เครื่องมือทางการตลาด คืออะไร

เมทริกซ์ทางการตลาดดจะวัดความสำเร็จของแคมเปญการตลาดและแสดงให้เห็นว่าการแคมเปญสามารถทำตามตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลัก (KPI) ได้ดีแค่ไหน เมทริกซ์ทางการตลาดเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่สุดของแคมเปญ และหากไม่มีสิ่งนี้ ทีมการตลาดจะไม่มีทางเห็นภาพว่ากลยุทธ์การตลาดของพวกเขาประสบความสำเร็จหรือไม่ ทีนี้เราจะสำรวจเมทริกซ์ทางการตลาดพื้นฐานและ KPI เราจะมาแบ่งปันเมทริกซ์ที่เป็นประโยชน์สำหรับนักการตลาดดิจิทัล และมาคุยกันว่าโซลูชันไหนของ Amazon Ads ที่สามารถช่วยวัดแคมเปญได้มีประสิทธิภาพที่สุด

เมทริกซ์ทางการตลาดคือวิธีที่สามารถตรวจวัดได้ในการติดตามประสิทธิภาพและเป็นเครื่องมือการตรวจวัดทางการตลาดที่สำคัญในการประเมินประสิทธิภาพของแคมเปญ เมทริกซ์ทางการตลาดที่เหมาะสมที่สุดจะแตกต่างกันไปในแต่ละแคมเปญ แต่โดยทั่วไปแล้วเมทริกซ์เหล่านี้จะวัดผลของแคมเปญของคุณโดยดูจากการกระทำของกลุ่มเป้าหมาย เมทริกซ์ทางการตลาดที่เหมาะสมในการนำมาใช้จะเป็นเมทริกซ์ที่มีผลกระทบต่อเป้าหมายธุรกิจของคุณมากที่สุดในตอนท้าย ซึ่งในแคมเปญหนึ่งอาจหมายถึงยอดขายที่เกิดจากแคมเปญ แต่สำหรับอีกแคมเปญอาจเป็นอัตราการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เมทริกซ์ทางการตลาดช่วยให้นักการตลาดสามารถปรับเปลี่ยนแคมเปญที่ใช้อยู่ให้เหมาะสมและวางแผนแคมเปญในอนาคตโดยการช่วยให้คุณเข้าใจว่าแคมเปญของคุณมีประสิทธิภาพแค่ไหน

เมทริกซ์ทางการตลาดได้แก่อะไรบ้าง

มีหลายร้อยเมทริกซ์ที่นักการตลาดสามารถนำไปใช้เพื่อดูความสำเร็จของแคมเปญ มันเป็นเรื่องของการเลือกเมทริกซ์ให้เหมาะสมกับกลยุทธ์ของคุณ

เมทริกซ์ที่แตกต่างกันก็ให้ข้อมูลเชิงลึกที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น การเปิดอีเมลและยอดคลิกสามารถแสดงระดับการมีส่วนร่วมได้ ในขณะที่อัตราการยกเลิกการสมัครสมาชิกสามารถบ่งชี้ได้ว่ากลุ่มเป้าหมายคิดว่าเนื้อหาของคุณมีความน่าสนใจและเกี่ยวข้องกับพวกเขาหรือไม่ จำนวนการเห็นโฆษณาและจำนวนการดูวิดีโอช่วยวัดการเข้าถึงของแคมเปญของคุณ ต้นทุนต่อการดำเนินการสามารถช่วยให้คุณติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญของคุณได้

นี่คือตัวอย่างของเมทริกซ์สำหรับช่องทางการตลาดที่หลากหลายที่สามารถช่วยให้นักการตลาดตัดสินใจว่าจะปรับงบประมาณของพวกเขาให้เหมาะสมได้อย่างไร

