Show
โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้
หน่วยที่ 1
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับฐานข้อมูล เรื่อง ความสัมพันธ์ (Relationship) _________________________________________________________________ ความสัมพันธ์ ( Relationships) ความสัมพันธ์ ( Relationships) หมายถึง ความสัมพันธ์ระหว่างตารางหรือเอนทิตี้ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างตารางประชาชน และ ตารางผู้เสียภาษี ดังตาราง ตารางข้อมูลประชาชน ตารางข้อมูลผู้เสียภาษี
ในเมื่อตารางทั้งสองมีหมายเลขประจำตัวประชาชนเหมือนกัน ความสัมพันธ์จึงเกิดขึ้นโดยมีหมายเลขประจำตัวเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตาราง และเขียนในรูปแบบของเอนทิตี้ได้ดังนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ อาจแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1. ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง ( One-to-one Relationships) 2. ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่ม ( one-to-many Relationships) 3.
ความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม ( Many-to-many Relationships) ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง 1 : 1 ( One-to-one Relationships) ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง ( One-to-one Rel
หน่วยที่ 2 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโปรแกรม Access เรื่อง ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโปรแกรม Microsoft Access _________________________________________________________________ โปรแกรม Microsoft Access 2013 เป็นโปรแกรมจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ( Relational Database Management) ที่มีความสามารถทั้งจัดการฐานข้อมูลและสร้างโปรแกรมในตัวเดียวกัน จึงเหมาะสำหรับนักศึกษาที่จะเรียนรู้และพัฒนาโปรแกรมไว้ใช้งาน รวมถึงผู้ใช้ที่ไม่มีความรู้ในเรื่องการเขียนโปรแกรมมากนัก เนื่องจากมีวิธีการใช้งานง่ายและสะดวกต่อผู้ใช้ วิธีเข้าโปรแกรม Microsoft Access 2013 1. Start -> all program -> Microsoft Office 2013 -> Access 2013 2. พิมพ์ ใน search programs and files คำว่า “ access 2013” 3. Icon Access 2013 หน้า desktop เมื่อเข้าโปรแกรม จะปรากฏหน้าจอดังภาพที่ 1 ภาพที่ 1 หน้าต่างเริ่มต้นของโปรแกรม Microsoft Office 2013 วิธีการสร้างฐานข้อมูล วิธีการสร้างฐานข้อมูลมี 2 แบบ คือ 1. สร้างฐานข้อมูลเปล่ หน่วยที่ 4 การจัดการข้อมูลด้วยคิวรี
หน่วยที่ 4 การจัดการข้อมูลด้วยคิวรี เรื่อง การจัดการข้อมูลด้วยคิวรี _________________________________________________________________ คิวรี ( Query) คิวรี ( Query) เป็นการกรองข้อมูลที่ต้องการจากตาราง แสดงจากฐานข้อมูลที่มีข้อมูลจำนวนมาก โดยแบ่งประเภทของคิวรี ดังนี้ 1. คิวแบบใช้เลือกข้อมูล ( Select Query) ใช้สำหรับแสดงข้อมูลโดยดึงข้อมูลจากตารางเดียวหรือหลายตารางก็ได้ 2. คิวรีแบบตาราง ( Crosstab Query) เป็นคิวรีที่ใช้สำหรับคำนวณและจัดโครงสร้างข้อมูลใหม่ โดยสามารถนำมาใช้ในการเปรียบเทียบและดูแนวโน้มของข้อมูลได้ เช่น แสดงยอดขายในแต่ละเดือน 3. คิวรีพารามิเตอร์ ( Parameter Query) เป็นคิวรีที่มีการแสดงไดอะล็อกบ็อกโต้ตอบโดยการใส่ค่าพารามิเตอร์เพื่อถามข้อมูลจากผู้ใช้งาน เช่น ป้อนรหัสสมาชิก 4. คิวรีแอคชัน ( Action Query) เป็นคิวรีที่ใช้สำหรับเปลี่ยนแปลงฐานข้อมูลซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ชนิด 4.1 คิวรีแบบใช้สร้างตาราง 4.2 คิวรีแบบใช้ลบข้อมูล 4.3 คิวรีแบบใช้ผนวกข้อมูล 4.4 คิวรีแบบใช้ปรับปร
