความต้านทานของสาย นอกจากนี้อาจมีปัญหาที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าในสายดินส่งคลื่นไปก่อกวนการทำงาน ของอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้ผู้รับได้รับสัญญาณที่ผิดพลาดได้ที่มา: ภาพจากหนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้น ม.4 ของ อจท.
2)การถ่ายโอนข้อมูลแบบอนุกรม เป็นการส่งข้อมูลออกทีละ 1 บิต ระหว่างอุปกรณ์ส่งข้อมูลและอุปกรณ์รับข้อมูล ดังนั้น สื่อกลางหรือสายสัญญาณระหว่างอุปกรณ์ส่งข้อมูลและอุปกรณ์รับข้อมูล จึงต้องมีช่องทางให้ข้อมูลเดินทางเพียง 1 ช่องทาง หรือสายตีเกลียวคู่เพียงคู่เดียว ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าแบบขนานการถ่ายโอนข้อมูลแบบอนุกรมจะเริ่มด้วยข้อมูลจากอุปกรณ์ส่งข้อมูลจะถูก เปลี่ยนให้เป็นสัญญาณอนุกรมเสียก่อน แล้วค่อยทยอยส่งออกทีละบิตไปยังอุปกรณ์รับข้อมูลและที่อุปกรณ์รับข้อมูลจะมี กลไกในการเปลี่ยนข้อมูลที่ส่งมาทีละบิต
ให้เป็นสัญญาณแบบขนาน เช่น บิตที่ 1 ลงที่บัสข้อมูลเส้นที่ 1 ดังแสดงในรูป เป็นต้น ความเร็วของการถ่ายโอนข้อมูลแบบอนุกรม มีหน่วยวัดเป็นบิตต่อวินาที (bps) การถ่ายโอนข้อมูลแบบอนุกรม อาจจะแบ่งตามทิศทางในการรับและส่งข้อมูลได้ 3 แบบ ดังนี้ ที่มา: ภาพจากหนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้น ม.4 ของ อจท. 2.2) แบบสื่อสารสองทางครึ่งอัตรา (half duplex)การ ติดต่อสื่อสารแบบกึ่งคู่ มีลักษณะการส่งข้อมูลได้สองทิศทางแบบสลับ แต่ละสถานีสามารถทำหน้าที่ได้ทั้งรับและส่งข้อมูล แต่จะผลัดกันส่งและผลักกันรับ จะส่งและรับข้อมูลในเวลาเดียวกันไม่ได้ เช่น วิทยุสื่อสารของตำรวจ วิทยุสื่อสารของระบบขนส่ง การรับส่งโทรสาร (Fax)เป็นต้น ที่มา: ภาพจากหนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้น ม.4 ของ อจท. p align="left">2.3) สื่อสารทางเต็มอัตรา (full duplex)การ ติดต่อสื่อสารแบบทางคู่มีลักษณะการส่งข้อมูลได้สองทิศทางพร้อมกัน กล่าวคือ สามารถรับและส่งข้อมูลได้พร้อมกันในเวลาเดียวกัน ทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลารอ เช่น การสนทนาทางโทรศัพท์ การสนทนาอินเทอร์เน็ต เป็นต้น ont> ที่มา: ภาพจากหนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้น ม.4 ของ อจท. รูปแบบการเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 1) การเชื่อมต่อแบบวงแหวน (ring topology)เป็นการเชื่อมต่อสายสัญญาณจากสถานีเชื่อมโยง (node)หนึ่ง ไปยังอีกสถานีเชื่อมโยงหนึ่ง
โดยเครื่องหรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์แต่ละตัวจะเชื่อมต่อกันทางด้านข้างทั้ง 2 ด้าน จนเกิดเป็นวงกลมหรือลูป (loop)การส่งสัญญาณจะมีการรับและส่งข้อมูลต่อกันไปในทิศทางเดียวกัน จนกระทั่งถึงสถานีปลายทาง จากนั้น สถานีปลายทางจะส่งสัญญาณตอบรับว่าได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ที่มา: ภาพจากหนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้น ม.4 ของ
อจท. ที่มา: ภาพจากหนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้น ม.4 ของ
อจท. 2) การเชื่อมต่อแบบบัส (bus topology) เป็น การใช้ช่องทางการสื่อสารร่วมกันโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในเครือข่าย จะเชื่อมต่อเข้ากับสายหลักเพียงเส้นเดียว เรียกว่าสาย แบ็กโบน (backbone) ที่มา: ภาพจากหนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ชั้น ม.4 ของ อจท. 3) การเชื่อมต่อแบบดาว (star topology) เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละตัวเข้ากับจุดศูนย์กลางของเครือข่าย โดยใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า ฮับ (hub) หรือ สวิตช์ (switch) ที่มา: ภาพจากหนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้น ม.4 ของ อจท. 4)
การเชื่อมต่อแบบผสม (hybrid topology) เป็น การผสมผสานรูปแบบการเชื่อมต่อแบบต่างๆเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อแบบวงแหวน การเชื่อมต่อแบบบัส หรือ การเชื่อมต่อแบบดาว โดยออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นจริง ข้อใดเป็นตัวกลางของการสื่อสารตัวกลางการสื่อสาร เป็นสื่อที่ต่อเชื่อมการสื่อสารระหว่างผู้ส่งและผู้รับข้อมูล ตังกลางที่ใช้ในการ สื่อสารแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือสื่อนาข้อมูลแบบมีสาย ( wired media )และสื่อนาข้อมูลแบบไร้ สาย ( wireless media ) 1. สื่อนาข้อมูลแบบมีสาย ( wired media ) สื่อข้อมูลแบบมีสายที่นิยมใช้มี3 ชนิดดังนี้ 1.1 สายคู่บิตเกลียว ( ...
ตัวกลางในการสื่อสารมีความสำคัญอย่างไร1. ป้องกันการรบกวนจากสัญญาณไฟฟ้าได้มาก 2. ส่งข้อมูลได้ระยะไกลโดยไม่ต้องมีตัวขยายสัญญาณ 3. การดักสัญญาณทำได้ยาก ข้อมูลจึงมีความปลอดภัยมากกว่าสายส่งแบบอื่น 4. ส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูงและสามารถส่งได้มาก ขนาดของสายเล็กและน้ำหนักเบา
ตัวกลางในการสื่อสารแบบมีสายมีอะไรบ้างตัวกลางการสื่อสารแบบมีสาย 1. สายตีเกลียวคู่(Twisted- pair Wire) 2. สายโคแอกซ์(Coaxial Cable) 3. เส้นใยนาแสง (Fiber Optic Cable) สายตีเกลียวคู่ สายโทรศัพ์แบบดั้งเดิม สายทองแดง 8 เส้น พันกันเป็นคู่ๆ จานวน 4 คู่
ตัวกลางทำหน้าที่อย่างไรตัวกลางนำสัญญาณไร้สาย การสื่อสารไร้สายอาศัยการส่งสัญญาณไปกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางนำสัญญาณ โดยมีวิธีการส่งสัญญาณหลายวิธี และยังสามารถใช้งานช่วงคลื่อนที่ความถี่แตกต่างกันได้ด้วย
|