  • การตลาดทางอีเมล: เช่น การเปิดอีเมล ส่งอีเมล และการยกเลิกการสมัครสมาชิก
  • การตลาดดิจิทัล:อัตราการคลิกผ่าน ต้นทุนต่อคลิก (CPA) และจำนวนการเห็นโฆษณา
  • โซเชียลมีเดีย:จำนวนผู้ติดตาม จำนวนการเห็นโฆษณาหรืออัตราการเข้าถึง และการมีส่วนร่วม
  • เว็บไซต์: ทราฟฟิกโดยรวม อัตราการตีกลับ ลูกค้าใหม่ ลูกค้าที่กลับมา เวลาที่ใช้ไปกับเว็บไซต์และแหล่งที่มาของทราฟฟิก ตลอดจนอัตราการคอนเวอร์ชัน
  • การตลาดเนื้อหา: ทราฟฟิกของบล็อก ปริมาณเนื้อหาที่แชร์ จำนวนการดาวน์โหลดเนื้อหา และจำนวนลูกค้าที่พร้อมซื้อสินค้าโดยดูจากการกรอกแบบฟอร์มของว่าที่ลูกค้า
  • วิดีโอและ โฆษณาสตรีมมิ่งทีวี: จำนวนการเห็นโฆษณาและเวลาในการดูโดยรวม
  • ยอดขาย: เวลาที่ใช้ในการตอบสนองของทีมขาย ปริมาณการโทรขาย และรีวิวทางการโทรขาย
  • รายได้: จำนวนรายได้ที่แต่ละช่องทางสร้างได้
  • SEO: การจัดอันดับค่าเฉลี่ยคีย์เวิร์ด ปริมาณการค้นหาคีย์เวิร์ด และทราฟฟิกที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องเสียเงิน
  • คุณภาพ: คะแนนคุณภาพ ดัชนีวัดความภักดีของลูกค้า รีวิว และรายได้ประจำทุกเดือน

เมทริกซ์ทางการตลาดมีความสำคัญอย่างไร

เมทริกซ์ทางการตลาดมีความสำคัญอย่างมากเพราะเป็นสิ่งที่ช่วยให้แบรนด์รู้ว่าแคมเปญประสบความสำเร็จหรือไม่ และช่วยให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อจะได้สามารถปรับแต่งแคมเปญในอนาคตให้สอดคล้องกัน เมทริกซ์ทางการตลาดช่วยให้นักการตลาดเข้าใจว่าแคมเปญจะช่วยผลักดันไปสู่เป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างไรและช่วยในการตัดสินใจปรับแต่งแคมเปญและช่องทางทางการตลาดต่าง ๆ

ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ช่วยให้ทีมการตลาดเข้าใจได้ว่าจะต้องบรรลุถึงเป้าหมายด้านการเข้าถึงลูกค้าใหม่ การรับรู้ การมีส่วนร่วม ยอดขาย การสร้างฐานลูกค้า และอื่น ๆ หรือไม่อย่างไร การวิเคราะห์ทางดิจิทัลเหล่านี้ยังทำหน้าที่เสมือนระบบการเตือนตั้งแต่เนิ่น ๆ หากแคมเปญการตลาดไม่ได้มีประสิทธิภาพตามที่คาดหวัง และสามารถช่วยให้เกิดการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพในการปรับแต่งแคมเปญได้แบบเรียลไทม์

ในท้ายที่สุด เมทริกซ์ทางการตลาดเป็นวิธีหลักที่นักการตลาดจะนำมาใช้แสดงผลที่เกิดจากการตลาดและการโฆษณาที่บริษัทหรือองค์กรของพวกเขาดำเนินการไป เมทริกซ์ทางการตลาดสามารถกำหนดงบประมาณประจำปีและจำนวนพนักงาน ทำให้ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้มีความสำคัญเหนือไปกว่าการตรวจวัดที่ดำเนินไปและการวางแผนแคมเปญเสียอีก

เมทริกซ์ทางการตลาดและ KPI ใดที่มีความสำคัญมากที่สุดสำหรับการโฆษณาดิจิทัล

ตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพหลัก (KPI) แสดงให้เห็นว่าแคมเปญต่า่ง ๆ ทำตามเป้าหมายของแต่ละแคมเปญได้ดีขนาดไหน แม้ว่าทีมการตลาดจะคอยเฝ้าดูเมทริกซ์มากมาย แต่ในแต่ละแคมเปญควรที่จะมี KPI เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น KPI ที่มีก็ควรจะเฉพาะเจาะจง สามารถตรวจวัดได้ และสามารถทำได้ภายในกรอบเวลาของแคมเปญ

KPI มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และไม่มีชุด KPI ไหนที่เหมาะกับทุกแคมเปญ ที่มากไปกว่านั้น การตรวจวัดจะแตกต่างไปตามแต่ละระยะของ กรวยการตลาด อย่างไรก็ตาม นี่คือ KPI และเมทริกซ์สามตัวที่มีประโยชน์สำหรับนักการตลาดดิจิทัลเพื่อนำไปใช้ในการวัดผล