หน่วยที่ 3 การสร้างฐานข้อมูลและการสร้างตาราง เรื่อง การสร้างตาราง _________________________________________________________________ ตาราง ( Table ) ตาราง ( Table) คือ องค์ประกอบหลักอย่างหนึ่งในฐานข้อมูล เป็นส่วนที่ต้องสร้างขึ้นเป็น อันดับแรก เพื่อใช้ในการเก็บข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในฐานข้อมูล โดยในการสร้างตารางนั้นมีหลาย รูปแบบด้วยกัน ซึ่งเราสามารถจัดการกับข้อมูลในตารางเพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการ ทำงานมากยิ่งขึ้นได้เช่น การเรียงลำดับข้อมูล การกรองข้อมูล และการค้นหาข้อมูล เป็นต้น ส่วนประกอบของตาราง การสร้างตาราง ขั้นตอนการสร้างตารางฐานข้อมูลมีดังนี้ 1. คลิกแท็บ Create 2. เลือกป่ม Table Design 3. ตั้งชื่อฟิลด์ ในช่อง Field Name การตั้งชื่อฟิลด์ - ชื่อ field ต้องไม่ยาวเกิน 64 ตัวอักษร รวมทั้งช่องว่างด้วย - ห้ามตั้งชื่อ field ซ้ำกัน - สามารถใช้ตัวอักษร ตัวเลข ช่องว่าง ในการตั้งชื่อ field ไ
หน่วยที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับฐานข้อมูล เรื่อง การทำนอร์มอลฟอร์ม (Normalization) _________________________________________________________________ การทำนอร์มอลฟอร์ม (Normalization) การนอร์มัลไลเซซัน ( Normalization) เป็นทฤษฎีหรือกระบวนการที่ใช้ในการทำให้เอนทิตี้และแอททริบิวต์ที่ได้ออกแบบไว้มาจัดกลุ่มตารางให้ความสัมพันธ์กัน ให้อยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า รูปแบบบรรทัดฐาน หรือ Normal Form เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ฐานข้อมูล โดยทำให้ฐานข้อมูลไม่มีความซ้ำซ้อนและไม่มีขนาดใหญ่จนเกินไป โดย การทำ “ Normalization ” มีลำดับดังนี้ 1. 0NF เป็นตาราง ( Table ) 2. 1 NF (First Normal Form) 3. 2 NF ( Second Normal Form ) 4. 3 NF ( Third Normal Form ) 5. BCNF ( Boyce/Codd Normal Form ) 6. 4 NF ( Forth Normal Form ) 7. 5 NF ( Fifth Normal Form ) โดยส่วนใหญ่ ในการทำนอร์มอลฟอร์มจะทำถึง 3 NF เท่านั้น ส่วนพวกที่มากกว่านี้แทบจะไม่พบในชีวิตปร
หน่วยที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับฐานข้อมูล เรื่อง ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ _________________________________________________________________ ความหมายของฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ เป็นการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแถวและคอลัมน์ในลักษณะตารางสองมิติ ที่ประกอบด้วย แอททริบิวต์ที่แสดงคุณสมบัติขิงรีเลชั่นหนึ่งๆ ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์เป็นฐานข้อมูลซึ่งให้ภาพของข้อมูลในระดับ ภายนอก(ExternalLevel)และระดับแนวความคิด(ConceptualLevel) คําศัพท์พื้นฐานเกี่ยวกับโมเดลเชิงสัมพันธ์ 1. รีเลชัน(Relation) ประกอบด้วยแถวและคอลัมน์ของข้อมูลซึ่งเรียกได้อีกอย่างว่า ตาราง (Table) 2. ทูพเพิล(tuple) คือ แถวแต่ละแถวในตารางจะมีความหมายเหมือนกับระเบียน 3. แอททริบิวท์(attribute) คือ คอลัมน์แต่ละคอลัมน์ของตารางจะมีความหมายเหมือนกับเขตข้อมูล 4. คาร์ดินัลลิตี้(Cardinality) คือ จํานวนทูพเพิลที่มีอยู่ในรีเลชัน 5. ดีกรี(Degree) คือ จํานวนแอททริบิวท์ที่มีอยู่ในรีเลชัน เปรียบเทียบรูปแบบคำศัพท์พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ข้อดีของฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