การติดตามการสร้างว่าที่ลูกค้าใหม่และอัตราคอนเวอร์ชัน ซึ่งก็คือเปอร์เซ็นต์ของว่าที่ลูกค้าที่กลายมาเป็นลูกค้า ถือเป็นเมทริกซ์ที่ดีที่สุดสองตัวในการตรวจวัดการเพิ่มขึ้นของการสร้างว่าที่ลูกค้าจากแคมเปญ การโฆษณาดิจิทัล ผู้ใช้ Amazon Ads จะพบเมทริกซ์คอนการเวอร์ชันเหล่านี้ได้ในการรายงานแคมเปญของ Amazon และจะเห็นว่ามีการแจกแจงรายละเอียดในแต่ละมิติของเมทริกซ์เหล่านี้เช่น แคมเปญ ชิ้นงานโฆษณา และสินค้า ASIN เครื่องมืออย่าง Amazon Attribution (เบต้า) ซึ่งเป็นเครื่องมือ การระบุที่มาของยอดขาย ที่มุ่งเน้นไปที่การวัดแคมเปญที่ไม่ใช่ Amazon เช่น อีเมล การค้นหา และโซเชียลมีเดีย ซึ่งจะช่วยให้ผู้โฆษณาเข้าใจเมทริกซ์การคอนเวอร์ชันของ Amazon รวมถึงจำจำนวนการเปิดดูหน้ารายละเอียด การเพิ่มสินค้าลงในตระกร้า และการซื้อด้วย

ในการวัดผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) นักการตลาดควรจะเปรียบเทียบมูลค่าตลอดชีวิตของลูกค้า (CLV) กับต้นทุนการได้มาซึ่งลูกค้า (CAC) มูลค่าตลอดชีวิตของลูกค้าหมายถึงค่าเฉลี่ยรายได้ที่จะได้จากลูกค้าในระยะเวลาที่กำหนด ในขณะที่ต้นทุนการได้มาซึ่งลูกค้าหมายถึงค่าใช้จ่ายที่แบรนด์ต้องจ่ายเพื่อจะได้ลูกค้าใหม่หนึ่งคน หากต้นทุนการได้มาซึ่งลูกค้าสูงมากและมูลค่าตลอดชีวิตของลูกค้าต่ำ นั่นเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าคุณจะต้องเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายที่คุณใช้กลยุทธ์การตลาดของคุณในการเข้าถึง

3. การแชร์จำนวนการเห็นโฆษณา

การแชร์จำนวนการเห็นโฆษณาคือการวัดว่าแบรนด์มีประสิทธิภาพดีแค่ไหนในแต่ละช่องทางเมื่อเทียบกับกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพโดยรวม ตัวอย่างเช่น จำนวนครั้งที่มีการดูการแสดงโฆษณาของคุณเป็นเปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับยอดรวมของจำนวนการเห็นโฆษณาที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่มีศักยภาพ การแชร์จำนวนการเห็นโฆษณาที่เพิ่มมากขึ้นอาจหมายถึงว่าแบรนด์มีการปรากฏให้เห็นบ่อยขึ้นและมีศักยภาพในการกระตุ้นการเพิ่มยอดขายได้

การวัดประสิทธิภาพแคมเปญบน Amazon

Amazon Ads มีตัวเลือกหลากหลายที่รองรับกลยุทธ์แบบอิงตามเมทริกซ์ ตัวอย่างเช่น Amazon DSP มีข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายและการรายงานประสิทธิภาพที่ผู้โฆษณาสามารถเข้าไปดูได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายก่อนและหลังการใช้แคมเปญ ซึ่งจะช่วยให้นักการตลาดเข้าใจว่าเมทริกซ์ทางการตลาดตัวใดเป็นตัวขับเคลื่อนผลลัพธ์ Amazon Attribution (เบต้า) เป็นโซลูชันการตรวจวัดวิเคราะห์และการโฆษณาที่สามารถช่วยให้คุณติดตามผลกระทบของช่องทางการตลาดที่ไม่ใช่ Amazon เช่น การค้นหา โซเชียลมีเดีย วิดีโอ การแสดงผล และอีเมล ที่มีความสัมพันธ์ต่อประสิทธิภาพของแบรนด์ของคุณบน Amazon

การรายงาน และโซลูชันการตรวจวัดของเราสามารถช่วยนักการตลาดทุกคน ตั้งแต่บรรดาสตาร์ทอัพไปจนถึงเอเจนซึ่และแบรนด์ที่มีชื่อ ให้สามารถวัดผลกระทบของการโฆษณาได้อย่างแม่นยำและช่วยให้ง่ายต่อการวางแผน การปรับเปลี่ยน และการตรวจวัดแคมเปญทางการตลาด

ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้าของ Amazon Ads เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานโซลูชันเหล่านี้เพื่อยกระดับกลยุทธ์การตรวจวัดของคุณ