หน่วยที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับฐานข้อมูล เรื่อง ฐานข้อมูล _________________________________________________________________ ฐานข้อมูล ( Database ) คืออะไร ระบบในการจัดการข้อมูลอย่างมีระเบียบ โดยใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อจุดประสงค์ที่ชัดเจน หรือประโยชน์ทางธุรกิจ เช่นระบบลงทะเบียนนักศึกษา ระบบทะเบียนราษฎร์ เป็นต้น องค์ประกอบของฐานข้อมูล ประกอบไปด้วย 4 องค์ประกอบหลักดังนี้ 1. ข้อมูล ( Data ) จะเป็นรหัสประจำตัว ชื่อที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ พวกนี้คือข้อมูลสำหรับจัดเก็บในฐานข้อมูลของเรา 2. คอมพิวเตอร์ ( Computer ) จะเป็นแบบตั้งโต๊ะ ( Desktop ) โน้ตบุ๊ค ( Notebook ) หรือแม้แต่เน็ตบุ๊ค ( Netbook ) ก็สามารถใช้งานเก็บฐานข้อมูลได้ทั้งนั้น 3. ซอฟต์แวร์ ( Software ) พอมีคอมพิวเตอร์แล้ว อันดับถัดไปก็ต้องเป็นซอฟต์แวร์ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่พวกเราคุ้นเคยได้ยินกันบ่อยๆ ก็ได้แก่ Microsoft Excel, Microsoft Word แต่โปรแกรมที่เราใช้ในวิชานี้คือ Microsoft Access ซึ่งเป็นโปรแกรมเฉพาะด้านข้อมูลของโปรแกรมในชุด Microsoft Office 4. ผู้ใช้ (
หน่วยที่ 5 การสร้างฟอร์ม เรื่อง การสร้างฟอร์ม _________________________________________________________________ คิวการสร้างฟอร์ม 1.1 ประเภทของฟอร์ม แบ่งออกเป็น 6 ชนิด 1. ฟอร์มสำหรับป้อนข้อมูล 2. ฟอร์มแบบกำหนดเอง 3. ฟอร์มแบบแผ่นตารางข้อมูล 4. Main / Sub forms 5. Pivot Table Forms 6. Pivot Chart Forms 1.2 มุมมองของฟอร์ม 1. มุมมองการออกแบบ (Design View) 2. มุมมองเค้าโครง (Layout View) 3. มุมมองฟอร์ม (Form View) 1.3 การสร้างฟอร์มทำได้ 3 วิธี คือ 1. การสร้างฟอร์มด้วยเครื่องมือช่วยสร้างฟอร์ม 2. การสร้างด้วยตัวช่วยสร้าง 3. การสร้างฟอร์มขึ้นเองด้วยมุมมองออกแบบ 1.4 การสร้างฟอร์มเดี่ยว 1. เลือกตารางที่ต้องการทำฟอร์ม 2. เลือกที่ฟอร์ม 3. กดบันทึกฟอร์ม 1.5 การสร้างฟอร์มด้วยตัวช่วยสร้าง ( Form Wizard ) 1. คลิกที่แท็บ สร้าง (Create) 2. คลิกที่ ตั
หน่วยที่ 6 การสร้างรายงาน (Report) เรื่อง การสร้างรายงาน _________________________________________________________________ การสร้างรายงาน 1.1. ประเภทของรายงาน แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้ 1. รายงานแบบตาราง ( Tabular Report) เป็นรายงานที่มีการจัดเรียงข้อมูลเหมือนตาราง ซึ่งจะเรียงฟิลด์จากซ้ายไปขวาของรายงาน โดยจะแสดงข้อมูลทุกเรคอร์ดในหนึ่งหน้ารายงาน 2. รายงานแบบหลายคอลัมน์ ( Columnar Report) เป็นรายงานที่แสดงข้อมูลซึ่งจะจัดเรียงฟิลด์จากบนลงล่าง โดยจะแสดงข้อมูลทีละ 1 เรคคอร์ด 3. รายงานแบบป้ายชื่อ ( Label Report) เป็นรายงานแบบป้ายฉลากที่เรียกว่าเลเบล สำหรับติดหน้าซองต่างๆ เช่น ป้ายติดซองจดหมาย เลเบลต่างๆ ป้ายฉลากสินค้า เป็นต้น 1.2. มุมมองของรายงาน 1. มุมมองรายงาน( Report View) เป็นมุมมองที่ใช้สำหรับการแสดงผลในรูปแบบรายงานเท่านั้น ไม่สามารถแก้ไขรายงานได้ 2. มุมมองแสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์ ( Print Preview) เป็นมุมมองที่ใช้สำหรับแสดงตัวอย่างรายงานก่อนพิมพ์ โดยมี |